สายพระป่าพระกรรมฐานพระทั่วไปเครื่องรางของขลัง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย wasan112, 29 มกราคม 2020.

แท็ก: แก้ไข
  1. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    776.เหรียญอาจารย์วันปี20
    เปิดให้บูชา 199 บาทค่าจัดส่ง50บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ

    777.พระสมเด็จองค์ปฐมวัดโขงขาว 2 องค์ พร้อมลูกแก้วสารพัดนึกหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    เปิดให้บูชายกชุด 699 บาทครับ ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2022
  3. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    778.พระกริ่ง 3 นะหลวงพ่อเกษม เขมโก
    เปิดให้บูชา 199 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    ติดจองครับ ท่านใหนชอบรอคิว 2 ได้ครับทักทางข้อความครับผม

    779.พระปิดตา มหาเศรษฐี หลวงปู่สิม ปี 18
    พระปิดตามหาเศรษฐี หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ ปี 2518
    หลวง ปู่สิม พุทธาจาโร หรือ ท่านพระครูสันติวรญาณ อดีตเจ้าอาวาส วัดสันติธรรม จ.เชียงใหม่ ท่านบำเพ็ญสมถกรรมฐานอยู่ที่สำนักสงฆ์ ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต(พระเถระที่มีอัฐิเป็นพระธาตุ) ท่านพระอาจารย์ใหญ่ หลวงปู่มั่น เคยเอ่ยถึงหลวงพ่อสิม พุทธาจาโร ต่อหน้าลูกศิษย์ของท่านทั้งหลายว่า"ยังมีดอกไม้ดอกหนึ่งยังตูมอยู่ หากบานเมื่อใดจักหอมหวลกว่ามวลหมู่" ท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ศิษย์เอกหลวงปู่มั่น ซึ่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ของหลวงพ่อสิม พุทธาจาโร เคยบอกกับผู้ใกล้ชิดท่านว่า"ท่านสิมเขามีบุญบารมีแต่ชาติก่อนที่เขาได้ บำเพ็ญบารมีมามากเหลือเกิน เป็นบุญกุศลส่งเสริมเขาให้สำเร็จไวกว่าคนอื่นๆ นั่นเป็นคำทำนายของปรมาจารย์ในฝ่ายธรรมยุตนิกายของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ที่เอ่ยถึงหลวงพ่อสิม พุทธาจาโร หลวงพ่อสิม ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่เคร่งครัดต่อกรรมฐานและสมณะอย่างยิ่งยวด ท่านได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาสซึ่งเป็นพันธะผูกพันเครื่องรัดร้อย มุ่งสู่ป่าเขาเพื่อบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานหาทางหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตาย เกิด
    เปิดให้บูชา 999 บาทครับค่าจัดส่ง 50 บาทครับ หายากครับรุ่นนี้ยิ่งเนื้อขาวด้วยครับเห็นแต่เนื้อผงใบลานครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 104713.jpg
      104713.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.3 KB
      เปิดดู:
      37
    • 104712.jpg
      104712.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.4 KB
      เปิดดู:
      34
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2022
  5. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ

    780.เห้งเจีย โพธิโก วัดวังมุย ปี2518
    โพธิโก วัดวังมุย ปี2518 เนื้อนวะโลหะ สภาพสวย พิมพ์อุ้มลูกท้อ หายากครับพิมพ์นี้ นานจะเจอสักองค์ครับผม เห้งเจีย เป็นเครื่องรางที่ศิษย์ของครูบาชุ่มที่เชียงใหม่สร้างให้ท่านปลุกเสก เมื่อปี พศ ๒๕๑๘ มีสองขนาดคือ ขนาดพกพา และ ขนาดตั้งบูชา มีเนื้อกะไหล่ทอง และ กะไหล่เงิน องค์นี้เป็นแบบกะไหล่เงินสวยกริํป พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ถือลูกท้อ หายากกว่าแบบถือกระบอกครับ เห้งเจียของท่านใช้แบบเดียวกับหนุมาน คือ เด่นในทางแคล้วคลาดคงกระพัน และ เมตตามหานิยม
    เปิดให้บูชา 999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 104710.jpg
      104710.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.7 KB
      เปิดดู:
      35
    • 104711.jpg
      104711.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.1 KB
      เปิดดู:
      29
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2022
  6. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    781.พระพุทธ 25 ทศวรรษ
    เปิดใหบูชา 999 บาท ค่าจัดส่ง 50บาทครับ พระดีพิธีใหญ่ครับพร้อมเลี่ยมอย่างดีครับ ค่าเลี่ยม 350 แล้วครับผม มีรูปก่อนเหลี่ยมให้ดูด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 104708.jpg
      104708.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.8 KB
      เปิดดู:
      35
    • 104706.jpg
      104706.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.2 KB
      เปิดดู:
      35
    • 104707.jpg
      104707.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.2 KB
      เปิดดู:
      35
    • 104709.jpg
      104709.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.7 KB
      เปิดดู:
      34
  7. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    782.รกแมวนำโชค
    รกแมวถือเป็นของที่ให้คุณ ให้โชคให้ลาภ ทำมาค้าขายติดต่อเจราจาแล้วแต่อฐิษฐจิตครับขอได้แบ้วให้ทำบุญให้เขาด้วยนะครับผม
    บรรดาผู้ที่นิยมบูชาวัตถุมงคล เครื่องราง และของขลังต่างๆ ความเชื่อ คงรู้กันดีว่า “รกแมว” เป็นของขลังจากธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน แต่ “รกแมว” เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งนัก และน้อยคนนักที่จะได้ครอบครอง เชื่อกันว่าคนมีบุญบารมีเท่านั้นที่จะได้ “รกแมว” มาไว้ในครอบครอง
    งนี้ตามความนิยมนำ “รกแมว” มาบูชาไว้ในบ้าน สถานที่ทำงาน พกติดตัว เรียกโชคเรียกลาภ ทำมาค้าขายมีแต่คนแวะเวียนมาหา สมัครงาน ทำธุระติดต่อ เจรจา การพนันขันต่อทุกประเภท กิจการงานต่างๆ มีหลายท่านที่ได้นำไปบูชา ต่างก็ถือว่าหากินได้คล่องแคล่ว ไม่ติดขัดๆ ข้อง นับว่าเป็นอีก หนึ่งวัตถุมงคลที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง



    ที่บอกว่า “รกแมว” เป็นของหายากเพราะปกติเวลาแมวคลอดลูก มักจะแอบไปคลอดในที่ลับตา และคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้เห็นรกแมวเท่าไร เนื่องจากส่วนมากหลังจากคลอดเสร็จแล้วแมวมักจะกินรกของตัวเองตามสัญชาตญาณ เพื่อเป็นอาหารบำรุงกำลังหลังจากที่คลอดลูกและเสียเลือดเป็นจำนวนมาก
    หากได้ “รกแมว” มาครอบครองแล้วต้องทำอย่างไร



    ตามความเชื่อของคนไทย การเก็บรกแมวทำได้โดยนำไปคลุกกับผงขมิ้นเพื่อดับกลิ่น หลังจากนั้นนำไปตากผึ่งลมจนแห้งสนิท แล้วเอามาเลี่ยมใส่กรอบไว้บูชา โดยห้ามตัดแบ่งรกแมวเด็ดขาด สามารถพกไว้ติดตัวหรือเก็บไว้ในที่เก็บเงินเก็บทอง ที่บ้านหรือร้านค้าสำหรับผู้ทำประกอบกิจการค้าขายก็ได้ สวดคาถาบูชารกแมวเป็นประจำ นอกจากนั้นตามความเชื่อของผู้คนบางกลุ่มก็มีการปิดแผ่นทองคำเปลวและให้พระอาจารย์ที่นับถือช่วยปลุกเสกให้



    วิธีบูชา "รกแมว"



    1. หลังจากบูชารกแมวมาแล้ว ให้ทำการตั้งชื่อให้เรียบร้อย
    2. ก่อนจะนำเข้าบ้านให้จุดธูปขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางในบ้านเสียก่อน โดยใช้ธูป 12 หรือ 16 ดอก จากนั้นให้กล่าวตามนี้...
    3. "ข้าพเจ้าชื่อ… อยู่บ้านเลขที่… ขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายแห่งนี้ที่ปกปักรักษาบ้านข้าพเจ้าอยู่ จงเปิดทางเข้า-ออก ให้ลูกกรอกแมวชื่อ… ให้เข้า-ออกบ้านข้าพเจ้าได้โดยสะดวก เพื่อเสริมทรัพย์ เสริมบารมี การค้าการขาย โชคลาภ เมตตามหานิยม ขอให้เจ้าที่จงเปิดทางให้ด้วยเถิด"



      3.เมื่อนำเข้าบ้านแล้วให้หาภาชนะมาใส่ อาจจะวางไว้บนพานและควรหาผ้าสีแดงมารองไว้ ทั้งนี้ ให้เลี้ยงและบูชาด้วยน้ำ นม อาหารแมว ปลาทู หรือสิ่งที่แมวชอบกิน ซึ่งอาจจะเลี้ยงทุกวัน ทุกวันพระ หรือประจำวันเกิดก็ได้ ขึ้นอยู่กับผู้ที่นำไปเลี้ยงบูชา นอกจากนี้เวลาไปทำบุญควรอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ด้วยทุกครั้ง

      4. ให้พกติดตัวไว้ในกระเป๋าเวลาเดินทางไปไหนมาไหนด้วยเสมอ หากจะเจรจาค้าขาย พูดคุยกับผู้ใหญ่ หรือก่อนจะเสี่ยงโชค ก็ให้นึกถึงและบอกรกแมวที่บูชาว่าขอให้ช่วยเรื่องนั้นๆ หรือขอให้ประสบความสำเร็จ หรืออาจจะบนด้วยปลาทูก็ได้เช่นกัน





      คาถาบูชา “รกแมว” หลวงปู่คําบุ



      ให้จุดธูป 5 ดอก พร้อมตั้ง นะโมฯ 3 จบ แล้วสวดคาถาตามนี้...



      "มะ อะ อุ มา นิ มา มา มาซื้อของเรา มารักเรา มาหาเรา มาซิมา" (ท่อง 9 จบ)



      จากนั้นขอเรื่องต่างๆ ที่อยากจะให้ช่วย เป็นต้น หลังจากสำเร็จดั่งใจ ให้หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยการบริจาคทรัพย์หรืออาหาร ให้แก่สัตว์ที่ไร้ที่พึ่ง อย่างเช่น หมาหรือแมวจรที่ต้องการความช่วยเหลือหรืออดอยาก และไม่ควรรังแกหรือทำร้ายสัตว์ (โดยเฉพาะแมว)


    เปิดให้บูชา 999 บาทครับค่าจัดส่ง 50 บาทครับผมเลี่ยมกันน้ำอย่างดีครับผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2022
  8. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ

    784.ล็อกเก็ตหลวงพ่อเกษมในหลวงร.9 ปี35 รุ่นเจริญ ทรัพย์ เฮงๆ
    ล็อกเก็ตหลวงพ่อเกษมในหลวงร.9 ปี35 รุ่นเจริญ ทรัพย์ เฮงๆ
    ล็อกเก็ตหลวงพ่อเกษมในหลวงร.9 ปี35 รุ่นเจริญ ทรัพย์ เฮงๆรวยๆ หลังตะกรุดเงิน+จีวร+ ข้าวก้นบาตร และผงมงคล หายากครับ
    เปิดให้บูชา1299 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2022
  9. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ

    785.นางกวักจันทร์ลอย ลงสี วัดหนองกาน้ำ จ.ระยอง ปี 2515 หลวงปู่ทิม ปลุกเสก
    นางกวัก จันทร์ลอย วัดหนองกาน้ำ จังหวัดชลบุรี เนื้อผงพรายกุมารและผงวิเศษของหลวงปู่ทิมและหลวงตาบางที่ท่านได้เก็บสะสมไว้ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2515-2516 ปลุกเสกโดย หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จัดสร้างโดยหลวงตาบาง แห่งวัดหนองกาน้ำ พระชุดนี้จัดสร้างพร้อมกับ พระสมเด็จหลังยันต์ห้า,หลังยันต์สาม และพระปิดตา ของวัดหนองกาน้ำ

    ผงวิเศษที่หลวงปู่ทิมเมตตามอบให้ หลวงตาบาง
    1.ผงพรายกุมาร
    2.ผงปถมัง (มีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี เป็นมหาจังงัง กำบังกายได้ ถ้านำผงนี้ติดตัว คนอื่นจะไม่เห็นเราได้)
    3.ผงมหาราช (เด่นทางเสน่ห์ ใช้ได้สารพัด 108)
    4.ผงพุทธคุณ (มีอุปเท่ห์คล้ายกับผงมหาราช มีอานุภาพสูงในทางป้องกันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร ฯลฯ)
    5. ผงตรีนิสิงเห (ซึ่งผงวิเศษที่ลบขึ้นนี้ มีคุณวิเศษและประสิทธิภาพสูงมาก เมื่อนำมาผสมสร้างวัตถุมงคล ก็ทำให้วัตถุมงคลนั้นๆมีพลานุภาพสูงยิ่งๆขึ้น และยิ่งได้รับการประจุกระแสจิตจากพระผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ ก็ยิ่งทำให้วัตถุมงคลนั้นๆมีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ยิ่งๆขึ้นไปอีก สามารถนำมาอธิษฐานได้ดั่งใจต้องการ...")
    6.ผงอิทธิเจ (มีอานุภาพสูงทางเมตตา มหานิยม หากนำไปให้ผู้หญิงกิน ผู้หญิงจะลุ่มหลงและระลึกนึกถึงผู้ที่เอาผงนี้ให้กินอยู่เสมอจนทนไม่ได้ จนต้องมาอยู่กินกับชายผู้นั้นในที่สุด ซึ่งหลวงปู่ทิมได้สาปแช่งเอาไว้ หากใครเอาผงไปใช้ในทางที่ผิด)

    พระสวยเดิม ๆ
    เปิดให้บูชา 1599 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 105209.jpg
      105209.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19.7 KB
      เปิดดู:
      20
    • 105212.jpg
      105212.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.8 KB
      เปิดดู:
      24
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2022
  10. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    786.พระสมเด็จไม้งิ้วดำ หลวงพ่อกวย
    "สมเด็จ ไม้พญางิ้วดำ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ปี 2521" สำหรับพุทธคุณและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อกวยคงไม่ต้องพูดถึงครับ สำหรับพระสมเด็จไม้พญางิ้วดำพิมพ์นี้เป็นพิมพ์มาตรฐานมีตีพิมพ์อยู่ในหนังสือหลวงพ่อกวยครับ สำหรับไม้งิ้วดำหรือพญางิ้วดำ ตำนานไม้กายสิทธิ์ในตำนานที่โบราณจารย์และพระเกจิอาจารย์นิยมนำมาสร้างเป็นวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง ไม้งิ้วดำเป็นต้นไม้ที่อยู่ในป่าลึก โดยเฉพาะป่าที่มีความเร้นลับยากแก่การเข้าไปถึง เป็นไม้ที่มีลักษณะสีดำแข็งแกร่งมากว่ากันว่า เมื่อถึงเวลาอันสมควรจะยืนต้นตาย หรือที่เรียกว่าตายพราย รอผู้มีบุญ หรือมีบารมีนำไปใช้สร้างเป็นวัตถุมงคล เครื่องรางของขลังเพื่อประโยชน์ในการบำรุงพระพุทธศาสนา ไม้งิ้วดำนี้มีเทพารักษ์หรือมีเทวดารักษา เป็นธาตุธนสิทธิ์ที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างหนึ่งที่พระเกจิอาจารย์นิยมนำมาสร้างเป็นพระเครื่อง หรือเครื่องรางของขลังทำการปลุกเสกด้วยเวทย์มนต์คาถาพลังจิตอันแก่กล้าย่อมมีพลังอำนาจและศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง อิทธิคุณอำนาจของไม้งิ้วดำ ตามที่บันทึกบอกเล่ากันมานั้น มีอิทธิคุณวิเศษทางด้าน กันแก้พลังงานที่ไม่ดี ป้องกันอำนาจของคุณไสย์มนต์ดำ และป้องกันอำนาจของภูติผีปีศาจได้ดียิ่งนัก อีกทั้งดีทางด้านเมตตามหานิยม และโชคลาภอีกด้วย การนำไม้งิ้วดำมาสร้างเป็นวัตถุมงคลนั้นจะต้องทำการพลีบอกกล่าวแก่เทพารักษ์ที่รักษาไม้อยู่ตลอดจน ได้รับการปลุกเสกด้วยเวทย์มนต์คาถาที่เกี่ยวข้องโดยเกจิอาจารย์ที่มีอาคมขลังมีพลังจิตแก่กล้า จะทำให้ไม้งิ้วดำนั้นมีความขลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก "สมเด็จ ไม้พญางิ้วดำ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ปี 2521" องค์นี้มีจารเดิมๆ
    เปิดให้บูชา 999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 105214.jpg
      105214.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.6 KB
      เปิดดู:
      39
    • 105206.jpg
      105206.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.9 KB
      เปิดดู:
      39
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2022
  11. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    787.ชุดครูบาบุญชุ่ม
    เปิดให้บูชา 499 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2022
  12. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    788.พระพิฆเนศเขมร อุดกริ่ง เนื้อโลหะผสม
    พระพิฆเนศ อุดกริ่ง ศิลปะเขมร ขนาดห้อยคอ เนื้อโลหะผสม โบราณ เก่าแก่ ศิลปะเขมร นั่นหายากมากครับผม ยิ่งเป็นขนาดที่สามารถห้อยคอด้วยเเล้ว พระพิฆเนศ เป็นมหาเทพผู้ทรงภูมิปัญญายิ่งใหญ่ ผู้ขจัดอุปสรรคและอำนวยความสำเร็จในทุกสิ่ง พระองค์ทรงเป็นเทพเจ้าแห่งสากล คือเทพเจ้าที่มีปรีชาญาณเฉลียวฉลาด มีฤทธานุภาพมาก และทรงคุณธรรม คอยปราบภัยพาลและอภิบาลคนดี อีกทั้งยังเป็นเทพผู้กตัญญูถึงพร้อมด้วยความดีงาม สมควรแก่การสักการบูชาเป็นอย่างยิ่ง หากใครจะประกอบพิธี หรือทำกิจกรรมใด การเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เช่น เปิดกิจการร้านค้า เริ่มการทำงาน ขึ้นบ้านใหม่ ออกเดินทาง หรือแม้กระทั่งการบวงสรวงทำพิธีมงคลต่างๆ ฯลฯ ต้องบอกกล่าวบูชาองค์พระพิฆเนศก่อนเป็นลำดับแรก จึงจะเป็นสิริมงคล และประสบความสำเร็จ ตำนานกำเนิดพระพิฆเนศ เชื่อกันว่า พระพิฆเนศเป็นโอรสของ พระศิวะ กับ พระศรีมหาอุมาเทวี (พระแม่อุมา) ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้เขียนคัมภีร์มหาภารตะ จากวาจาของพระฤษีวยาส และนับถือกันว่า เป็นเทพเจ้าแห่งการรจนาหนังสือ ดุจเดียวกับ พระสุรัสวดี พระพิฆเนศ มีกายเป็นมนุษย์ มีเศียรเป็นช้าง อีกชื่อหนึ่งจึงเรียกว่า คชานนท์ มีงาข้างเดียว อ้วนเตี้ย ท้องพลุ้ย หูยาน พระวรกายสีแดง สีขาว สีเหลือง ฯลฯ นุ่งห่มภูษาแดง มี ๔ กร ถือบ่วงบาศ ขอสับช้าง และมีเทพศัสตราวุธอีกหลายชนิด ซึ่งได้รับประทานจากพระศิวะ มีพาหนะบริวาร คือ หนู นามว่า มุสิกะ
    เปิดให้บูชา 999 บาท ค่าจัดส่งื 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 105288.jpg
      105288.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.9 KB
      เปิดดู:
      31
    • 105287.jpg
      105287.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.2 KB
      เปิดดู:
      25
    • 105289.jpg
      105289.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19.2 KB
      เปิดดู:
      22
  13. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ

    789.พระผงหลวงพ่อเกศจำปาศรี วัดนิมมานรดี (วัดบางแค) หลวงพ่อเกศจำป าศรีเป็นพระประธานประจำวัด หลวงปู่โต๊ะปลุกเสก ปี 14
    เปิดให้บูชา 999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 105291.jpg
      105291.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.9 KB
      เปิดดู:
      20
    • 105290.jpg
      105290.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.1 KB
      เปิดดู:
      14
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2022
  14. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ

    790.เหรียญท้าวเวส
    เปิดให้บูชา 600 บาท ค่าจัดส้ง 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2022
  15. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    791.พระนางพญาเนื้อดิน หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน จ.ปราจีนบุรี
    พระนางพญาเนื้อดิน หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน จ.ปราจีนบุรี มาแล้วครับ...
    สภาพพอสวยตามอายุพระ เป็นพระยุคแรกๆของหลวงพ่อ มีปั้มยันต์ "อะ" ซึ่งเป็นยันต์ที่หลวงพ่อเอียใช้ประจำ สังเกตุว่าพิมพ์พระนางพญา ตรงกับพิมพ์กรุพระนางพญาพิมพ์เข่าตรง ของพิษณุโลก น่าจะกดถอดพิมพ์จากกรุนางพญาของแท้มาครับ เชื่อได้ว่าน่าจะมีส่วนผสมพระกรุอยู่บ้างไม่มากก็น้อยครับ...
    พระแท้ดูง่าย
    เปิดให้บูชา 999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 105470.jpg
      105470.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.3 KB
      เปิดดู:
      24
    • 105469.jpg
      105469.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.9 KB
      เปิดดู:
      25
  16. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ

    792.พระหูย่านเนื้อชินเงินกรุเก่า
    ประวัติพระหูยาน

    ประวัติพระหูยาน พระหูยาน ถ้าพูดถึงพระพิมพ์นั่งของเมืองลพบุรีแล้ว อันดับหนึ่งต้องยกให้พระหูยานเมืองลพบุรี ถ้าเป็นพระพิมพ์ยืนอันดับหนึ่งก็ต้องพะร่วงหลังลายผ้า พระหูยานต้นกำเนิดอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ แตกกรุออกมาครั้งแรกเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2540 ซึ่งเราเรียกว่า “พระกรุเก่า” พระที่แตกออกมาครั้งแรกนั้นจะมีผิวสีดำมีปรอทขาวจับอยู่ตามซอกขององค์พระ เล็กน้อย ถ้าผ่านการใช้ผิวปรอทก็จะหายไป ต่อมาก็มีแตกออกมาบ้างแต่ก็ไม่มากจนกระทั่งปี พ.ศ. 2508 ก็มีแตกกรุออกมาอีกเป็นจำนวนมาก ที่บริเวณเจดีย์องค์เล็กหน้าองค์พระปรางค์ของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ซึ่งเราเรียกกันว่า “กรุใหม่” มีบางท่านสันนิษฐานว่าพระหูยานกรุเก่า กับพระหูยานกรุใหม่นั้นสร้างคนละครั้งคือ กรุเก่าสร้างก่อน กรุใหม่สร้างทีหลัง

    แต่กระผมคิดว่า ถ้าพระสร้างกันคนละครั้งนั้น พิมพ์กับตำหนิต่างๆ ของพระจะต้องแตกต่างกันไป แต่นี่พระพระกรุเก่ากับกรุใหม่เป็นพระบล๊อคเดียวกันทุกอย่าง และจากสถานที่พบแตกต่างกันได้ บางท่านอาจค้านว่า คงจะนำแม่พิมพ์เก่ามาทำพระใหม่นั้นก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะถ้าแม่พิมพ์พระเป็นเนื้อสัมฤทธิ์แล้วเมื่อทิ้งไว้นานก็จะเกิดสนิมกัด กินจนกร่อน เมื่อนำมาทำใหม่พระก็จะไม่สมบูรณ์ย่อมมีตำหนิตามที่สนิมกินแม่พิมพ์ แต่พระกรุใหม่กลับมีความคมชัด เรียกว่าคมชัดกว่าพระกรุเก่าด้วยซ้ำไป แต่ถ้าแม่พิมพ์เป็นดินหรือวัสดุอื่น ก็จะมีการผุกร่อนตามกาลเวลา จะทำให้องค์พระคมชัดไม่ได้ ถ้าแกะบล๊อคใหม่ขนาดขององค์พระ หรือตำหนิต่างๆก็ต้องเพี้ยนไปกว่าเดินแน่นอน

    พระหูยานที่แตกกรุออกมานั้น มีด้วยกันหลายพิมพ์คือ พิมพ์ใหญ่ (เรียกกันว่าพิมพ์ใหญ่หน้ายักษ์) พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก พิมพ์บัวสองชั้น พิมพ์รัศมีบัวสองชั้น และพิมพ์จิ๋วแต่มีน้อยมาก ถ้าพูดถึงด้านพุทธคุณแล้วพระหูยานนั้นโด่งดังมากในด้าน คงกระพันชาตรี ตามแบบฉบับของขอม และด้านเมตตานั้นก็ไม่เป็นรองใคร นอกจากพระหูยาน จะพบที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ แล้วยังปรากฏว่าพบที่ วัดอินทาราม และที่วัดปืนด้วย แต่เป็นคนละพิมพ์กัน ด้านพุทธคุณนั้นเหมือนกันทุกกรุ อายุของพระหูยานนั้น ประมาณการสร้าง 700 กว่าปี แต่ถ้าเป็นกรุของวัดปืนแล้ว อายุจะน้อยกว่าของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเล็กน้อย

    ในบรรดาพระเครื่องของเมืองละโว้หรือเมืองลพบุรี ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในอดีตและปัจจุบัน ที่นักนิยมสะสมพระเครื่องทั้งหลายชื่อชอบและประทับใจยิ่งนั้น คงได้แก่พระหูยานและรองลงไปอีกหลายสิบชนิด อาทิเช่น พระร่วง, พระนาคปรก, พระเทริดขนนก, พระซุ้มนครโกษา, พระยอดขุนพลวัดไก่, พระเดี่ยวดำ-เดี่ยวแดง,พระรอดหนองมน, พระร่วงกรุม่วงค่อม, พระกรุถ้ำมหาเถร, พระกรุช่างกล, เหล่านี้เป็นต้น พระประเภทนี้โดยมากมักจะเป็นที่นิยมชมชอบ ของบรรดานักสะสมทั้งหลาย ได้พยายามใฝ่หาไว้ในครอบครอง เพราะปรากฏการณ์ในอดีตที่ผ่านมาในเรื่องอำนาจปาฏิหาริย์ของพระพุทธคุณ เป็นที่เชื่อถือได้ เป็นที่เลื่องลือระบือไกล จนมีชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปทั่วทุกสารทิศ ไม่ว่าจะอยู่นอกหรือในแคว้นเดนไกล ลือลั่นดังกระหึ่มก้องไม้รู้หาย พระประเภทดังกล่าวมานี้เป็นที่สนใจของทุกๆ คนมาโดยตลอด ไม่ว่าเจ้านายฝ่ายใดทุกระดับชั้นที่เข้ามารับราชการในเมืองนี้ พอย่างเข้ามาถึง อันดับแรกที่จะพูดก็คือ พระหูยานเมืองลพบุรี กิติศัพท์และพุทธคุณอันสูงส่งเป็นที่โจษขานกันอย่างระเบ็งเซ็งแช่มาแต่อดีต จนกระทั่งปัจจุบันนี้ เสียงลือเสียงเล่าอ้างนั้นคงจะดังกระหึ่มอยู่อย่างนี้ชั่วกัปชั่วกัลป์

    พระหูยานมีด้วยกันหลายสิบกรุ
    และมีอยู่โดยทั่วไปในพื้นที่ใกล้เคียงกับจังหวัดลพบุรี อาทิเช่น พระหูยานสุพรรณบุรี พระหูยานสรรค์บุรี(ชัยนาท) พระหูยานราชบูรณะ อยุธยา พระหูยาานสิงห์บุรี พระหูยานทุ่งยั้ง (อุตรดิตถ์) พระหูยานสมอปรือเพชรบุรี พระหูยานที่กล่าวนามจังหวัดเหล่านี้ มีพุทธศิลปและพุทธลักษณะ ส่วนสัดใกล้เคียงกันมาก สำหรับเนื้อันเป็นวัตถุที่นำมาสร้างคงได้แก่ ดีบุกหรือเงิน เนื้อตะกั่ว เนื้อดิน บางกรุมีเนื้อผงปูขาว (หรือที่บางคนเรียกว่าเนื้อหุ้มข้าวก็มี) เหตุที่ยืนยันว่ามีเนื้อผงปูนขาวนั้นเพราะเห็นของแท้มาจริงๆ ยืนยันได้ (กรุถ้ำมหาเถรไงครับ)

    เรื่องของความสมบูรณ์แบบหรือเรื่องของสนิมกรุนั้น
    แล้วแต่การฝังกรุหรือกรุเสื่อมสภาพหรือไม่เท่านั้น กรุบางกรุอยู่ในชั้นสมบูรณ์ ก็ทำให้พระมีความงามมากไม่ผุกร่อนหรือมีรอยระเบิดเกินไป แต่ถ้ากรุใดถูกเปียกชื้นมาก หรือน้ำท่วมกรุ ไหบรรจุเกิดแตกหรือบุบสลายก็จะทำให้พระภายในกรุชำรุดสูญเสียได้มาก ดังนั้นสภาพพระมักจะไม่เหมือนกัน จะมีเหมือนกันบ้างก็ส่วนน้อยส่วนสนิมกรุนั้นก็เช่นกันถ้าเป็นเนื้อตะกั่ว ก็อาจจะเกิดสนิมแดง ถ้าเป็นเนื้อดีบุก หรือชินก็จะเกิดสนิมขุมจับเกาะแน่นทั่วๆบริเวณองค์พระ ถ้าเป็นเนื้อปูขาวหรือผงขาวฝังกรุนานเข้าก็จะเกิดคราบฟองเต้าหู้ อันหมายถึงว่า น้ำมันส่วนผสมของปูนเช่นตั้งอิ๊ว จะลอยออกนอกเนื้อมาจับอยู่รอบๆองค์พระเกาะแนบแน่น มีสีขาวอมเหลืองบ้างหรือสีอื่นบ้างแล้วแต่สภาพกรุเช่นกัน พระเช่นว่านี้จะมีลักษณะเดียวกับพระกรุวัดใหม่ปากบาง ความเก่าของผิวกรุทำให้เราสามารถเปรียบเทียบและพิสูจน์ได้ว่าเป็นของแท้หรือของเทียม ซึ่งมีลักษณะหรือส่วนที่ใกล้เคียงกันระหว่างพระเนื้อชิน(ดีบุก) เนื้อดิน เนื้อตะกั่ว ถ้าเราเอาทั้ง 3-4 อย่างมาพิจารณาเปรียบเทียบกันแล้วก็จะรู้ได้ไม่ยากนักว่าแท้หรือเทียมเป็นอย่างไร

    กรุพระหูยานของจังหวัดลพบุรี
    มีด้วยกันหลายกรุ เพราะผู้สร้างมักจะสร้างพระหูยานเข้าบรรจุไว้ในพระเจดีย์ต่างๆ หรือวัดต่างๆ ที่มีบริเวณใกล้เคียงกันอยู่ไม่น้อยเลย จึงทำให้พระแต่ละกรุมีเอกลักษณ์และจุดสังเกต (หรือที่บางคนเรียกว่าตำหนิ) นั้นมีไม่เหมือนกัน นับเป็นสัญญาลักษณ์อย่างหนึ่งที่เราสามารถจะบอกได้ว่าเป็นพระกรุไหนแน่ (ต้องรู้จริงชำนาญจริง) ถ้าไม่รู้หรือเดาเอาเฉยๆ ก็แสดงว่าจับพระนั้นยัดเข้าที่นั่นที่นี่ (ไม่รู้จริง) เป็นสิ่งที่น่าอดสูใจยิ่ง คนบางคนเข้าใจว่าพระหูยานกรุช่างกลมี ที่จริงแล้วไม่เคยปรากฏว่ามีเลย จำไว้ด้วย เหตุที่ยัดกรุอย่างนี้ผู้เขียนเชื่อว่าต้องการเอากรที่ดังๆ มาตั้งสรรพคุณมากกว่า หรือเพื่อจะได้ให้คนเชื่อมากกว่าจึงกล่าวเช่นนั้น

    พระหูยานต่างกรุจึงมักจะไม่เหมือนกันในเอกลักษณ์ของแต่ละกรุ แต่ละทรวงทรงหรือลักษณะเล็ก-ใหญ่ ใกล้เคียงกันมาก พระหูยานบางกรุอยู่ในชั้นที่สมบูรณ์แบบ ผิวของชิน (ดีบุก) ยังขาวฝังจับเนื้อแน่นดูคล้ายของใหม่เลยก็มี ต้องดูให้ดีว่าผิวนั้นเป็นมันอยู่หรือเปล่า ถ้าเป็นมันอยู่หรือผิวไม่แห้งสนิทเลยนั้นอาจจะเป็นของเทียมค่อนข้างแน่ ถ้าเป็นของแท้จริงผิวของดีบุกหรือชินจะแลดูผิวขาวนวลแห้งสนิทเหมือนดังปุยเมฆ (แหงมองท้องฟ้า) เปรียบเทียบดู แห้งแบบด้านๆ จะมีส่วนหมองคล้ำของผิวนิดๆ สิ่งสำคัญที่สุดนั้นต้องพิสูจน์ให้ถูกต้องเนื้อถูกต้อง คนลพบุรีเองบางคนคล้องพระหูยานเก๊ก็มีมากมาย ของแท้ถูกนักนิยมสะสมพระเครื่องชาวกรุงหรือผู้มั่งคั่งจังหวัดอื่นๆเช้าไปแทบหมดแล้ว คงเหลืออยู่บ้างเล็กน้อยเท่านั้น พอจะกำหนดตัวคนที่มีได้ พระหูยานเป็นยอดจักรพรรดิของพระเครื่องพิมพ์หนึ่ง เป็นยอดมหาอุตและคงกระพันชาตรี จนกระทั่งมีนักนิยมพระรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ให้สมญานามท่านว่า "ยอดจักรพรรดิแห่งกรุงละโว้" ไม่ว่าจะเป็นอภินิหารปาฏิหาริย์ความศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ และสิ่งมหัศจรรย์ นานับประการอยู่ในองค์พระหูยานทั้งหมดพระอื่นๆก็มีผู้กล่าวขานเป็นรองๆลงไป

    ความเกรียงไกรและยิ่งใหญ่ของพระหูยาน
    มีผู้พูดหลายร้อยหลายพันคน ซ้ำแล้วซ้ำเล่าครั้งแล้วครั้งเล่าว่า พระหูยานนั้นเหนียวชะมัด (ไม่ใช่เหนียวหนี้) ขนาดปืนยังไม่ดังหนังไม่ถลอกซึ่งเป็นเรื่องที่เล่าติดต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นับเป็นร้อยเป็นพันราย ไม่มีเสื่อมคลาย เหตุนี้เองจึงมีนักสะสมทั้งรุ่นใหม่สนใจหากันอยู่มิได้ขาด และยังจะหากันต่อไปอีกนานเท่านานไม่มีวันจบสิ้น

    เมืองลพบุรีเป็นเมืองที่มีพระเครื่องมากเมืองหนึ่ง และเป็นพระที่นักนิยมทั้งหลายยอมรับนับถือในคุณค่า ตลอดจนกระทั่งศิลปกรรม อันเป็นโบราณวัตถุที่มีความเก่าแก่มาแล้วช้านานและจัดเป็นพระเครื่องที่มีศิลปสมัยสูงสมัยหนึ่ง นักสะสมหรือนักนิยมพระที่รู้จริงสามารถบอกได้ว่าเป็นพระสมัยลพบุรี ที่บอกได้เพราะเขารู้ศิลปจริง จะมีผิดพลาดบ้างก็เล็กน้อย เว้นไว้แต่ว่าพระที่ลอกเลียนแบบสมัยสูงๆ โดยก๊อปปี้หรือถอดพิมพ์แล้วนำมาทำใหม่ในยุคที่ต่ำกว่า หรือระยะหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างสมัยกัน เป็นเรื่องที่มีปัญหาถกเถียงกันอยู่เสมอ บางคนว่าถึงยุค บางคนบอกว่าไม่ถึงยุคสมัย คนประเภทนี้ไม่รู้ศิลปที่แท้จริง ไม่เคยเรียนศิลปมาก่อน ย่อมจะพูดชนิดบิดเบือนความเป็นจริงอยู่ตลอด คนประเภทนี้ไม่รู้จักศิลปะ และไม่รู้จักวิธีการลอกเลียนแบบอีกด้วย จึงเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันเสมอมา (คนที่เรียนศิลปมาจึงจะรู้แจ้ง) พระเครื่องในสมัยอยุธยา มีศิลปลพบุรีก็มี เพราะอยุธยาต้องเลียนแบบมาจากสมัยสูงกว่านั่นเอง หรือในสมัยอยุธยานำเอาพระเครื่องที่มีศิลปสมัยสูงกว่าเช่นลพบุรีนำไปบรรจุยังกรุอยุธยา ก็มีพบกันอยู่บ่อยๆ และเสมอๆ ในสมัยรัตนโกสินทร์ (ปัจจุบันนี้) ก็มีการลอกเลียนแบบสร้างพระทุกสมัยที่เหนือกว่าก็มีมากมี เป็นการสืบทอดเจตนาของช่างผู้สร้างเอาว่าอย่างไหนดีและไม่ดี

    พระหูยานแต่ละกรุที่ผู้เขียนจำได้และรวบรวมไว้มีประมาณ 21 กรุ ดังนี้คือ

    1. พระหูยานกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (กรุต้นกำเนิดหรือกรุหัวปี) 2440 ลพบุรี

    2. พระหูยานกรุวัดปืน ลพบุรี

    3. พระหูยานกรุวิหารกรอ (เนื้อดินบัวคว่ำ-บัวหงาย)

    4. พระหูยานกรุอินทรา ลพบุรี (ที่ฐานมีรอยตาปูตอกเป็นกรุ)

    5. พระหูยานกรุตาพริ้ง พิมพ์คอพอก ลพบุรี

    6. พระหูยานกรุตาอิน ลพบุรี

    7. พระหูยานกรุถ้ำมหาเถร (พระเกศมาลาแหลม)

    8. พระหูยานกรุวัดเจาะหู

    9. พระหูยานกรุยอดพระปรางค์

    10. พระหูยานกรุวัดกำแพง เนื้อตะกั่วสนิมแดง (ลำน้ำบางขาม) บ้านหมี่ลพบุรี

    11. พระหูยานกรุวัดราชบูรณะ (หลังวัดพรหมมาสตร์) ลพบุรี

    12. พระหูยานกรุวัดราชบูรณะ (อยุธยา)

    13. พระหูยานเนื้อดิน สุโขทัย

    14. พระหูยานกรุน้ำผึ้ง จ.สิงห์บุรี อำเภอบางระจัน

    15. พระหูยานกรุวัดขื่อคำ สรรค์บุรี (เนื้อตะกั่วสนิมแดง)

    16. พระหูยานกรุวัดมหาธาตุ สุพรรณบุรี

    17. พระหูยานกรุสมอปรือ เมืองเพชรบุรี (วัดค้างคาว)

    18. พระหูยานกรุกรุทุ่งยั้ง อุตรดิตถ์

    19. พระหูยานกรุวัดพระธาตุ สรรค์บุรี (บัวพันปลา) หรือวัดศรีษะเมือง ชัยนาท

    20. พระหูยานกรุวัดสิงหล (เหนือวัดป่าธรรมโสภณ วัดร้าง ชินผุทั้งหมดเห็นแต่รูปร่างเท้านั้น)

    21. พระหูยานกรุวัดมหาธาตุ อยุธยา

    พระหูยานที่กล่าวมาทั้งหมดนี้มีรูปลักษณะหรือทรวงทรงใกล้เคียงกันมาก เว้นไว้แต่สิ่งที่ผิดเพี้ยนในเรื่องของแม่พิมพ์หรือจุดสังเกตุในพิมพ์บ้าง (ที่บางคนเรียกว่า "ตำหนิ") พระหูยานมีอยู่ 3 พิมพ์ด้วยกันคือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก ส่วนจะเรียกว่าหน้าพระ หน้านาง หน้าเทวดา หน้ายักษ์ นั้นก็แล้วแต่จะเรียกตามความคิดเห็น ส่วนบัวซึ่งเป็นที่ประทับนั้นมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ บัวคว่ำและบัวหงาย พระที่แตกกรุออกมาครั้งแรกนั้น คนทั้งหลายเรียกว่า "พระหูยานกรุเก่า" พระที่แตกกรุเมื่อปี 2508 คนทั้งหลายเรียกกันว่า "พระหูยานกรุใหม่" ทั้งกรุเก่าและกรุใหม่เป็นพระพิมพ์เดียวกัน

    การพบพระหูยานนั้นเพราะคนร้ายหลายรุ่น หลายกลุ่ม หลายยุค หลายสมัย ได้ซ่องสุมชุมนุมพลวางแผนกันขุดบางทีได้มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่โอกาสหรือความมากน้อยในแต่ละพระเจดีย์ที่บรรจุ ทางเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรก็พยายามค้นหาหลักฐานเหล่านั้นด้วย และได้ไว้ในพิพิธภัณฑ์บ้างแต่ก็ยังไม่ได้มากเท่ากับคนร้าย ในการลักลอบขุดแต่ละครั้งบางทีก็พบแม่พิมพ์พระชนิดต่างๆ รวมอยู่ด้วย แต่โดยมากเป็นเนื้อดิน (พิมพ์ดิน) ส่วนพิมพ์สำริดมีน้อยมาก พิมพ์พระหูยาน พิมพ์พระเหวัชระและพิมพ์หลวงพ่อจุก สามพี่น้อง (ตรีกาย) ก็พบเห็น พิมพ์ดินทั้งหมด มีช่างชาวอยุธยาได้เช่าจากร้านค้าของเก่าในเมืองลพบุรีไปแทบหมด และออกลูกหลาน เหลน มาให้ได้ชมกันต่อ

    พระหูยานมีต้นกำเนิดมาจากพระแผงสาม (ตรีกาย) นั่นเอง ใครจะเชื่อหรือไม่นั้นดูเอาเองและคิดให้ถ้วนถี่ว่าที่ผมพูดเช่นนี้มีความจริง หรือความเท็จแค่ไหน (ถ้าเห็นว่าเป็นเท็จอย่าเชื่อ) พระหูยานมีลักษณะเป็นศิลปสกุลช่างสมัยลพบุรี รูปองค์พระปฏิมากรประทับนั่งปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบบนอาสนะบัวเล็กช้าง 5 กลีบ มีเกสรบัวเป็นเม็ดๆ จุดๆ คล้ายไข่ปลาบนกลีบบัวทั้ง 5 พระศกแบบผมหวี พระเกศมาลามุ่นขมวดคล้ายดอกบัวตูม มีลายเส้น 2 เส้น เฉลียงไปทางขวามือของเรา (ทางซ้ายมือขององค์พระ) คล้ายกับดอกบัวเริ่มผลิตกลีบออกจากกัน (เริ่มบาน) พระกรรณ (หู) ทั้งสองข้างยานยาวจากระดับพระขนงเกือบจรพระอังสา (บ่า) พระพักตร์แสดงอวัยวะแต่ละส่วนออกมาอย่างชัดเจน ดูหน้าดุถมึงทึง บางคนเรียกว่าหน้ายักษ์ รอบบริเวณบนใบหน้า (พระพักตร์) จะแลดูอิ่มเอิบส้นพระขนง (คิ้ว) คล้ายนกบิน คือมีเส้นติดต่อกันตลอด ดวงเนตรเป็น 2 ชั้น ริมฝีพระโอษฐ์แสยะยิ้มเป็นร่อง ด้านหนึ่งทางซ้ายมือของเราจะแลเห็นริมฝีพระโอษฐ์งอนขึ้น (ด้านล่าง) ริมบนงอนลง ในพระกรรณจะมีรอยเส้นลึกลงอย่างเห็นได้ชัด (ของปลอมมักจะไม่ชัด) กรองศอหรือกรองคอจะมีเส้นนูนขึ้นคล้าย กระดูกไหปลาร้าของคนเราแต่กลมกลืนว่า ใบหู (พระกรรณ) ยานยาวเกือบจรดพระอังสา (บ่า) สังฆาฏิจะมีเส้นนูนขึ้น (ไม่ลึกลง) ดูคล้าย 2 เส้น แต่ความจริงด้านบนจะมีเส้นนูนเล็กๆ แซมมาอีก (เส้นนี้สำคัญมากเป็นข้อสังเกตที่น่าพิจารณา) รอยปะหรือรอยขอบจีวรด้านซ้ายมือของเราจะมองเห็นเป็นแผ่นคล้ายแม่พิมพ์แตกจรดกับขอบสบงด้านล่างซ้ายมือ (รอยปะนี้นูนขึ้นคมชัดเป็นจุดสังเกตที่สำคัญยิ่งจุดหนึ่ง) ยิ่งไปกว่านั้นจุดสังเกตที่สำคัญที่สุดในพระหูยานพิมพ์ใหญ่ (นิยม) ใต้ขอบสบงด้านซ้ายมือของตัวเรา จะมีเส้นเล็กๆ ซึ่งเป็นรอยขอบสบง (ซึ่งนักนิยมสะสมทั้งหลายไม่คำนึงถึงนัก) แต่เป็นจุดหนึ่งที่มีความหมายมากและสำคัญมาก ส่วนพิมพ์อื่นหรือกรุอื่นๆ
    นอกเหนือจากนี้ จุดสังเกตในองค์ปฏิมาอาจจะไม่มีก็ได้ ซึ่งก็เป็นของแท้เหมือนกัน แต่ชาวกรุงไม่นิยม จะนิยมเฉพาะคนรู้เท่านั้น (โดยส่วนรวมชาวกรุงเทพนิยมเฉพาะพิมพ์ใหญ่ เพียงพิมพ์เดียว) ด้านหลังขององค์พระหูยานนั้นมีทั้งแอ่งเล็ก หลังลายผ้า หลังเรียบและหลังตัน และโดยมากจะมีลายผ้าหยาบ(ผ้าใบ) ปรากฏอยู่ทั่วๆ แทบทุกองค์ บางองค์บางมาก บางองค์ก็หนาเทอะทะบางองค์ถูกสกัดด้วยของมีคมริมๆ หรือขอบขององค์พระ บางองค์ก็ไม่มี

    ขนาดของพระหูยานโดยส่วนรวมแล้วมี 3 ขนาด คือ

    1) พิมพ์ใหญ่ มีขนาดสูงประมาณ 5.5 เซนติเมตร

    2) พิมพ์กลาง มีขนาดสูงประมาณ 5.5 เซนติเมตร

    3) พิมพ์เล็ก มีขนาดสูงประมาณ 4.0 เซนติเมตร

    หลักการพิจารณาเกี่ยวกับพระกรุเก่า และพระกรุใหม่
    มีอยู่ว่าพระกรุเก่าหรือพระกรุใหม่ เป็นพระที่สร้างขึ้นในสมัยเดียวกัน ใช้แม่พิมพ์อันเดียวกัน แต่ต่างกันที่สภาพของกรุ เวลาของการพบและการนำออกจากรุ พระกรุเก่ามักจะเกิดมีผิวสนิมดำความอับชื้นที่ทำให้เกิดเชื้อรา และได้ถูกความเค็มเข้าก็จะทำให้พระเปลี่ยนจากสภาพไปได้ทุกโอกาสคือ จากผิวที่ขาวแห้งสนิท เป็นสีดำได้ เหงื่อของคนเราสามารถทำให้พระที่มีความงามเปลี่ยนแปลงเป็นไม้งามได้ (ควรระวัง) เนื้อพระทั่วๆ ไปของกรุเก่าโดยมากมักจะมีรอยผุกร่อนและระเบิดทั่วไปมีสนิมจับซับซ้อน เนื่องจากสภาพของกรุหรือไหแตก เหงื่อหรือหยดเหื่อได้ผสมกับดินเกาะกินเนื้อดีบุกหรือชิน หรือตะกั่วเข้าแล้วจะทำให้เกิดสนิมได้ไวหรือมากกว่า กรุที่สมบูรณ์แบบคือไหไม่แตก ดินไม่สามารถจะเข้าไปคลุกเคล้ากับเนื้อดีบุก ชิน ตะกั่วได้ จึงทำให้พระอยู่สภาพเดิม ซึ่งก็เหมือนกับพระกรุใหม่ปี 08 นั่นเอง จะมีรอยระเบิดหรือผุกร่อนน้อยมาก บางองค์ไม่มีเลย

    พระพิมพ์ใหญ่ (นิยม)
    ให้สังเกตจุดสังเกตในแม่พิมพ์ซึ่งปรากฏในองค์พระตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น กลีบบัวกลีบที่สองนับจากซ้ายมือขององค์พระจะยื่นล้ำออกมาข้างหน้ามากกว่ากลีบอื่นๆ รอยนิ้วก้อยนิ้วที่ 5 จะหันกับกลีบบัวกลีบหนึ่งแลดูเป็นเส้นนูนเส้นเดียวกัน รายละเอียดอื่นๆ นอกจากที่กล่าวมาแล้วอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แล้วแต่คนกดพิมพ์(เวลาเทพระลงเบ้า) สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ด้านหลังขององค์พระจะต้องมีลายผ้าหยาบอันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง หากเป็นลายละเอียดมากเกินไปมักจะปลอม เป็นของปลอม ส่วนพิมพ์หลังแบบก็มี แต่น้อยคนจะรู้จัก
    ในปัจจุบันนี้ได้มีนักผลิตพระปั๊มขึ้นจำนวนมาก และหลายจังหวัดด้วยโดยเอาพระเก่าๆ (เนื้อเก่าๆ) มาปั๊มให้เกิดความสมบูรณ์หรือมีค่านิยมมากกว่าของเดิม เช่นพระหูยานนี้ก็มีผู้ปั๊มซึ่งเป็นพระที่มีราคามาก เมื่อทำการปั๊มเสร็จแล้ว ผู้ปั๊มก็จะทำการตบแต่ง หรือไม่ก็มีบรรดาพวกลูกค้ามาว่าจ้างให้ผลิตเพื่อนำจำหน่ายอีกครั้ง ลูกค้าอาจจะนำไปตบแต่งเอง นับเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เนื้อพระก็เก่า-แท้ พิมพ์ก็ถูก ที่กล่าวมานี้เป็นการเตือนสตินักเล่นพระเนื้อชินบางคนเท่านั้น พระหูยานมีคุณวิเศษหลายร้อยหลายพันอย่าง ไม่ว่าทางคงกระพันชาตรีหรือแคล้วคลาดพระหูยานสามารถแผ่อิทธิปาฏิหาริย์ให้กับผู้ใช้เป็นที่พึงพอใจมาแล้วเป็นอย่างดียิ่ง นอกจากนั้นพระหูยานยังเป็นพระที่เป็นของกำนัล สำหรับผู้ให้กับผู้รับเป็นอย่างดียิ่ง นอกจากนั้นพระหูยานยังเป็นพระที่เป็นของกำนัล สำหรับผู้ให้กับผู้รับเป็นอย่างดี เช่น การโยกย้าย ของขวัญวันเกิด ของขวัญวันแต่งงาน ของขวัญสำหรับผู้ว่า ของขวัญสำหรับผู้หมวด ของขวัญสำหรับ ผบ.ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายเข้าย้ายออกหรือเลื่อนยศ ปลดย้าย คนที่เคารพนับถือกันมักจะมีพระประเภทดังว่านี้ให้เป็นของขวัญเสมอๆ ซึ่งของขวัญหรือของกำนัลเหล่านี้ดีกว่าการให้เงินให้ทองเสียอีก

    ถ้าท่านสงสัยว่าพระหูยานมีปลอมไหม ขอตอบดังๆ และชัดๆ เลยมีปลอมกันมาตั้งแต่ผมยังไม่เกิด เพราะพระหูยานใครๆ ก็รู้ว่าเป็นพระยอดดังของเมืองลพบุรี จึงมีผู้ทำปลอมกันเรื่อยๆ มา ขณะนี้ก็ยังปลอมอยู่ สตังค์ดีบุกก็มีคนนำมาหลอมละลายทำเป็นพระหูยานมาแล้ว เนื้อพระประเภทนี้ดูยากมากถ้าเกิดระเบิด มีคนเช่าผิดก็หลายราย มีคนนำมาส่งเข้าประกวดก็มาก ซึ่งก็ไม่ค่อยจะผ่านสายตากรรมการไปได้มากนัก จึงขอเรียนให้ท่านทั้งหลายได้รับทราบว่า พระหูยานเนื้อสตางค์ 10-20 หรือ 1 สตางค์นั้น ดูยากพอสมควร แต่เราก็สามารถหาจุดได้โดยอาศัยความชำนาญ คือ ลายกนกอันเป็นลายไทยที่เราเห็นนั้นจะไม่ละลายตัวจะมีเศษเล็กๆ น้อยๆ ให้เราได้เห็น (ถ้าส่องกล้องดู) เราสังเกตให้ดี จะรู้เองว่าเนื้อสตางค์ 1 สตางค์ 10 สตางค์ หรือเนื้อสตางค์ 20 นับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ถ้าเนื้อดีบุก การเกิดมีรอยระเบิดหรือผุกร่อนจะทำให้ดูยาก มีคนผิดพลาดเรื่องนี้มาก การดูพระหูยานไม่ใช่เรื่องหมูๆ เป็นเรื่องที่ดูได้ยากมาก แต่ก็ไม่สุดความสามารถถ้าสนใจ และพยายามดูของจริงให้มาก อ่านหนังสือทุกเรื่องทุกเล่ม แล้วท่านจะเก่งเอง สำคัญที่สุดถ้าเป็นพระเนื้อสตางค์น้ำหนักจะเบา

    สาเหตุที่เรียกชื่อว่าพระหูยานนั้น
    ผู้ขุดครั้งแรกคงจะเห็นพุทธลักษณะของท่านตรงใบหู (พระกรรณ) ยานยาวจรดบ่านั่นเอง จึงขนานนามของท่านว่าพระหูยาน เพราะใบหูขององค์พระปฏิมายาวกว่าพระประเภทอื่นๆ นั่นเอง ผู้ขุดพบครั้งแรกจึงเรียกท่านว่า "พระหูยาน" เรื่องพุทธคุณนั้น เห็นจะไม่ต้องกล่าวอ้างมากเกินไป บอกได้ว่าเป็นที่ยอมรับของสังคมพระเครื่องโดยทั่วไป อย่างมิมีวันเสื่อมคลาย "คงกระพันชาตรี มหาอุตม์ สุดยอดดีทุกอย่าง"

    จุดสังเกตที่พึงจดจำไว้ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับพระหูยานที่มีอยู่ตามพุทธลักษณะ ดังต่อไปนี้


    1.พระโมลีหรือพระเกศมาลาคล้ายดอกบัวตูมเริ่มผลิกกลีบ (แตกกลีบ)

    2. เส้นพระศกมักเกล้าเป็นเส้นถักแนวตั้ง

    3. ไรพระศกเป็นเส้นนูนอิสระกลมกลืน

    4. พระขนงเป็นเส้นนูนติดต่อกันเหมือนวิหคเหิรลม(นกบิน)

    5. ม่านพระเนตรอูม

    6. เส้นพระกรรณ ทั้งสองข้างชัดเจน ซ้ายมือเราชัดเจนว่า

    7. ริมพระโอษฐ์ด้ายซ้ายมือเราแสยะยิ้มสูงกว่าอีกข้างหนึ่ง

    8. ขอบสังฆาฏิ ด้านขวามือเราจะจรดกับปลายพระกรรณ (ปลายหู)

    9. เส้นแซมภายในสังฆาฏิ (เส้นสำคัญเส้นหนึ่ง)

    10. สร้อยพระศอหรือกรองคอนูนขึ้น

    11. เส้นนูนพระปรัศว์ มี 2 จุดคล้ายฟันหนู (บางองค์ชัดเจน บางองค์อาจจะไม่มี

    12. รอยซ้อนหรือรอยปะทับของจีวรจะปรากฏลึก แต่นูนขึ้น

    13. ขอบอันตวาศกเป็นเส้นนูนกลมกลืนพระอุทรจรดรอยปะ

    14. เส้นแซมซ้อนของอันตวาศก (จุดสังเกตที่สำคัญยิ่งจุดหนึ่ง)

    15. ขอบจีวรเป็นเส้นนูนจรดข้อพระกร

    16. นิ้วเท้าทั้ง 5 ชัดเจนมาก

    17. เกษรบัวมี 13 จุด

    18. บัวกลีบที่ 2 ขวามือเราจะนูนมากกว่าบัวกลีบอื่นๆ (ยื่นออก)

    19. นิ้วก้อยจรดพระชานุทับกลีบบัวกลีบแรก (ซ้ายมือเรา) เป็นเส้นเดียวกัน

    โดย : อาจารย์ โรจนศักดิ แสงศิริวิไล
    วันที่ 18 มิถุนายน 2554 เวลา 16:14:36 น.

    ขอบพระคุณที่มา...
    http://www.krusiam.com/community/forum2/view.asp?forumid=cate00003&postid=ForumID0059897

    เปิดให้บูชา 49999 บาท
    สนใจข้อความมาสอบถามได้ครับผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 105472.jpg
      105472.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.1 KB
      เปิดดู:
      29
    • 105471.jpg
      105471.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.6 KB
      เปิดดู:
      26
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2022
  17. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    793.ชุดพระผงไตรภาคี หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี ปี2514
    ของดีที่มีผงสมเด็จและท่านเจ้าคุณนร ที่ราคาไม่แพง น่าบูชาติดตัวอีกรุ่นหนึ่งก็คือ พระผงไตรภาคี รุ่น 2 จัดสร้างโดย ยุวพุทธิกสมาคม ชลบุรี พ.ศ. 2514 โดยมี หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี ปลุกเสกให้ตลอดไตรมาส
    มวลสารของพระรุ่นนี้ ได้นำผงพุทธคุณของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) วัดเขาบางทราย จ.ชลบุรี กับผงท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทราวาส กทม. มาเป็นเนื้อหลัก ผสมกับผงของหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี (โดยใส่ผสมสีแดงเพื่อให้ต่างจากรุ่นแรกและเพื่อให้หมายถึง หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ)
    จัดเป็นของดีราคาเบาที่น่าบูชา เพราะนอกจะใช้มวลสารแบบเดียวกันกับรุ่นแรกแล้ว ยังผสมมวลสารของหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ และท่านยังได้ปลุกเสกตลอดไตรมาสให้อีกด้วย เจอที่ไหนหาเช่าบูชาใส่ติดตัวได้เลยครับ
    ข้อมูลการจัดสร้างฉบับเต็มว่าทำไมถึงน่าบูชา อ่านได้ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ หรืออ่านตรงบทความใต้ลิ้งค์ที่ผมนำมารวมในนี้เลยก็ได้ ขอบคุณสำหรับบทความด้วยครับ
    http://www.navaraht.com/forum/forum46/topic498.html
    บทความนั้นกล่าวว่า ...
    ไตรภาคี ที่ทรงฤทธิ์ แห่ง พระครูญาณวิลาศ (แดง รัตโต) โดย รณธรรม ธาราพันธุ์ 26 พ.ย. 2008
    พระไตรภาคี เป็นพระเครื่องดียิ่งชุดหนึ่งในยุทธจักรนักนิยมพระ ถูกสถาปนาขึ้นโดยยุวพุทธิกสมาคม ชลบุรี ซึ่งมีคุณอธึก สวัสดีมงคล อดีตนายกฯเป็นแกนนำ ในวาระแรกพระไตรภาคีสร้างเพื่อถวายให้ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต หรือ ท่านธัมมวิตักโกภิกขุ แห่งวัดเทพศิรินทราวาส เป็นองค์อธิษฐานจิต ในไม่ช้าไม่นาน ความงามของศิลปะซึ่งฉายประกายออกจากองค์พระโดยฝีมือช่างเล้ง บวกกับพระกิตติคุณอันวิเศษในองค์ท่านเจ้าคุณนรฯ ก็หนุนส่งพระเครื่องชุดนี้ให้ก้าวขึ้นสู่ความนิยมในระดับแนวหน้าอย่างไม่ยากไม่เย็น ส่งผลไปในทุกทาง ทั้งความหายาก ทั้งประสบการณ์ ทั้งการประกวดประชัน และทั้งราคา..!
    ณ ปัจจุบันพระไตรภาคีที่ยุวพุทธฯเรียกว่าเป็นรุ่นแรกนั้นแพงมาก เหตุเพราะได้รับการอธิษฐานจิตจากท่านเจ้าคุณนรฯ ไม่เป็นอื่น และมิใช่เพิ่งจะแพงหากแพงและปลอมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 โน่นแล้ว ในปีเดียวกันนั้นเอง ยุวพุทธิกสมาคม ชลบุรี จึงตัดสินใจสร้างพระไตรภาคีชุดที่ 2 ขึ้นโดยอาศัยเค้าโครงเดิม
    คุณอธึกเล่าว่า พระชุดสองนี้นำแม่พิมพ์เดิมมาสร้างทั้งหมด นัยว่าเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่ถวิลหาพระเจ้าคุณนรฯ เป็นนักหนา โดยนำผงพุทธคุณของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) วัดเขาบางทราย ชลบุรี กับผงอธิษฐานของท่านเจ้าคุณนรฯ มาเป็นเนื้อหลัก
    ในเมื่อสมัยแห่งอุโฆษของหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ กำลังระบือก้อง ยุวพุทธฯ จึงนำความขึ้นกราบเรียนขออนุญาตจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อแดง ซึ่งท่านก็เมตตาประทานอนุญาตให้สร้างได้ กับทั้งมอบผงวิเศษให้ประสมเนื้อพระด้วย
    พระไตรภาคี รุ่น 2 ซึ่งประกอบด้วย พระพิมพ์พระแก้วมรกต พระพุทธชินราช และพระพุทธสิหิงค์ จึงถือกำเนิดขึ้น โดยเว้นพิมพ์รูปเหมือนของท่านเจ้าคุณนรฯ ไปเสีย
    การประกอบพิธีสร้าง ยุวพุทธฯ พยายามที่จะคงความศักดิ์สิทธิ์เหมือนเดิม ตั้งแต่การบวงสรวง การรับศีลและแต่งชุดขาวของประดาช่าง กดพิมพ์ในพระอุโบสถวัดเขาบางทราย โดยใช้ผงดังกล่าวข้างต้นผสมกับผงหลวงพ่อแดง
    ทว่า การสร้างพระในครั้งก่อน ยุวพุทธฯ มิได้ปรุงแต่งสีสันอะไรลงไปในเนื้อพระเลย พระไตรภาคีครั้งแรกจึงมีเนื้อขาวอมเหลืองนวล ซึ่งยิ่งเก่าก็ยิ่งสวยซึ้งตา หากพระไตรภาคีรุ่นสองหมายใจจะให้เป็นพระของหลวงพ่อแดง และเหตุที่ใช้แม่พิมพ์เดิมมาสร้างจึงต้องผสมสีแดงลงไปในเนื้อพระเพื่อให้เกิดความแตกต่าง กับทั้งให้หมายถึง “หลวงพ่อแดง” ดังนั้น พระชุดนี้จึงมีความแตกต่างตรงสีสันวรรณะเท่านั้น ส่วนมวลสารเหมือนเดิม
    ครั้นกดพิมพ์แล้วเสร็จได้ทำการตรวจนับพระทั้ง 3 พิมพ์ ปรากฏจำนวนทั้งสิ้นพิมพ์ละ 2,514 องค์ ซึ่งไตรภาคีคราวนี้ไม่ได้ทำแบบพิเศษขึ้นดังชุดก่อน ซึ่งเป็นพระลงรักปิดทอง โรยผงตะไบทองคำและเส้นเกศาท่านธัมมวิตักโก คงมีเพียงพระเนื้อธรรมดาสีแดงอย่างสีอิฐมอญเท่านั้น คนชอบเนื้อพิเศษผมเสียใจด้วย
    คณะกรรมการยุวพุทธฯ นำพระพิมพ์ทั้งหมดเดินทางขึ้นไปถวายหลวงพ่อแดงถึงวัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี ในวันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2514 ซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อแดงมีชนมายุได้ 94 ปี และเป็นช่วงปีที่ท่านกำลังมีชื่อเสียงกึกก้องไปทั้งประเทศ คำว่า “เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อแดง” ดูจะเป็นคำขลังพอที่สยบคนชอบพระกรุในยุคนั้นได้ไม่น้อย
    เหตุเพราะนักนิยมพระกรุ มักไม่ค่อยนิยมพระเกจิอาจารย์รุ่นใหม่ ไม่ค่อยสนใจ ไม่ค่อยเล่นหา จึงไม่ทราบเลยว่าพระสมัยใหม่ใครบ้างเก่งไม่เก่ง ในใจมีแต่พระกรุพระเก่าจนลืมพระคน แต่เกียรติคุณขลังและประสบการณ์ที่ออกปากได้ว่าโชกโชนจากเหรียญรุ่นแรกปี พ.ศ. 2503 ของท่าน เป็นเหตุให้เซียนที่ลืมพระสงฆ์ต้องหันหลังกลับมาแลหลวงพ่อแดงและล่วงเลยไปถึงซุ่มเก็บพระเครื่องท่านอย่างกว้างขวาง ถือว่าท่านพลิกรูปแบบการสะสมก็ไม่ผิด
    หลวงพ่อแดงเริ่มอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องทั้งหมดของยุวพุทธฯ ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 24 เมษายน เรื่อยมาและประกอบพิธีเสกเป็นสำคัญอีกครั้งหนึ่งในวันวิสาขบูชาตรงกับวันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2514 ทว่า ยุวพุทธฯ ก็ยังมิได้นำพระเครื่องกลับแต่อย่างใด หากขอเมตตาหลวงพ่ออธิษฐานพรให้อีกตลอดพรรษาปี 2514 คือหนึ่งไตรมาสนั่นแหละ
    จวบจนวันออกพรรษาแล้วอีกหลายวัน คณะกรรมการยุวพุทธฯ จึงได้ขึ้นไปกราบนมัสการขอรับพระเครื่องคืน เรียกได้ว่าเป็นการเสกอย่างยาวนานในชีวิตหลวงพ่อแดงได้ไม่เคอะเขิน ด้วยเวลาการเสกทั้งสิ้น 5 เดือนเศษ หย่อนอีกไม่กี่วันก็ครบครึ่งปี
    พระสงฆ์ขนาดหลวงพ่อแดงเสกพระทุกวันๆ เป็นเวลาห้าเดือน คิดเอาเถิดว่าน่าแขวนแค่ไหน ก็เพียงไม่มีค่านิยมที่ถูกตั้งโดยเซียน แต่พระพุทธคุณที่สถิตย์ในองค์พระผมเชื่อว่าไม่ด้อยไปกว่าเหรียญรุ่นแรกหรือรุ่นไหน ๆ ของท่านก็แล้วกัน
    ลำพังผงวิเศษของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์และผงวิเศษของท่านเจ้าคุณนรฯ มาผสมรวมกันนั้น จะกล่าวไปใยถึงพุทธาภิเษก ผมอยากบอกว่าเอาปั้นเป็นเม็ดกลมอย่างที่เรียกว่า “ลูกอม” แล้วให้แขวนเลย ผมก็แขวนได้สบายใจแล้วครับ ไม่ต้องรบกวนหลวงพ่อแดงซ้ำไป
    เมื่อนำพระกลับมาทำการบรรจุซองที่ยุวพุทธฯ ชลบุรี แล้ว คณะกรรมการหารือกันเห็นว่าควรตั้งราคาบูชาที่องค์ละ 10 บาท เพื่อนำปัจจัยที่ได้ไปสมทบกองทุน “สินอุปการะ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (สมเด็จเมืองชล)” ณ มูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และพระชุดนี้ก็หมดพรึ่บเช่นเคย
    ส่วนประสบการณ์พระรุ่นนี้เขียนโดยคุณศิษย์กวง ด้านล่างนี้ครับ
    วันนั้นพวกเราเข้าไปเล่นมวยที่สนามมวยลุมพินี
    "เฮ้ยไอ้โก้ ตึ๊งเจ้าคุณนรหน่อยสิ"
    "เฮียเอาเท่าไหร่..."
    "สามหมื่นพอ องค์ละหมื่น..."
    "ได้ครับ...."
    ................................................
    "เฮ้ยเพื่อนดูพระให้หน่อยสิ ชุดนี้แท้หรือเปล่า..."
    "เออ แท้แต่ไม่แพงว่ะ หลวงพ่อแดง.."
    "พี่ชาตรีบอกกูว่า เจ้าคุณนร..."
    "เฮ้ย รุ่นนี้พิมพ์เจ้าคุณนร แต่หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐเสก มึงโดนหลอกแล้ว"
    "ไอ้ha...."
    ...................................................
    วันเดียวกัน ประมาณสี่ทุ่ม เลย ม.หัวเฉียวมาไม่ไกลนัก ไอ้โก้เพื่อนผมคลานออกมาจากรถโอเปิ้ล ป้ายแดงคันงาม ทิ้งซากรถพร้อมด้วยเสาไฟฟ้าที่โดนชนหักโค่นหนึ่งต้นไว้ข้างทาง.....
    บริษัทประกันจ่ายค่าเสาไฟฟ้าสองแสนบาท ส่วนรถขายซากทิ้ง
    เอาเงินไปเลี่ยมทองพระทั้งสามองค์ขึ้นคอ ขอดูพระทั้งสามองค์ได้ที่ "เจ้าของบาร์ป๊อปปี้ ซอยแปด พัทยากลางครับ...."
    จากเรื่องราวต่างๆ เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับพระชุดไตรภาคีรุ่น 2 ใครที่อยากได้ของดีที่ราคาไม่แพง พระไตรภาคี รุ่น 2 จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าบูชาครับ
    เปิดให้บูชาชุดนี้ 2999 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับครบชุดหายาดมากครับผมสวยทุกองค์ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    794.พระพิมพ์น้ำ(รุ่นเกาหลี..พิมพ์สองหน้า) สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(เจริญ) วัดเขาบางทราย จ.ชลบุรี จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2492 (เจ้าคุณนรฯร่วมปลุกเสกครับ)
    พระพิมพ์น้ำ(รุ่นเกาหลี..พิมพ์สองหน้า) สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(เจริญ) วัดเขาบางทราย จ.ชลบุรี จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2492 ซึ่งพระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร ได้กราบเรียนขอพระสมเด็จฯ สรงน้ำรุ่นนี้จากท่านสมเด็จโฆษาจารย์เจริญ เพื่อแจกแก่ทหารหาญที่จะเดินทางไปสู่สงครามเกาหลี โดยพิธีปลุกเสก ท่านเจ้าคุณนรฯ ก็ร่วมพิธีด้วย พระผงสมเด็จฯ พระรุ่นนี้เหมือนกันกับรุ่นสรงน้ำ เพียงแต่พระรุ่นนี้ไม่ได้ชุบน้ำมะเกลือ ผิวพระจึงขาวกว่ารุ่นสรงน้ำ พระรุ่นนี้ก็ปรากฏพุทธานุภาพโด่งดังขจรขจายไปทั่วเช่นกัน ส่วนเรื่องพุทธคุณไม่ต้องพูดถึงครับ เพราะศิษยานุศิษย์ท่านล้วนเป็นนายตำรวจ ทหาร ซะส่วนใหญ่ครับ
    เปิดให้บูชา 1999 บาท ค่าจัดส่ง 50. บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 105580.jpg
      105580.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.9 KB
      เปิดดู:
      26
    • 105579.jpg
      105579.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.5 KB
      เปิดดู:
      22
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2022
  19. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    795.พระปิดตาหลังยันต์น้ำเต้าออกวัดบ่อวิน ปี ๒๕๑๖
    พระปิดตา วัดบ่อวิน หลังยันต์น้ำเต้า เนื้อดำ (หลวงปู่โต๊ะ,หลวงปู่ทิมร่วมปลุกเสก) ปี 2516 พระชุดนี้ หลวงปู่ทิมได้มอบมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ให้คุณมาโนช เหล่าขวัญสถิตย์ เจ้าของร้านนาวาชายหาด ศิษย์ก้นกุฎิ นำไปผสมสร้างโดยเฉพาะ เมื่อคุณมาโนชไปขอของดีเพื่อนำมาผสมสร้างพระชุดนี้ หลวงปู่ได้มอบหมอนหนุนนอนที่ใช้หนุนมาตั้งแต่บวชใหม่ๆ และบอกว่า นี่แหละของดี เพราะหมอนมีความหมายถึงการหนุนดวง สำหรับคนดวงตก หมายถึงการค้ำดวง(จากคำบอกเล่า ของครูดุก พัทยา ผู้เคยบวชร่วมสมัยกับพระอาจารย์กิม ซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อตาของคุณมาโนช ผู้สร้างพระชุดนี้ครับ) พระชุดนี้ถูกจัดสร้างขึ้นในปี 2516 ที่วัดศรีมหาราช อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งคุณมาโนชนั้นได้นำไปให้เกจิต่างๆ ร่วมปลุกเสกอีกมากมายหลายวาระ และหลวงปู่ทิมยังมีเมตตาอย่างมาก ปลุกเสกเดี่ยวให้นานกว่า 9 เดือน 20วันอีกด้วย ถือว่าเป็นพระของหลวงปู่ที่มีประวัติการปลุกเสกชัดเจน

    มวลสารที่ใช้ในการจัดสร้าง เนื้อผงพุทธคุณต่างๆ ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม จีวร เกศาของหลวงปู่ทิม หมอนหนุนหัว ของหลวงปู่ทิม

    รายชื่อพระอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระชุดวัดบ่อวิน ( ต่างเวลาปลุกเสก )

    1.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี

    2.หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่

    3.หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก

    4.หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล

    5.พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม

    6.หลวงปู่ดูลย์ วัดบูรพาราม

    7.หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
    พระปิดตาหลังยันต์น้ำเต้าออกวัดบ่อวิน ปี ๒๕๑๖ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่เสก พิมพ์ใหญ่ หายากมาก พระชุดนี้ หลวงปู่ทิมได้มอบมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ให้คุณมาโนช เหล่าขวัญสถิตย์ เจ้าของร้านนาวาชายหาด ศิษย์ก้นกุฎิ นำไปผสมสร้างโดยเฉพาะ เมื่อคุณมาโนชไปขอของดีเพื่อนำมาผสมสร้างพระชุดนี้ หลวงปู่ได้มอบหมอนหนุนนอนที่ใช้หนุนมาตั้งแต่บวชใหม่ๆ และบอกว่า นี่แหละของดี เพราะหมอนมีความหมายถึงการหนุนดวง สำหรับคนดวงตก หมายถึงการค้ำดวง พระชุดนี้ถูกจัดสร้างขึ้นในปี ๒๕๑๖ ที่วัดศรีมหาราช อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งคุณมาโนชนั้นได้นำไปให้เกจิต่างๆ ร่วมปลุกเสกอีกมากมายหลายวาระ และหลวงปู่ทิมยังมีเมตตาอย่างมาก ปลุกเสกเดี่ยวให้นานกว่า ๙ เดือน ๒๐ วันอีกด้วย ถือว่าเป็นพระของหลวงปู่ที่มีประวัติการปลุกเสกชัดเจน มวลสารที่ใช้ในการจัดสร้าง เนื้อผงพุทธคุณต่างๆ, ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม, จีวร, เกศาของหลวงปู่ทิม, หมอนหนุนหัว ของหลวงปู่ทิม (หมอนที่ใช้หนุนมาตั้งแต่บวชใหม่ๆ และบอกว่า นี่แหละของดี เพราะหมอนมีความหมายถึงการหนุนดวง สำหรับคนดวงตก หมายถึงการค้ำดวง รายชื่อพระอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระชุดวัดบ่อวิน ( ต่างเวลาปลุกเสก ) หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม หลวงปู่ดูลย์ วัดบูรพาราม หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง พระเครื่องพิมพ์ต่างๆ นั้นแบบพิมพ์ถูกแกะมาอย่างมีเอกลักษณ์ บางพิมพ์ล้อมาจากพิมพ์พระเครื่องของเกจิดัง ๆ เช่นพิมพ์ปิดตาซุ้มตัน พิมพ์จะคล้าย ของหลวงปู่เฮี้ยง วัดป่า แต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ต้องสังเกตด้านหลังให้ดี เพราะด้านหลังขององค์พระพิมพ์อื่นๆ ก็จะมีความแตกต่างกันเช่น บางองค์มียันต์จม บางองค์มีปั้มตรายางยันต์ห้า และเขียนว่าปลุกเสกโดยหลวงปู่ทิม บางองค์ปั้มตัว “ก” ซึ่งหมายถึงอาจาร์ย กิม ที่มีศักดิ์เป็นหลานเขยหลวงปู่ทิม ผู้จัดสร้าง บางองค์มีเส้นเกศา บางองค์มีคราบกาวด้านหลัง บางองค์มีคราบกรุ อีกทั้งเนื้อหาก็หลากหลาย มีทั้งเนื้อผงขาว มีทั้งเนื้อผงผสมใบลาน เนื้อผงคลุกยางรัก แต่ทั้งนี้ พระชุดนี้ทุกพิมพ์ทรง จะมีมวลสารหลักที่หลวงปู่ทิมมอบให้มาผสมอยู่ด้วยทุกองค์ อีกหนึ่งของดีที่ สนน ราคา ยังเบาๆ ทันหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปลุกเสก หายากน่าเก็บน่าใช้อีกละคราฟ
    เปิดให้บูชา 2999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับองค์สวยสมบูรณ์หายากครับมีพระแถมเพิ่มให้ครับผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2022
  20. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +161
    796.รูปหล่อหลวงพ่อเงินพิมพ์ขี้ตา !! วัดทุ่งน้อยยุคแรก !!
    สวยสมบูรณ์..หลวงพ่อเงินวัดทุ่งน้อย สร้างยุคแรกปี 2505 สร้างวาระ 2 ปี 2537 พิธีใหญ่เกจิดังร่วมปลุกเสก ประวัติการสร้างจัดเจน อ.นงค์ นำชนวนโลหะเก่าของหลวงพ่อเงิน ตะกรุดหลวงพ่อพิธ และเนื้อระฆังเก่า ซึ่ง อ.นงค์ได้นำรูปหล่อหลวงพ่อเงินพิมพ์ขี้ตา 4 ชาย แห่งวัดบางคลานมาถอดพิมพ์ จากแหล่งข้อมูลของคนพื้นที่เช่าเก็บกันและเซียนภาคเหนือและภาคกลางเช่าหากันแบบเงียบๆ พระมีประสบการณ์สูง กระแสความนิยมมีมากขึ้น และเริ่มหายาก..กระแสโลหะจัดจ้าน..ผิวมันส์ๆ พุทธคุณเทียบเท่ารูปหล่อหลวงพ่อเงินวัดบางคลานหลักแสนหลักล้านได้สบายๆ ครับ
    วัดทุ่งน้อย ต.ทุ่งน้อย อ.โพทะเล จ.พิจิตร เป็นวัดอีกวัดหนึ่งที่หลวงพ่อเงินได้เข้ามาช่วยอุปถัมภ์สร้างถาวรวัตถุในอดีต และทางวัดได้ทำการหล่อหลอมรูปหล่อหลวงพ่อเงินกันแบบตามมีตามเกิดหลายอย่างขึ้นในวัดโดยให้หลวงพ่อเงินช่วยปรกปลุกเสกให้และนำออกจำหน่ายให้ชาวบ้านบูชาเพื่อนำเงินมาสร้างถาวรวัตถุในพุทธศาสนาของทางวัด

    พระอาจารย์จำนงค์ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันของวัดทุ่งน้อย ซึ่งในขณะนี้ท่านอายุกว่า 60 ปีแล้ว ในปี พ.ศ. 2539 ท่านได้สร้างรูปหล่อหลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตาขึ้นเป็นรุ่นแรกของท่าน โดยทำการถอดพิมพ์จากพระรูปหล่อหลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตา รุ่นทีหลวงพ่อเงิน บางคลานสร้างเอาไว้ ซึ่งเป็นองค์ของท่านที่มีอยู่ เนื่องจากท่านเป็นพระนักพัฒนา ท่านต้องการสร้างแจกเพื่อหาปัจจัยนำมาสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ของวัดทุ่งน้อยทีใช้เงินก่อสร้างถึง 15 ล้านบาท รูปหล่อหลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตารุ่นแรกของพระอาจารย์จำนงค์หล่อจากเนื้อจับเก่า คือมีทั้งชนวนมวลสารเก่า ทองเหลืองหัวลูกปืน ถาดทองเหลืองทีฝังกรุไว้ ระฆังเก่า และวัสดุอีกหลายอย่างที่ท่านหามาได้มาหลอมรวมกัน ออกให้บูชาพร้อมกรอบสแตนเลสและสร้อยกะลาตาเดียว

    หลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตา อาจารย์จำนงค์ วัดทุ่งน้อย รุ่นแรกของท่านนั้น พระอาจารย์จำนงค์ท่านตั้งใจมากท่านปลุกเสกเดี่ยวหลายครั้งมาก เมื่อมีงานปลุกเสกวัตถุมงคลที่ใดๆหรืองานปิดทองฝังลูกนิมิตรวัดไหนๆในจ.พิจิตรหรือจ.ใกล้เคียง ท่านจะนำพระหลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตา ของท่านไปร่วมปลุกเสกด้วยเสมอ นอกจากนี้ท่านได้นำไปให้หลวงพ่อพิมพา และหลวงพ่อสมควรปลุกเสกเดี่ยวให้อีกด้วย ดังนั้นหลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตา รุ่นแรกของท่านจึงมีประสบการณ์มากมาย

    เปิดให้บูชา 1499 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 105736.jpg
      105736.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.1 KB
      เปิดดู:
      18
    • 105737.jpg
      105737.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.8 KB
      เปิดดู:
      22
    • 105735.jpg
      105735.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.4 KB
      เปิดดู:
      22
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2022

แชร์หน้านี้

Loading...