*เครื่องรางของขลัง/วัตถุมงคล...รายการละ 100 บ./พร้อมส่ง บูชา 3 รายการ แถม 1 รายการ...

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 4 มิถุนายน 2018.

  1. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่397 พระผงจักรพรรดิ์ พิมพ์หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ จ.เชียงใหม่
    IMG_20181012_232909.jpg
    IMG_20181012_232900.jpg IMG_20181012_232937.jpg
     
  2. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่398 พระผงรูปเหมือนหลวงพ่ออุทัย ศรีมฤคทายวัน รุ่นธรรมจักษ์ เนื้อผงผสมแร่เขาเขียว หลวงพ่ออุทัย วัดศรีมฤคทายวัน(เกาะตาพุด) ราชบุรีคุณpasit_okปิดครับ
    ประวัติหลวงพ่ออุทัย วัดเกาะตาพุด
    ไปเห็นหลวงพ่อองค์หนึ่ง ท่านตาบอดทั้งสองข้าง พรมน้ำมนต์อย่างเดียวอยู่ในโบสถ์หลังเล็กๆ แขกก็ไปหากันทุกวัน มีทั้งคนในจังหวัด ต่างจังหวัด และคนกรุงเทพฯ มากมาย เว้นเฉพาะวันพระเท่านั้นท่านจะหยุดไม่พรมน้ำมนต์ให้ใครผมคิด พรมน้ำมนต์อย่างเดียวจะได้อะไร จึงไม่ค่อยได้สนใจท่านกระนั้นก็ตาม นานๆ ก็แวะเวียนไปวัดท่านที ไปทีไรก็เห็นรถ เห็นคนมากันมากๆ ทุกครั้ง เพื่อให้ท่านประพรมน้ำมนต์ให้ ตาก็มองไปเห็นศาลาหลังใหญ่ หลังเล็ก โรงเรียน ป้อมตำรวจ ฯลฯ ผุดขึ้นมาบนผืนดินบริเวณวัด 35 ไร่สิ่งก่อสร้างทั้งหมด 200 กว่าล้าน เงินน้ำมนต์อย่างเดียว!เฉพาะศาลาหลังใหญ่หน้าวัด เงินสร้าง 70 ล้าน รูปศาลาสวยสดงดงามมาก ศาลาหลังเล็ก 5 ล้าน อาคารโรงเรียนประถมศึกษา ตึก 3 ชั้น 20 ล้านเศษ นอกจากสร้างที่วัดแล้ว ยังไปสร้างที่อื่นอีก เช่นวัดทุ่งตาลับ ต.หนองพันจันทร์ อ.บ้านคา 10 ล้านสร้างอาคารทหารพราน 1 ล้าน 5 แสนบาท กองร้อยทหารพรานตั้งแต่จังหวัดตากถึงประจวบคีรีขันธ์ 9 กองร้อย ได้บริจาควิทยุสื่อสารให้ทุกกองร้อย แถมโรงพักเขาดินให้ด้วย ฯลฯ"ที่สร้างอย่างนี้เพราะนึกถึงครูอาจารย์ อยากจะตอบแทนบุญคุณท่าน" หลวงพ่อเล่าออกจากราชบุรีไปทางเขางู เลี้ยวขวาขึ้นไป ผ่านวัดหนองหอย ผ่านวัดธรรมเสน (แก้วฟ้า) แล้วมองทางซ้ายมือจะเห็นประตูใหญ่มากกำลังสร้างอยู่ข้างทาง ตรงนี้มีป้ายบอกทางไปวัดศรีมฤคทายวัน (วัดเกาะตาพุด) ระยะทาง 7 กม.เท่านั้น ถ้าจะเข้ามาทางอำเภอโพธารามก็ได้ ต้องผ่านวัดเขาช่องพรานและวัดนางแก้ว จึงจะถึงประตูใหญ่พระปลัดสุมิตร สมจิตฺโต นักธรรมเอก อายุ 37 ปี เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีมฤคทายวัน (วัดเกาะตาพุด) ต.ธรรมเสน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งหลวงพ่อม่วง นาคเสโน วัดยางงาม อ.ปากท่อ พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่ง ส่งศิษย์ท่านมาให้หลวงพ่ออุทัย หรือพระครูสังฆรักษ์อุทัย ปภงฺกโร เป็นผู้ประพรมน้ำมนต์อยู่ในโบสถ์เดิมชื่อนายอุทัย ดอกเกตุ เกิดที่ ต.บ้านใหม่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี บิดานายทัพ มารดานางแสง อาชีพทำนา มีลูกทั้งหมด 6 คน หลวงพ่ออุทัยเป็นบุตรคนที่ 2 ปัจจุบันพี่น้องเสียชีวิตหมดเมื่ออายุได้ 6 ขวบ เด็กชายอุทัย ดอกเกตุ เกิดเป็นโรคขึ้นที่ตาเรียกว่า ตาเกล็ดกระดี่ พิษของโรคทำให้ตาบอดทั้งสองข้าง แต่ยังพอมองเห็นแสงเดือน แสงไฟ ฟ้าแลบเห็น แต่หน้าคนมองไม่เห็น พออายุได้ 18 ปีไม่เห็นเลยไม่ได้เรียนหนังสือ พ่อแม่แยกทางกันเดิน พ่อก็มาอยู่ที่หมู่บ้านทุ่งแฝก ต.ด่านทับ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ตอนนั้นอายุประมาณ 16 ปีหลวงพ่อแทน ธมฺมโชติ พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่ง เป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมเสน เข้าป่าไปหาไม้หาเสาจะมาสร้างวัด มาเจอเข้าโยมพ่อเลยยกให้เป็นลูก หลวงพ่อแทนเอามาฝากไว้ที่สำนักสงฆ์เกาะตาพุดเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฟุ้งอยู่ 1 ปี เมื่อ พ.ศ. 2495 อายุ 18 ปีกลับไปอยู่กับพี่สาวที่ทุ่งแฝกอีก 1 ปี พออายุครบบวชหลวงพ่อแทนสั่งให้คนไปบอก หลวงพ่อให้ไปบวชที่วัดธรรมเสน ปี 2497 เหลืออีก 10 วันเข้าพรรษา"ได้ยินชื่อวัดธรรมเสน ทำให้อยากอยู่ เพราะชอบคำว่า "ธรรมะ" จึงอยากอยู่" หลวงพ่ออุทัยเล่าบวชวัดธรรมเสน บวชเสร็จไปอยู่ที่เกาะตาพุดเลย หลวงพ่อแทนเห็นว่า ถ้าอยู่ที่วัดนี้อาจจมน้ำตายได้ เพราะรอบๆ วัดเต็มไปด้วยน้ำทั้งนั้น ท่วมทุ่งท่วมท่าไปหมด การไปมาต้องใช้เรือพายตลอดพระอุทัยเป็นพระตาบอดทั้ง 2 ข้างมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้น การเรียนหนังสือจึงใช้วิธีต่อเอาจากหลวงพ่อฟุ้งและจากพระด้วยกัน ด้วยความพยายามและหมั่นเพียร ชั่วพรรษาแรกก็จบเจ็ดตำนานธรรมจักรและโพชฌงค์ พรรษาที่ 2 ได้ปาฏิโมกข์ พรรษาที่ 3 สวดปาฏิโมกข์ได้สำนักสงฆ์เกาะตาพุด หลวงพ่อแทนเป็นผู้สร้างขึ้นมา ตอนนั้นยังเป็นป่าอยู่ ไม่มีถนน การเดินทางลำบาก พลโทกาศปัณฑิตย์ เจ้ากรมการทหารช่างราชบุรีสมัยนั้น ท่านเคารพนับถือหลวงพ่อแทนมาก เพราะเป็นพระมีชื่อเสียงรูปหนึ่ง ท่านจึงให้ทหารช่างมาช่วยทำถนนไปสำนักสงฆ์เกาะตาพุด ชาวบ้านเลยเรียกขานถนนเส้นนี้ว่า "ถนนกาศปัณฑิตย์"สำนักสงฆ์เกาะตาพุดมาเป็นวัดศรีมฤคทายวัน เมื่อ พ.ศ. 2506 เจ้าอาวาสคือพระครูฟุ้ง นายโก ที่สวดอยู่ทุกวันนี้ก็ใช้บทสวดมนต์ของท่านอาจารย์ฟุ้งคาถาคงกระพัน เรียนมาจากหลวงพ่อแทน ส่วนเมตตามหานิยมได้จากหลวงพ่อป่อง อาภัสสโร วัดนางแก้วผมขับรถไปที่วัดเกาะตาพุด เป็นชื่อวัดที่ชาวบ้านเรียกกัน คุยกับเถ้าแก่ฝา ชื่อจริงนายบุญพร้อม ตันหราพันธุ อายุ 61 ปี บ้านอยู่หนองกวาง อาชีพทำไร่อ้อย มีที่ดินเป็นพันไร่ มาหาหลวงพ่อ 9 ปีแล้ว พรมน้ำมนต์ของหลวงพ่อแล้วทำให้ธุรกิจดีขึ้น สุขภาพกาย สุขภาพใจดี มีความสุขออกจากบ้านตี 5 ขับรถไปจอมบึง ซื้ออาหารมาถวายท่านหลวงพ่อเป็นประจำทุกวัน มาช่วยท่านด้วยใจ กลับบ้านตอนปิดโบสถ์แล้ว เป็นศิษย์ก้นกุฏิคนหนึ่งหลวงพ่ออุทัยเล่า นายสมเกียรติ แสงวนิช นายกเทศมนตรี จ.สมุทรสงคราม นายกฯ 3 สมัย มาหาหลวงพ่อตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นนายกฯ ตอนนั้นทำธุรกิจอยู่เต็มตัว มาหาหลวงพ่อ 15 ปีได้ เป็นผ้าป่าบ้าง กฐินบ้าง มาช่วยหลวงพ่อเสมอมาคุณชยกร วิริยาวัฒน์ อยู่จอมทอง บางขุนเทียน กทม. เล่าว่า ผมทำโรงงานโรงกลึงลุ่มๆ ดอนๆ ผมมาพึ่งหลวงปู่ ได้รังต่อไป 1 รังไปบูชา กิจการผมดีขึ้น ได้รถได้บ้าน ลูกได้เรียนดีหลวงพ่ออุทัย ปภงฺกโร ยังมีเหรียญและพระบูชา ท่านพูดกับผมว่า ใครอยากได้เหรียญรูปท่านเหรียญละ 100 บาทเท่านั้น จะนำเงินส่วนนี้ไปสร้างสาธารณประโยชน์ให้แก่สังคมได้อีกน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน ต้องไปวัดเกาะตาพุดครับ.ประวิทย์ จำปาทองหลวงพ่ออุทัย ปภงฺกโร | ไทยโพสต์
    IMG_20181012_232832.jpg IMG_20181012_232822.jpg 620460_417244115017787_1473753842_o.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2018
  3. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่399 หวายลูกนิมิตพันสายสิญจน์ ดีทางมหาอุด แคล้วคลาด + พระผง วัดหิมวันบรรพต ตาเมียง พนมดงรัก สุรินทร์
    ลูกนิมิต ก่อนที่จะมีการลงรากก่อสร้างพระอุโบสถของวัดในพระพุทธศาสนา ทางวัดจะจัดให้มีพิธีฝังลูกนิมิต ลูกนิมิตลักษณะเป็นลูกหิน แต่งเป็นลูกกลมใหญ่คล้ายลูกปืนโบราณ มีจำนวน 8 ลูก ลูกละทิศ เพราะมีคติถือว่าทิศทั้ง 8 นั้น มีพระอรหันต์เจ้าประจำอยู่ทุกทิศดังนี้คือ

    1. ทิศบูรพา พระโกณฑัญญะ เป็นอรหันต์ประจำทิศ
    2. ทิศอาคเนย์ พระมหากัสสป เป็นอรหันต์ประจำทิศ
    3. ทิศทักษิณ พระสารีบุตร เป็นอรหันต์ประจำทิศ
    4. ทิศหรดี พระอุบาลี เป็นอรหันต์ประจำทิศ
    5. ทิศประจิม พระอานนท์ เป็นอรหันต์ประจำทิศ
    6. ทิศพายัพ พระควัมปติ เป็นอรหันต์ประจำทิศ
    7. ทิศอุดร พระโมคคัลลานะ เป็นอรหันต์ประจำทิศ
    8. ทิศอีสาน พระราหุล เป็นอรหันต์ประจำทิศ

    เมื่อตบแต่งลูกนิมิตแล้ว เขาจะนำลูกนิมิตนั้นไปวางไว้ตามปากหลุมประจำทิศ แต่ละทิศให้สัปบุรุษมีโอกาสได้บำเพ็ญกุศลปิดทองลูกนิมิตบูชาไหว้กราบพระอรหันต์แต่ละองค์ ๆ ไปจนครบ 8 องค์ ลูกนิมิตที่นำมาให้ปิดทองนี้วางไว้บนสาแหรกหวายเพื่อเวลาฝังจะได้ใช้หย่อยลงไปในหลุมได้สะดวก ภายในหลุมทำเป็นถุงผ้าใบใหญ่สวมหลุมเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อรองรับอัฏฐบริขารที่ผู้ศรัทธาจะบริจาคหย่อนลงไปในหลุมนั้น

    ของเหล่านี้บางอย่างทางวัดก็จัดไว้จำหน่ายให้เพื่อความสะดวกของผู้ที่จะบริจาค อาทิ เข็ม ด้าย สมุด ดินสอ ผ้าอาบ ฯลฯ เมื่อเสร็จพิธีฝังลูกนิมิตแล้ว สิ่งของที่สัปบุรุษบริจาคไว้ตามหลุมเขาก็นำไปถวายพระต่อไป

    หวายลูกนิมิต

    ซึ่งพุทธคุณด้านมหาอุด คงกระพัน หนังเหนียว ถือคติในลักษณะของ หวาย นั้นมีความเหนียว คงทน จึงนิยมใช้ในอานุภาพของความเหนียว คงกระพัน มหาอุด คนในสมัยก่อนนิยมพกติดตัวหรือเลี่ยมห้อยคอบูชา เพราะถือว่าหวายลูกนิมิตเป็นของหายาก เนื่องจากในแต่ละวัดก็จะมีพิธีตัดลูกนิมิตเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
    อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันหวายลูกนิมิตที่ผ่านพิธีกรรมจากการตัดลูกนิมิตจากการสร้างพระอุโบสถในวัดต่างๆ นั้นก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่า หวายลูกนิมิตมีความเป็นมงคลแก่ตนเองและครอบครัว หลายคนนำมาพกติดตัว หรือบูชาไว้บนหิ้งพระ หรือนำมาเลี่ยมเป็นตะกรุดห้อยคอ โดยพุทธคุณหลักๆคือ มหาอุด หนังเหนียว คงกระพัน แคล้วคลาด และเกิดความเป็นมงคลแก่ผู้บูชาในทุกๆด้าน
    IMG_20181012_232640.jpg IMG_20181012_232623.jpg IMG_20181012_232700.jpg IMG_20181012_232651.jpg IMG_20181012_232712.jpg 458566325.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2018
  4. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่400 ผ้ายันต์แดงมหามงคล คุ้มชะตา เสริมบารมี สร้างจากผ้าแดงห่มองค์พระบรมสารีริกธาตุ พระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) วัดสระเกศ กรุงเทพ ขนาด 7x7 นิ้ว
    มี 3 ผืน บูชาผืนละ 150 บาทครับ
    ผ้ายันต์แดงมหามงคง ณ ภูเขาทองวัดสระเกศฯ กรุงเทพฯ
    พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุแห่งบรมบรรพตภูเขาทอง โดยการอัญเชิญผ้าแดง ขึ้นห่มองค์บรมบรรพตเป็นเวลา ๑๐ วัน เป็นพิธีโบราณที่เริ่มในสมัยรัชกาลที่ ๕ เชื่อกันว่า การประกอบพิธีดังกล่าวจะช่วยให้เกิดความเป็นสิริมงคลและสงบร่มเย็นแก่ประเทศชาติบ้านเมือง โดยพุทธศาสนิกชนร่วมขบวนอัญเชิญผ้าแดงยาว ๓ กิโลเมตรไปตามถนนและอัญเชิญขึ้นสู่บรมบรรพตภูเขาทอง ผ้าแดงที่ผูกติดกันเป็นสายยาวให้คนจับเป็นแนวยาวเดินวนขวาไปรอบองค์พระเจดีย์ ภูเขาทอง เปรียบเสมือนจีวรของพระพุทธเจ้า การได้จับผ้าแดงขึ้นไปห่มองค์พระเจดีย์ซึ่งมี พระบรมสารีริกธาตุอยู่ข้างใน จึงเหมือนกับการได้ถวายจีวรแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    E10214086-7.jpg y1.jpg IMG_20181012_233900.jpg

    ผืนที่1. IMG_20181012_233942.jpg คุณกันทิมา@บุญ ปิดครับ
    ผืนที่2. IMG_20181012_233930.jpg
    ผืนที่3. IMG_20181012_233919.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2018
  5. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ////สวัสดีครับ ขอแจ้งการบูชาครบ 1000 บาท/////
    แถม พระหลวงปู่ทวด เนื้อว่านจำปาศักดิ์ 1 องค์ครับ**** ปิดครับ

    การทำพระว่านจำปาสัก มีความเเตกต่างจากพระว่านทางภาคกลาง ที่เน้นเป็นมวลสารศักดิสิทธิ์ (จะเห็นมวลสารว่านเป็นแค่ผงละเอียดๆ) เพราะพระว่านจำปาสัก นอกจากจะพก เป็นของขลัง เป็นพุทธบูชาแล้ว ยังมีลักษณะที่เก็บไว้ใช้เหมือนยาแท่ง จึงไม่แปลกอะไร ที่เราจะเห็นพระว่านจำปาสัก มีรอยบิ่น จากการฝน การหักกิน การหักต้มกิน ฝนทา เป็นยาสารพัดแก้ พระว่านจำปาสักก็คือ "พระว่านจากเมืองจำปาสัก" นั่นเอง เพราะแรกพบ (การค้นพบที่เป็นข่าว) คือพบที่เมืองจำปาสัก ประเทศลาว พระว่านจำปาสัก เข้ามาปรากฎในเมืองไทยสามละลอกใหญ่ คือ ๑. ตอนสงครามอินโดจีน ๒. อีกครั้งที่เป็นข่าวครึกโครม รวมถึงปรากฎในหน้าหนังสือพระเครื่องคือ คราว ที่ "เจ้าคุณพระธรรมไตรโลกาจารย์" ท่านตะเวณประเทศลาว และขนเข้ามาเป็นกระสอบ เอามาตากที่ลานวัดศรีเมือง ผู้ที่ไปเอามาพร้อมกับท่านเล่าว่าไปได้ในถ้ำภูเขาควาย ตอนนั้นพบพระบุทอง ด้วย แต่ท่านเจ้าคุณมิได้สนใจ ๓. ยุคที่พระว่านทะลักเข้ามาเยอะที่สุดคือ ยุค "ลาวแตก" คนลาวอพยพ ก็หอบหิ้วของดีของตนข้ามมา หลายอย่างที่คนอพยพนำติดตัวมา เครื่องลางลาว นับว่าพิศดารและน่าชมมาก พระว่านจำปาสัก ในปัจจุบัน ยังเป็นของดีที่คนละเลย แม้ว่าจะเป็นพระกรุโบราณอายุร้อยปีขึ้นไป จะมีราคาสูงหน่อยในพื้นที่ อำเภอธาตุพนม เนื่องจาก ใครมีพระ ก็ยัดกรุเป็นพระว่านจากองค์พระธาตุเสียหมด แม้กรุในอยุธยาก็ยังพบพระว่านในลักษณะนี้ที่มีราคาจะเป็นพวก "พระว่านหน้าทอง" เอกลักษณะของพระว่านจำปาสักก็คือ - พระว่านจะมีลักษณะบิดเบี้ยว เพราะการแห้งตัวของว่าน - พระว่านจะมีหลายขนาด ขนาดใหญ่เป็นฝ่ามือก็มี - พุทธลักษณะส่วนมากเป็นแบบเชียงรุ้ง - มักเป็นรูปสามเหลี่ยมกรวย พระว่านจำแนกตามเนื้อได้สองแบบคือ ๑.พระว่านเนื้อแก่ครั่ง บางทีเรียกพระขี้ครั่ง พระแบบนี้มีเสน่ห์ตรง เวลาส่องเข้ากล้องจะเห็นเป็นสีแดงสวย เหมือนเกล็ดปลาช่อนอะเมซอน ๒ พระแก่ว่าน หรือเป็นเนื้อว่านร้อยเปอร์เซนต์ มักเป็นสีน้ำตาล ถ้าเจอสีแดงนับว่าเป็นเอก ได้สีเหลืองงามนักมักเจอทางภาคเหนือ
    “พระว่านจำปาศักดิ์” มีความเชื่อสืบทอดกันมาว่า โดดเด่นทางด้านมหาอำนาจ มหาอุตม์ แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เมตตา โชคลาภเงินทอง วาสนา หนุนดวง และป้องกันภัยพิบัติต่างๆ ได้ทั้งปวง ตามตำราพิชัยสงครามระบุว่า “ว่าน” เป็น สุดยอดแห่งความมหาอำนาจ คงกระพันชาตรี มหาเสน่ห์ โดยธรรมชาติ นักรบไทยสมัยโบราณ นิยมอาบน้ำว่าน เคี้ยวว่าน หรือ นำว่านมาสอดใส่ในผ้าประเจียดแล้วนำมารัดแขน ก่อนออกศึกทำสงคราม นักเลงโบราณรุ่นคุณปู่ คุณตา จะพกพา “พระเนื้อว่านจำปาศักดิ์” ติดตัวเสมอ มีเรื่องเล่าขานเป็นตำนานว่า พระคู่กายของชายชาตรี เห็นที่จะไม่พ้น “พระว่านจำปาศักดิ์” ในสมัยโบราณ มวลสารส่วนมากจะประกอบไปด้วย “มหาว่านต่างๆ” เช่น
    มหาว่านทางด้านมหาอำนาจ 108 ชนิด
    มหาว่านทางด้านคงกะพันชาตรี 108 ชนิด
    มหาว่านทางด้านแคล้วคลาด 108 ชนิด
    มหาว่านทางด้านเมตตา มหาเสน่ห์108 ชนิด และ
    มหาว่านทางด้านโชคลาภเงินทอง หนุนดวง หนุนชีวิตต่างๆ อีกอย่างละ 108 ชนิด ฯลฯ เป็นต้น
    รวมแล้วประมาณ 90 %ส่วนอีก 10 % จะใช้ “ครั่ง” เป็นตัวประสานเนื้อขององค์พระ เนื้อขององค์พระเมื่อแห้งเก่า จะมีน้ำหนักเบามาก
    IMG_20180824_210035.jpg IMG_20180824_210023.jpg IMG_20180425_210346.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2018
  6. pe16009

    pe16009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +1,070
    ปิด 394, 396
     
  7. pasit_99

    pasit_99 การเวียนว่ายตายเกิดนั้นน่ากลัว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,673
    ค่าพลัง:
    +3,464
    ปิด 350,391,398 ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2018
  8. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการปิดครับ
     
  9. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการปิดครับ มีรายการแถม 1 รายการ เลือกแล้วรบกวนแจ้งด้วยครับ ขอบคุณครับ
     
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ////สวัสดีครับ ขอแจ้งการบูชาครบ 1500 บาท/////
    แถม...... สมเด็จพระปรมัตถ์พิมพ์ AA หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว สร้างจากมวลสารเดียวกับดาวแม่เนื้อหอม ......1 องค์ครับ**** ปิดครับ

    สมเด็จพระปรมัตถ์พิมพ์ AA นี้เป็นพระที่หลวงพ่อผินะ
    ใช้รักษาโรคภัยต่างๆ ที่ลูกศิษย์ไปหาหมอ แล้วหมอรักษาเท่าไหล่ก็ไม่หาย หลวงพ่อผินะจะใช้พิมพ์นี้ ห่อไว้กับผ้าเช็ดหน้า แล้วตบเบาๆ ที่หัวไหล่ และหลังของคนนั้นค่ะ.....ท่านใช้ปัดพวกโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงขจัดปัดเป่า เสนียจจัญไร สิ่งที่ไม่ ดีภูต ผีวิญญาณร้าย คุณไสย์ ลมเพ ลมพัดต่างๆ
    พระพิมพ์นี้ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธเจ้า ปางมหาจักรพรรดิ์ตอนปราบท้าวชมพูบดี ข้าง ๆ เป็นตัวหนังสือ A-A ด้าน หลังเป็นพระปางมารวิชัย ข้าง ๆ เป็นตัวหนังสือ A-A ท่านบอกกับศิษย์ท่านว่า ท่านสร้างไว้ทิ้งเป็นมรดกไว้ แก่ศิษย์ทั้งหลาย ใครมีไว้ ไม่มีวันตก เก็บรักษาไว้ดีๆ เพราะวันนึงเจ้าทั้งหลายอาจไม่มีโอกาสได้เห็นอีก
    พระปรมัตถ์หรือสมเด็จพระยาปารมัตถ์ พระพิมพ์นี้มีสองพิมพ์ พิมพ์ที่หนึ่งท่านทำเหมือนพิมพ์พระสูตร แต่ขนาดเล็กเท่าองคุลีสุดท้ายของข้อปลายนิ้วก้อย ด้านหน้าเหมือนพระสูตร แต่ด้านหลังเป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑส่วนอีกแบบจะเป็นรูปพระสังกัจจายน์ มีสองเนื้อคือสีดำเนื้อผงใบลาน อีกเนื้อสีน้ำตาลเป็นเนื้อดิน ส่วนอีกพิมพ์เป็นพิมพ์ที่สององค์ใหญ่ เราเรียกว่า A – A ด้านหน้าเป็นรูปพระปางปราบท้าวชมพูบดีข้างๆเป็นตัวหนังสือ A – A ด้านหลังเป็นปางมารวิชัยข้างๆมีตัวหนังสือ A – A พระปรมัตนี้หลวงพ่อผินะท่านนำมาห่อกับผ้าเช็ดหน้าแล้วม้วน เอาไว้ตีไล่ไข้ไล่โรค ปัดโรคภัยต่างๆ รวมไปถึงไล่คุณไสยศาสตร์ ขับผีสิงกันผีพลายเสนียดจัญไรทั้งหลาย และยังมีทางเมตตาเป็นหลักอีกด้วย พระรุ่นนี้หลวงพ่อบอกว่าใช้ได้ทั้งชายและหญิง แต่ไม่ควรยืมกันใช้เช่นกัน
    IMG_20180821_214002.jpg IMG_20180821_213949.jpg get_auc3_img (2).jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2018
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่401 พระผงหลวงพ่อน้อย (( หน้าเสือ + คอน้ำเต้า )) หลวงพ่อสมศักดิ์ วัดธรรมศาลา จ.นครปฐม(ศิษย์เอกหลวงพ่อน้อย) รุ่นย้อนยุค
    เป็น " พระผงพุทธคุณเก่าหลวงพ่อน้อย " ครับ พบเจอน้อยกว่า เหรียญหล่อ
    พระชุดนี้ หลวงพ่อสมศักดิ์ เป็นอดีตเจ้าอาวาส วัดธรรมศาลา เป็นผู้สร้างครับ

    มี 3 องค์ บูชาองค์ละ 100 บาทครับ
    ประวัติ หลวงพ่อน้อย อินทสาโร วัดธรรมศาลา

    หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ดังยุคกึ่งพุทธกาลที่เป็นตำนานแห่งเมืองนครปฐมองค์หนึ่งคือ "พระครูภาวนากิตติคุณ" หรือ "หลวงพ่อน้อย อินทสาโร" อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม เจ้าตำรับ "เหรียญหน้าเสือ-เหรียญหล่อคอน้ำเต้า" อันลือลั่นด้วยประสบการณ์ความเข้มขลัง สหธรรมิกร่วมยุคสมัยกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาณ์ เป็นต้น
    ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปกี่ปี ชื่อเสียงของพระเกจิอาจารย์รูปนี้ก็ไม่มีวันจางหายไปในใจศิษยานุศิษย์ผู้เลื่อมใสศรัทธา

    ท่านเกิดที่บ้านหนองอ้อ ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2426 เวลา 04.00 น. ตรงกับสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามดวงชะตาในแผ่นเงินที่เก็บเป็นประวัติ ณ วัดธรรมศาลา ปรากฏดังนี้ ปีมะแม เบญจศก ปริติมาสวารอธิถสุรทิน จุลศักราช 1245 วันที่ 12 พฤษภาคม พุทธศักราช 2426 เวลา 04.00 น. พระลักษณาสถิต ราศรีเมษฤกษ์ที่ 7-นาฑีฤกษ์ 52 มีนามว่า เพ็ชฒฤกษ์ จันทร์องศา 14 ลัคนา 37 พุทธรักษา ธัมมรักษา สังฆรักษา บิดารักษา พระอินทร์รักษา พระ... รักษา พระพรหมรักษา เทวดารักษา มารดารักษา "พระอาจารย์น้อย"

    โยมบิดาชื่อ "แสง" โยมมารดาชื่อ "อ่อน" โยมพี่เป็นหญิงชื่อ "ปู๋" ในเยาว์วัยโยมบิดาได้นำหลวงพ่อไปฝากไว้กับท่านพระครูปริมานุรักษ์ (นวม) เจ้าอาวาสวัดธรรมศาลา ในยุคนั้นเพื่อการศึกษาเล่าเรียนและรับการอบรม จนมีความรู้ ความสามารถในการอ่านและเขียนภาษาไทยกับภาษาขอม กระทั่งอายุ 15 ปี บิดาได้นำไปฝากไว้กับท่านพระอธิการชา เจ้าอาวาสวัดสามกระบือเผือก เพื่อศึกษาต่อและบรรพชาเป็นสามเณร

    โดยระหว่างที่เป็นสามเณรได้ไปมา หาสู่ระหว่างวัดสามกระบือเผือกกับวัดธรรมศาลา เป็นประจำ จวนโยมบิดาและโยมมารดาถึงวัยชรามีโรคภัยเบียดเบียน ท่านจึงได้สึกจากสามเณร มาช่วยเหลือครอบครัว ในการประกอบอาชีพ ณ บ้านหนองอ้อ อันเป็นภูมิลำเนาเดิม

    เมื่อ อายุครบ 20 ปีจึงเข้าอุปสมบท ณ วัดธรรมศาลา เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2446 มีพระอธิการทอง วัดละมุด อ.นครชัยศรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูปริมานุรักษ์ (นวม) วัดธรรมศาลา เป็นพระ กรรมวาจาจารย์ และพระสมุห์แสง วัดใหม่ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีนามฉายาว่า "อินทสโร"

    หลังอุปสมบทแล้ว มีความสนใจศึกษาทางด้านวิปัสสนาธุระสมถะและไสยเวท ได้ศึกษาพระธรรมวินัยเป็นเบื้องต้นจากอาจารย์หลายองค์ได้แก่ พระอธิการทอง วัดละมุด พระครูปริมานนุรักษ์ (นวม) พระครูทักษินานุกิจ (แจ้ง) พระสมุห์ แสง วัดใหม่ รวมทั้งอาจารย์ อู๊ด ที่เป็นฆราวาส โดยอาศัยที่หลวงพ่อ มีความรู้ภาษาขอมมาแต่เดิมและมีสมาธิมั่นคงแน่วแน่ จึงให้การศึกษาทางพุทธาคมของท่านเป็นไปอย่างรวดเร็ว ร่ำเรียนวิชาชนิดไหนก็สำเร็จ

    "พระครูภาวนากิตติคุณ" หรือ "หลวงพ่อน้อย อินทสาโร" อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม อุปนิสัยรักสงบ มีความเคร่งขรึมและสำรวมอยู่เป็นเนืองนิตย์ ไม่ชอบแสดงออกให้ผู้ใดได้ทราบว่า มีดีอย่างไร แต่มีสิ่งที่แสดงออกหลายประการ

    เช่น วาจาศักดิ์สิทธิ์จนเป็นที่เลื่องลือ การแผ่เมตตาด้วยสื่อสัมพันธ์ทางกระแสจิตจนทำให้สัตว์ป่าคือ วานรที่มาอาศัยอยู่มีความเชื่องและเข้าใจ ประหนึ่งเป็นศิษย์ที่รู้ภาษาของท่าน รวมทั้ง นก กา ไก่ ที่มาอาศัยอยู่ในวัด ท่านก็ให้ความคุ้มครองสัตว์ทั้งหลายในขอบเขตของวัดจนไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาทำ อันตรายได้
    ดังปรากฏมีนักเลงปืนมือฉมังมาลองยิงนกในวัดอยู่เนืองๆ โดยไม่ปรากฏว่าผู้ใดได้นกไปแม้แต่ตัวเดียว ทำเอานักเลงปืนขยาดไปตามๆ กัน ที่สำคัญ ข่าวนี้ได้ร่ำลือออกไปจากลูกศิษย์จนเป็นที่ทราบกันอยู่ทั่วไป จากเหตุการณ์ครั้งนั้นและในระยะหลังบ้าง จึงทำให้ลูกศิษย์ได้เข้าใจหลวงพ่อเกี่ยวกับกฤตยาคมมากขึ้น

    นอกจากนี้ ท่านยังมีความมักน้อยยึดสันโดษมีความพอใจต่อสิ่งที่มีอยู่โดยแท้จริง ปราศจากความต้องการและความสุขสบายส่วนตัว

    ด้านการปกครองวัดในระยะแรกที่ "หลวงพ่อน้อย" ครองวัดที่ยังมิได้มีโรงเรียนเทศบาล จะมีลานอันร่มรื่นแห่งหนึ่งที่บริเวณหน้าพระอุโบสถหลังเดิม ลานนี้จะมีต้นลั่นทมปลูกอยู่หลายต้น ในฤดูออกดอกจะมีบรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นตาชื่นใจและบริเวณพื้นที่นั้นจะ โล่งเตียนอยู่เป็นเนืองนิตย์ เพราะหลวงพ่อรักษาให้สถานที่มีความสะอาดร่มรื่นสงัดเงียบอันเหมาะกับเป็นที่ ตั้งของพระอารามในพระพุทธศาสนา โดยท่านจะคอยปรามมิให้ผู้ใดมาทำลายความร่มรื่นดังกล่าว

    ในสมัยที่ หลวงพ่อท่านยังมีความแข็งแรงโดยมิต้องมีผู้พยุงเดินนั้น ท่านจะแสดงพระธรรมเทศนาอยู่เป็นประจำเพื่อสั่งสอนอุบาสกอุบาสิกา ให้ประพฤติแต่คุณงามความดี และในฤดูกาลเข้าพรรษา ท่านจะเปิดโอกาสให้พระบวชใหม่ (นวกะ) ได้ถามปัญหาธรรมต่างๆ ที่ข้องใจ แต่ส่วนใหญ่ท่านจะใช้วิธีใกล้ชิด เพื่อให้พระนวกะเกิดความเกรงใจไม่ประพฤติปฏิบัติในหนทางที่ไม่บังควรต่อสม ณเพศ เช่น ในเวลาฉันจังหันท่านก็นิมนต์พระนวกะมาฉันใกล้ๆ โดยท่านจะนั่งนิ่งพิจารณาเป็นครู่ใหญ่ เมื่อเวลาฉันก็จะเฉลี่ยโดยทั่วถึงอันสร้างความอิ่มอกอิ่มใจให้กับญาติโยมที่ นำของมาถวายเป็นอย่างยิ่ง

    ที่ผ่านมาใครก็ตามที่มาพบ ท่านมักสอนธรรมะเสมอ โดยมักจะเตือนสติไม่ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท หมั่นประกอบแต่กรรมดี นอกจากนี้ ท่านยังสั่งสอนเยาวชนที่เข้าศึกษาในโรงเรียนประชาบาลของวัดธรรมศาลา ด้วยการแสดงพระธรรมเทศนาเป็นประจำทุกวันโกน เพื่อต้องการให้เยาวชนมีความประ พฤติและความเพียรพยายาม ในการศึกษาเล่าเรียนเพื่อความเจริญในทางจิตใจ และก้าว หน้าในบวรพระพุทธศาสนา ด้วยความดีพร้อมในศีลจริยาวัตรทั้งมวลของหลวงพ่อ จึงได้สร้างความเคารพยำเกรง ให้กับบุคคลทั่วไป

    "หลวงพ่อน้อย" มีคุณวิเศษหลายประการ โดยเฉพาะเกี่ยวกับวิชาการฝังลูกนิมิต การเสกทรายและการลงไม้หลักมงคลซึ่งใช้สำหรับการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์นั้น ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมาก จนปรากฏว่าสังฆเสนาสนะทั้งหลาย ที่ท่านได้สร้างไว้ ล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่น่าอัศจรรย์ ดังมีเรื่องเล่าขานว่า โจรใจบาปหยาบช้าที่เข้ามาโจรกรรมสิ่งของมีค่าภายในปูชนียสถานวัตถุเหล่านั้น ไม่อาจเล็ดลอดออกไปได้ ถึงออกไปแล้วก็ต้องกลับมาให้จับจนได้

    ในงานพุทธาภิเษกต่างๆ "หลวงพ่อน้อย อินทสาโร" อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม มักจะได้รับนิมนต์ให้ร่วมปลุกเสกด้วยแทบทุกครั้ง โดยช่วงเบื้องปลายชีวิตท่านได้รับนิมนต์ไปร่วมในพิธีพุทธาภิเษก ณ ที่อื่นๆ อยู่เนืองๆ เช่น เมื่อปีพ.ศ.2500 ได้เข้าร่วมชุมนุมพระอาจารย์ 1,782 รูปในพิธีพุทธาภิเษกสร้างพระสมเด็จและรูปสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) เป็นอนุสรณ์กึ่งพุทธกาล

    มีบันทึกประวัติในหนังสือชุมนุมพระอาจารย์ ความสำคัญมีว่า "พระอาจารย์น้อย อินทสโร อายุ 77 ปี พรรษา 57 เจ้าอาวาสวัดธรรมศาลา ตำบลธรรมศาลา ลงทางมหาอุตม์ กันกระทำ มหานิยม คลอดบุตรง่าย-ปลอด ภัย กันภยันตรายต่างๆ เลี้ยงบุตรง่าย ก็เด็กขี้อ่อน กันแท้งลูก ใส่ก้นถุง-มีเงินใช้ไม่ขาด มีอำนาจ"
    นอกจากนี้ พิธีเททองหล่อพระพุทธรูปพระกริ่งที่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง ที่วัดประสาทบุญญาวาท เมื่อประมาณปีพ.ศ.2508 ท่านร่วมลงแผ่นโลหะปลุกเสกไปเข้าพิธีด้วย ปรากฏว่าแผ่นโลหะนี้ เมื่อใส่ไปในเบ้าหลอมกลับไม่ละลาย ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ของพระอาจารย์ที่เกิดปรากฏการณ์แบบเดียวกันจนเป็นที่โจษจันในอิทธิ ปาฏิหาริย์มาแล้วครั้งหนึ่งในหมู่ลูกศิษย์ย่อมรู้กันดี ในระยะหลังที่ได้ของดีจากหลวงพ่อไปแล้วต่างได้ประสบการณ์ในอิทธิปาฏิหาริย์ ใครมีวัตถุมงคลของหลวงพ่อน้อยจึงหวงแหนมาก

    "หลวงพ่อน้อย" ได้สร้างอิทธิวัตถุอันเป็นมงคลไว้หลายชนิด ทั้งที่สร้างเป็นรุ่นๆ ในจำนวนมาก และที่ปลุกเสกเป็นการเจาะจงให้กับลูกศิษย์เป็นเฉพาะรายในจำนวนน้อย เมื่อรวมกันแล้วถึง 50 กว่าชนิด การสร้างนั้นท่านมีวัตถุประสงค์เพื่อแจกเป็นที่ระลึกให้กับบรรดาผู้ที่ มากราบนมัสการ รวมทั้งแจกในโอกาสต่างๆ เช่น งานทอดกฐิน และผ้าป่า งานสร้างศาลาการเปรียญ-สร้างพระอุโบสถ-สร้างโรงเรียน-สร้างหอระฆัง หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่มีการฉลองสิ่งก่อสร้างทางสงฆ์ภายในวัด

    ทั้งนี้ วัตถุมงคล ยอดนิยมของท่าน มีอาทิ เหรียญรุ่นแรกทรงเสมา ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อครึ่งองค์ มีอักษรตัวนูนคำว่า หลวงพ่อน้อย ด้านหลังเป็นยันต์นะปถมัง, เหรียญหล่อหน้าเสือ รุ่นแรก สร้างประมาณปีพ.ศ.2497-2498 ส่วนครั้งที่ 2 และ 3 ด้านหลังใต้ยันต์ปลายเหรียญมีเลขไทยปรากฏอยู่ ความคมชัดจะไม่เหมือนกัน, เหรียญหล่อคอน้ำเต้า สร้างปีพ.ศ. 2497-2498 มีหลายรุ่นหลายเนื้อเช่นกันกับเหรียญหล่อหน้าเสือ นอกจากนี้แล้วยังมีอีกหลายชนิด คือ รูปหล่อ พระพิมพ์สมเด็จ พระยอดธง พระปิดตา และเครื่องรางอื่นๆ

    วาระสุดท้ายของหลวงพ่อน้อยท่านถึง กาลมรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันอังคารที่ 17 พ.ย.2513 เวลาประมาณ 18.34 น. สิริอายุได้ 83 ปี พรรษา 67 บรรดาศิษยานุศิษย์ต่างร่วมมือกันเป็นเจ้าภาพ สวดพระอภิธรรมถวายทุกคืนจนครบ 100 วัน ปรากฏว่าสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย

    ต่อมาปีพ.ศ.2516 ทางวัดได้สร้างวิหารจตุรมุขเป็นที่ประดิษฐานสังขารของท่าน เพื่อให้ศิษยานุศิษย์และผู้เคารพนับถือได้สักการบูชามาจวบจนทุกวันนี้

    budd2066.jpg
    องค์ที่1. IMG_20181012_232813.jpg IMG_20181012_232803.jpg คุณกันทิมา@บุญ ปิดครับ
    องค์ที่2. IMG_20181012_232755.jpg IMG_20181012_232745.jpg คุณกันทิมา@บุญ ปิดครับ
    องค์ที่3. IMG_20181012_232735.jpg IMG_20181012_232725.jpg คุณกันทิมา@บุญ ปิดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2018
  12. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่402 ผ้ายันต์กระทิงทอง หลวงพ่อเขียน ขนฺธสโร วัดกระทิง จันทบุรี ผ้ายันต์ขนาด 8.5 นิ้ว สูง 9 นิ้ว (ผ้ายันต์ของหลวงพ่อเขียน มีประสบการณ์ แคล้วคลาดปลอดภัย แก่ผู้บูชาครับ )
    ผ้ายันต์กะทิงทอง ยันต์คาถาหัวใจพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ และยันต์คาถาหัวใจศีล นะ มะ อะ อุ พุทธคุณ ป้องกันภัย แคล้วคลาด ผ้ายันต์กวักมหาลาภ ยันต์คาถาหัวใจพระสิวลี นะ ชา ลี ติ พุทธคุณ เมตตา มหานิยม มหาโชค มหาลาภ ค้าขาย เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยทรัพย์สิน เงินทอง ยันต์คาถา พุท ธ สัง มิ และยันต์คาถา นะ ชา ลี ติ พุทธคุณ เมตตา มหานิยม มหาโชค มหาลาภ ค้าขาย ร่ำรวย ทรัพย์สิน เงินทอง ป้องกันภัย แคล้วคลาด
    ปิดครับ
    IMG_20181012_233553.jpg
    18951426_1468962709831588_7462945450702247615_n.jpg IMG20181012234036.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2019
  13. pasit_99

    pasit_99 การเวียนว่ายตายเกิดนั้นน่ากลัว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,673
    ค่าพลัง:
    +3,464

    ขอแถมรายการที่ 374 ครับ
     
  14. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบครับ ขอบคุณครับ
     
  15. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่403 พระบัวบังใบ กัญหา-ชาลี มวลสารบัวแฝด พร้อมคาถาบูชา สายอุณมิลิต คุณshajปิดครับ
    มวลสาร ดอกไม้คาถาพัน ดอกไม้เบญจพรรณ สี่มหาธาตุผงว่านมหานิยม เช่านว่านพระพุทธเจ้า ปลุกเสกตามวิชาอาคาสายคาถาพันมีผลตามอุปเท่ห์คุณวิชา อ.ประคอง
    บัวตามความเชื่อของคนไทย นั้น ถือว่า มีความเป็นมงคล เจริญรุ่งเรืองอย่างสูง บัวเกิดจากตมหรือดินเลน ซึ่งสกปรกแต่ก็กลับเบ่งบานได้อย่างสวยงาม เปรียบมนุษย์ ที่แม้ชาติกำเนิดจะต้อยต่ำ แต่ก็สามารถพากเพียรจนเจริญรุ่งเรืองได้เช่นกัน

    บัวแฝด คือว่าเป็น ของกายสิทธิ์ ที่เกิดขึ้นได้ยาก เกิดได้กับบัวทุกสายพันธุ์ แต่หาได้ยากยิ่ง เปรียบดอกบัวแฝดประดุจ พระกัญหา-ชาลี ในเรื่อง พระเวสสันดรชาดก ที่หนีตาเฒ่าชูชกไปแอบอยู่ในสระบัว กอดกันเอาใบบัวบังศีรษะไว้ อำพรางตัว ฉะนั้น การนำบัวแฝดมาสร้างวัตถุมงคล จึงมีผลทางเมตตามหานิยมอย่างยิ่ง อีกทั้งยังค้ำคูน ให้สิ่งที่ปรารถนาสำเร็จได้โดยง่าย เพราะถือว่า แม้สิ่งที่ยากยิ่ง อย่างการช่วยให้พระเวสสันดร สร้างบารมีเพื่อสำเร็จพระโพธิญาณอันยากยิ่ง ยังทำได้ แล้ว สิ่งอื่นใดนั้นง่ายกว่ามาก ก็ย่อมพลอยสำเร็จอย่างง่ายได้เช่นกัน

    ดังนั้น ครูบาอาจารย์ จึงนิยมนำมาผสมเป็นมวลสารสำคัญ แต่มักปิดบัง เพราะถือเป็นไม้เด็ดเลยทีเดียวครับ นอกจากนี้ ยังถือเป็นมวลสารสำคัญในการสร้างพระผงยาจินดามณีอันเลื่องลือในเรื่องเมตตาและค้ำจุนดวงชะตามิให้ตกต่ำ
    IMG_20181012_064905.jpg
    IMG_20181012_064855.jpg IMG_20181012_064917.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2018
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่404 พระสิวลีปาง เนื้อผง ฝังพระธาตุสีวลี วัดถ้ำรัตนคีรี จ.อุทัยธานี ดีเด่นทางโชคลาภ ได้เงินได้ทอง ทำมาหากินเจริญรุ่งเรืองคุณshajปิดครับ
    IMG_20181012_065144.jpg
    IMG_20181012_065110.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2018
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่405 ผงมหามงคลดีทวีคูณ แดงมงคล สายอุณมิลิต คุณshajปิดครับ
    "มงคลซังฮี้" แปลว่า ดีแล้วก็ยังดีขึ้นอีก เป็นศาสตร์มงคลชาวจีน หลังสัญลักษณ์ศาสตร์สยามลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา(นะวิเศษคนคู่) และวิชาเสน่าห์มอญ(นะรุ่งเรือง) ของท่านอ.ประคอง ประกอบด้วยมวลสารศักดิ์สิทธิ์สูงค่าด้วยผงธาตุกายสิทธิ์ จากปราสาทโบราณ(แร่ทองสุวรรณโลหิต) ผงแก่นจันทร์ร้อยปี และผงแกนโมกแดงที่หายากมาก (ที่นำมาทำน้ำมันโสฬส) ผงจูซาฮั้ง ผงว่านมหานิยม ผงพระกรุเก่าของท่านอ.ประคอง ผงทรายเจ้าน้ำเงิน ผงแร่ทรายทอง ผงว่านไก่แดง ผงว่านงิ้วแดง ประกอบวิชาตามคติชน
    IMG_20181012_065212.jpg
    IMG_20181012_065202.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2018
  18. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่406 สมเด็จปรกโพธิ์ ผสมไม้ช่อฟ้า วัดระฆัง พิธีพุทธาภิเษก วัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม ปี 36 มี 2 องค์ บูชาองค์ละ 150 บาท
    องค์ที่1 IMG_20181015_084809.jpg IMG_20181015_084755.jpg IMG_20181015_084820.jpg คุณกันทิมา@บุญ ปิดครับ
    องค์ที่2 IMG_20181015_084745.jpg IMG_20181015_084735.jpg คุณSiwaTNa ปิดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2019
  19. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่407 พระผงเศียรพระธรรมิกราช วัดธรรมิกราช จ.อยุธยา รุ่นอู่เงิน-อู่ทอง ปี 2550
    เศียรธรรมิกราช สำริด มีคางเหลี่ยมละม้ายไปทาง พระพักตร์ที่ปราสาทบายน เมืองนครธม กัมพูชา พบที่วัดธรรมิกราช จ. พระนครศรีอยุธยา
    เศียรพระธรรมิกราช หล่อด้วยเนื้อสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่เป็นศิลปะสมัยอู่ทอง เดิมตั้งอยู่ในวิหารหลวงมีความศักดิ์สิทธิ์มาก กล่าวว่าผู้ใดเป็นคดีความกันมาสาบานต่อหน้าพระพักตร์ คนผิดต้องตายหรือมีอันเป็นไปทุกคนจึงเป็นที่กล่าวขานกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ปัจจุบันตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา
    IMG_20181015_091205.jpg IMG_20181015_091157.jpg
     
  20. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่408 พระมหาเจดีย์เนื้อผง วัดสุทธาวาส พุทธมณฑลอยุธยา หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย ด้านหลังเป็นมหายันต์ 30 ทัศ อ่านได้ว่า อิติปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา
    อิติโพธิมะนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม ฯลฯ
    คุณกันทิมา@บุญ ปิดครับ
    “พระครูปลัดสุวัฒนมงคลวรคุณ” หรือที่รู้จักกันในนาม “หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย” เจ้าอาวาสวัดสุทธาวาสวิปัสสนา ต.ลาดบัวหลวง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา พระเถราจารย์ผู้ศึกษาสรรพวิชาอาคมจากพระเกจิดัง ทั่วสารทิศ และแผ่บารมีสร้างบุญมหากุศลทานบารมีทั่วฟ้าเมืองไทยสมัญญา มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นเจ้าตำรับ “ตะกรุดมหาบารมี ๓๐ ทัศ” ปัจจุบันมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก พุทธศาสนิกชนต่างให้ความเคารพเลื่อมใสทั่วสารทิศ
    โบราณาจารย์กล่าวไว้ในตำราด้วยว่า พระคาถาบารมี ๓๐ ทัศอุดมไปด้วยอิทธิคุณวิเศษมากมายเหลือคณานับ เป็นพระคาถาที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้เอกราช ทรงศึกษาเล่าเรียนมาจากสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แล้วอาราธนาก่อนออกทำ “ยุทธหัตถี” กับพระมหาอุปราชา จนทำให้ทรงมีชัยชนะ ทรงปกป้องรักษาบ้านเมืองไว้ได้ สมัยโบราณตีราคาพระคาถานี้เท่ากับค่าควรเมืองเลยทีเดียว
    จากคติความเชื่อที่ว่า หญิงใดชายใด เด็กหรือผู้ใหญ่ ได้เข้าร่วมพิธีเป่ายันต์มหาบารมี ๓๐ ทัศแล้ว นับว่าเป็นมหามงคลบารมียิ่งนักสุดจะพรรณนา ทำให้พิธีเป่ายันต์มหาบารมี ๓๐ ทัศ ของหลวงพ่อรักษ์ มีลูกศิษย์เข้าร่วมงานนับหมื่นคน


    พระบารมีเหล่านี้ออกเป็นตรียางค์ คือ เป็นองค์สาม โดยจัดเป็นพระบารมีอย่างธรรมดาประเภทหนึ่ง พระบารมีอย่างกลาง และพระบารมีอย่างสูงสุดอุกฤษฏ์ พระบารมี ๓๐ ทัศ ประกอบด้วย

    ๑.ทานบารมี ๒.ศีลบารมี ๓.เนกขัมมบารมี ๔.ปัญญาบารมี ๕.วิริยบารมี ๖.ขันติบารมี ๗.สัจบารมี ๘.อธิษฐานบารมี ๙.เมตตาบารมี ๑๐.อุเบกขาบารมี บารมี ๑-๑๐ จัดเป็นบารมีประเภทธรรมดา ๑๑.ทานอุปบารมี ๑๒.ศีลอุปบารมี ๑๓.เนกขัมมอุปบารมี ๑๔.ปัญญาอุปบารมี ๑๕.วิริยอุปบารมี

    ๑๖.ขันติอุปบารมี ๑๗.สัจอุปบารมี ๑๘.อธิษฐานอุปบารมี ๑๙.เมตตาอุปบารมี ๒๐.อุเบกขาอุปบารมี บารมี ๑๑-๒๐ จัดเป็นบารมีประเภทปานกลาง ๒๑.ทานปรมัตถบารมี ๒๒.ศีลมัตถบารมี ๒๓.เนกขัมมปรมัตถบารมี ๒๔.ปัญญาปรมัตถบารมี ๒๕.วิริยปรมัตถบารมี ๒๖.ขันติปรมัตถบารมี ๒๗.สัจปรมัตถบารมี ๒๘.อธิษฐานปรมัตถบารม ๒๙.เมตตาปรมัตถบารมี และ ๓๐.อุเบกขาปรมัตถบารมี บารมี ๒๑-๓๐ จัดเป็นบารมีประเภทอุกฤษฏ์สูงสุด
    IMG_20181015_091134.jpg
    IMG_20181015_091125.jpg IMG_20181015_091149.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...