*เครื่องรางของขลัง/วัตถุมงคล...รายการละ 100 บ./พร้อมส่ง บูชา 3 รายการ แถม 1 รายการ...

รับทราบการจอง 400, 401, 406, 408, 412, 413, 427, 428, 453, 456 ครับ ขอบคุณครับ

 

รายการที่459 พระผงรูปเหมือน หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม จ.นครปฐม ปี 2541 ฉลองอายุครบ77ปี เนื้อผงมหาพุทธคุณ+มวลสารมงคล 108
คุณกันทิมา@บุญ ปิดครับ
หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม จ.นครปฐม "เทพเจ้าแห่งคลองจินดา" พระเกจิอาจารย์ที่เรืองเวทย์วิทยาคมท่านหนึ่งของ จ.นครปฐม (มรณะภาพแล้ว) วิธีการลงนะหน้าทองทองท่านไม่ต้องแกะทองออกจากกระดาษและนำไปแปะหน้าผากเหมือนเกจิอาจารย์ท่านอื่น วิธีของท่านเพียงแค่ท่านเอาแผ่นกระดาษที่หุ้มทองอยู่แปะไปที่หน้าผากของผู้ลงท่านเป่าคาถาทีเดียวทองหายไปทั้งที่ยังไม่ได้แกะกระดาษออก ส่วนวัตถุมงคลของท่านที่สร้างและอธิษฐานจิตขึ้นล้วนแล้วแต่เปี่ยมไปด้วยพุทธาคม ลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนที่นำวัตถุมงคลของท่านไปใช้บูชาล้วนแล้วแต่ทราบดีว่าพุทธคุณนั้นเห็นผลแน่นอน

พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อไสว สร้างปี พ.ศ. 2541 พระดีพุทธคุณสูง มีคุณค่าน่าบูชาสะสมมากครับ

 

รายการที่460 พระผงหลวงพ่อปัญจาศิลาฤทธิ์ (หลวงพ่อขาว) วัดบางยี่โท อ.บางไทร จ.อยุธยา

 

รายการที่461 พระผงรูปเหมือนพระพุทธไตรรัตนนายก(หลวงพ่อโต)** อายุครบรอบ 685ปี องค์ใหญ่ที่สุดในโลก** วัดพนันเชิง อยุธยา.
พิธีปลุกเสกใหญ่มาก[ พิธีเงินทองเพิ่มพุน] โดยมีเกจิดังเช่น ลพ. เพิ่มวัดป้อมแก้ว ลพ. พูนวัดบ้านแพนพร้อมเกจิทั่วอยุธยา
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว
คุณกันทิมา@บุญ ปิดครับ

 

รายการที่462 พระสมเด็จ เนื้อดิน ขนาด 3.5*4.8 ซ.ม. ไม่ทราบที่

 

รายการที่463 พระรอด เนื้อดิน ไม่ทราบที่

 

รายการที่464 พระสังกัจจายน์ เนื้อดิน ไม่ทราบที่

 

รายการที่465 หลวงพ่อเงินรูปหล่อ เนื้อโลหะ ไม่ทราบที่

 

รายการที่466 พระรูปหล่อ เนื้อโลหะ ไม่ทราบที่

 

////สวัสดีครับ ขอแจ้งการบูชาครบ 1000 บาท/////
แถม... พระสูตร หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว พิมพ์จิ๋ว ขนาด1.5*1.3 ซม. ..........1 องค์ครับ***........ปิดครับ.....
พระสูตร หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว ครบถ้วนกระบวนความในด้านพุทธคุณ ด้านหน้าเป็นพระปางมหาจักรพรรดิ์หรือที่เรียกกันว่าปางปราบท้าวชมพูบดีนั่นเอง ด้านล่างรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผมและพระแม่โพสพ ส่วนด้านหลังมีพระสังกัจจายน์บรรจุหัวใจพระฉิมพลี หลวงพ่อเคยพิสูจน์ให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระพิมพ์นี้ให้เห็นกันจะๆโดยใช้ทรายกรอกตาแต่ปรากฎว่าไม่มีทรายเข้าตาเลยซะนิด ไม่เพียงเท่านั้นท่านยังให้คนนอนลงจับมือต่อๆกัน โดยให้คนแรกมีพระสูตรท่านอยู่คนเดียวเท่านั้นแต่คนอื่นก็ผลออกมาเป็นเช่นเดียวกันคือทรายไม่เข้าตาเลยเช่นกัน ครบถ้วนด้านพุทธคุณ สำเร็จสมหวัง แคล้วคลาดปลอดภัย อุดมสมบูรณ์ ลพ.ผินะท่านได้ทำไว้ให้ลูกศิษย์มีติดตัวเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

 

รายการที่467 รูปหล่อพระพุทธเจ้าน้อย รุ่นเติมทรัพย์เติมบุญ วัดไทยลุมพินี เนปาล พร้อมกล่องครับ สูง 2.3 ซ.ม. มี 2 กล่อง บูชากล่องละ 100 บาท
พระพุทธเจ้าน้อยที่ปรากฏอยู่นี้ "ไม่ใช่พระพุทธรูป" และไม่เป็นพระพุทธรูปปางใด แต่เป็นปฏิมากรที่เกี่ยวข้องกับประวัติพระพุทธเจ้า ตั้งชื่อเรียกขานกันเต็มๆ ว่า "พระโพธิสัตว์ราชกุมาร" ซึ่งในความจริงยังไม่เป็นพระโพธิ สัตว์ เพราะการจะเป็นพระโพธิสัตว์ต้องผ่านกระบวนทางจิตใจและการอุทิศตัวเพื่อประโยชน์แก่สัตว์โลก ยังมีอีกหลาย ขั้นตอนที่จะขอกล่าวถึงในตอนข้างหน้า

แต่เหตุที่นำเรื่องนี้มาเขียนแลกเปลี่ยนความรู้ ความเห็น ก็เพื่อเสริมสร้างสติปัญญา ได้เคยกล่าวมาแล้วว่าพระพุทธรูปปางต่างๆ ก็คือ การเล่าถึงพุทธประวัติ ในการแสดงธรรมะในเรื่องสำคัญในแต่ละเหตุการณ์ ใช้การแสดงออกที่เป็นคติและสัญลักษณ์เพื่อให้ผู้ที่เป็นพุทธศาสนิกชนได้เตือนตนและเข้าใจเข้าถึงคติแห่งธรรมที่พระพุทธรูปนั้นได้แสดงออกมา

ที่เรียกว่าพระพุทธเจ้าน้อยนั้น ไม่อาจนับเป็นพระพุทธรูปหรือพระโพธิสัตว์ได้ เพราะยังมิได้เป็นทั้งพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์

หากแต่สัญลักษณ์ของรูปที่เป็นเด็กชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้า บ่งบอกเพียงตำนานในพระพุทธประวัติว่า เมื่อ สิทธัตถะกุมาร กำเนิดขึ้นนั้นได้ก้าวเดินบนดอกบัวไป 7 ก้าว ซึ่งมีผู้แปลความหมายไปว่าเป็นการก้าวเดินของพระ พุทธเจ้าไปยัง 7 แคว้นนคร เพื่อแสดงธรรมและเปล่งวาจาว่าเราเป็นเลิศในโลกนี้ เราเป็นผู้เลิศแห่งโลก เราเป็น ผู้เจริญที่สุดแห่งโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดแห่งโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้ภพใหม่ย่อมไม่มี ซึ่งเป็นเรื่อง "อภินิหาร" ไม่เกี่ยวข้องกับการแสดงธรรมแต่ประการใด

ความพยายามที่จะอธิบายต่อว่า พระพุทธเจ้าน้อยจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการเตือนสติมนุษย์ ให้หันกลับมาทบทวนถึงเป้าหมายชีวิตของตัวเองในภาพรวมว่า เกิดมาทำไม จุดหมาย อันประเสริฐของชีวิตที่มีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์ในชาตินี้คืออะไร และการร่วมหล่อองค์พระพุทธเจ้าน้อยจึงมีนัยแห่งความหมายอีกประการของการหลอมรวมใจไทยเป็นหนึ่งเดียว เพื่อเตือนสติคนไทยให้หันมาทบทวนถึงการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นธรรมต่างๆ อันจัก เป็นแก่นสารของชีวิตที่ติดตัวเราไปก่อนลาจากโลกนี้ อีกด้วย
คอลัมน์ คติ-สัญลักษณ์ สถาปัตยกรรมไทย
ชวพงศ์ ชำนิประศาสน์
กล่องที่1
กล่องที่2

 

รายการที่468 พระผงอนันตนาคราช 15 ค่ำ เดือน 11 รุ่นสุดท้าย หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ ราชบุรี คุณกันทิมา@บุญ ปิดครับ
ชีวประวัติ ล.พ.สง่า วัดหนองม่วง และ วัดบ้านหม้อ
ชาติภูมิ หลวงพ่อสง่า อนุปุพฺโพ แห่งวัดบ้านหม้อจังหวัดราชบุรี มีนามเดิมว่า สง่า เวสสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2469 เป็นบุตรของนายเขี้ยมและนางเม้า เวสสุวรรณ ณ บ้านหม้อ ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี...... ชีวิตในวัยเยาว์ของท่านได้รับการศึกษาจากโรงเรียนวัดบ้านหม้อโดยมีบรรดาพระภิกษุสงฆ์ เป็นผู้อบรมสั่งสอนวิทยาวิชาการอีกทั้งบางวันยังต้องนอนค้างวัดเพื่อช่วยปรนนิบัติรับใช้ พระสงฆ์อยู่เสมอๆ ดังนั้นชีวิตของหลวงพ่อสง่าจึงอยู่ใกล้ชิดกับพระและวัดมาโดยตลอดจนกระทั่งจบชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 จึงได้ออกจากโรงเรียนมาช่วยครอบครัวทำไร่ทำนา
อุปนิสัย
ของท่านในวัยหนุ่มก็เหมือนกับวัยรุ่นส่วนใหญ่ทั่วไปที่เสร็จจากการทำงานก็มักไป เที่ยวเล่นสนุกสนานกับเพื่อนๆ ไปตามเรื่อง บางครั้งท่านก็ไปเที่ยวยังหมู่บ้านอื่นเพื่อเสาะแสวงหาความรู้ด้านคาถาอาคมจากครูอาจารย์ที่เก่งๆ แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจจนกระทั่งทราบมาว่าที่วัดไทรอารักษ์มีอาจารย์ที่เชี่ยวชาญคาถา อาคมอยู่รูปหนึ่งจึงดั้นด้นไปพบเพื่อขอเรียนวิชาแต่หลวงพ่อวัดไทรอารักษ์กลับตั้งคำถามว่า มาจากที่ใดและพอทราบว่ามาจากบ้านหม้อท่านจึงปรารภขึ้นว่า
“หาหญ้ากินไกลคอกเหลือเกินนะเรา อย่าลืมหญ้าปากคอกดูบ้างว่าหญ้าปากคอกนั้นงามขนาดไหน”
นายสง่าในขณะนั้นได้แต่คิดถึงถ้อยคำปริศนาที่หลวงพ่อวัดไทรฯได้พูดถึงแต่ก็คิดไม่ออก จนกระทั่งไม่นานท่านจึงไขปริศนาได้ว่าหญ้าปากคอกที่พูดถึงนั้นก็คือท่านพระครูเจ้าอาวาส วัดบ้านหม้อนั่นเองท่านจึงได้ปวารณาตัวเป็นศิษย์เพื่อเล่าเรียนวิชาอาคมนานนับปีจนมี ความรู้แคล่วคล่องในบทสวด คาถาอาคม อักขระเลขยันต์พอควร
ต่อมาในปี 2481 ท่านได้ตัดสินใจอุปสมบทที่วัดบ้านหม้อ จ.ราชบุรี ขณะมีอายุได้ 22 ปีโดยมี พระอธิการกลิ่น วัดคงคาเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เกลี้ยง วัดเฉลิมอาสน์เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เช้งและพระอาจารย์แป๊ะ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (สมัยนั้นใช้พระคู่สวดในพิธีกรรมถึง 3 รูป) ได้รับฉายาว่า “อนุปุพฺโพ”
ครั้นอุปสมบทแล้วท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดบ้านหม้อเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจนสามารถ สอบได้นักธรรมชั้นตรีและโทตามลำดับรวมถึงวิชาอาคมที่ได้รับการถ่ายทอดมาจาก พระอาจารย์แป๊ะ พระอาจารย์เปีย วัดบ้านหม้อและวิชาการแพทย์แผนโบราณ วิชาสมุนไพร จนกระทั่งเรียกได้ว่ามีความเชี่ยวชาญยากหาใครเทียบในเวลานั้น
ต่อมาในปี 2484 ทางวัดหนองม่วง อ.บางแพ จ.ราชบุรี ขาดพระสงฆ์ผู้นำที่จะดูแลวัด ชาวบ้านและไวยาวัจกรจึงได้พร้อมใจนิมนต์ท่านให้มาดูแลและพัฒนาวัดหนองม่วง หลวงพ่อสง่าพิจารณาดูแล้วเห็นด้วยกับเจตนาอันบริสุทธิ์ของชาวบ้านท่านจึงได้ย้ายมาอยู่ ที่วัดหนองม่วงตามคำขอและได้พัฒนาวัดให้ดีขึ้นตามที่ชาวบ้านต้องการดังที่เห็น ในปัจจุบันโดยได้ใช้วิชาความรู้ที่เรียนมาให้เกิดประโยชน์กับชาวบ้านอย่างสูงสุด จากนั้นจึงกลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านหม้อตามเดิม
การศึกษาพุทธาคม
หลวงพ่อสง่าเริ่มศึกษาคาถาอาคมและอักขระเลขยันต์ มาตั้งแต่ตอนสมัยเป็นหนุ่ม ทั้งวิชาสักยันต์ รดน้ำมนต์ ครั้นพออุปสมบทแล้วก็ยังให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง ด้วยว่า
“แม้ไม่ใช่กิจของสงฆ์แต่ก็เป็นความนิยมของคนสมัยนั้น เพื่อให้เกิดศรัทธายึดเหนี่ยวทางจิตใจ”
โดยหลวงพ่อท่านได้เป็นอาจารย์สักอยู่หลายปีจนกระทั่งได้ข่าวว่าผู้ที่ท่านสักให้ส่วนมากไปกระทำชั่ว เป็นนักเลงเพราะฮึกเหิมลำพองในความคงกระพันของรอยสักที่หลวงพ่อสักให้ ท่านจึงได้เลิกพิธีกรรมการสักทั้งหมดเพราะเห็นว่าสิ่งนี้ไม่เกิดแก่นสารที่แท้จริง
เมื่อมีเวลาว่างท่านได้ไปขอต่อวิชากับหลวงปู่ดี วัดบ้านยาง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเก่งในด้านการสร้างพระปิดตามหาอุตม์ คงกระพันชาตรี, หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี โดยได้รับการถ่ายทอดวิชาลบผงอิทธิเจ ปถมัง และการเขียนยันต์ 108, หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ได้วิชามหาอุตม์, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมได้ครอบครูนะเมตตาและได้รับการสอนวิชาเจริญวิปัสสนาและครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ อีกมากมาย
ปฏิปทากิตติคุณและคุณธรรมของหลวงพ่อสง่าช่างมีเมตตาธรรมสูงส่งยิ่งนัก ท่านได้พัฒนาวัดและพัฒนาคนให้รู้จักหลักการดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข สอนให้รู้จักอดทน เพียรพยายามพึ่งตนเอง เอาชนะใจตนเอง เน้นวิถีชีวิตอย่างชาวบ้าน ดังที่ท่านเน้นเสมอว่า
“คนเราถ้าไม่รวยก็อย่าจน ให้มีหิริโอตัปปะ ให้มีความอดทนและเพียรพยายามจะไม่อดตาย ความจนความรวยเราไม่ได้เอามาตั้งแต่เกิด แต่เราทำตัวเราให้รวย ให้จนได้ทั้งนั้น เป็นหนี้ก็เอามาให้พระแก้ เราต้องแก้ที่ต้นเหตุคือตัวเราเอง หาได้ใช้เป็น ใช้ให้น้อย หาพอเพียงก็จะไม่จน”

 

รายการที่469 พระสมเด็จมธุปายาส ฝังข้าวเปลือก วัดสามัคคีประชาราม ชลบุรี ปี2521

 

รายการที่470 พระสมเด็จเจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ วัดทุ่งโพธิ์ บุรีรัมย์ ปี2535 พร้อมกล่อง

 

รายการที่471 พระสมเด็จพระไพรีพินาศ วัดหนองจิก ต.หายโศก อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ หลัง ญสส.

 

รายการที่472 หลวงปู่ทวด หลังหนังสือใหญ่ วัดช้างให้ ปี13 ระครูใบฎีกาขาว รกุขิตธมุโม เจ้าอาวาสวัดช้างให้ ลำดับต่อจากอาจารย์ทิม
หลวงปู่ทวดเนื้อดินเผา วัดช้างให้ ปี 2513 (ผสมผงว่านหลวงปู่ทวด ปี2497) สร้างโดยพระครูใบฎีกาขาว รกุขิตธมุโม เจ้าอาวาสวัดช้างให้ ลำดับต่อจากอาจารย์ทิม และท่านเป็นน้องชายแท้ๆของอาจารย์ทิมครับ ..ท่านเป็นเจ้าอาวาส วัดช้างไห้ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๒ - พ.ศ.๒๕๒๑ องค์นี้เป็นเนื้อดินเผา ผสมผงว่านหลวงปูทวด ปี2497 ชุบรักเก่า แท้ดูง่าย ปัจจุบันนี้หายากแล้วครับ พระดี.พระเก่า...น่าบูชาไว้คุ้มครอง ปกป้องจากภัยอันตราย
คุณshaj ปิดครับ

 

รายการที่473 หลวงปู่ทวดนั่งบัว เนื้อผง หลังนะโม ไม่ทราบที่
ปิดครับ

 

รายการที่474 พระปิดตาจุ่มรัก ไม่ทราบที่

 

รายการที่475 พระไพรีพินาศ สมเด็จพระสังฆราชฯ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ ปี2551

 

รายการที่476 เหรียญหลวงพ่ออุ้น วัดผาสุกาวาส สงขลา...หลัง...หลวงพ่ออินทร์ วัดภัทราราม จ.พัทลุง