เรื่องเด่น อยากรู้ว่าถ้าศาสนาพุทธเกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว ใครเอาโบราณสถานไปสร้างไว้อินเดีย

คุณเอกคุณจะดูแผนที่ปัจจุบันไม่ได้หรอกเพราะร่องน้ำมันเปลี่ยนไปมากแล้ว
ต้องศึกษาแผนที่โบราณด้วยว่าร่องน้ำเดิมเมื่อ 2500 ปีเป็นยังไง ส่วนถ้ำสัตตบรรณคูหา จะเป็นภูเขากำพร้า จะอยู่นอกเขตเมือง โดยเป็นหนึ่งในขุนเขาทั้ง 5 ไม่ใช่ยอดเขาทั้ง 5 และ 2500 ปีที่ผ่านมาภูมิศาสตร์มันเปลียนไปมาก
ในรัฐพิหารเป็นลักษณะภูเขาโอบล้อม มีแหล่งน้ำแหล่งเดียว คือตโปธา เท่านั้น
แสดงว่า แม่น้ำสายนั้นต้องไหลผ่านบริเวณถ้ำสัตบรรณคูหาด้วย ต้องสังเกตุล่องน้ำด้วยครับ จะนำทางได้

 

ใครจะช่วยอะไร ได้อย่างไร ก็เชิญได้ตามศรัทธาและความเชื่อของท่านนะครับ<!-- google_ad_section_end -->

...ภาพข้างล่างนี้ พอจะ ช่วยอะไรได้ใหมครับ คุณ เอกฯ...



Uploaded with ImageShack.us

 

มีภาพโดยรอบ ระยะใกล้ ระยะไกล หรือเปล่า จะได้ช่วยพิจารณาต้องอาศัยองค์ประกอบอีก

แล้วภาพนี้คือที่ใหน

 

ท่าหนุมาน ผู้นำสาร เรื่องที่สระบุรีนั้นผมมีข้อมูลอยู่ แต่ต้องเจาะลงรายละเอียดอีก
เท่าที่รู้มา พระพุทธเจ้าได้มาโปรดผู้ที่จะมาเป็นพระศรีอาร์ในอนาคต ที่สระบุรีในสมัยพุทธกาลด้วย หากใครมีข้อมูลเพิ่มก็สมทบได้ เผื่อตรงกันกับที่ผมมี

 

OLDMAN AND A CAR เคยได้ไปสถานที่นี้ มาแล้วหรือครับ

ภาพนี้ คือ "สถานที่ที่มีความเชื่อว่า เป็นที่เก็บรักษาพระสรีระศพของพระมหากัสสปะ" อยู่ในถ้ำ บนเขาสามยอด ที่อำเภอภูผาม่าน

ผมไปที่นี่ ครั้งแรก เมื่อ ปี 2547 หลังจากขึ้นไปพร้อมกับ เพื่อน ที่มีตาใน บอกว่า "มองไม่เห็นอะไร"

ส่วนผม เนื่องจาก ประมวลจากเหตุการณ์ ตอนที่ พระมหากัสสปะเข้านิพพานระหว่างเขาสามลูก จึงเชื่อว่า ณ ตำแหน่งตรงนี้ คงจะเป็นเหมือนสัญญลักษณ์ หรืออนุสรณ์สถาน

แต่ สถานที่เก็บรักษาพระศพจริงๆ อยู่ใน ถ้ำข้างล่าง ซึ่งอยู่ระดับพื้นดิน

ปี 2549 ผม ได้ไปที่นั่น หลังจาก ที่ ผมเคยพลัดหลง ไปยังถ้ำพญานาค ที่อยู่ระดับต่ำจาก ถ้ำสูงนี้ และได้ไปเจอปล่องพญานาค และผมก็พยายาม ที่จะลงไปยังปล่องข้างล่าง เพราะเชื่อว่า จะมีทางเชื่อมต่อไปยัง สถานที่เก็บรักษาพระศพพระมหากัสสปะได้

ในคืน ก่อนที่จะลงไปในปล่องตามที่ตั้งใจ แม่ชี ที่อยู่ที่นี่ จึงได้ยอมคลายความลับบางส่วนให้ฟังว่า ข้างล่างจะเป็นถ้ำใหญ่ มีน้ำไหลผ่น อากาศเย็น มีพญานาคดูแลรักษา แต่ต้องระวัง เพราะมีทางหลายทาง หาไปผิด อาจออกไปสู่หน้าผา หรือบางช่องทาง จะเดินเชื่อมต่อออกไป ถึหนองบัวลำภู

แต่ผมลงไปได้ไม่ไกล ก็เจอทางตัน ครับ จึงไม่ประสบผลสำเร็จ

และเชื่อว่า ตรงนั้น คงจะยังไม่ถึงเวลา ที่จะเปิดเผย
จึงต้องมุ่งหา หลักฐาน จาก จุดอื่นๆ เช่น เมืองราชคฤห์
และจุดที่ตั้งใจขุดค้นหาหลักฐาน ก็คือ บริเวณรอบๆ สถานที่ที่คาดหมายว่า เป็น "โพธิมณฑล สถานที่ตรัสรู้" ครับ

 

*** โลกุตตระภูมิ ****



ที่ เขาขุนโคลน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

***ถ้าคุณเอกอยากรู้ นะ ที่ตรงนี้ มีพลังงานกลุ่มหนึ่ง อยู่ ที่บนก้อนหิน ลักษณะ เป็นคนนั่งอยู่บนแท่นมากกว่า ถ้ามองด้วยตาตอนนี้ก็เป็น คล้ายฤาษีแต่ไม่ใช่ฤาษี นั่งชันเขาข้างขวาอยู่ มีหนวดสีขาวยาวประมาณ 2 คืบ แต่นี้ เป็นภาพหลอกตา ของที่อยู่จริงๆ ยังไม่เห็น

 

*** ตัวตนที่มองไม่เห็น ล่องหนอยู่ตลอดเวลา ****

พลังงานจากการกระทำ
โลกุตตระ พระพุทธเจ้า เรียกว่า... "ตัวกระทำ"

" ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน "
อันนี้เป็น สัจจะธรรม
เป็นเหตุผลของทุกสรรพสิ่งในจักรวาล

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

รบกวนท่านอ่านต่อครับผม ผมว่าท่านอ่านยังไม่จบ ...

 

เมื่อตอนสร้างพระธาตุพนมครั้งแรก องค์พระธาตุอยู่ติดน้ำโขงแต่ตอนนี้ออกห่างมามาก

เช่นเดียวกันกลับพระธาตุหล้าหนอง ที่หนองคายเมื่อก่อนอยู่ริมฝั่ง แต่ตอนนี้อยู่กลางน้ำ

แทบจะไปอยู่ฝั่งลาวอยู่แล้ว เพราะล่องน้ำมันเปลี่ยนไปมาก

 

OLDMAN AND A CAR เคยได้ไปสถานที่นี้ มาแล้วหรือครับ

ตอบ

...เคยไปมาแล้วครับ...และ ไปกันหลายๆคนด้วย....

...ขอชมว่า คุณ เอกฯ มีความรู้ดีมาก... และ บางสถานที่ ผมไปเก็บภาพ มาแล้ว นำมาเผยแพร่ไม่ได้...เพราะเขาไม่อนุญาต...และต่อมา ภาพที่เก็บไว้ ก็เลือนหายไปเฉยๆ...เลย รู้ไว้เฉยๆดีกว่า... เขาสามยอด ที่คุณเอกฯ ไป คงจะ ไปช้า กว่าที่จำเป็นต้องไป ประมาณ เกือบ ๔๐ ปี...จึงไม่พบอะไร...

...ท่านใด ได้ พบ พระพักตร์ ของพระศาสดาในนิมิต...ท่านนั้นจะหายสงสัย...แต่ ของแบบนี้ เป็นเรื่องเฉพาะตัว...ใหนเลยจะไป ยืนยันกับคนอื่นได้...

 

ท่าน OLDMAN รู้ข้อมูลอะไรมาก็บอกผมด้วยนะครับ
เพราะที่ผมไปช้า เพราะผมเพิ่งเกิดครับ เมื่อปี ๒๕๑๓

 

ฝืนกันจริงๆ สิ่งที่ทำๆกันนะ หลักฐาน แค่ชิ้นเดียวยำงไม่มี มีแต่คำว่า -น่าจะ- + -กูเกิลเอิธ- + ตำนานพื้นบ้าน

บอกแล้วไงละครับ เรื่องที่อินเดีย เขามีหลักฐานครบ พิสูจน์ อายุได้หมด แม้แต่ที่จีน ก็ยังยอมรับเรื่องนี้เลย ประชากร ประเทศเขาเป็น พันล้าน มาหลายร้อยปีแล้ว ใครจะปิดปาก พวกเขา ได้ ชมพูทวีป พระถังซัมจั๋ง ++

เบื่อพวกดันทุรัง อ้างว่าสมัยก่อนโดนบังคับให้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ ทั้งๆที่ตัวคนพูดก็เกิดไม่ทัน ไม่ได้เห็นเหมือนว่าจริงไม่จริง ไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำอย่างนั้นเลย ไร้สาระ หาหลักฐานเรื่องนี้มาก่อนดีกว่า เอกอิสโร ที่ว่า คุณ กล่าวอ้างว่า ตัวเองเป็น พระเจ้าอโศกมหาราช มาเกิดนะ ไปขอขมาท่านยัง
หรือตอนนั้นมาพิมพ์ ด้วยความละเมอ

 

เอาเถอะนะครับ ท่าน Siritach<O</O
เห็นแก่ว่าท่านก็เป็นผู้หนึ่งที่รัก และหวงแหนในพระศาสนา<O</O
ครั้น จะไม่ตอบความเห็นของท่านบ้าง ก็เกรงจะอึดอัดใจมากโขอยู่<O</O
<O</O

อันที่ จริง เรื่องความเชื่อ “เรื่องภพ ชาติในอดีต” ของผม ก็ไม่ใช่เรื่องลับอันใด เพราะ อาศัยเหตุ ที่มีความเชื่อว่า ย้อนอดีตนับแต่ชาติปัจจุบันนี้ไปหลายภพ หลายชาติ ได้เคยเกิดเป็นใครบ้าง เคยทำกรรม เคยทำบุญสิ่งใดไว้ บ้าง นี่เอง “จึงเป็นเหตุให้นำมาสู่การทำงานค้นคว้า เพื่อแก้ไขประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ในชาติปัจจุบัน” นี้<O</O
<O</O

แต่เดิม ผมก็เชื่ออย่างท่านเชื่อ เชื่ออย่างที่เราได้ร่ำเรียนมาตาม ตำรา เชื่อมาอย่างนั้น โดยตลอด โดยไม่เคยสงสัย
<O</O
จนกระทั่ง ผมได้เริ่มเข้ามา สนใจศึกษาธรรมะ ปฏิบัติทางใจ ตามแนวทางที่พระพุทธองค์วางแนวทางไว้ ตามหลักอานาปานสติ ตามหลักกายคตาสติ ประสบการณ์ ทางจิตที่ผมได้รับรู้ จึงเป็นเรื่องที่อธิบายกับใครให้เชื่อได้อยากอยู่
<O</O
ผมเคยขวนขวายที่จะหาผู้รู้มา ยืนยันในสิ่งที่ผมรู้ ว่า ใช่หรือไม่?<O</O
เดือน มกราคม ๒๕๔๖ ผม นำโพยซึ่งเป็น ลำดับอดีตชาติต่างๆ ที่ตัวเองเคยคิดว่า “ตัวเองเคยเกิด” ไปให้หลวงพี่เล็ก ที่บ้านอนุสาวรีย์ เพื่อพิจารณา ซึ่ง ท่านก็แนะนำว่า<O</O
<O</O

หลวงพี่เล็ก : ส่วนอันนี้ เรื่องของการระลึกชาติ มันจะจริงหรือไม่จริง ไม่ต้องการให้มาติดอยู่ตรงจุดนี้ ที่ต้องการจริง ๆ ก็คือว่า แต่ละชาติเราเกิดมา เราทุกข์มั้ย ? ใหญ่ที่สุดเราเคยใหญ่แล้ว เล็กที่สุด เราเคยเล็กแล้ว รวยที่สุด เราเคยรวยแล้ว จนที่สุดเราเคยจนแล้ว แล้วถามว่า มาจนถึงปัจจุบันนี้ มันยังทุกข์อยู่หรือไม่ ? ถ้าหากว่ามันยังทุกข์อยู่ เราเกิดอีกมันก็จะทุกข์อีก ถามตัวเราเองดีกว่าว่า จะเกิดมาอีกมั้ย ?
เอกอิสโร : ตอนแรกผมก็ตั้งใจว่า จะอธิษฐานลาให้ขาด ก็เหมือนจะลาไม่ขาดซะที ก็เลยสงสัยว่า เรามีหน้าที่อะไร ที่เรายังต้องทำ คือยังไงก็ต้องทำลาไม่ขาดแน่
หลวงพี่เล็ก : ถ้าหากว่าเป็นตัวจุดนี้ ก็แสดงว่างานของเรายังมีอยู่ ถ้าหากว่างานของเรามีอยู่ก็จริง แต่ว่าเราจำเป็นต้องศึกษาเรื่องทุกข์ เรื่องนิพพาน ให้ละเอียดลึกซึ้งยิ่งกว่าผู้ใด เพราะว่าถ้างานในลักษณะนั้น มันงานเพื่อไปเป็นครูเขา งานของการเป็นครูเขา ถ้าเรารู้ไม่ละเอียด เราเป็นครูเขาไม่ได้ คนอื่นขึ้นบันไดมาที่นี่ มันแค่รู้ว่าบันไดมีกี่ขั้นนั้น เก่งมากแล้ว แต่คนที่จะเป็นครูเขานี่ นอกจากรู้ว่าบันไดมีกี่ขั้นแล้ว ยังต้องรู้ว่ากว้างเท่าไหร่ ยาวเท่าไหร่ ใช้วัสดุอะไรสร้างมันขึ้นมาด้วยวิธีใด
เพราะฉะนั้นเราต้องรู้ละเอียดกว่าเขาหลายเท่า ดังนั้นเรื่องของการศึกษา เรื่องทุกข์ในอริยสัจก็ดี เรื่องของพระนิพพานก็ดี เราต้องศึกษาให้ละเอียดกว่าคนอื่นอีก เป็นจำนวนมากด้วยกัน อันนี้ก็ขอแนะนำไว้ลักษณะอย่างนี้แล้วกัน ส่วนแต่ละชาติเป็นอันว่าเป็นที่รู้กันก็พอ
<O</O
หลังจากที่ได้สนทนา กับหลวงพี่เล็ก ในวันนั้นแล้ว ผมก็ไม่ได้สนใจ ที่จะแสวงหาใคร หรือท่านผู้ใด เพื่อที่จะมายืนยันในลำดับการเกิด ตั้งแต่ปัจจุบัน จนถึงเมื่อชาติสมัยพุทธกาล ที่ เชื่อว่าตัวเองเคยเกิดเป็น “สุภมานพ บุตรของโตไทยยพราหมณ์" อีก และก็ไม่ได้คิดว่า จะไปเรียกร้อง เอาพระราชสมบัติในอดีต ที่เคยเกิดเป็น พระราชา มหากษัตริย์ หรือแม้แต่ในชาติที่เป็น พระเจ้าอโศกมหาราช ก็หาไม่
<O</O
แต่ผมอาศัยแต่เพียง ข้อมูล ที่ได้รับจากการที่พยายามค้นหา เรื่องราว พฤติเหตุ ในแต่ละภพชาติ ที่นำให้ไปค้นพบ บันทึก หลักฐาน ความผิดพลาด ที่เกี่ยวแก่พระพุทธศาสนา เท่านั้น เอง เพื่อ จะนำไปสู่ความเพียรพยายามที่จะ “พิสูจน์ให้เห็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และทำความจริงให้ปรากฏ”
<O</O
ข้อความที่ว่า...เอกอิสโร ที่ว่า คุณ กล่าวอ้างว่า ตัวเองเป็น พระเจ้าอโศกมหาราช มาเกิดนะ ไปขอขมาท่านยัง หรือตอนนั้นมาพิมพ์ ด้วยความละเมอ<!-- google_ad_section_end -->...
<O</O
ก็ขอตอบว่า...ไม่ได้พิมพ์ ด้วยความละเมอครับ ดังที่ ได้เคยพิมพ์ในลำดับการเกิด ที่ได้ขอให้หลวงพี่เล็ก พิจารณา หรือแม้แต่ใน “คำอธิษฐานแห่งกาลปัจจุบันสมัย”ที่ผม ประกาศไว้ เมื่อ ๑๑ มีนาคม ๒๕๔๖ ก็ไม่ได้ละเมอครับ หรือแม้แต่ เมื่อครั้งที่ได้ไป สนทนากับ หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ วัดสังฆทาน เมื่อหลายเดือนก่อน ถึง มูลเหตุที่ต้องมาค้นคว้า เรื่องนี้ ก็เพราะ อาศัยเหตุที่ระลึกถึงขันธ์ในอดีต ว่า ได้เคยเกิดเป็นสุภมานพ และพระเจ้าอโศกมหาราช ผมจึงยังไม่ได้ไปขอขมาท่านพระเจ้าอโศกมหาราชเลยครับ<O</O
<O</O

แต่นี่ก็เป็นความเชื่อส่วนตัว และพิสูจน์ไม่ได้<O</O
แต่สิ่งที่จะพิสูจน์ได้คือ
<O</O
“ความจริงที่ว่าพระพุทธศาสนาไม่ได้เกิดขึ้นที่อินเดียปัจจุบัน และพระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่ประเทศไทยในปัจจุบัน” ครับ
<O</O
ซึ่ง ผมขอให้ ท่าน Siritach อดทนรอคอย อีกสักนิด ครับ เพราะผมก็รอคอย วันเวลาที่จะค้นหาหลักฐาน เพื่อพิสูจน์เรืองนี้ มาก็จะ ๘ ปี แล้วครับ
<O</O
ผมไม่ได้คิดว่า ท่าน Siritach ได้อ่าน หนังสือ ที่ผมเขียน ทั้ง ๓ เล่ม และ กระทู้ต่างๆ บันทึกที่เขียนใน facebook แล้ว จะเชื่อตามหรอกนะครับ
<O</O
และจากข้อความของท่าน Siritach ที่ว่า ... ผมรู้เรื่อง นาย แจ๊ค มาเยอะเลยนะครับ อยู่อยากจะ ทำอะไรก็ทำไปคนเดียว อย่าทำให้พระพุทธศาสนา ต้องหม่นหมอง พระเกจิ อาจารย์ ที่นับถือ ของชาวพุทธ หลายๆ รูป ท่าก็ไป แสวง บุญที่ อินเดียกันทั้ง นั้น

หรือ นาย แจ๊ค จะบอกว่าตัวเองมีความรู้มากกว่า พระเกจิอาจารย์ ผู้บรรลุ ญาณ

ผม ก็ต้อง ขอตอบตรงนี้ว่า ผมไม่คิดว่าผมมีความรู้มากกว่า พระเกจิอาจารย์ ผู้บรรลุญาณ เพราะ ผมก็ใช้วิธีค้น ตามแบบที่คนทั่วๆ ไป จะสามารถรับรู้ และเห็นได้ ด้วยตัวเอง แบบที่คนตาดี หูดี สามารถรับรู้ได้ และระลึกอยู่เสมอว่า เรายังมีความดีน้อยอยู่ มีบารมีน้อยอยู่ จึงไม่มีสานุศิษย์ ไม่มีหมู่คณะใหญ่โต เหมือนดัง หลายสำนัก หลายครูบาอาจารย์ ซึ่งท่านทั้งหลาย ก็คงจะได้สั่งสมบุญ และบารมี มามาก จึงมีบริวารมีหมู่คณะมากมาย ผมจึงได้เจียมตัว ทำตามเท่าที่กำลังตัวเองจะทำได้ ทำแม้จะต้องทำเพียงคนเดียว สมดังชื่อ “เอกอิสโร” ครับ ทำแม้ว่า จะถูกเย้ยเหยาะถากถาง ไม่ใช่แต่ท่าน Siritach ดอก แม้แต่ครูบาอาจารย์ ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย อย่างหลวงพ่อสนอง กตปุญโญ ที่นำพาคณะญาติโยม ไปแสวงบุญที่อินเดีย เนปาล มาไม่รู้กี่เที่ยวแล้ว ท่านก็ พูดกับผมแรงๆ ในวันที่ไปสนทนากันว่า “แฟนโยมเขาคงจะเชื่อโยมนั่นหล่ะ เขาไม่เชื่ออาตมาหรอก ถ้าสิ่งที่โยมพูดเป็นเรื่องจริง ก็แสดงว่าพระทั้งประเทศไทยโง่ทั้งหมด” ซึ่ง ผมก็ได้แต่นั่งฟัง ทั้งไม่ได้รู้สึกโกรธท่านเลย ตลอดระยะเวลาเกือบ ๒ ชั่วโมง ที่สนทนากัน
<O</O
<O</O
จึงขอตอบไว้แต่เพียงนี้ครับ...และขอให้อดทนรอคอยอีกไม่นานเกินรอครับ เรื่องที่ผมพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่?<O</O

 

ไม่มีใครออกมายืนยันเรื่องนี้จริงๆสักคนครับ ลองหาหลักฐานมาดูสิครับ
คุณจะพบคำนี้อยู่ทั้งหมดในพุทธสถาน ทั้งนักโบราณคดี ทั้งผู้ค้นพบ ทั้งเจ้าของประเทศ
แถมพระถังซำจั๋งด้วย คุณอ่านดีๆจะพบกับคำว่า
1.สันนิษฐานว่า
2.คาดว่า
3.สงสัยจะ
4.น่าจะ
5.เป็นไปได้ที่จะ
6.คงจะเป็น
7.เล่ากันว่า
8.เรียกกันว่า

พวกคุณคิดว่าเขาแน่ใจกี่เปอร์เซนต์ครับถึงพูดแบบนี้

ที่ว่าจีนยังเชื่อ ผมว่าคุณต้องไปศึกษาใหม่อีก นักโบราณคดีจีนยังพากันออกค้นหาแดน

พุทธภูมิที่จีน ส่วนพระถังนั้นคุณไปดูว่าประเทศจีนเขาจัดไว้หมวดไหน เขาจัดไว้ในกลุ่มนัก

เขียน งานเขียนที่มีชื่อเสียงคือไซอิ๋วครับ การเดินทางของท่านเป็นการออกไปหาข้อมูล

เขียนหนังสือต่างหาก คนจีนเขาก็มอง 8 ข้อข้างต้นเหมือนกัน

ขออภัยที่ข้อความนี้อาจไม่เป็นที่พอใจของท่านที่ไม่เห็นด้วย

แต่คนที่คิดและทำค้นหาแม้ผิดหรือถูกก็ยังชื่อว่าได้ทำ ดีกว่าคนที่ไม่ทำและมัวแต่วิจาร

เหมือนนักวิชาการที่วิจารการทำงานที่ภาคใต้ แต่พอเขาให้ไปกลับหัวหด อย่างนี้เรียกอะไร

 

ท่าน OLDMAN รู้ข้อมูลอะไรมาก็บอกผมด้วยนะครับ
เพราะที่ผมไปช้า เพราะผมเพิ่งเกิดครับ เมื่อปี ๒๕๑๓<!-- google_ad_section_end -->

ตอบ

...ผม รู้ข้อมูลที่คุณต้องการ ก็ จริง แต่ บอกคุณ และ ใครๆ ไม่ได้...ขนาดภาพถ่ายดิจิตอลของผม ยังเลือนหายไปได้...เอาเป็นว่า เรื่องราวเหล่านี้...ใครไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีทางได้รู้ และ ผม คิดว่า อย่างไรเสีย ก็ ยังไม่สมควรแก่เวลา ที่ คนทั่วไป ควรได้รู้...เอ้อ...ของแบบนี้ มันต้อง ล้างน้ำกันให้สะอาดใส เสียก่อน แล้ว จึง ตั้งหมากกระดานใหม่...ข้อมูลของคุณ จะถูกใช้ ประโยชน์ ต่อไป ในอนาคตเบื้องหน้า...หากรักที่จะ เดินหน้าต่อ ก็ ทำไปได้ครับ เพราะ คุณ เลือกแบบนี้...ไม่เสียหายกระไร....

เพราะผมเพิ่งเกิดครับ เมื่อปี ๒๕๑๓<!-- google_ad_section_end -->
...นี่ไม่ใช่ ปัญหาครับ...หาก คุณมีสิทธิ์ ที่จะรู้ อย่างไร คุณ ก็ ต้องได้รู้...

..จะเห็นว่า ความเห็นของผม ไม่มีคำว่า อาจจะ, บางที...หรือ การคาดเดาใดๆ ทั้งสิ้น...หวังว่า คงถูกใจ คนบางคน...

 

คุณเอก

ผมว่าถ้าอ้างถึงพระไตรปิฎกกับตำนานพื้นบ้านและความเชื่อที่สืบทอดกันมา
ผมสันนิษฐานเอาเองว่าน่าจะอยู่แถวเชียงใหม่ครับ
ถ้ำสัตตบรรณคูหาอยู่ที่เวภารบรรพตใช่ไหมครับ
ที่เชียงใหม่ก็มีเวภารบรรพตนี่ครับ ผมเคยไปมาแต่ก็ไม่ได้มีเวลามากพอที่จะได้สอบถามคนแถวนั้นเพื่อหาถ้ำดังกล่าว

 

ขอบคุณนะครับ คุณ ek9700 ที่ให้ข้อมูลมา
เขาเวภาระ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาท ๔ รอย
น่าจะเป็นชื่อที่ตั้งใหม่ คำว่าใหม่ ก็นับเป็นพันปีนั่นกระมัง

เขาเวภาระ เป็น ๑ ใน ๕ เขา ที่ล้อมรอบ กรุงราชคฤห์
จึงต้อง สัมพันธ์กับเมือง "ราชคฤห์"
คุณ ek9700 ลอง ดู ความสัมพันธ์ ที่ผม ใช้กำหนด
"ราชคฤห์" ในกระทู้นี้ นะครับ





http://palungjit.org/threads/ถ้าสาวัตถีอยู่พม่า-กุสินาราอยู่ประเทศไทย-แล้วราชคฤห์อยู่ที่ไหน.260479/

 

ความเห็น

..ระยะเวลา ไม่ถึง ๗๐๐ ปี อักขระไทยปัจจุบัน กับ อักขระบน ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ต่างกันได้เพียงไร...คน ปัจจุบันอ่าน ศิลาจารึกได้ตลอดหรือไม่...

..เรื่องภาษานี้ คงใช้เป็นข้อสนับสนุนความเห็นได้ยากอยู่ เคยทราบว่า ที่ พระพุทธองค์ ทรงบัญญัติให้ใช้ ภาษาบาลี เพราะ ภาษานี้ ไม่ค่อยเพี้ยน เมื่อเวลาผ่านไป...

..เดิมที ...ดินแดนแถบสุวรรณภูมิ ใช้ อักขระขอม หรือตัวขอม เป็นอักขระโบราณ ที่ กำเนิดจาก กสิณ จึงเป็นที่มาของ ไสยเวทย์ต่างๆ และ ต่อมาใช้เป็นต้นแบบภาษามอญ ในยุคนั้น ยังไม่มีชาติพม่า...มอญเป็นใหญ่ในสุวรรณภูมิ...

ตัวขอมโบราณ กับ ตัวหนังสือ ของ กัมพูชา ไม่เหมือนกัน แต่ มีส่วนคล้ายกันครับ

ที่ว่า...สงสัย ถี่ลอดตากรรมการ[/QUOTE]

...ก็ยัง ไม่ถือว่าลอดตากรรมการหรอกนะ...เห็นว่า ไม่มีกรรมการตัวจริง มาตอบให้ทราบ เลย ขอ เป็นกรรมการจำเป็นสักครั้ง...ไม่ว่ากันนะครับ...ไปล่ะ

 

อนุโมธนาทุกท่านที่มีใจศรัทธาต่อพุทธศาสนา

สวัสดีทุกท่าน ข้าพเจ้าเป็นสมาชิกใหม่ ขออนุญาตออกความเห็นสักเล็กน้อย

เมื่อคืนนี้ข้าพเจ้านั่งสมาธิ และรู้สึกถึงความสงบ
เลยระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า ว่าสักวันจะไปสักการะสังเวชนียสถาน
และคิดเลยไปว่า จะมีโอกาสหรือไม่เพราะต้องเก็บเงินเท่าไหร่ถึง
จะเพียงพอไปถึงประเทศอินเดีย ด้วยแรงศรัทธาและความรู้ที่มีอยู่
ก็ยังคิดว่าพระพุทธเจ้า ต้องประสูติ ตลอดจนปรินิพพานขึ้นที่อินเดีย

เมื่อได้เข้ามาที่นี่เห็นคุณเอกอิสโร ได้ตั้งข้อสังเกตและอ้างสถานที่จาก
พระไตรปิฏก ว่ามันคลาดเคลื่อนไม่ตรงตามนั้น

ก็เลยหยุดคิดว่า เรื่องบางเรื่องถ้าเราได้ฟังสืบต่อกันมา
เรื่องนั้นอาจจะจริงบ้างหรือแต่งบ้าง นั่นก็อยู่ที่การพิสูจน์

คห.ข้างบนได้ยกคำกล่าวของพระพุทธเจ้าว่าในอนาคตจะมี
ผู้บิดเบือน สถานที่ต่างๆ

นั่นอาจหมายถึงคนในประเทศอินเดียหรือคนไทยเราก็ได้
(นั่นเพราะว่าสถานที่ในปัจจุบันยังไม่สอดคล้องกับในพระไตรปิฏก)

ท้ายที่สุด เราจะต้องยึดหลักความจริง ควรยึดถือพระไตรปิฏกเป็นสำคัญ

ข้าพเจ้าหวังเล็กๆในใจ และคงจะดีใจมาก ทว่าพระพุทธเจ้าประสูติจนกระทั่ง
ปรินิพพานในประเทศไทย

ส่วนเรื่องความเห็นแย้งกันนั้น ควรมองเจตนารมณ์ของคุณเอกอิสโร
ว่าเค้าทำเพื่ออะไร ทำลาย หรือเพื่อให้ความจริงปรากฏ
แล้วค่อยมาโต้แย้งกันในประเด็นนั้นๆ จึงจะถือว่าเป็นประโยชน์

ข้าพเจ้าด้วยความรู้ที่มีตอนนี้ จะขอเชื่อในสิ่งที่ตนเรียนรู้มาก่อน
ครั้นเมื่อมีข้อพิสูจน์ทั้งหลายหักล้างในความคิดดั้งเดิม ข้าพเจ้าก็พร้อม
ที่จะเปลี่ยนแปลงแนวความคิดซะใหม่ให้มันถูกต้อง

สุดท้ายนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณเอกอิสโร ด้วยอีกคน
(จากผู้ที่ศรัทธาในพุทธศาสนา)