หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

สาธุ อนุโมทนา... ครับพี่ไพบูรณ์ ร่วมด้วยช่วยสร้างกุศลผลบุญ กับสุขาทาน ถวายพระครูบาอาจารย์ ณ วัดเขาถ้ำโบสถ์ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

ต่อไปสถานธรรมวัดเขาถ้ำโบสถ์แห่งนี้ จะมีผู้คนมากราบทำบุญและมาพักอยู่ปฏิบัติภาวนา..
ท่านพระอาจารย์สมเดช ดวงประทีปแห่งเมืองจันท ท่านเป็นพระที่ครูบาอาจารย์หลายท่านรับรองในคุณธรรมอันสูงส่ง ต่อไปบารมีธรรมย่อมจะหอมอบอวลไปทั่วหล้า เพราะด้วยความที่ท่านเป็นกำลังให้กับพระศาสนา ทายาทธรรมแห่งองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโณ..

ขอเรียนเชิญทุกท่านนะครับ โอกาสมาถึงแล้ว...!!! สร้างห้องสุขา ที่ปลดทุกข์ ฝากไว้ในพระศาสนา หาโอกาสสร้างมิได้ง่ายๆเลยนะครับ สร้างอย่างแข็งแรงเป็นมาตรฐาน ใช้ได้นานตราบลูกถึงหลาน...





.

 

เมื่อหลายปีก่อน หลวงปู่พิศดู ท่านเคยเล่าให้ฟังครับว่า ท่านพระอาจารย์สมเดช ก็เคยมาพักปฏิบัติกับองค์หลวงปู่ที่วัดเทพธารทอง พระอาจารย์เป็นคนเอาจริงเอาจังเรื่องธรรมปฏิบัติมาก ท่านมาพำนักอยู่ที่วัดเทพธารทองประมาณ 2 ปี จากนั้นได้ขึ้นไปอยู่กับองค์หลวงตาพระมหาบัว ที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรฯ จนได้ธรรมสมบัติ แล้วจึงมาอยู่ที่วัดเขาถ้ำโบสถ์ เพื่อเป็นกำลังเผยแพร่ อบรมธรรม ให้กับศาสนิกชนทั้งหลาย..
ถึงขนาดองค์หลวงปู่พิศดูท่านยังกล่าวรับรองอย่างชัดเจน ในคุณธรรมของท่านพระอาจารย์สมเดช และสั่งให้ไปกราบทำบุญด้วย เมื่อพ่อแม่ครูอาจารย์รับรองถึงเพียงนี้แล้ว มีหรือที่เราจะนิ่งเฉย..
ขณะนี้บารมีธรรมของท่านพระอาจารย์ได้ขจรขจายไปทั่วทุกแห่งหนในสามแดน ด้วยความศรัทธาของพุทธบริษัททั้งหลาย ในข้อวัตรปฏิปทาอันงดงามขององค์ท่าน และธรรมะของท่าน ที่พรั่งพรูออกมาอย่างชนิดที่ว่าสามารถปะทะกิเลสในใจของเรา ให้เราสามารถรู้สึกตระหนัก รับรู้ได้เป็นอย่างดี..
นี่แหละเนื้อนาบุญของโลกที่ยังคงอยู่ เพื่อให้เราได้เพาะพันธุ์บุญ และเก็บเกี่ยวซึ่งผลแห่งความดีอันงดงาม เพื่อความสุขอันเกษม..





.

 

สวัสดีท่านเจ้าของกระทู้ และท่านสมาชิก ทุกท่านครับ... _/\_

 

กราบหลวงปู่พิศดู ​

หวัดดีท่านเจ้าของกระทู้และสมาชิกทุกท่านครับ

 

สาธุ สาธุ สาธุ ขอบคุณนะครับที่ได้แนะนำให้รู้จักพระดีที่เป็นเนื้อนาบุญของโลกให้ผมได้รู้จัก ถ้ามีโอกาสจะขอร่วมทำบุญกับท่านครับ

 

กราบหลวงปู่พิศดู หลวงปู่ฟัก และพระอาจารย์สมเดช ครับ

ผมเองได้มีโอกาสอันดี ทำบุญใส่บาตรพระอาจารย์สมเดช และได้รับฟังพระธรรมเทศนา ซึ่งล้วนเป็นพระธรรมเทศนาอันแท้จริงจากองค์พระบรมศาสดา พระอาจารย์มีเมตตามาก องค์ท่านมักจะเอื้อเฟื้อแบ่งปันสิ่งของให้อยู่บ่อยๆ ครั้งหนึ่งสมัยหลวงปู่ฟักยังดำรงธาตุขันธ์ ก็เคยกล่าวเอาไว้ว่า "วัดใกล้ๆแถวนี้ (ท่าใหม่) ก็มีวัดเขาถ้ำโบสถ์ ท่านสมเดช ท่านปฏิบัติดี ไปทำกันได้นะ สายเดียวกัน"

สมาชิกท่านใดที่มีความสนใจเรื่องการปฏิบัติสมาธิ ก็ขอเชิญชวนมาที่วัดนะครับ วัดนี้สงบร่มรื่น เป็นป่าเขา สัปปายะเหมาะกับการฝึกความเพียรทางจิตมากครับ

 

Already transferred 8,666 Baht to Khun Paiboon's account at 18:06 on 7/9/2011 to help build toilets at Wat Khaothumboat.

Sathu with Khun Sombat, Khun Paiboon and Khun ทุเรียนทอด .

 

กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีครับพี่ทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่าน

 

อนุโมทนาบุญด้วยครับ เดี๋ยวของผมจัดส่งให้พรุ่งนี้ทั้งหมดเลยครับ

 

ขออนุโมทนากับทุกท่านครับ ที่ได้ร่วมบุญในการสร้างห้องน้ำวัดถ้ำโบสถ์ เช้าวันเสาร์ไปทำบุญหรือหากมีโอกาสก่อนก็จะเข้าไปกราบถวายพระอาจารย์ให้นะครับ สาธุกับทุกท่านนะครับ

 

สวัสดี ทุกท่านครับ

สาธุด้วยครับ พระดีที่องค์หลวงปู่เมตตาแนะนำ เราไม่มีสงสัยอยู่แล้วครับ ครูบาอาจารย์ท่านจะส่งให้กันครับ สาธุ

 

ใช่ที่สุดเลยครับคุณ ปัทมินทร์ ที่กล่าวมาเป็น พระเก่า พระแท้ พระจริง หาได้ยากด้วยครับ พระที่กล่าวนี้คือพระอริยะสงฆ์ ผู้เป็นดุจดวงประทีปแสงสว่างนำทางชีวิต ให้ถึงจุดหมายได้อย่างถูกทาง..


"พระอรหันต์ทั้งหลายอยู่ในที่ใด คือบ้านก็ตาม ป่าก็ตาม ที่ลุ่มก็ตาม ที่ดอนก็ตาม ที่นั้นย่อมเป็นภูมิน่ารื่นรมย์"

ใจของท่านผู้ไกลกิเลสแล้วสิ้นเชิง ไม่มีความโลภความโกรธความหลงในใจท่านทั้งหลายนั้น คือใจของพระอรหันต์พุทธสาวก ใจ
ของท่านไม่เป็นพิษไม่เป็นภัยแก่องค์ท่านเอง และไม่เป็นพิษไม่เป็นภัยแก่ผู้ใดทั้งสิ้น กล่าวได้ไม่ผิดว่านี่คือความไม่ก่อทุกข์ก่อร้อน
แก่ผู้ใดทั้งสิ้น ใจของท่านเป็นคุณเป็นประโยชน์แก่องค์ท่านเอง และเป็นคุณเป็นประโยชน์แก่คนทั้งปวง ให้ความเย็นแก่องค์ท่านเอง
ให้ความรื่นรมย์แก่องค์ท่านเอง และให้ความเย็นให้ความรื่นรมย์แก่ทุกชีวิตแก่คนทั้งหลายที่มีโอกาสได้เข้าใกล้ท่าน ได้สัมผัสความ
รื่นรมย์จากใจท่าน ที่ปราศจากพิษภัยแม้เล็กน้อยเพียงใดของความโลภความโกรธและความหลง

พระอรหันต์ (คัดลอกบางส่วนจาก "แสงส่องใจ")
โดยสมเด็จพระสังฆราชฯ​

 

อนุโมทนาด้วยครับ ท่าน supachaipnu

 

อนุโมทนาด้วยครับพี่ไพบูรณ์

 

ชักยันต์กลางอากาศ

เรื่องวิชา ว่าด้วยเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์นั้น มีมากมายหลายอย่าง แต่มีอยู่วิชาหนึ่งที่พบน้อยท่านที่ทำได้แบบนี้ เท่าที่ผมเห็นมา(ย้ำ..ที่ผมเคยเห็นมา) ครูบาอาจารย์ที่ทำวิชา " ชักยันต์กลางอากาศ " ได้นั้นเห็นจะมี องค์หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน และอีกรูปหนึ่งคือ องค์หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง เท่านั้น ส่วนองค์อื่นยังไม่เคยเห็น(แต่ก็อาจมีอยู่แต่ท่านไม่แสดง) วิชานี้หลวงปู่หมุนเคยกล่าวไว้ให้ทราบ เนื่องจากมีผู้รบเร้าถามท่านเพื่ออยากทราบว่าที่หลวงปู่ทำนั้นคือวิชาอะไร จนท่านต้องบอกว่า " เอ็งจะไปรู้อะไร ก็วิชานี้มันสูง..."
แต่มีผู้รู้บางท่านเคยศึกษามาถึงวิชาเหล่านี้ ว่าแท้จริงคือวิชาอะไร และทราบมาว่า.. เป็นวิชาชั้นสูงจริงๆ คล้ายๆวิชาปัดตลอด ผู้ทำได้สำเร็จนั้นต้องคล่องในเรื่องอภิญญาสมาบัติ และต้องเป็นระดับพระอริยะเจ้าชั้นสูงเท่านั้น เพราะการชักยันต์แบบนี้คณาจารย์ผู้ทำต้องตั้งจิตไว้ที่รูปฌานชั้นละเอียดสูงสุด แต่ถ้าท่านใดคล่องเป็นวสี(ความชำนาญแคล่วคล่องในฌาน ตามแต่ใจปราถนา) สามารถกระทำได้ทันทีในทุกขณะ พร้อมกับวาด(ชัก)องค์ยันต์ขึ้นบนอากาศ ด้วยกำลังแห่งฤทธิสมาบัติ ก็จะเห็น(ด้วยทิพจักษุ)ปรากฏเป็นภาพยันต์นั้นๆ เป็นดุจแก้วประกายพฤกษ์ระยิบระยับมีรัศมีสว่างๆออกมา พร้อมกันนั้นในจิตของท่านก็จะใสสว่างเป็นประกายเพชรด้วย จากนั้นก็สามารถเป่าครอบไปในอากาศได้กว้างไกลสุดประมาณตามแต่จิตอธิษฐาน..

ผมเองเคยเห็นองค์หลวงปู่พิศดูท่านกระทำอาการอย่างนี้หลายครั้ง ลูกศิษย์รุ่นก่อนๆก็เคยเห็นกันอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเวลาเสกวัตถุมงคลหรืออธิษฐานของต่างๆ หรือแม้แต่เวลาคนเอารถมาให้ท่านเจิม หรือเวลามีคณะผู้แสวงบุญมาหามาก บางครั้งท่านจะทำอาการชักยันต์นั้นแล้วก็เป่าไปในอากาศ แล้วก็บอกว่า.. " ทำให้แล้ว แผ่กระจายไปในอากาศ ทั่วถึงทั้งหมดแล้ว "

มีอยู่เรื่องหนึ่งเรื่องนี้สมควรบันทึกไว้ เกิดขึ้นกันทหารหาญรั้วของชาติ ในปีหนึ่ง ปีนั้นคณะหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ค่ายตากสินประมาณ 100 นาย ต้องลงประจำการ ตรึงกำลังรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนไปนายทหารท่านหนึ่งได้พาคณะกองร้อยนี้ไปกราบขอพรองค์หลวงปู่พิศดู ที่วัดเทพธารทองเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พอมาถึงองค์หลวงปู่ได้นั่งรออยู่ที่เตียงไม้บนกุฏิ พอนายทหารท่านนั้นได้ขึ้นกราบเรียนถึงเจตนาหน้าที่ ของทหารเหล่านั้นแล้ว องค์หลวงปู่ได้เมตตาอนุญาติให้พาทหารทุกนายขึ้นมาบนกุฏิของท่านได้ พอมาถึงทุกคนกราบทำความเคารพองค์หลวงปู่ ท่านก็เมตตาสั่งสอน และให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติอย่างเต็มความสามารถ เพื่อประโยชน์สุขของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน และจงตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท ให้หมั่นทำความดีและมีความกตัญญู...ฯลฯ จากนั้นนายทหารท่านนั้นก็ขออาราธนาบารมีองค์หลวงปู่คุ้มครองปกปักรักษาทหารทุกนายให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลาย องค์หลวงปู่ท่านจึงสวดมนต์ แล้วกระทำอาการชักยันต์กลางอากาศ เป่ายันต์ครอบไปทั่วทั้งหมดทุกคนที่มาในวันนั้น และได้มอบวัตถุมงคลของท่านเป็นที่ระลึกให้แก่ทหารหาญเหล่านั้น และอวยพรให้อยู่รอดปลอดภัยทุกคน..
เมื่อทหารทุกนายได้ลงพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวแล้ว ต่างไปพบเจอประสบการณ์ต่างๆมากมาย มีทุกรูปแบบ ทั้งปืน ระเบิด และอาวุธทุกชนิด ทหารบางนายโดยระเบิดอย่างจังกระเด็นไปหลายเมตร ทหารแพทได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยชีวิต แต่พอถึงห้องฉุกเฉิน ตรวจสอบแล้วไม่พบบาดแผลใดๆ อาการที่เกิดขึ้นเพียงแค่เจ็บปวดและชาตามเนื้อตัวเท่านั้น และยังมีอีกหลายประสบการณ์มากๆ ที่เกิดขึ้น.. พอครบกำหนดส่งตัวกลับ ปรากฏว่า ทหารของเราทุกนายได้กลับมาอย่างปลอดภัยไม่มีใครได้รับอันตราย แม้แต่เสียอวัยวะส่วนใดๆเลย.... จึงทำให้เหล่าทหารค่ายตากสินทุกนาย รวมถึงผู้บังคับบัญชา ต่างพากันศรัทธาในองค์หลวงปู่พิศดูเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าทางวัดจะทำงานใดๆ ก็มักจะมาช่วยเป็นกำลังสำคัญเสมอๆ....
รวมถึงประชาชนชาวใต้หลายคน เมื่อได้พบเห็นเหตุการอันน่าทึ่งจากประสบการณ์วัตถุมงคลของเหล่าทหาร จ.จันทบุรี ใส่แล้ว ทำให้ชื่อเสียงขององค์หลวงปู่พิศดู ได้ปรากฏในทำเนียบของ วัตถุมงคลมากประสบการณ์ เพราะด้วยความแคล้วคลาดอย่างสูง และเรื่องเมตตาต่างๆ จึงไม่น่าแปลกที่มีใบสั่งจากภาคใต้ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง.. วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นที่แสวงหาในทุกพื้นที่โดยทั่วไปอย่างมากมาย ด้วยความศรัทธาล้วนๆครับ



เกร็ดความรู้..

แคล่วคล่องในฌาน ๕ ประการ วสี ๕ คือ...​

๑. อาวัชชนวสี ความชำนาญในการนึกถึงปฐมฌานได้ ณ สถานที่และ

ขณะตามที่ปรารถนา

๒. สมาปัชชนวสี ความชำนาญในการเข้าฌาน คือ ให้ฌานจิตเกิดได้

ณ สถานที่และขณะตามที่ปรารถนา

๓. อธิษฐานวสี ความชำนาญในการให้ฌานจิตเกิดดับสืบต่อนานมาก

น้อย ณ สถานที่และขณะตามที่ปรารถนา

๔. วุฎฐานวสี ความชำนาญในการออกจากฌานได้ ณ สถานที่และขณะ

ตามที่ปรารถนา

๕. ปัจจเวกขณวสี ความชำนาญในการนึกถึงองค์ฌานแต่ละองค์ได้ ณ

สถานที่และขณะตามที่ปรารถนา​

ที่มา:: วสี ๕






.

 

กราบหลวงปู่พิศดู พระอาจารย์สมเดช และสวัสดียามเช้ากับสมาชิกทุกท่านครับ วันคืนกำลังล่วงไปๆ ทุกขณะ พระโอวาทสุดท้ายของพระพุทธองค์ตรัสบอกพวกเราทั้งหลายว่าอย่าประมาทครับ วันนี้มีรูปวัตถุมงคลที่ผมได้มา 1 องค์ครับ ผมยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนหลวงปู่ครับ

 

หวัดดีท่านเจ้าบ้านและสมาชิกทุกท่านครับ

 

กราบหลวงปู่พิสดู สวัสดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ

 

กราบหลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี ที่เคารพอย่างสูงยิ่ง
สวัสดีสมาชิกทุกท่าน​

ศีลห้าและพุทธะ
หลวงพ่อคำบ่อ ฐิตปัญโญ
ณ ศาลากาญจนาภิเษก กรุงเทพฯ
๑๔ พฤษภาคม ๒๕๔๓

โพสท์ในลานธรรมเสวนาโดยคุณ : deedi [ 15 พ.ค. 2543]


ให้ถือเสียว่าวันนี้เป็นวันวิสาขบูชา ตั้งใจใฝ่หาทำความดี ให้ทานรักษาศีล ตั้งใจเจริญเมตตาภาวนา

พระศาสดาทรงเข้มงวดกวดขันในวันที่ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ทรงยอมเสียสละแม้แต่ชีวิต ตั้งพระทัยที่จะนั่ง (บำเพ็ญเพียร)อยู่ที่ต้นโพธิ์ จนกว่าจะได้ตรัสรู้ มิฉะนั้นจะไม่ทรงลุกอย่างเด็ดขาด

ดังนั้น ขอให้พวกเราตั้งใจกันให้ได้สักขั้น อย่างต่ำๆ ก็ให้ได้ ศีลห้าทำให้สำเร็จ ศีลห้า ไม่เป็นของยากและไม่เป็นของง่าย พระพุทธองค์ทรงเห็นจริง รู้ควรไม่ควร จึงทรงมอบศีลห้าไว้ให้ ถ้าหากรักษาได้ก็จะนำความสุขความสบายมาให้

ศีล เป็นของเลิศ ของประเสริฐ การที่เราอยู่รวมกันได้ก็เพราะมีเมตตา มีธรรมต่อกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน มีเมตตา กรุณา สงสารซึ่งกันและกัน ว่า เกิดมาในโลกแตกต่างกันหลายอย่าง ทรัพย์รูปพรรณสัณฐาน ความดี ก็ไม่เหมือนกัน

ท่านจึงให้ทำความดีให้ได้ "ความดี" ก็คือ ศีล นั่นเอง ใครทำได้ก็จะปิดอบายภูมิได้ ไม่ต้องลงอบายภูมิ คือ สัตว์นรก เปรต อสุรกายสัตว์เดรัจฉาน ดังนั้น พยายามรักษาศีลให้ได้ ตั้งใจให้เป็นอริยกันตศีลตั้งใจไม่ฆ่า ไม่คิดทำลายสิ่งที่มีชีวิต ไม่ลักทรัพย์ ฯลฯ

ศีลห้า ถ้าใครทำได้ เรียกว่า "ดับเวร ๕ อย่าง" ได้ คือ ดับทุกข์ ๕อย่าง เวรก็จะไม่เกิด ภัยอันตรายก็จะไม่เกิด "เวรมณี" คือ เว้นจากความชั่วได้ เป็นผู้พ้น เป็นผู้ละได้ ผ่านได้ ผ่าน ๕ ข้อนี้ได้ ก็ผ่านนรกเปรต อสุรกายและสัตว์เดรัจฉาน (อบายภูมิ ๔) ได้เด็ดขาด

ขอให้ระลึกถึงพระมหากรุณาคุณ พระเมตตาคุณ พระปัญญาคุณ อันบริบูรณ์อยู่ในสันดานของพระพุทธเจ้า เพื่ออบรมบ่มนิสัยให้เราพ้นจากทุกข์เดือดร้อน

คุณความดีของพระพุทธเจ้าต่อเรานั้นมากมายเหลือพรรณนาเรามาทำความดีอันนี้เพื่อบูชาความดีของพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ ขณะนี้เราเอาพระพุทธองค์เป็นที่พึ่ง คือ เอาความรู้ว่าบาป - บุญ - นรก - สวรรค์ - นิพพาน มีจริงๆ เราจึงมาประกอบคุณงามความดีเช่นในวันนี้

"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต"ธรรม ก็คือ กายกับใจ นั่นเอง กายนี้ยังฆ่าสัตว์ไหม ลักทรัพย์ไหมให้รู้ไปทุกข้อ เรียกว่า "พุทธะ" สิ่งใดไม่ดีก็เลิกเสียจริงๆ ไม่ฆ่าสัตว์ไม่ลักทรัพย์ ฯลฯ

คนเมา เมาโลภ เมาโกรธ เมาหลง เมาสุรา ถ้าเมาแล้ว ทำอะไรก็ได้ ไม่รู้ชั่วดี - เสื่อมเจริญ - ทุกข์สุข อยู่ในความมืด เมื่อตกอยู่ในความมืด ก็ไม่สามารถรู้เห็นความดีได้ จะเอาอะไรมารู้ อำนาจของศีลทำให้อยู่ในความดี ขอให้ประพฤติปฏิบัติไปจนกว่าจะประสบความสำเร็จ

"ทำอย่างไรจะปฏิบัติศีลห้าให้ได้ในชาตินี้"นี่เรียกว่า พุทธะ พยายามสร้างความดีและปัญญาให้เกิดกับตัวเอง

กายและใจก็คือธรรม กายและใจนั้น ยังไม่ดี ยังไม่ชั่ว ต่อเมื่อเราทำอะไรออกมา จึงเกิดบุญบาป ทำดีก็บุญ ทำชั่วก็บาป ถ้าไม่มีกายกับใจ ก็ไม่สามารถทำบุญหรือบาปได้ ดังนั้น เมื่อมีกายกับใจแล้ว ก็ต้องพยายามสร้างสม กระทำความดี ก็เรียกว่าเป็น "พุทธบริษัท" (คือ ผู้กระทำความดี)

การทำความดีก็ไม่ง่าย เพราะ โลภ โกรธ หลง ปิดบังปัญญาเอาไว้ ทิฏฐิ มานะ ปิดบังปัญญาไว้ ไม่ให้ทำความดีง่ายๆ จะให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ก็ไม่ได้ ท่านเรียกว่า "มาร"(คือ เครื่องกางกั้น) ไม่ให้ถึงซึ่งความดีให้ได้

"วิริเยน ทุกขมัจเจติ" ล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร มุ่งมั่นพากเพียร ญาติโยมที่ล่วงลับไป หากเป็นเทวดา ท่านก็จะอนุโมทนาสาธุการ ให้พรกับพวกเรา เทวดาให้พรอยู่นะ คนที่ทำคุณงามความดี ทุกคนก็รู้ว่าเกิดแก่เจ็บแล้วก็ตายเหมือนกันดังนั้น อย่าท้อแท้ในการทำความดี แม้แต่พระพุทธองค์ ก็ยังต้องแก่ เจ็บและตาย ได้ทรงพยายามสร้างสมอบรมบ่มนิสัยเพื่อตรัสรู้ในวันวิสาขบูชานี้

ทำความดีบูชาตัวเองนั่นแหละ - พุทธะ ก็คือตัวเอง เมื่อทำความดีแล้ว ก็แผ่ไปยังพ่อแม่ สรรพสิ่งสรรพสัตว์ทั้งหลายในวัฏฏสงสาร ไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ

สรรพสัตว์ล้วนปรารถนาความดี ความสุข กันทั้งนั้น ไม่มีใครปรารถนาความไม่ดี ความทุกข์ ถ้าหากไม่ทำความดีสิ่งที่ปรารถนาก็จะไม่ได้ ท่านจึงให้พากันทำความดี ปฏิบัติ นั่งสมาธิภาวนา ฟังธรรมะเพื่อให้รู้และเข้าใจในอรรถในธรรมอย่างแท้จริง

คนมีธรรมะ เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน เราก็สุข เขาก็สุข ตัวเองก็ไม่เบียดเบียนตัวเอง การเบียดเบียนตัวเอง ก็คือการทำความชั่ว "กัมมุนา วัตติโลโก" สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมใครทำอะไรก็ได้อันนั้น ทำชั่วก็ได้ชั่ว ลองรักษาศีลห้าดูสิ ท่านจึงบอกว่า "สีเลนะ สุคติง ยัญติ" "สีเลนะ โภคะ สัมปทา"มีทรัพย์ก็เพราะมีศีล ทรัพย์สมบัติถ้าใช้เป็นก็มีค่ามหาศาลถ้าใช้ไม่เป็น เอาไปซื้อยาม้า ก็เสร็จเลย...สิ่งไม่ดีไม่มีใครปรารถนาฉะนั้น ถ้ามีพุทธะ ธัมมะ สังฆะ ก็จะเป็นผู้ปฏิบัติดี ... กายวาจา ใจ ดี เห็นชอบตามทำนองคลองธรรม นี่เองคือ สุปฏิปันโนคือ ผู้ปฏิบัติดีแล้วทางกาย วาจา ใจ

ดังนั้น เราขอเอา พุทธ ธรรม สงฆ์ เป็นที่พึ่ง ขอแล้วก็ต้องทำด้วยถ้าเราไม่ปฏิบัติ พระสงฆ์ พระพุทธเจ้า ก็เกิดไม่ได้ในเรา พุทธะ ธัมมะ สังฆะ อยู่ที่เราเอง ไม่ใช่พระพุทธรูป แต่อยู่ในตัวเราเอง ความดีอยู่ที่ใจเราเอง มีความอ่อนน้อม ระลึกคุณความดีของผู้มีพระคุณเช่นพระพุทธเจ้า (ขณะกราบท่าน)ทำกายให้ดี พูดทางวาจาให้ดี ทำใจให้ดี ก็จะนำมาซึ่งการปฏิบัติบูชา (ปฏิปัตติปูชา) ถวายพระพุทธเจ้า พระธรรมพระสงฆ์


<O</O

 

กราบหลวงปู่ครับ ธรรมใดที่องค์หลวงปู่ท่าน เป็นธรรมแท้ ขอเพียงเราเดินตามทางที่ท่านสอนย่อมพบความเจริญทั้งทางโลก และทางธรรมครับ