หลวงพ่อสำเร็จศักดิสิทธิ์ /เห็นภพชาติในถ้ำทอง

ในห้อง 'ประวัติและนิทานธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 12 สิงหาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ

    พระอริยสงฆ์แห่งบ้านหนองแซง อุดรธานี

    จาก หนังสือที่ระลึกงานฉลองเจดีย์พิพิธภัณฑ์สองหลวงปู่
    วัดป่าสามัคคีธรรม อำเภอเมือง ร้อยเอ็ด

    รศ.ดร.ปฐม - ภัทรา นิคมานนท์ เรียบเรียง

    rosebar-2.gif



    หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ

    พระอริยสงฆ์แห่งบ้านหนองแซง อุดรธานี

    lp-bua-pic-03-02.jpg

    หลวงปู่เพ็ง พุทฺธธมฺโม

    หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ เป็นบิดาบังเกิดเกล้าของหลวงปู่เพ็ง พุทฺธธมฺโม

    หลวงปู่เพ็งเคยบอกว่า ถ้าจะทำหนังสือที่ระลึกในงานศพของท่าน ขอให้นำเรื่องราวของ “หลวงปู่อาตมา” มาเขียนไว้ข้างหน้า พร้อมกับสำทับว่า “อย่าลืมเด้อ”

    เมื่อหลวงปู่เพ็งจะพูดถึงหลวงปู่บัว ท่านจะแทนด้วยคำว่า “หลวงปู่ของอาตมา” หรือ “หลวงปู่อาตมา” ผู้ที่ไม่คุ้นเคยจึงออกจะสับสนไปบ้าง

    หลวงปู่ทั้งสององค์นี้ นอกจากมีสายใยเชื่อมโยงทางโลกในฐานะพ่อ - ลูกกันแล้ว ยังมีส่วนอุปถัมภ์ค้ำชูในทางธรรมซึ่งกันและกันเป็นอย่างมาก

    กล่าวคือ ท่านหลวงปู่บัว ผู้พ่อ ได้ขอให้หลวงปู่เพ็ง ผู้ลูกบวชเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนาและออกบำเพ็ญเพียรเป็นพระธุดงค์กรรมฐาน

    เมื่อหลวงปู่เพ็งออกบวชได้บำเพ็ญภาวนาจนได้สัมผัสความสุขสงบในรสพระธรรมแล้ว ก็ได้พยายามโน้มน้าวใจบิดาของท่านให้ละเลิกจากทางไสยศาสตร์ การเป็นหมอปราบผีสาง มาดำเนินตามรอยบาทพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นทางสุขสงบอย่างแท้จริง นับเป็นความปรารถนาสูงสุดที่หลวงปู่เพ็งต้องการตอบแทนคุณบิดา - มารดาของท่าน

    หลวงปู่เพ็ง ได้ใช้ความพยายามอย่างมาก จนบิดาของท่านยอมละวางชีวิตฆราวาส หันมาห่มผ้ากาสาวพัสตร์ เมื่ออายุเข้าวัย ๕๐ แล้ว และได้ปฏิบัติอย่างเอาจริงเอาจังชนิดมอบกายถวายชีวิตจนได้พบคุณธรรมสูงสุดในทางพระพุทธศาสนา เป็นพระอริยสงฆ์อย่างแท้จริง

    ประจักษ์พยานในทางวัตถุจะเห็นได้จากอัฐิของหลวงปู่ได้กลายเป็นพระธาตุที่สุกใสงดงาม ไว้ให้สานุศิษย์ได้กราบไหว้บูชา ประดิษฐานอยู่ในเจดีย์ของท่าน ที่วัดราษฎร์สงเคราะห์ (วัดป่าบ้านหนองแซง) อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ในปัจจุบัน

    ท่านหลวงปู่บัว ได้ปฏิบัติธรรมอยู่กับหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต สุดยอดพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานในยุคปัจจุบัน

    ทางฝ่ายหลวงปู่เพ็ง พระลูกชาย ต้องพบวิบากสึกหาลาเพศไปเป็นฆราวาสมีเหย้าเรือนอยู่หลายปี จนมีบุตร - ธิดา ถึง ๕ คน เมื่อพ้นวิบากแล้ว ท่านได้กลับมาบวชอีกเป็นครั้งที่สอง เมื่ออายุ ๕๒ ปี

    การบวชครั้งที่สองของหลวงปู่เพ็ง ก็ได้หลวงปู่บัว คอยช่วยชี้แนะ เจียรนัย จนหลวงปู่เพ็งของเราเป็น “เพชรเม็ดงาม” ประดับในวงการพระพุทธศาสนาได้อย่างน่าภาคภูมิใจ

    แม้ผู้เขียน (รศ.ดร.ปฐม นิคมานนท์) ไม่มีโอกาสได้กราบหลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ โดยตรง เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็เคารพ - เลื่อมใสศรัทธาในปฏิปทาของท่านอย่างสุดชีวิตจิตใจ ไม่มีข้อเคลือบแคลงสงสัยใดๆ ในองค์ท่าน

    สำหรับหลวงปู่เพ็ง พุทฺธธมฺโม นั้น ครอบครัวของผมมีโอกาสอุปัฏฐากใกล้ชิดท่านติดต่อกันนานกว่า ๑๐ ปี หลวงปู่ได้เมตตามาพำนักที่บ้านเป็นประจำ เปิดโอกาสให้เพื่อนบ้านและผู้สนใจได้มาร่วมสวดมนต์ทำวัตร ปฏิบัติภาวนา ตลอดเวลา

    พวกเราได้ถวายให้ห้องหนึ่งให้เป็นที่พักสำหรับพระสงฆ์สายปฏิบัติ ได้รับเมตตาจากหลวงปู่ - หลวงพ่อหลายองค์ที่ได้แวะเวียนไปโปรดบ่อยๆ จนบ้านเรากลายเป็น “สำนักปฏิบัติธรรม” ไปโดยอัตโนมัติ จนหลวงปู่เพ็ง บอกว่า “ที่นี่เป็นกุฏิของอาตมา”

    โดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนรัก - เคารพ - ศรัทธา ต่อหลวงปู่เพ็ง พุทฺธธมฺโม อย่างสุดชีวิตจิตใจ

    ท่านเป็น “พระดีประจำใจ” อีกองค์หนึ่งที่กราบไหว้ได้โดยไม่ขัดเขินและไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอ

    ผู้เขียนเคยกราบเรียนถามหลวงปู่เพ็ง ว่า “การดูพระสงฆ์นั้น ดูอย่างไรจึงจะบอกได้ว่าเป็นพระดี พระแท้ อย่างแน่นอน ? “

    หลวงปู่ ท่านตอบโดยสรุปุว่า “เราต้องมีเครื่องมือดู เครื่องมือที่ดีก็คือ ต้องทำตัวเราให้เป็นพระด้วย จึงจะแยกพระดีพระเก๊ได้ถูกต้องแน่นอน”

    และท่านบอกต่อไปว่า “จิตของผู้ปฏิบัติภาวนาดีจะมีความละเอียดอ่อน รับสัมผัสคุณธรรมระดับต่างๆ ได้ อย่างแม่นยำ”



    ชาติกำเนิด - ชีวิตวัยเยาว์

    หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ เป็นชาวจังหวัดร้อยเอ็ดโดยกำเนิด

    สมัยเป็นฆราวาสท่านชื่อ บัว น้อยก้อม เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๑ ที่บ้านเขืองใหญ่ ตำบลหมูม่น อำเภอธวัชบุรี (โป่งลิง) จังหวัดร้อยเอ็ด

    ปัจจุบันบ้านเกิดของท่านอยู่ในพื้นที่อำเภอจังหาร ส่วนนามสกุล “น้อยก้อม” เป็นชื่อของคุณปู่กับคุณย่ารวมกัน เป็นการตั้งนามสกุลวิธีหนึ่งของคนสมัยนั้น

    บิดาของท่านชื่อ นายลาด และมารดาของท่านชื่อ นางดา น้อยก้อม

    หลวงปู่มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๙ คน คือ

    ๑. นายแก้ว ๒. นางหลอม ๓. นายเหลา

    ๔. หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ ๕. นายกลม ๖. นางอ้วน

    ๗. นางบุญสุข ๘. นางมุก และ ๙. นางแสน

    ในสมัยที่หลวงปู่เป็นเด็กยังไม่มีโรงเรียน หลวงปู่จึงไม่รู้หนังสืออ่านไม่ออก - เขียนไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพในสมัยนั้น และไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ธรรมด้วยการปฏิบัติภาวนา

    เมื่อเจริญวัย หลวงปู่ได้ช่วยบิดา - มารดา ทำงานในไร่นาได้แก่การเก็บเกี่ยว ดำ ไถ หว่านข้าว ไปตามประสาของเด็กลูกชาวนาในถิ่นห่างไกลความเจริญทั้งหลาย

    บุคลิกโดยทั่วไป หลวงปู่บัวเป็นเด็กฉลาด ขยัน และมีความจริงจังมาตั้งแต่เด็ก



    อาชีพช่างไม้และหมอผี

    ความเฉลียวฉลาดและเอาจริงเอาจังของหลวงปู่บัว เริ่มฉายแววเด่นชัดเมื่อท่านเป็นหนุ่มเริ่มแตกพาน อายุ ๑๕ ปี

    นอกจากการทำนา ไถนา แล้ว หลวงปู่ยังเป็นช่างปลูกบ้าน เป็นช่างทำตาชั่งและทำเครื่องมือตวงวัดต่างๆ ทั้งๆ ที่หลวงปู่ไม่ได้ร่ำเรียนจากที่ใดมาก่อนเลย ท่านสามารถทำตราชั่งชั่งน้ำหนักเป็นกิโลกรัมเพื่อการซื้อขาย และใช้ในชีวิตประจำวันได้

    นอกจากเป็นช่างประจำหมู่บ้านแล้ว หลวงปู่บัว ยังได้เรียนวิชาอาคม และไสยศาสตร์จากผู้รู้ในสมัยนั้น จนมีความเก่งกล้าทางด้านคุณไสย สามารถประกอบอาชีพเป็นหมอผี ปราบผีสางนางไพรได้อีกด้วย

    ไม่ว่าด้านใด ตำบลใด ในละแวกนั้น ถ้ามีผีสางเข้าสิงสู่ผู้คน ชาวบ้านจะมาเชิญหลวงปู่บัว หรือหมอบัวไปทำพิธีขับไล่ รวมทั้งปัดรังควาญเสนียดจัญไรต่างๆ ชาวบ้านก็จะจ่ายเงินทอง ข้าวของ เป็นค่าคาย (ค่ายกครู) ให้ตามสมควร

    เมื่อชาวบ้านมีความทุกข์ร้อนเรื่องต่างๆ จึงมาเชิญให้หมอบัวได้ช่วยขจัดปัดเป่าความทุกข์ร้อนนั้นให้ ซึ่งท่านก็กระตือรือร้นและเต็มใจในการช่วยเหลือ จนกลายเป็นที่พึ่งและเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในละแวกนั้น

    ด้วยความเอื้ออารีและต้องการช่วยเหลือชาวบ้านนี่เอง หลวงปู่บัวได้ยึดมั่นถือมั่นในวิชาไสยศาสตร์และหมอผีอย่างแนบแน่นฝังใจ



    ศีลห้าและรักษาสัจจะ

    แม้ว่าหลวงปู่บัว จะเล่าเรียนและยึดถือทางด้านคุณไสยก็ตาม แต่ท่านก็ยึดมั่นในคุณธรรม ๒ ประการ คือ การมีสัจจะ และรักษาศีลห้า อย่างเคร่งครัด

    สัจจะ ถือเป็นคุณธรรมอย่างวิเศษ การมีสัจจะประจำใจ จะทำให้เป็นคนน่าเชื่อถือ และ “มีวาจาสิทธิ์” การเรียนมนต์คาถาต่างๆ จะยิ่งเพิ่มความขลัง และไม่เสื่อมคลายจากหายไป

    ด้านการรักษาศีล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศีล ๕ จัดเป็นคุณธรรมพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ เป็นเครื่องมือยับยั้งการทำชั่วและการก่อเวรต่างๆ ทำให้เป็นคนบริสุทธิ์ มีความเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ตามหลักทางพระพุทธศาสนา

    สัจกิริยาของผู้ที่ตั้งมั่นในการประพฤติอยู่ในขอบข่ายของศีล โดยไม่ละเมิดผิดศีลธรรม ย่อมเป็นผลให้สมาธิเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว มั่นคง แม้การเรียนทางด้านคุณไสยก็ย่อมมีความขลังด้วย

    ท่านหลวงปู่บัว สมัยเป็นฆราวาสหรือหมอบัว ท่านจะไม่กระทำผิดด้านศีลธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดื่มสุรายาเมา ท่านจะงดเว้น ไม่เตะต้องอย่างเด็ดขาด

    หลวงปู่ท่านทราบดีว่า การดื่มสุราทำให้ขาดสติ ขาดสมาธิที่จะกำกับเวทมนต์ และคาถาอาคมต่างๆ ดังนั้นวิชาไสยศาสตร์ที่ท่านศึกษาจึงมีความเข้มขลังอย่างมาก

    ด้านศีลห้า ท่านถืออย่างเคร่งครัด ได้แก่

    - การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตท่านไม่เอา แม้แต่กุ้งหอยปูปลา ก็ไม่จับไม่ฆ่า

    - งดเว้นจากการลักขโมย หยิบฉวย ทรัพย์สินของผู้อื่น แม้แต่จะพูดในเชิงอยากได้ก็ไม่ทำ

    - เรื่องกาเมไม่เคยประพฤติ

    - ข้อมุสา การกล่าวคำเก็จ เพ้อเจ้อ พูดจาเหลวไหล หลวงปู่ไม่ชอบ

    - เรื่องสุราเมรัย แม้จะมีกันดาษดื่นในท้องถิ่นอีสานหาดื่มหากินได้ไม่ยากเลย ท่านก็ไม่ข้องไม่เกี่ยว

    หลวงปู่บัวท่านรักษาศีลห้าอย่างเคร่งครัด ท่านมักจะอบรมสั่งสอนลูกหลานอยู่เสมอๆ ว่า

    “เรื่องศีลนี่เป็นของสำคัญที่ควรปฏิบัติให้มาก ถ้าแม้ผู้ใดมีศีล รักษาศีลเพียงอย่างเดียวให้มั่นคงแล้วจะศึกษาเล่าเรียน ไม่ว่าวิชาคุณไสย หรือบำเพ็ญภาวนากรรมฐานอันเป็นทางวิมุติแล้ว ต้องมีศีลสัตย์เป็นเบื้องต้น อย่าไปทำลายศีล ถ้าทำลายศีลแล้ว ชีวิตมันจะไม่เป็นเรื่องสักอย่างเดียว”

    แม้ท่านหลวงปู่บัวสมัยยังเป็นฆราวาส จะยึดมั่นในสัจจะและถือศีลห้าประจำใจ ไม่ทำบาปน้อยใหญ่ทั้งปวงก็ตาม หลวงปู่ก็ยังถือมั่นทางด้านคุณไสยอยู่ ท่านยังไม่ถือไตรสรณาคมม์ คือถือมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เช่นเดียวกับพุทธศาสนิกชนที่ดีทั่วไป



    หลวงปู่บัววัยหนุ่ม

    lp-bua-pic-08-01.jpg

    หลวงปู่อ่อนตา จนฺทสโร
    ญาติลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่บัว

    ได้กรุณาเล่าเรื่องราวต่างๆ ของหลวงปู่บัว

    สมัยยังอยู่เป็นฆราวาส นับตั้งแต่หนุ่มน้อย อายุ ๑๕ ปีเป็นต้นมา หลวงปู่บัว หรือ นายบัว น้อยก้อม ได้สร้างฐานะได้อย่างรวดเร็ว จัดว่าเป็นผู้มีอันจะกินทีเดียว

    ทางด้านอาชีพ ท่านเป็นช่างปลูกบ้านเรือน เป็นครูสอนการทำตราชั่งและเครื่องตวงวัดต่างๆ และยังเป็นผู้เรืองวิชาอาคม รับจ้างขับไล่ผี และประกอบพิธีกรรมต่างๆ อีกด้วย

    หลวงปู่ท่านมีนามีสวนในเนื้อที่กว้างขวาง ส่วนตัวของท่านก็เป็นที่เคารพนับถือจากชาวบ้านทั่วไป ในฐานะผู้รู้ทางเวทมนตร์ ประกอบกับท่านอยู่ในวัยหนุ่มหน้าตาดีด้วย

    คุณดำรงค์ ภู่ระย้า นักเขียนในนิตยสารโลกทิพย์ ได้รับฟังเรื่องราวของหลวงปู่บัว จากคำบอกเล่าของหลวงปู่อ่อนตา จนฺทสโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่ ดังนี้

    “ในวัยหนุ่ม ท่านบัวนี่รูปร่างสวยนะ ตัวใหญ่ สูงสง่า เวลาเดินนี่หนักแน่นมั่นคง นัยน์ตาสีน้ำตาล แสดงความเป็นนักต่อสู้ทีเดียวล่ะ ผิวสีดำแดง เสียงมีอำนาจ ก็เพราะอย่างนี้แหละจึงเป็นที่ต้องตาต้องใจสาวๆ หลายคน

    ฐานะท่านบัวก็ร่ำรวยคนหนึ่งล่ะ อาคมท่านบัวดี แต่ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อนนะ นอกจากช่วยคนอื่น สนุกสนานไปกับเพื่อนๆ บ้างเป็นบางเวลา เสียอย่างเดียวที่ท่านยิ้มยากหน่อย อยู่จะพูดจะคุยอะไรดูเป็นหลักเป็นเกณฑ์ไปหมดละ”.
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    (ต่อ)


    ชีวิตครอบครัว

    lp-bua-pic-15-03.jpg

    หลวงปู่เพ็ง พุทฺธธมฺโม

    หลวงปู่อ่อนตา จนทสโร ได้เล่าถึงเรื่องครอบครัวของหลวงปู่บัว ว่า

    เอาเรื่องแต่งงานก่อนนะ

    สาวๆ ที่ต้องใจท่านบัวสมัยเป็นฆราวาสนั้นมีอยู่คนเดียว คือ นางมิ้ม พอแต่งงานกันแล้วมีลูกด้วยกันทั้งหมด ๖ คน ลำดับอย่างนี้

    ๑. คนแรกเสียชีวิตแต่น้อยๆ

    ๒. นางพุด น้อยก้อม (เสียชีวิต)

    ๓. นายเพ็ง น้อยก้อม (หลวงปู่เพ็ง พุทฺธธมฺโม)

    ๔. นายพรหม น้อยก้อม (พระครูสมุห์ พรหม สุพฺรหมญาโณ อายุ ๘๔ ปี เจ้าอาวาสวัดเทิงเสาหิน อ.เทิง จ.เชียงราย องค์ที่ ๒ ต่อจากหลวงปู่เพ็ง)

    ๕. นางสมบูรณ์ น้อยก้อม (เสียชีวิต)

    lp-bua-pic-18-01.jpg

    นางเล็ก ฤทธิแสง

    ๖. นางเล็ก ฤทธิแสง อยู่ที่ อ.เทิง จ.เชียงราย

    “สมัยที่แต่งงานกันแล้ว ท่านบัว ก็ยังอยู่บ้านเกิดเดิมอยู่ มาระยะหลังจึงย้ายครอบครัวไปทำมาหากินที่บ้านจานทุ่ง ตำบลปาฝา อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด”



    ไม่ยอมละเมิดศีลห้าเด็ดขาด

    “สมัยนั้น การทำมาหากินของชาวบ้านปาฝา และชาวนาในภาคอีสานลำบากมากนะ แต่ที่อยู่กันได้ ท่านบัวก็ทำมาหากินไปตามฐานะไม่เดือดร้อนอะไร”

    หลวงปู่อ่อนตา เล่าต่อไปว่า “แต่ถ้าเป็นคนในเมืองเขาทนอย่างนี้ไม่ได้แน่ ไม่ว่าหน้าร้อน เราก็ต้องทนแดดกันกลางทุ่งนา วันทั้งวัน เลย

    พอหน้าฝน พวกชาวไร่ชาวนานี่ก็ต้องทนเปียกทนแห้งอยู่อย่างนั้นแหละ มันหนีไม่ได้นี่นะ

    พอถึงหน้าหนาว ตื่นแต่เช้ามืดก็ต้องไปแล้ว ออกหากิน คนสมัยนั้น เวลาหนาวก็หนาวจริงๆ มันมีแต่ป่ามีแต่ต้นไม้ ไม่โล่งเตียนเหมือนเดี๋ยวนี้

    หน้าหนาวนี่ ตั้งแต่เช้า กว่าจะได้รับไอแดดก็เป็นเวลาเที่ยง จึงค่อยได้รับความอบอุ่นกับเขาบ้าง พอบ่ายสามโมงก็เอาอีกหนาวอีกแล้ว

    อะไรๆ ก็ไม่โหดร้ายเหมือนเมื่อคราวอีสานแล้งติดต่อกัน ๗ ปี ท่านบัวนี่ก็เป็นคนเก่งทีเดียว ไม่รู้ว่าท่านเอาอะไรให้ลูกๆ ท่านกิน มันไม่มีอะไรกินจริงๆ นะ

    ท่านบัวเองก็รักษาศีล การที่จะฆ่าสัตว์ตัดชีวิตนี่ไม่มีแน่ ท่านไม่ยอมทำทั้งนั้นเรื่องบาปกรรมนี่

    การที่จะทำให้ท่านบัวไปช้อนกุ้ง ตกปลา เหมือนชาวบ้านทั่วไปนั้น อย่าหวังเลย ท่านรักษาศีลห้าได้จริงๆ นะ กำลังใจท่านดี สติท่านนี่เป็นเยี่ยมเลย ตั้งแต่สมัยฆราวาสนะที่เล่านี่

    ต่อมาลูกๆ ของท่านบัวออกเรือนไปกัน ท่านก็แบ่งที่ทางให้ไปทำมาหากิน ส่วนตัวท่านก็ยังไม่ปล่อยวางเรื่องไสยศาสตร์

    หนังสือนี่ท่านบัวไม่ได้สักตัวเดียว แต่ท่านมีปัญญาสามารถประกอบกิจดารงานได้ ทั้งๆ ที่ไม่รู้หนังสือนั่นแหละ

    พอถึงคราวไปรำนางปลา นางกระด้ง ซึ่งเป็นประเพณีของทางอีสานในสมัยนั้น ท่านบัวเป็นอันว่าเอาด้วยละเรื่องนี้ ไปกันเป็นหมู่ๆ นะ แต่เรื่องผิดศีลท่านบัวไม่เอาด้วย”



    พระลูกชายขอให้เลิกไสยศาสตร์

    ในปี พ.ศ ๒๔๗๐ หลวงปู่บัว ท่านยังรักษาศีล ๕ อยู่ พอมาถึงต้นปี พ.ศ. ๒๔๗๑ ท่านก็ขยับขึ้นมาถือศีล ๘ เพิ่มอีก “ทีนี้ท่านนุ่งขาวห่มขาวเลย ก็อยู่ในบ้านนั่นแหละ รักษาศีล ๘ ด้วย ทำงานด้วย”

    หลวงปู่อ่อนตา เล่าต่อไปว่า “เรื่องนี้ไม่รู้ว่าท่านบัวไปได้ความคิดความรู้จากไหนมาก่อนนะ

    ท่านบัวเล่าให้อาตมาฟังว่า เวลาไถนา ก็ พุท-โธ ไป หันกลับมาก็ พุท-โธ อีก แล้วตอนปักกล้า เวลาปักลงไปแต่ละต้นนี่ พุท-โธ ไม่ขาดท่านหยิบกล้าก็ พุท พอปักลงไปในดินก็ โธ นี่ท่านทำอย่างนี้

    ระยะนี้ธรรมะเริ่มเข้ามาในกระแสจิตบ้างแล้ว มันเป็นเหตุให้ ท่านเพ็ง พุทฺธธมฺโม พระลูกชายของท่านบัวมาเทศน์ให้ฟัง

    ท่านเพ็งนี่เทศนาเก่งนะสมัยนั้น มีชื่อเสียงมากเรื่องนี้

    แต่ท่านบัวก็ยังไม่ยอมเชื่อไม่ยอมทิ้งวิชาไสยศาสตร์อยู่ดีแหละ สองพ่อลูกนี่ทะเลาะกันเรื่องพระไตรสรณาคมน์

    ลูกชายที่เป็นพระ ก็ต้องการให้บิดานับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ

    ท่านบัวผู้เป็นพ่อก็ไม่ยอมเชื่อลูก เพราะเข้าใจว่าไปเรียนหนังสือ นวโกวาท (คู่มือพระภิกษุบวชใหม่) มาเพียงเล่มเดียว ท่านว่าอย่างนั้น

    ท่านเพ็งได้ยกเหตุผลว่า การนับถือภูตผีปีศาจนั้นไม่ดี มันไม่มีประโยชน์อะไรแก่เราเลย เมื่อยึดถือไปแล้วมันมีแต่เรื่องทุกข์เรื่องร้อน

    เวลาใครเขาถูกคุณเสียจากที่อื่นมา ตนก็ต้องไปแก้ไขช่วยเหลือ ถ้าพลาดพลั้งไปอาจเข้าตัวเองได้ ลูกเมียก็ต้องลำบากเสียใจ

    สู้ยึดถือ พระไตรสรณาคมน์ไม่ได้ รัตนสามประการนี้ท่านสอนชี้ให้เรากระทำความดี ให้มี ศีล สมาธิ ปัญญา

    ถ้าหากว่าโยมบิดามีพระพุทธเจ้าอยู่ในใจ พระธรรม และพระอริยสงฆ์อยู่ในใจแล้ว โยมบิดาจะมีแต่ความสุขความเจริญ ไม่ต้องทุกข์ร้อน ไม่ต้องไปกังวลกับการไปแก้คุณเสียให้ใครอีก

    โยมบิดาเองก็มีอายุมากแล้ว ไหนจะต้องเดินเหินไปโน่นมานี่ มันเป็นการยากลำบาก

    ขณะนี้โยมบิดาก็ได้ทำความดีไปแล้วขั้นหนึ่ง คือการรักษาศีล นับว่าดี ประเสริฐแล้ว เพราะเราไม่ได้ถือไม้ค้อนก้อนดิน (หมายถึง อาวุธ) มือโยมบิดาบริสุทธิ์ไม่เปรอะเปื้อนมลทินอันใดเลย ขอให้เลิกนับถือคุณไสยเสียเถิด

    จงหันมารับเอาพระไตรสรณาคมน์ เป็นที่พึ่งจะดีกว่า มันเป็นทางพ้นทุกข์ เป็นทางพระนิพพาน สถานบรมสุข เป็นที่อยู่ของดวงจิตอันถาวรของเรา”

    หลวงปู่อ่อนตา เล่าต่อไปว่า “พระลูกชายก็พูดไป บิดาก็ไม่ยอมเชื่อ ตั้งแต่หัวค่ำจนยันแจ้งก็ไม่สำเร็จผล

    ท่านบัวนี่ ความจริงท่านเป็นคนมีเหตุผลเหมือนกัน ตั้งแต่ท่านเพ็งพูดทิ้งไว้แล้ววันนั้น ท่านบัวก็เก็บไปนึกคิดอยู่ตลอดเวลา นั่นแหละ..”



    พระอาจารย์สุภีช่วยเทศน์โปรด

    lp-bua-pic-35-03.jpg

    พระครูสมุห์พรหม สุพรหมญาโณ

    เจ้าอาวาสวัดเทิงเสาหิน จ.เชียงราย

    หลวงปู่พรหม (น้องชายของหลวงปู่เพ็ง) สมัยที่ยังเป็นฆราวาสได้เล่าเรื่องหลวงปู่บัว เสริมต่อจากหลวงปู่อ่อนตา ว่า

    “หลังจากพระอาจารย์เพ็ง มาเทศน์โปรดหลวงปู่บัว ของพวกเราแล้ว ท่านก็เก็บมานั่งคิดทบทวนเหตุผลต่างๆ แล้วท่านก็ตัดสินใจละทิ้งไสยศาสตร์อย่างเด็ดขาด กลายเป็นเรื่องง่ายนิดเดียวสำหรับท่าน

    คือหลังจากนั้นไม่นาน คงจะ ๓ เดือนให้หลังนี่แหละ พระอาจารย์สุภี ฉายาท่านพวกเราจำไม่ได้ ท่านมาพักที่วัดป่าศรีไพรวัน อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด

    เมื่อพระอาจารย์สุภี มาถึงวัด พระอาจารย์เพ็งมั่นใจว่า พระอาจารย์สุภีคงสามารถช่วยเทศน์ชักจูงให้โยมบิดาออกจากการถือคุณไสยได้แน่ๆ จึงนิมนต์พระอาจารย์สุภีไปยังบ้านโยมบิดา

    พระอาจารย์สุภี ชี้แจงอยู่ไม่นาน พอเทศน์จบหลวงปู่บัว ก็บอกว่าท่านตัดสินใจยอมเลิกการนับถือภูตผีปีศาจ ยอมละวางเรื่องคุณไสยต่างๆ และท่านก็ละทิ้งหมด ชนิดไม่เก็บมานึกคิดอีกต่อไป ท่านเลิกได้เด็ดขาดจริงๆ

    หลวงปู่บัวหันมารับพระไตรสรณาคมน์ ตั้งแต่นั้นมาท่านนั่งปฏิบัติสมาธิภาวนาโดยตลอด

    นอกจากนี้ หลวงปู่บัวท่านยังเห็นชอบในเรื่องพระกรรมฐานและขอร้องให้พระอาจารย์เพ็งออกธุดงค์ด้วยซ้ำไป”

    หลวงปู่พรหมกล่าวย้ำว่า “หลวงปู่บิดาของผมนี่ท่านใจเด็ดขาด เวลาจะเลิกสิ่งหนึ่ง แล้วมารับสิ่งหนึ่งนี่ ท่านไม่มีความสงสัยหรือลังเลใจเลย พวกเราลูกๆ เสียอีกทำอย่างท่านไม่ได้

    แต่ก่อนที่ท่านจะยึดมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นั้น หลวงปู่บัวก็ได้รับรักษาศีล ๘ อยู่ก่อนแล้ว แต่ระยะนั้นท่านไม่ยอมทิ้งไสยศาสตร์ เท่านั้น “

    ๑๐

    ทำงานกับพุทโธ

    ตอนที่พระอาจารย์สุภี เทศน์โปรดหลวงปู่บัว นั้น อยู่ในช่วงปี พ.ศ. ๒๔๗๗

    หลังยอมรับพระไตรสรณาคมน์แล้ว หลวงปู่บัวท่านก็ยังทำงานอยู่กับบ้านตามปกติ เวลาทำงาน เช่น ทำนา ไถนา ตำข้าว เกี่ยวข้าวท่านจะบริกรรม พุทโธ ตลอด

    เช่น เวลาเกี่ยวข้าว พอเคียวเกี่ยวถูกต้นข้าว ท่านก็บริกรรมว่า พุท พอถึงต้นข้าวขาดก็บริกรรมว่า โธ เช่นนี้ไปโดยตลอด

    ไม่ว่าท่านจะทำอะไรก็ตาม เช่น กินข้าวก็ พุท-โธ อาบน้ำก็ พุท-โธ ทำอะไรใจก็อยู่กับการบริกรรม พุท-โธ กำกับอยู่เสมอ

    หลวงปู่บัวเล่าให้ฟังว่า “ทำงานกับพุทโธนี่ไม่เหนื่อย ทำได้ทั้งวัน “

    หลวงปู่พรหม ย้ำว่า “ก็เป็นความจริงของท่าน วันทั้งวันท่านอยู่กลางนาได้ พวกเรานี้ไม่ประสาอะไรกับการบริกรรม พุท-โธ ในตอนนั้นนะ มารู้เอาภายหลังว่าพุท-โธที่หลวงปู่ผู้บิดาบริกรรมอยู่นั้นมีคุณวิเศษมหาศาล ทุกวันนี้เราก็ได้ทำตามที่หลวงปู่สอนไว้นั่นแหละ”
    :- https://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-peng/lp-bua-hist-01-01.htm

    พระบัว สิริปุณฺโณ

    (บัว สิริปุณฺโณ)
    ชื่ออื่น หลวงปู่บัว
    ส่วนบุคคล
    เกิด พ.ศ. 2431 (87 ปี)
    มรณภาพ พ.ศ. 2518
    นิกาย ธรรมยุติกนิกาย
    ตำแหน่งชั้นสูง
    ที่อยู่ วัดป่าหนองแซง อุดรธานี
    อุปสมบท พ.ศ. 2482
    พรรษา 36 พรรษา
    ตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดป่าหนองแซง

    :- https://th.wikipedia.org/wiki/หลวงปู่บัว_สิริปุณฺโณ
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    เพราะพุทโธช่วยไว้ จึงไม่ตกนรก

    หลวงตา
    Oct 5, 2023
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    ๒๘๖.พบญาติในอดีตชาติ ที่เชียงตุง ธูุดงค์ป่ารัฐฉาน

    thamnu onprasert
    Oct 7, 2023
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    พระธุดงค์หนุ่ม โปรดผีสาวตายทั้งกลม

    ปู่ดอน station
    131,261 views Sep 20, 2023

    พระธุดงค์หนุ่มเดินทางไปจำพรรษาในป่าช้าแห่งหนึ่ง ด้วยหวังจะเร่งภาวนาให้ตัวเองพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ณ ป่าช้าแห่งนั้น ท่านได้ผจญกับวิญญาณหญิงสาวที่ตายทั้งกลม ซึ่งต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ ด้วยความเมตตา ท่านจึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือวิญญาณสาวนั้น
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    จอมยุทธขรัวอีโต้ : หลวงพ่อเล่าเรื่องผี

    หลวงตา
    10,555 views May 19, 2023
    หลวงพ่อเล่าเรื่องผี ตอน จอมยุทธขรัวอีโต้ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี

     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    ความจริงที่หลายคนไม่รู้!..หลวงพ่อฤาษีลิงดำยืนยัน ศพพระมหากัสสปะอยู่ที่เชียงตุง มิใช่อยู่ที่อินเดีย

    ปู่ดอน station
    103,453 views Sep 24, 2023

    เมื่อมีผู้ถามหลวงพ่อฤาษีลิงดำถึงเรื่องศพพระมกากัสสปะว่าอยู่ที่อินเดีย ท่านจึงกล่าวปฏิเสธว่าไมใช่ แต่ศพท่านอยู่ที่เชียงตุง ประเทศพม่าต่างหาก ถ้าไม่เชื่อ สามารถใช้มโนมยิทธิไปดูได้เลย สามารถเข้าได้ ไม่มีใครห้าม!..
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    ๑๒๙.อาถรรพ์เสือเย็น ลี้ลับป่าสาละวิน

    thamnu onprasert
    Oct 9, 2023

    หญิงชาวกะเหรี่ยงได้กลายเป็นเสือเย็น เที่ยวออกไล่ล่าเหยื่อในตอนกลางคืน ทิ้งให้สามีและลูกน้อยเฝ้าคอยมองหา.
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    ตำนานผีเครื่องบินตก เขาใหญ่ดงพญาเย็น

    thamnu onprasert
    Oct 13, 2023
    เรื่องราวลี้ลับ ของโป่งเครื่องบินตก ป่าเขาใหญ่ ดงพญาเย็น

     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2023
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    ๒๘๗.ฝ่าดอยว้าผี ธุดงค์ป่ารัฐฉาน

    thamnu onprasert
    Oct 17, 2023

    ในดงดอยสูงแห่งรัฐฉาน มีชนเผ่าลึกลับชื่อ"ว้าผี" จะออกล่าหัวมนุษย์ไปทำพิธีบูชาผีประจำเผ่าของตนทุกๆปี.
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    เมื่อผมนั่งสมาธิและได้เห็นไก่เจ้ากรรม

    หลวงตา
    Oct 14, 2023
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    ผีพระ : หลวงพ่อเล่าเรื่องผี

    หลวงตา
    May 2, 2023
    หลวงพ่อเล่าเรื่องผี ตอน ผีพระ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2023
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    พระพุทธคุณปราบมนต์ดำ

    thamnu onprasert
    Oct 19, 2023

    เรื่องราวของพระพุทธคุณปราบมนต์ดำ หมอผีส่งคุณไสยมาใส่พระธุดงค์แต่ของกลับย้อนเข้าตัวเกือบตาย.
    ประวัติและปฏิปทา
    พระอาจารย์ดี ฉนฺโน

    วัดภูเขาแก้ว
    อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี-->https://palungjit.org/threads/หลวงพ...็นภพชาติในถ้ำทอง.616488/page-29#post-11661556
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    ผจญภัยในป่าพม่า - พระอาจารย์มหาปิ่น ชลิโต

    หลวงตา
    Oct 23, 2023
    ผจญภัยในป่าพม่า - พระอาจารย์มหาปิ่น ชลิโต พระครูวิโรจน์ธรรมาจารย์” หรือ “หลวงพ่อมหาปิ่น ชลิโต” แห่งวัดอริยวงศาราม (วัดหนองน้ำขาว) บ้านหนองน้ำขาว ต.ดอนกระเบื้องจ.ราชบุรี


     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    หลวงพ่อมหาปิ่น ชลิโต วัดอริยวงศาราม จ.ราชบุรี
    ccc-1.jpg

    5 มิ.ย. 2563 - 09:54 น.

    หลวงพ่อมหาปิ่น ชลิโต วัดอริยวงศาราม จ.ราชบุรี : คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

    หลวงพ่อมหาปิ่น ชลิโต – วันพุธที่ 3 มิ.ย.2563 น้อมรำลึกครบรอบ 39 ปี มรณกาล “พระครูวิโรจน์ธรรมาจารย์” หรือ “หลวงพ่อมหาปิ่น ชลิโต” แห่งวัดอริยวงศาราม (วัดหนองน้ำขาว) บ้านหนองน้ำขาว ต.ดอนกระเบื้องจ.ราชบุรี ผู้เป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวเมืองราชบุรี
    เป็นศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต สายธรรมพระป่า

    เป็นชาวนครปฐม เกิดเมื่อปี พ.ศ.2462 เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ บวชเป็นสามเณร ตั้งแต่อายุเพียง 13 ปี ที่วัดสัมประทวน มีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) วัดเทพศิรินทราวาส เป็นพระอุปัชฌาย์
    ครั้นเมื่ออายุครบบวช เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดท่าตำหนัก ซึ่งเป็นวัดฝ่ายธรรมยุต โดยมีพระเทพเจติยาจารย์ วัดเสน่หา เป็นพระอุปัชฌาย์
    เคยดั้นด้นธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรจากภาคใต้มาถึงกรุงเทพฯ จากกรุงเทพฯ ไปถึงแม่ฮ่องสอน จากแม่ฮ่องสอนไปภาคอีสาน

    ธรรมะที่เคยประพฤติปฏิบัติ นำมาถ่ายทอดแก่สาธุชนผู้ใคร่ในธรรมจนหมดสิ้น ลีลาการแสดงธรรมะ เฟ้นหาสาระเนื้อหาอันจับใจแก่ผู้ฟังธรรมเป็นอย่างยิ่ง

    เป็นกำลังสำคัญในกองทัพธรรม สายหลวงปู่มั่นที่เผยแผ่หลักธรรม


    ความดีงามทำให้ชาวบ้านในภาคต่างๆ เช่น ภาคกลางและภาคใต้ ต่างได้ร่วมกันช่วยสร้างสำนักสงฆ์อันเป็นสาขาได้ 20 กว่าแห่ง ท่านเคยเล่าว่า… “เคยแอบมากรุงเทพฯ เหมือนกัน เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดบวรฯ วัดราชาฯ วัดราชบพิธฯ วัดมกุฏฯ เมื่อเรียนแล้วก็หนีเข้าป่าฝึกสมาธิภาวนาต่อไป”

    หลวงพ่อมหาปิ่น เล่าความเป็นมาทางภาคใต้ให้หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ฟังว่า

    “กระผมได้เคยผจญภัยมาแล้ว ณ เมืองภูเก็ต พังงา สองแห่งนี้ก็ได้รับกับความเดือดร้อนต่างๆ อย่างมากมาย ด้วยคณะพระธรรมยุติกนิกาย ไม่เคยมีเลยในครั้งนั้นจึงได้พาคณะพรรคพวกกลับมาเผชิญเหตุการณ์ร้ายๆ นี้อีก

    กระผมดีใจที่ท่านพระอาจารย์มาเป็นประธาน ในการเดินทางในครั้งนี้ แม้จะมีเหตุการณ์ที่ร้ายแรงน่ารังเกียจ อันผิดวิสัย ของสมณะ! ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในเพศเดียวกัน คอยกลั่นแกล้งทั้งๆ ที่นุ่งห่มสีเดียวกัน น่าละอายเมื่อท่านอาจารย์มาเป็นประธานในการเผยแผ่ธรรมะ กระผมก็มีความหวังดีต่อพระพุทธศาสนา ขอร่วมด้วย เพื่อเป็นการช่วยกันฟื้นฟูธรรมปฏิบัติในเขตสองจังหวัดนี้ เป็นการดียิ่ง”

    การที่คณะเผยแผ่ธรรมะ โดยหลวงปู่ เทสก์ เทสรังสี เป็นผู้นำแห่งกองทัพธรรม และมีหลวงพ่อมหาปิ่น เข้าช่วยเหลือเผยแผ่ธรรมะคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าให้เข้าสู่จิตใจประชาชนได้เป็นอันมาก

    หลวงพ่อมหาปิ่น ถูกกำหนดให้ไปอยู่จำพรรษาที่กระโสม โดยมีพระคณะละ 16 รูป ตลอดเวลา ถูกพวกที่ไร้คุณธรรมบุกรบกวน เช่น เผากุฏิ เอาก้อนหินขว้างปาขณะออกเดินบิณฑบาต ลอบวางยาพิษ ต้องผจญกับความทุกข์ยากแสนสาหัส

    แต่ก็ได้รับการเตือนสติจากหลวงปู่เทสก์ ให้พยายามรักษาศีลบริสุทธิ์ อย่าทิ้งสติการภาวนา พิจารณาให้เป็นธรรมอย่าเผลอสติ นับเป็นความอดทนเป็นที่ยิ่ง

    ในชีวิตของพระสุปฏิปันโน รักในความสันโดษวิเวกท่ามกลางป่าเขา ชีวิตธุดงคกัมมัฏฐานของท่าน เดินทางมาไกลแสนไกลบุกป่าฝ่าดง ปีนป่ายภูเขาลูกแล้วลูกเล่า ในที่สุดท่านก็มาหยุดที่ภูเขาลูกหนึ่ง เป็นภูเขาลูกย่อม มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ในสถูปองค์น้อย ณ ที่นั้นจึงเรียกขานว่า “พระธาตุเขาน้อย” หรือ วัดป่าพระธาตุเขาน้อย

    ก่อสร้างขึ้นเป็นวัดที่ถาวร เป็นเครื่องเตือนจิตเตือนใจให้ระลึกมรณภาพอย่างสงบ ที่วัดอริยวงศาราม จ.ราชบุรี เมื่อวันจันทร์ที่ 3 มิ.ย.2524 สิริอายุ 62 ปี พรรษา 40
    :-
    https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/amulets/news_4253152



     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    มโนมยิทธิ ศาสตร์ลี้ลับแห่งการถอดกายทิพย์

    หลวงตา
    36,564 views Oct 24, 2023
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,040
    พระอรหันต์แห่งภูจ้อก้อ

    หลวงตา
    Oct 12, 2023

    พระอรหันต์แห่งภูจ้อก้อ
    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดบรรพตคีรี (วัดภูจ้อก้อ) ตำบลหนองสูงใต้ อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร
     

แชร์หน้านี้

Loading...