*เครื่องรางของขลัง/วัตถุมงคล...รายการละ 100 บ./พร้อมส่ง บูชา 3 รายการ แถม 1 รายการ...

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 4 มิถุนายน 2018.

  1. pisut168

    pisut168 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    915
    ค่าพลัง:
    +1,961
    แจ้งโอนที่อยู่ pm ครับ
     
  2. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ขอบคุณครับ
     
  3. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่913 พระพุทธขี่เม่น หลังยันต์ เนื้อผงพุทธคุณ ไม่ทราบที่
    IMG_25620321_210327.JPG IMG_25620321_210237.JPG
     
  4. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่914 พระพุทธขี่ไก่ หลังยันต์ เนื้อผงพุทธคุณ ไม่ทราบที่
    IMG_25620321_210409.JPG IMG_25620321_210348.JPG
     
  5. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่915 พระพุทธขี่ครุฑ หลังยันต์ เนื้อผงพุทธคุณ ไม่ทราบที่
    IMG_25620323_162321.JPG IMG_25620323_162251.JPG
     
  6. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่916 พระพุทธขี่หนุมาน หลังยันต์ เนื้อผงพุทธคุณ ไม่ทราบที่
    IMG_25620323_162410.JPG IMG_25620323_162345.JPG
     
  7. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่917 พระผงโภคทรัพย์ ลาภ ผล พูนทวี ร่ำรวย ค้าขาย หลวงพ่อขาว หลวงพ่อเกษม วัดม่วง จ.อ่างทอง ปี2533
    คุณshajปิดครับ
    IMG_25620325_214506.JPG IMG_25620325_214441.JPG 6639127-2.jpg 6639127-3.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2019
  8. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่918 พระผงพิมพ์ขี่เม่น หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา อยุธยา
    นี่คือตำนานบทสำคัญ ของ อมตะเถระแห่งเมืองกรุงเก่า ผู้เป็นเจ้าตำรับ 5 ม. (น้ำมัน น้ำมนต์ มีดหมอ ไม้ครู ชานหมาก) อันโด่งดัง เนื่องด้วยท่านเป็น พระคงแก่เรียน อยู่แล้วเป็นทุนเดิม จึงทำให้ หลวงพ่อท่าน มักจะศึกษา หาข้อมูล ความรู้ อยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสรรพวิชา อาคมต่างๆ ที่ได้เล่าได้เรียนมาจาก สุดยอดคณาจารย์ที่โด่งดังตลอดกาลอย่าง "พระทองคำ" หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ, หลวงพ่อห่วง วัดบางยี่โท, หลวงพ่ออินทร์ วัดเกาะหงษ์ ฯลฯ จนเป็นที่ยอมรับ และกล่าวขาน เรื่อยมา

    ในส่วนของ ยันต์ " นะฉัพพรรณรังษี " ซึ่งเป็นยันต์ประจำองค์ ยันต์ตัวเก่งของหลวงพ่อนั้น การได้มาก็ไม่ธรรมดา ตามประวัติขณะที่ท่านกำลังเจริญกรรมฐานนั้น ได้ปรากฎ " ภิกษุชรา " รูปหนึ่ง มาบอกวิธีการเขียนยันต์ " นะฉัพพรรณรังษี " ตัวนี้ พร้อมทั้งวิธีการเรียก การเสก ครบถ้วนทุกอย่าง ซึ่งต่อมาท่านจึงได้ทราบว่า พระภิกษุชรารูปนั้น ก็คือ " หลวงพ่อรอด (เสือ) แห่งวัดประดู่ทรงธรรม " นั้นเอง หลังจากนั้น ท่านจึงได้ใช้ยันต์ " นะฉัพพรรณรังษี " ในการปลุกเสกวัตถุมงคลมาโดยตลอด


    ***ในส่วนของพุทธคุณ และประสบการณ์ จะเห็นเด่นชัด ในรื่องของ โชคลาภ เมตตา ค้าขาย และ เรื่องคงกระพัน ชาตรี มหาอุตม์ หยุดลูกกระสุน (ปล. อันนี้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วครับ สำหรับคนในพื้นที่ ที่แขวนพระของหลวงพ่อ)***
    IMG_25620325_214408.JPG IMG_25620325_214320.JPG
     
  9. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่919 พระสมเด็จ หลังยันต์โสฬสมงคล อ.หนู กันภัย
    ยันต์โสฬสมงคล ถือเป็นยันต์อันวิเศษสุดกว่ายันต์ทั้งปวง ลวดลายประกอบด้วยเลข 3 ชั้น ชั้นนอกลงด้วยเลข 16 ตัว รอบกลางลงด้วยเลข 12 ตัว รอบในลงด้วยเลข 6 ตัว แล้วทำการลงอักขระ เพื่อล้อมรอบยันต์ทั้ง 4 ด้าน ด้วยพระคาถาบารมี 30 ทัศ
    สรรพคุณ – แก้อาถรรพ์ต่างๆ ป้องกันภยันอันตราย เสริมโชคลาภ
    IMG_20181012_232850.jpg IMG_20181012_232841.jpg 29082009copy.jpg
     
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่920 เหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พิมพ์ใหญ่ วัดตาลเอน จ.อยุธยา ปี53 หลวงพ่อจรัญอธิฐานจิต กล่องเดิม มีตอกโค๊ดด้านหลัง
    IMG_20181018_115842.jpg IMG_20181018_115833.jpg IMG_20181018_115814.jpg
     
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่921 พระผงเจริญสุข พิมพ์พระพุทธทรงเม่น, นก, ไก่ หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดประชาชุมพลพัฒนาราม ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี
    “หลวงปู่อ่อนสา” อริยสงฆ์ที่ “หลวงตามหาบัว” ยกย่องว่า “พระอรหันต์อยู่วัดประชาชุมพลพัฒนารามข้างกองบินยังไม่รู้จักไปหา มาบ้านตาดทำไม?
    เสมอว่าเหตุใดหลวงปู่มั่นจึงเมตตาหลวงปู่อ่อนสายิ่งนัก


    มีญาติโยมท่านหนึ่งได้กราบเรียนถาม หลวงปู่หลุย จันทสาโร เรื่องการเข้าไปพักอาศัย ในเขตวัดหนองผือนาในกับหลวงปู่มั่น หลวงปู่หลุยได้เมตตาเล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและหัวเราะไปพลางท่านเล่าว่า “ก่อนจะเข้าไป ต้องปักกลดไว้ห่างจากวัดพอประมาณ แล้วถือโอกาสไปกราบเรียนขออนุญาตหลวงปู่มั่นเสียก่อน หากมีกุฏิว่าง ท่านก็จะนัดวันเวลาให้เข้ามา จึงค่อยเข้ามาได้ หากเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตหลวงปู่มั่นเสียก่อน มีหวังโดนเอ็ดเอา มีแต่หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร กับ หลวงปู่อ่อน ญาณศิริ สององค์ ที่แบกกลดและย่าม ขึ้นมากลางศาลา แล้วกราบเรียนถามหลวงปู่มั่นว่า จะมาพักที่นี่ ให้พักที่ไหนกระหม่อม? แล้วหลวงปู่มั่น ก็ชี้มือไปยังกุฏิที่ว่าง ให้ไปพักที่โน่น ที่นี่”
    หลวงปู่หลุย เล่าว่า เท่าที่รับฟังจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์รุ่นหนัก เล่ากันว่า หลวงปู่มั่น เมตตาหลวงปู่อ่อนสายิ่งนัก เพราะ

    ท่านอ่อนสาเมื่อครั้งธุดงค์ไปกับหลวงปู่มั่น เกิดอุบัติเหตุพลัดตกหลีบเขาทำให้ท่านอ่อนสาได้รับบาดเจ็บ เป็นแผลยาวกว่าศอกที่บั้นเอวและกระดูกสันหลังเคลื่อน เคลื่อนไหวไม่ได้ หลวงปู่มั่น บอกให้ท่านอ่อนสาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจังหวัดสกลนคร แต่ท่านอ่อนสาปฏิเสธ บอกว่า หากต้องตายเพราะการเดินธุดงค์วัตรแค่นี้ ก็ให้ตายไปเลย

    ท่านอ่อนสานอนพักรักษาตัวอยู่หลายวัน โดยมีพ่อแม่ครูอาจารย์มั่น แผ่เมตตาช่วยรักษาให้ ไม่นาน ท่านอ่อนสาก็หายพอเดินกระหย่ง กระแย่ง ธุดงค์ไปพร้อมหมู่คณะคงด้วยเหตุนี้ ที่พ่อแม่ครูอาจารย์มั่น ท่านเล็งเห็นความเด็ดเดี่ยวของท่านอ่อนสา ท่านจึงเมตตาท่านอ่อนสามาก ทุกครั้งที่พ่อแม่ครูอาจารย์เห็นท่านอ่อนสา ท่านจะเรียกท่านอ่อนสาว่า “พระวัดโยธา” ทุกคำ”

    ได้มีคณะนายทหารอากาศจากกองบิน ๒๓ จังหวัดอุดรธานี ไปกราบนมัสการหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่วัดป่าบ้านตาด ท่านก็ถามว่า “มาจากที่ไหนกัน?”
    คณะนายทหารจึงตอบว่า “มาจากกองบิน ๒๓ ครับ”

    ท่านพระอาจารย์มหาบัวก็พูดว่า “พวกนี้ทำไมโง่นัก พระอรหันต์อยู่ข้างกองบินยังไม่รู้จักไปหา ฉลาดมากด้วย ข้ามมาบ้านตาดทำไม?”
    คณะนายทหารอากาศกลุ่มนั้น เพิ่งจะทราบภายหลังว่าวัดที่อยู่ข้างกองบิน ที่ท่านพระอาจารย์มหาบัวพูดถึงนั้น คือ “วัดประชาชุมพลพัฒนาราม”
    • หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร •
    ที่มา : FB :เกร็ดธรรมะ ประวัติพระกรรมฐาน @Ayuthay

    บูชาองค์ละ 100 บาท

    พิมพ์เม่น IMG_20181016_170546.jpg IMG_20181016_170523.jpg
    พิมพ์นก IMG_20181016_170506.jpg IMG_20181016_170455.jpg
    พิมพ์ไก่ IMG_20181016_170404.jpg IMG_20181016_170350.jpg
     
  12. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่922 พระผง หลวงพ่อขาวหลังช้าง หลัง พระครูพิทักษ์ธรรมคุณ วัดเสาธงกลาง จ.สมุทรปราการ
    พระผงสี่เหลี่ยม หลวงพ่อขาว วัดเสาธงกลาง อ.เสาธงกลาง จ.สมุทรปราการ ด้านหลัง พระครูพิทักษ์ธรรมคุณ (สงวน ธัมมญาโน) หรือ พระอาจารย์ซ้ง ผู้สร้าง และปลุกเสก เป็นรุ่นแรก ในปี พ.ศ. ๒๕๑๐ เป็นพระเนื้อผงพุทธคุณ สีขาวอมเหลือง เป็นพระที่มีประสบการณ์ในการปกป้องคุ้มครองภัย แคล้วคลาด เมตตามหานิยม อุดมโชคลาภ เป็นอย่างมาก เพราะพระอาจารย์ซ้งนั้น ถือเป็นศิษย์เอกองค์หนึ่งของหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว ปัจจุบัน หายากมาก ไม่ค่อยเจอกันง่ายๆ นัก ในสภาพสวยสมบูรณ์ เนื่องจากเป็นพระยอดนิยมของชาวเมืองปากน้ำ สมุทรปราการ มีในรายการประกวดพระรายการพระท้องถิ่นสมุทรปราการแทบทุกงาน ขนาดเซียนพระคว้านเก็บ พ่อค้า คหบดี และนักการเมืองท้องถิ่น นิยมขึ้นคอก็แล้วกัน สนนราคาเช่าหาในปัจจุบัน หลักพันขึ้นครับ ลองมาอ่านประสบการณ์ของเด่น ดอกประดู่ ดาราตลก ระดับพระเอกหนัง เล่าให้ฟังว่า รอดตายถึงสองครั้ง แล้วจะทำให้ทราบว่า ทำไม? จึงหาได้ยากเย็นยิ่งนัก

    เด่น ดอกประดู่ เกือบตาย!...เพราะบทบู๊นอกจอ
    บรรพต วีระรัฐ เป็นชื่อ และนามสกุลจริงของ "เด่น ดอกประดู่" ดาวตลกรุ่นเดียวกับ เด๋อ ดอกสะเดา ดู๋ ดอกกระโดน และ ดี๋ ดอกมะดัน
    นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าของรายการ “ไม่ลองไม่รู้” ซึ่งออกอากาศนานถึง ๑๔ ปี
    ก่อนจะเข้าสู่วงการบันเทิง เด่นเป็นนักเรียนโรงเรียนดุริยางค์กองทัพเรือ โดยระหว่างที่เรียนอยู่ได้เป็นไม้ดรัมเมเยอร์ ของเหล่าสามทัพอยู่ ๓ ปี สมัย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ รวมทั้งหันมาหัดเล่นตลกมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถูกทาบทามให้มาเป็นพระเอกในภาพยนตร์เรื่อง "เทพบุตรต๊ะติ๊งโหน่ง"
    นอกจากนี้ ยังรับบทพระเอกในภาพยนตร์ของ โรม บุนนาค อีกหลายเรื่อง ขณะเดียวกัน ได้รับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น ร้อยป่า ลอดลายมังกร
    ประสบการณ์เฉียดตาย เด่น เล่าว่า ชีวิตที่เฉียดตายจากการถูกยิงสองครั้งแต่ไม่ตาย มีความเชื่อว่า น่าจะมาจาก พระหลวงพ่อขาว วัดบางเสาธงกลาง
    เนื่องจากก่อนที่จะแสดงหนัง มีคนบอกว่า หลวงพ่อขาว (หมายถึง ผู้ปลุกเสก คือ พระครูพิทักษ์ธรรมคุณ หรือ พระอาจารย์ซ้ง) ท่านเก่งมาก เลยหาโอกาสไปกราบท่าน ครั้งแรกที่ไปหา ท่านให้พระพุทธรูปสมัยอู่ทองมาบูชา ครั้งที่ ๒ ท่านให้พระสมัยสุโขทัย และครั้ง ๓ ท่านให้พระสมัยเชียงแสน ครบ ๓ องค์ แล้วทำให้ได้เล่นหนังเป็นพระเอกเรื่องแรก "เทพบุตรต๊ะติ๊งโหน่ง"
    จากนั้นมาจะแขวนพระหลวงพ่อขาวติดตัว ยิ่งสมัยนั้นพูดกันว่า พระหลวงพ่อขาวเน้นพุทธคุณทางด้านแคล้วคลาด คงกระพัน ส่วนตนเป็นคนชอบลอง เนื่องจากไม่เชื่ออะไรง่ายๆ เหมือนกัน
    ครั้งแรก ไปเล่นตลกอยู่บนเวทีพร้อมกับ โน๊ต เป็ด ศราวุธ มีนักเลงตะโกนบอกว่า วันนี้มาไหว้อาจารย์ครับ พวกนี้พอเมาแล้วชอบเรียกตนว่าอาจารย์ เพราะไม่ได้เข้ามาไหว้หลายเดือน พอเล่นตลกจบเดินเข้าไปหาคนที่ตะโกนขึ้นมา
    จังหวะนั้นเอง มีนักเลงอีกคนขึ้นมาล้มโต๊ะ ทุกคนต่างกรูไปอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ คนที่มาเที่ยวต่างก็ไปรวมกันอยู่ด้านขวามือกันหมด
    นักเลงคนนี้ถือปืนเดินออกไปด้านหน้าประตูทางเข้าบาร์ ศราวุธเกิดความกลัวขึ้นมา แต่ตนไม่กลัว เพราะตัวใหญ่กว่าเพื่อน เลยบอกศราวุธว่า ไปกลัวทำไม ไหนเอาบุหรี่มาสูบหนึ่งมวน จริงๆ แล้วเป็นคนไม่สูบบุหรี่
    ศราวุธก็ถาม ไม่เคยเห็นสูบบุหรี่ แต่ตอบกลับไปว่า ไม่รู้เหมือนกันวันนี้อยากสูบ พอหยิบบุหรี่มาสูบก็ถามต่อว่า ทำไมไม่จุดไฟให้
    "ระหว่างที่ศราวุธหยิบไฟแช็กจะต่อบุหรี่ให้ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังปั้ง ศราวุธกอดตัวผม แล้วรูดลงไปที่ขาผมแน่น แล้วก็สั่นใหญ่เลย ปั้งที่สองเข้าคอคนที่ยืนอยู่ขวามือทันที ร่างก็ร่วงลงไป ส่วนศราวุธที่กำลังกอดขาผมสั่นอยู่ ก็ยังบอกเขาไปว่า กลัวเขาทำไมวะ เขายิงก็เรื่องของเขาสิ ที่ไหนได้ พอผมสลัดขาเท่านั้นเอง ก็เห็นกองเลือดเต็มเลย ศราวุธตายคาขาผมเลย ผมรอดตายมาครั้งนั้นต้องเป็นอิทธิฤทธิ์หลวงพ่อขาว" เด่น เล่าเหมือนเรื่องเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน
    อดีตพระเอกเทพบุตรต๊ะติ๊งโหน่ง กล่าวต่อว่า หลายคนชอบบอกว่า ใครมีพระหลวงพ่อขาวแล้วชอบเอาไปลองทดสอบความขลัง วันหนึ่งมีโอกาสจึงถามหลวงพ่อขาว ท่านก็ไม่พูดอะไรเพียงแค่หัวเราะ หลังจากหลวงพ่อมรณภาพลง จึงนำพระหลวงพ่อขาวเก็บบูชาไว้ เพราะกลัวนักเลงจะมาหาเรื่องอีก ประกอบเป็นคนชอบพระเครื่องที่มีพุทธคุณทางเมตตามากกว่า แล้วผ่านไประยะหนึ่งไม่รู้คิดอย่างไร จึงนำพระหลวงพ่อขาวมาแขวนติดตัวอีกครั้ง แล้วก็มีเรื่องกับนักเลงอีกแล้ว
    เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อไปเล่นตลกในย่านฝั่งธน ดอกไม้ป่า เทพ โพธิ์งาม เล่นอยู่บนเวที จากนั้น น้อย โพธิ์งาม ก็มายืนประกบเล่นบนเวที คนที่มาเที่ยวต่างหัวเราะกันสนุกสนาน เจ้าเทพพูดออกไมค์ว่า หัวเราะอะไรยังไม่ได้เล่นตลกกันเลย ปรากฏว่า มีกลุ่มนักเลงเขาหัวเราะไอ้ใบ้ที่อยู่บนโต๊ะ เพราะว่าไอ้ใบ้มันทำท่าบ้าๆ บอๆ ไอ้เจ้าเทพว่า มันขำอะไรกู กูยังไม่ได้เล่น ไอ้พวกนักเลงก็แซวกลับมา พร้อมกับขว้างแก้วขึ้นมาบนเวที โดนที่กระโปรงของน้อย โพธิ์งาม เราเห็นพอดีก็เกิดความโมโหเลยเดินออกไปหยิบไมค์
    "จำได้ว่า พอขึ้นไปแล้วก็เอามือป้องไฟแล้วถามว่า โต๊ะไหนมาขว้างลูกน้องผม ไอ้พวกนักเลงมันก็ถามว่า มองอะไรวะไอ้เด่น ผมก็ไม่รู้ว่า พวกนี้เป็นพวกนักเลง ผมก็ตอบไปว่า อ้าวถ้าคุณไม่มองผมจะรู้หรือว่าผมมองคุณ ผมก็กวนไปอย่างนั้นแหละ แค่นั้นแหละแก้วลอยมาอย่างกับเพชรเลย ขว้างมาที่ผมเต็มเวทีเลย เทพกับน้อยก็วิ่ง ผมวิ่งเป็นคนสุดท้าย ได้ยินเสียงปั้ง มันยิงด้วยหัวระเบิด มีความรู้สึกว่ามันเฉี่ยวก้นผมไปนิดเดียว เกือบตาย" นี่เป็นสาเหตุที่ไม่แขวนพระหลวงพ่อขาว (เป็นความเชื่อส่วนตัวในมุมมองของเด่นว่า แขวนทีไร มีเรื่องทุกที แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง ทำไม? ไม่คิดบ้างว่า หลวงพ่อขาวท่านดลใจให้นำมาแขวน เพราะรู้ว่าจะต้องเกิดเรื่อง จะได้ปกป้องคุ้มครอง)
    ส่วนพระเครื่องที่แขวนติดตัวประจำในปัจจุบันคือ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ได้มาจากภรรยา เนื่องจากภรรยาเป็นคนชอบพระเครื่องมาก ส่วนตัวแล้วมีความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพุทธคุณของทุกองค์อยู่แล้ว พระทุกองค์ที่บูชาอยู่ในบ้านไม่เคยไปเช่ามาจากไหน ไม่มีคำว่าเช่าพระเข้าบ้าน ส่วนใหญ่ได้มาจากความศรัทธามีคนให้มาเป็นที่ระลึก
    "หลักธรรมที่ผมนำมาใช้ตลอดชีวิต คือ ผมจะไม่ยุ่งกับเมียคนอื่นเด็ดขาด แต่ถ้าเราไม่รู้ไม่เป็นไร และสิ่งที่ต้องทำมาตลอดชีวิตการแสดง คือ การทดแทนบุญคุณพ่อแม่ และที่สำคัญผมไม่เคยลืมผู้มีพระคุณคนที่ทำให้ผมมีชื่อเสียง ทุกปีถ้ามีโอกาสจะไปกราบทุกครั้ง" เด่น กล่าวทิ้งท้าย
    0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง / ภาพ อุทร ศรีพันธ์ 0

    คุณshajปิดครับ
    IMG_25620330_150057.JPG IMG_25620330_145953.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2019
  13. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่923 พระนาคปรกหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ (สุสานทุ่งมน) วัดเพชรบุรี จ.สุรินทร์ รุ่น"เสาร์๕" ปี ๒๕๔๐ เนื้อเกสรผสมผงเก่า
    IMG_25620330_150153.JPG IMG_25620330_150124.JPG
     
  14. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่924 พญาต่อพระสีวลี หลวงพ่อจืด สวนปฎิบัติธรรมโพธิเศรษฐี จ.นครปฐม หลวงพ่อจืด สวนปฎิบัติธรรมโพธิเศรษฐี จ.นครปฐม
    **เป็นยอดเกจิอาจารย์ชั้นแนวหน้าในเมืองไทยในยุคปัจจุบันนี้เป็นเจ้าตำรับต่อเงินต่อทอง จากประสบการ์แก้ผู้บูชาตัวต่อ บูชาแล้วรวย บูชาแล้วดี มีโชคลาภรวยวันรวยคืนนี่คือเรื่องจริงถึงคำร่ำลืออย่างหนาหูถึงเรื่องพุทธคุณมาหลายปีแล้ว จนทำให้หลวงพ่อจืดได้จัดสร้างตัวต่อเงิน-ต่อทองถ้านับรุ่นกันแล้วก็รวมๆร้อยรุ่นแล้วแต่ละรุ่นมีประสบการณ์ และจะหมดไปจากวัดอย่างรวดเร็วสำหรับผู้ที่บูชาตัวต่อเงิน-ต่อทองไปแล้วจึงรู้จริงว่าพุทธคุณตามคำร่ำลือจริงๆ

    สำหรับผู้ที่บูชาตัวต่อเงิน-ต่อทองไปแล้ว จึงรู้จริงว่าพุทธคุณ ตามคำร่ำลือจริงๆ ถ้าบูชาด้วยแรงศรัทธา ล้วนสำเร็จตามความปรารถนาอย่างน่าอัศจรรย์ ความอัศจรรย์นี้แทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ ถ้าไม่เกิดกับตัวเอง ซึ่งสามารถบันดาลให้เจ้าของกิจการ ที่กำลังล่มสลายรอมร่อ หลายราย สามารถพลิกฟื้นมาให้กิจการเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว พ่อค้า แม่ค้าที่ค้าขายฝืดเคือง กลับขายดิบ ขายดี มีกำไร เกินคาด อย่างที่เห็น เจ้าร้านอาหาร เจ้าของธุรกิจ ขยายตัวสวนกระแสเศรษฐกิจ

    เมื่อนำตัวต่อเงิน-ต่อทองของหลวงพ่อไปบูชาติดตัวมีลูกค้ามาอุดหนุนทำให้ธุรกิจดีวันดีคืนถ้าไม่ใช่นักธุรกิจจะเป็นประชาชนทั่วไปเมื่อนำตัวต่อเงิน-ต่อทองไปบูชาก็จะถูกหวยรวยเบอร์เป็นว่าเล่น จากคนทั้งชีวิตไม่เคยถูกหวยเพราะตัวต่อให้โชคและอีกหลายๆความสำเร็จในด้านธุรกิจที่นำมาบอกเล่าให้ฟังจะหยิบจะฉวยจะทำธุรกิจอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมดสมกับชื่อต่อเงิน-ต่อทองและในครั้งนี้หลวงพ่อจืดก็ได้จัดสร้างขึ้นมาอีกรุ่นชื่อว่า “พญาต่อสีวลี”

    คุณshaj ปิดครับ
    IMG_20181213_205039.jpg IMG_20181213_205027.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2019
  15. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่925 พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ ไม่ทราบที่
    พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ ทรงเป็นพระพุทธเจ้าในอดีตกาลหลายแสนอสงไขยมาแล้ว พระองค์ท่านนิรมาณกาย หวนกลับมาเพื่อโปรดสรรพสัตว์ทั้งหลายอีกครั้งด้วยน้ำพระทัยที่เปี่ยมด้วยเมตตากรุณาจิตเป็นอย่างยิ่ง ท่านทรงแบ่งภาคออกมา 32 ภาคเป็นปางต่างๆ เพื่อฉุดช่วยและชี้แนะสรรพสัตว์ทั้งหลาย

    จึงเป็นที่มาของ พระโพธิสัตว์และพระมหาโพธิสัตว์ ในรูปลักษณะต่างๆ เพื่อเข้าฉุดช่วยชี้แนะให้ได้ทั้ง 6 ภูมิ พระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรคือผู้อุบัติเพื่อบำเพ็ญเพียรบารมีและเรียนรู้ในภูมินั้นๆ ของแต่ละภูมิ เพื่อการรื้อขนของสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นจากทะเลทุกข์เสียก่อนจนตัวเองเป็นคนสุดท้ายแล้วจึงจะขอบรรลุพระโพธิญาณในภายหลัง ดั่งเช่นพระมหาปณิธานของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ที่กล่าวพระสัจจะวาจาในจิตใจว่า หากในนิรยภูมิ (นรกภูมิ) จะสัตว์เหลืออยู่เพียงหนึ่งพระองค์จะไม่ขอสำเร็จ พระพุทธญาณ (ปัญญาหยั่งรู้พิเศษ) เรียกได้ว่า พระโพธิสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์ทั้งหลายทรงเป็น พระมหาฤทัยโพธิจิต คือ โพธิสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์ทั้งหลายทรงเป็นพระมหาฤทัยโพธิจิต คือ โพธิสัตว์ที่มีพระทัยกว้างใหญ่ไพศาลอย่างไม่มีขอบเขตประมาณ

    อวโลกิเตศวร แห่งพระนาม “พระแม่กวนอิม” มีหลายปางยังมีรูปกายต่างๆ ท่านทรงฉุดช่วยสรรพสัตว์ที่เวียนว่ายในทะเลทุกข์ (กองทุกข์) พระองค์ท่านยังปรากฏเป็นพระมารดาของพระพุทธเจ้าจำนวน 70 ล้าน พระองค์ และมีมากกว่านั้น พระนานของท่านมีมากมายเพราะสำเร็จเป็นพระพุทธองค์ในหลายแสนอสงไขยประมาณมิได้ แต่ท่านไม่ยอม (นิพพาน) เพื่อฉุดช่วยสรรพสัตว์ทั้งหลายให้สำเร็จและสำเร็จอีกด้วยพระบารมีของพระองค์ ด้วยความรักความเมตตาของคำว่า “แม่” คำนี้ซึ่งยิ่งใหญ่ในทุก ๆ ชั้นและทุก ๆ ภูมิความเป็นแม่ในทุกๆ สิ่งๆ ทุกๆ อย่าง ย่อมบังเกิดผลแห่งความสำเร็จ ซึ่งแสดงออกได้เด่นชัดกว่าคำว่า พ่อ ด้วยคุณสมบัติข้อนี้แหละพระองค์ทรงยิ่งด้วย ความเมตตาทาน อภัยทาน ธรรมทาน และฉุดช่วยเหล่าสรรพสัตว์ทั้ง 6 ภูมิ ให้พันจากทะเลทุกข์ (กองทุกข์) และช่วยถึงฝั่ง นี่คือความปรารถนาของท่าน คือ พระอวโลกิเตศวรมหาโพฺธิสัตว์ (พระแห่งความเมตตา)

    IMG_25620407_194238.JPG IMG_25620407_194140.JPG IMG_25620407_194103.JPG
     
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่926 อภินิหารพรานบุญ หลังแผ่นยันต์ตะกั่ว ไม่ทราบที่ พร้อมแผ่นคาถา
    พรานบุญ คือตัวตลกในการแสดงมโนราห์ของชาวภาคใต้ที่สืบทอดกันมาแต่ครั้งโบราณกาลทั้งพรานบุญยังเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยยึดเหนียวจิตใจของชาวภาคใต้หลายๆคน โดยเฉพาะลูกหลานของบรรพบุรุษที่สืบสายเลือดพรานบุญ – มโนราห์ ดังจะเห็นได้จากมักจะมีการบนบานศาลกล่าวพรานบุญ มโนราห์ เป็นประจำ เมื่อได้สำเร็จตามที่บนบานศาลกล่าวไว้แล้วก็มักจะมีการจ้างวงพรานบุญ มโนราห์มาทำการแสดง เพื่อเป็นการแก้บน…แต่หากจะกล่าวตามตำนานคติทางพระพุทธศาสนาจะพบว่า “พรานบุญ” คือ อดีตชาติในชาติหนึ่งของพระอานนท์ พุทธอนุชา โดยในชาดกทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวไว้ว่า ในอดีตชาติก่อนที่เจ้าชายสิทธัตธะจะทรงตรัสรู้เป็นพระอนุตระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงเสวยพระชาติพระนามว่า “พระสุธน” ทรงเป็นพระโอรสของพระเจ้าอาทิตยวงศ์เจ้าเมืองปัญจาลนคร ในเมืองปัญจาละทางทิศตะวันออกนั้น มีสระอยู่แห่งหนึ่ง น้ำใสสะอาดเหมือนแก้ว ทั้งยังเป็นที่อยู่พญานาคตนหนึ่งชื่อว่า ท้าวชมพูจิตร ซึ่งท่านช่วยคุ้มครองรักษาให้บ้านเมืองบริบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหาร ห่างออกไปมีเมืองหนึ่งชื่อว่า มหาปัญจาละ ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเมืองปัญจาละ เกิดข้าวยากหมากแพง พลเมืองได้ความลำบากมาก จึงได้พากันอพยพไปตั้งบ้านเรือนอยู่ ณ เมืองปัญจาละ พระเจ้านันทราชผู้ครองเมืองมหาปัญจาละมีจิตคิดริษยาจึ่งคิดอุบายที่จะกำจัดท้าวชมพูจึงได้รับสั่งให้พราหมณ์ผู้มีมนตร์วิเศษ ฆ่าท้าวชมพูจิตเสีย ขณะที่พราหมณ์กำลังร่ายมนต์จะกำกัดท้าวชมพูจิตนั้น มีนายพรานผู้หนึ่ง ชื่อว่า บุณฑริก (โดยปกติเราจะเรียกท่านว่า “พรานบุญ”) ได้เดินหาเนื้อมาทางขอบสระนั้นและได้ช่วยเหลือท้าวชมพูจิตไว้ เมื่อชมพูจิตรนาคราชได้พ้นภัยกล่าวแล้วได้มีความยินดีอย่างยิ่งรีบขึ้นมาหาพรานบุณฑริกพาไปยังนาคพิภพแล้วทำสักการ บูชาพรานนั้นครบเจ็ดวัน เมื่อพาพรานมาส่งได้ให้แก้ววิเศษดวงหนึ่งครั้นพามาถึงที่ขอบสระแล้วสั่งว่า “ถ้าท่านาจะต้องการพบเรา จงมา ณ ที่นี้ และตั้งใจนึกถึงนาคที่เฝ้าประตูของเรา แล้วนาคเฝ้าประตูนั้นจักพาท่านไปหาเรา” เสร็จแล้วนายพรานบุณฑริกก็ลากลับมาถึงบ้านของตนโดยความสวัสดี ต่อ มาวันหนึ่ง นายพรานบุณฑริกเที่ยวแสวงหาเนื้อในป่าได้ไปพบอาศรมของพระฤาษีชื่อว่า กัสสป จึงเอาธนูวางไว้แล้วตรงเข้าไปกราบไหว้พระฤาษีและสนทนากันเมื่อจบแล้วก็กราบลาพระฤาษีออกเดินเที่ยวหาเนื้อต่อไป เดินไปมิช้าก็ได้เห็นป่าแห่งหนึ่งเป็น ที่รื่นรมย์ มีร่มไม้ล้วนไปด้วยต้นแคฝอย ดูงามตา ที่กลางบริเวณป่านั้น มีสระสี่เหลี่ยม มีน้ำเต็มเปี่ยมและสะอาดดี มีดอกตูมบานสีต่างๆ นายพรานเห็นดังนั้นก็ประหลาดใจจึงกลับเข้าไปถามพระฤาษีแล้วถามว่า “ข้าพเจ้า คิดฉงนสงสัยนักทำไม่สระที่กลางป่าช่างงามหนักหนา มีไม้ดอกต่างๆ ขึ้นอยู่รอบน่าจะเป็นมนุษย์เทวดาจัดสรรค์สร้างไว้กระมัง ขอพระผู้เป็นเจ้าโปรดเล่าให้ข้าพเจ้าฟังสักหน่อยเถิด” พระกัสสปฤาษีจึงบอกว่า “ป่า นั้นใครจะได้สร้างไว้เราหารู้ไม่เห็นมีอยู่อย่างนี้ก่อนเรามาอยู่ เคยมีหมู่กินนรมาเล่นในสระนั้นเสมอ ถ้าท่านอยากดูจงไปยืนแอบอยู่ริมสระ ก็จักได้ชมเล่นเป็นขวัญตา” นายพรานได้ฟังดังนั้นก็ดีใจไปแอบซุ่มข้างพุ่มไม้ริมขอบสระ บังเอิญวันนั้นเป็นวันพระกลางเดือน ฝูงนางกินนรเคยมาเล่นน้ำที่สระในป่านั้นเสมอ จะกล่าวถึงนางกินนรี ตามตำนานเล่าว่า นางมโนราห์เป็นธิดาองค์เล็กของท้าวทุมราชผู้เป็นพระยากินนร นางมีพระพี่นางอีกหกองค์ล้วนมีหน้าตาเหมือน ๆ กัน งดงามยิ่งกว่านางมนุษย์ รูปร่างหน้าตาของพวกเขาเหมือนมนุษย์แต่มีปีกและหางที่ถอดออกได้เมื่อใส่ปีกใส่หางแล้วกินนรก็สามารถบินไปยังที่ต่าง ๆ ได้ ขณะนั้นนางกินนรทั้งเจ็ด ซึ่งเป็นธิดาของท้าวทุมราชตั้งบ้านเมืองอยู่ที่เขาไกลาส ได้พาบริวารพันหนึ่งบินมาทางอากาศครั้นถึงสระในป่านั้นก็พากันลงเล่นน้ำ บ้างว่ายบ้างดำบ้างก็รำและขับร้องตามสบายครั้นเวลาบ่ายฝูงนางกินนร ชวนกันบินกลับ เมื่อนายพรานบุณฑริกได้เห็นก็เกิดความพิศวงยิ่งขึ้น เพราะแต่ก่อนตนไม่เคยเห็นจึงรำพึงในใจว่า “นางกินนรเหล่านี้งามนักหนา ถ้าเราได้นำไปถวายพระสุธนกุมารแล้ว ท้าวเธอคงโปรดปรานหาน้อยไม่” คิดแล้วก็กลับมาหาพระฤาษีอีก ถามว่า “ข้า แต่พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าได้ไปเห็นผูงนางกินนรที่ลงเล่นน้ำในสระนั้นเกิดมีความพอใจยิ่งนัก ทำไฉนจักจับไปถวายเจ้านายข้าพเจ้าได้ ขอได้โปรดบอกอุบายให้ข้าพเจ้าสักหน่อยเถิด”พระ ฤาษีจึงตอบว่า “ไม่มีอุบายอันใดที่จะจับนางกินนรเหล่านี้ได้ดอก นอกจากจะจับด้วยนาคบาศ เท่านั้น”นาย พรานจึงถามว่า “นาคบาศนั้นมีอยู่ไหน ทำอย่างไรข้าพเจ้าจึงจะรู้จัก” พระฤาษีจึงตอบว่า ” นาคบาศนั้นเป็นของพญานาคใครสามารถนำเอามาได้ ผู้นั้นคงจักได้นางกินนรเป็นแม่นมั่น” เมื่อนายพรานได้ฟังดังนั้น ก็ระลึกถึงพญานาคาชมพูจิตรจึงได้ไปยืมบ่วงนาคบาศของท้าวชมพูจิตเสร็จแล้วรีบมายังสระที่นางกินนรเคยอาบน้ำ เข้าไปแอบซุ่มอยู่ที่พุ่มไม้แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้สระนั้น คอยดูนางกินนรเหล่านั้นอยู่ครั้นได้เวลา นางกินนรทั้งเจ็ดผู้เป็นธิดาท้าวทุมราช ก็พาบริวารสวมปีกหาง บินทะยานจากเขาไกลาสมาทางอากาศ ครั้นถึงสระโบกขรณี ก็เปลื้องเครื่องประดับและปีกหางลงวางไว้ ต่างพากันลงไปเล่นน้ำในสระนั้นด้วยความสำราญเหมือนอย่างเคย ฝ่ายนายพรานผู้แอบอยู่ เห็นได้โอกาสจึงค่อยย่องออกจากพุ่มไม้แล้วขว้างนาคบาศบงไปกลางฝูงนางกินนร บ่วงนาคนั้นได้ไปคล้องมือนางมโนรา (มโนหรา อ่าน มะ-โน-รา แปลว่า ยั่ว, งามหรือต้องอารมณ์เรามักเขียนเพี้ยนไปเป็น มโนห์รา ชาวใต้เรียก โนรา) ไว้แน่น จะดึงสักเท่าไรก็ไม่หลุด พรานบุญจึงได้จับนางมโนราห์ไปถวายแค่พระสุธน พระสุธนเห็นเข้าก็เกิดหลงรักนางและพานางกลับเมือง และได้อภิเษกกัน ต่อมาปุโรหิตคนหนึ่งได้เกิดจิตอาฆาตแค้นแก่พระสุธนเพราะว่าพระสุธนไม่ให้ตำแหน่งแก่บุตรของตน เมื่อถึงคราวเกิดสงคราม พระสุธนออกไปรบ พระบิดาได้ทรงพระสุบิน ปุโรหิตได้ทำนายว่าจะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ ให้นำนางมโนราห์ไปบูชายัญ ซึ่งท้าวอาทิตยวงศ์ได้ยินยอมตามนั้น นางมโนราห์รู้เข้าก็เกิดตกใจ จึงออกอุบาย ของปีกกับหางขอนางคืน เพื่อร่ายรำหน้ากองไฟก่อนจะตาย เมื่อนางได้ปีกกับหางแล้ว นางก็ร่ายรำได้สักพักก็บินหนีไป ไปเจอฤาษีก็ได้กล่าวกับฤาษีว่า หากพระสุธนตามมาให้บอกว่าไม่ต้องตามนางไป เพราะมีภยันอันตรายมากมาย และได้ฝากภูษาและธำมรงค์ให้พระสุธน เมื่อนางมโนราห์ได้กลับไปที่เมืองก็จะได้มีพิธีชำระล้างกลิ่นอายมนุษย์ ฝ่ายพระสุธนที่กลับจากสงครามได้ลงโทษปุโรหิต และติดตามหานางมโนราห์ เมื่อเจอพระฤาษี พระสุธนจะติดตามนางมโนราห์ต่อไป โดยมีพระฤาษีค่อยช่วยเหลือ เป็นเพราะเวรกรรมแต่ชาติที่แล้วนั่นคือ "มโนราห์" (นางมโนราห์ คือ พระนางเมรี และ พระสุธน คือ พระรถเสน) ทำให้พระสุธนได้รับความลำบากมาก เมื่อพระสุธนมาถึงสระน้ำอโนดาต ได้แอบเอาพระธำมรงค์ใส่ลงในคณโฑของนางกินรีนางหนึ่ง ซึ่งนางกินรีได้นำน้ำนั้นไปสรงให้นางมโนราห์ พระธำมรงค์ได้ตกลงมาที่แหวนของนางพอดี ทำให้นางรู้ว่าพระสุธนมาหานาง นางจึงได้แจ้งแก่พระมารดา ซึ่งพระบิดาต้องการทราบว่าพระสุธนมีความรักจิงต่อนางมโนราห์หรือไม่ ได้รับพระสุธนมาที่เมืองและให้พระสุธนบอกว่านางไหนคือนางมโนราห์ ซึ่งนางมโนราห์และพี่ๆๆมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกัน ร้อนถึงองค์อินทร์ ต้องแปลงกายมาเป็นแมลงวันทอง จับที่ผมของนางมโนราห์ ทำให้นางมโนราห์และพระสุธนได้เคียงคู่อย่างมีความสุข… พระเจ้าอาทิจวงศ์ครั้งนั้นคือพระเจ้าสุทโธทนะดาบสกัสสปฤาษีคือพระมหากัสสปะ นาคราชคือพระมหาโมคคัฟลลานะ พรานบุณฑริกคือพระอานนท์ มโนห์ราคือพระนางพิมพา สุธนกุมารคือตถาคต(พระสัมมาสัมพุทธเจ้า)….ซึ่งในปัจจุบันได้มีการทำหน้าพรานขนาดห้อยคอและขนาดบูชาหลากหลายสำนัก เช่น พ่อแก่เจ้าแสง วัดบานตรัง พ่อท่านลาภ วัดเขากอบ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ พระอาจารย์ประสูติ วัดในเตา เป็นต้น ซึ่งหน้าพรานนั้นมีคุณทางด้านโชคลาภเมตตามหานิยมมหาเสน่ห์และโภคทรัพย์ ค้าขาย ดีเรื่องเมตตาและทำมาค้าขายเรียกคน เป็นที่รักของคนหมู่มากไม่มีใครเกลียด ยังสามารถกันคุณไสยและขับออกไปได้ ไม่ว่าจะถูกกระทำมาด้วยอาคมหรือภูติวิญญาณ ใช้บูชาประจำบ้านเรือนร้านค้าเรียกลาภ เรียกคน หากมีหน้าพรานไว้กับตัว กันกระทำต่างๆรวมถึงป้องกัน ลมเพลมพัดใด้อีกด้วยกล่าวโดยรวมคือหน้าพรานมโนราห์นี้ดีทั้งกัน
    คุณmisszexman ปิดครับ
    IMG_25620407_193845.JPG IMG_25620407_193825.JPG IMG_25620407_194024.JPG IMG_25620407_193934.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2019
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่927 พระผงพิมพ์เจ้าสัวหลวงพ่อโต เนื้อกระเบื้องหลังคาพระวิหาร วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร กทม. ปี 2537 กล่องเดิม
    ***มวลสารกระเบื้องหลังคาโบสถ์ มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว
    ***ผ่านการทำสังฆกรรมและพิธีปลุกเสกมากมาย ได้รับพลังการปลุกเสก

    IMG_25620412_161017.JPG IMG_25620412_160948.JPG IMG_25620412_160919.JPG
     
  18. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่928 ตะกรุดทองแดงยันต์ปั๊ม ขนาด 2 นิ้ว หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย
    IMG_25620414_202536.JPG IMG_25620414_202638.JPG IMG_25620414_202811.JPG
     
  19. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่929 พระนิรันตราย (ผสมมวลสารอิฐโบราณกลางพระอุโบสถ) วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม
    พระนิรันตราย เป็นพระที่มีความศักดิ์สิทธิ์สมดังพระนามของท่าน อันมีความหมายว่า "แคล้วคลาดปราศจากอันตรายมาแผ้วพาน"
    เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าการสักการะบูชาพระพุทธนิรันตราย จะป้องกันอันตรายอันเกิดจาก อุบัติภัย ราชภัย โจรภัย อัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย อสุนีบาตภัย อมนุษยภัย ปีศาจภัย พาลภัย สารพัดภัย ในกาลทุกเมื่อแล
    IMG_25620417_114632.JPG IMG_25620417_114807.JPG IMG_25620417_114729.JPG
     
  20. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,906
    ค่าพลัง:
    +6,804
    ขอจองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...