เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

5 5

เจอ มุก นี้ ของ ท่านเห็ดหอม

ครับผม วันนี้ ไป ใช้บริการ มาแล้ว ครับ

ไปถึง ก็มีแผนก ต้อนรับ ยกน้ำเย็น มาบริการ แหม น่าจะเป็น บริกร สาวๆ กลาย เป็น อาเฮีย จักรพล ไป เสียได้.............

อนุโมธนา บุญ กับ คุณตัวกลมๆ ด้วย ครับ ตู้ทำน้ำร้อน น้ำเย็น
แถม มีตู้เย็น เล็กๆ ติดมา ด้วย.........

อีกไม่นาน อาจ มีการ กันห้อง กระจก ติดแอร์
มีดนตรี โฟคซอง คำเมือง ..... เป็น กับแกล้ม.... ก็ได้ นะ

แต่ สุรา เหล้า เบียร เจ้าของร้าน เขา ห้ามขาย
และ ห้านลูกค้าดื่ม ในร้าน เสียด้วย

จะมี ดื่ม ได้ อยู่ ท่าน เดียว ก็ คง เป็น เสด็จ เตี่ย
ที่คุณพี่ จักรพล แก แอบถวาย เบียร์ สิงห์ อยู่ บ่อยๆ

สำหรับ พวก เรา
เปลี่ยน เป็น น้ำชา กาแฟ ร้อนเย็น ......
หรือ น้ำแข็งใส ใส่น้ำแดง ก็ ได้ ...........555 อร่อย ดี

เริ่ม มี สี สรร บ้างแล้ว " สามตา คาเฟ่ "

 

วันนี้ ได้ ความรู้ มาอีก

ปกติ การ วัดพลังพระเครื่อง ... เรา ก็ ขออาราธนา ท่าน แล้ว ยกมือ ขึ้น วัดพลัง แรงดัน ตามความแรง ยิ่ง สูง มากก็ แรงมาก

ผม คัด พระ ที่วัดแล้ว มีปัญหา ได้ สัก 14 องค์
ไปให้ อ. สามตา ช่วย ตรวจสอบ หน่อย

ไปถึง อาจารย์ ว่างอยู่ พอดี.....

บอกอาจารย์ ตรวจพระเครื่อง ให้ หน่อย ส่งสัย พลัง คง น้อย วัดยาก

พอเปิด กล่อง ออกมา.........

ไอ้ หยา.............. น้อย ที่ไหน วะ.......
ระดับ ยี่สิบ สาม สิบ ทั้ง น้าน..................

อ้าว ชัก มึน แล้ว ซิ ดาว เอ๋ย

ทำไม่ ตอน เรา วัด เอง วัดยาก จัง.... ยัง คิดในใจ ว่า พลัง คง นิดเดียว จึง วัดยาก นัก

อาจารย์ วัด ที่ละองค์ ๆ แล้ว อธิบาย ต่อ

สรุป ได้ ดังนี้
บางองค์ พลัง แรง มาก จน ในระยะ ใกล้ กลาย เป็นช่องว่าง
เหมือนรูปวงแหวน

บางองค์ มีพลัง ส่งออกมา เป็นรูป กรวย
บางองค์ มีพลัง ส่งออกมา เป็นแฉก เหมือน รูปดาว
บางองค์ มีพลัง ส่งออกมา ด้านหน้าแบบ ด้านข้างด้านหลัง อีกแบบ

เช่น
พระสมเด็จ หลวงปู่ปรง วัดธรรมเจดีย์ ปี 39
แสด ม่วง 25 เมตร

รูปหล่อ หลวงปู่ปรง ปี 39
แสด ม่วง 18 เมตร แต่ ด้านหน้า มี เมตตา ออกมา ด้วย

เหรียญหลวงพ่อเขียว วัดบางแคน้อย สมุทรสงคราม
แสด ม่วง 30 เมตร ต้อง ถอย ออกไป ไกลๆ จึง วัดได้ ง่าย

เหรียญหลวงพ่อไพร วัดบางแคกลาง สมุทรสงคราม
แดง คราม 22 เมตร แถม มี ม่วง เขียว ฟ้า ให้ อีก
องค์ มี แปลก ไปอีก ส่งพลัง ออกมา เป็น แฉก คล้ายรูป ดาวกระจาย

เหรียญทักษิณ มิ่งมงคล นราธิวาส ปี 2511
แสด ม่วง 30 เมตร
องค์ นี้ แรงมาก จนผมวัด หาไม่เจอ ต้อง ถอยๆๆ ห่างออกไป
จึงวัด ได้ ........55

เหรียญหลวงพ่อเกษร วัดท่าพระ รุ่น 3 ปี
องค์ นี้ พลังแคล้วคลาด คุ้มครอง 26 เมตร
องค์ นี้ เป็นพระ ที่ผม อยาก แนะนำ............ให้ หาไว้ ติดตัว กัน
เพราะ ยังพอหาได้ ไม่ยาก
ในสนามพระ ก็ มี หรือ ไปแถวหน้าวัด ก็ พอหาได้ ราคา ไม่กี่ร้อย
เคย ทดสอบ
ด้วยการ ยิง ด้วยปืน ลูกโม่ ขนาด .38 มีพลัง แคล้วคลาด ดัน จนกระสุน ไม่สามารถ ยิงถูก องค์ พระได้
แม้น ยิง ซ้ำ อยู่ หลายนัด

มิใช่ ยิง ไม่ แม่น นะ
เพราะ ทดสอบ โดย นักแม่นปืน ฝีมือดี มี ดีกรี แชมป์ ถ้วยทอง หลาย ตะกร้า

 

ใช่พี่ดาวทะเลทรายหรือเปล่าคะ อย่างนี้เหมาส่งลงใต้ท่าจะดีนะคะ ได้ไอเดียปิ๊งๆเลยค่ะ

ขอบคุณเรื่องเล่าสนุกๆของอาจารย์สามตา คุณอธิษฐาน คุณploy manyมากนะคะ ติดตามอ่านตลอด

คุณเห็ดหอม พี่ดาวทะเลทรายคะ ถ้าตัวกลมอยู่จะเสริฟให้ พี่จักรพลจะได้ไม่ลำบาก
แต่ต้องข้ามคำว่า สาว ไปก่อน ไม่รู้ว่าจะมีใครยอมรับน้ำมั่งหรือเปล่าเนาะ
มีอะไรดีๆอยู่ค่ะ ผู้ใหญ่เขาเปิดทางให้หาซื้อด่วนๆในราคาไม่แพง อาศัยยัยตัวเล็กไปเป็นเพื่อน
ไม่งั้นก็หลงอีกตามเคย

แต่วันที่เอาของไปบูธนะคะ หนุ่มๆำไม่มีเล้ยย...เหลืออาจารย์กับแหม่มเดนมาร์ค เลยแปลงกายเป็น
นักแบบหามแทน ลองคิดภาพผู้หญิงใส่กระโปรงตัวกลมๆ แทบจะกลิ้งไปกับตู้น้ำเย็น ลากของมาจาก
รถ3ประตูคันเล็กๆนะคะ ดูไม่จืด อิอิ แต่ก็ภูมิใจมาก เพราะไม่อยากให้อาจารย์ลำบาก นู๋ทำได้
แต่ปวดหลังอะ สมควรแล้วที่ต้องไปเป็นศิษย์น้องพี่ดาวทะเลทรายแหละค่ะ

ทีนี้ใครไปก็หาน้ำหาท่าเองเลยเน้อ สมาชิกกันเองเจ๊าาา พกแก้วส่วนตัวก๊ะดีเหมือนกันนะคะ
เรื่องติดแอร์นะไม่ห่วงเลย แต่ว่า ที่ไม่พอให้เราไปรวมกันน่ะสิคะ แบบโอเพ่นแบบนี้พวกเราสนุก
เพราะบางทีก็แชร์ไอเดียกัน ฟังคำสอนอาจารย์สามตาไปด้วย แต่ลูกค้าก็เขินเหมือนกัน

ยินดีต้อนรับคุณกำแพง และผู้เข้ามาอ่านท่านอื่นๆด้วยค่ะ ค่อยๆไล่อ่านไป คงได้อะไรดีๆไปบ้างนะคะ
แต่อย่าคาดหวังมาก ที่นี่คุยกันไม่เน้นปรัชญาหนักๆ สบายๆสไตล์อ.สามตา

 

ขอไปทานด้วยคนครับ สามตาคาเฟ่ ขอเปลี่ยนเป็น สามตาคาเฟอิน แทนได้ไหมครับ 555 เพราะไปทีไรกินแต่กาแฟเย็นทั้งนั้นเลยครับ
ขออนุโมทนาบุญกับคุณตัวกลมด้วยนะครับ ที่ช่วยให้บูธของอาจารย์มีสีสันขึ้น แขกไปใครมาจะได้ชื่นใจกับน้ำเย็นๆ บุญเยอะเลยครับ สาธุ

สวัสดีครับคุณกำแพง ยินดีต้อนรับครับ
ผมเองก้อใหม่เหมือนกัน เพิ่งอ่านไป 40 กว่าหน้า ยังไม่จบเลย
ยังไงก้อขอต้อนรับครับ

 

วันไหนว่างมีโอกาสจะแวะไปเยี่ยมเยียนนะครับ

 

เรื่องเก่า เล่าใหม่ อนุโมทานา สาธุ ครับ

คุณกำแพง หยิบมาให้อ่านก็รู้ว่าอ่านแล้วนะ แต่ก็ต้องอ่านอีก

เพราะอ่านกี่ทีก็ รู้สึกยินดีกับข้อความที่นำมาบอกเล่าสู่กันฟัง

การปฏิบัิติไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิธี
อยู่ที่ความตั่งใจ
ไม่ได้อยู่กับสถานที่หรือปัจจัยอื่น
แต่อยู่กลับตัวเราว่าแน่วแน่แค่ไหน

คุณ บาส พูดประทับใจ จริง ๆ

 

อ่านเรื่องของคุณดาวฯ ได้ความรู้ขึ้นอีกเพียบ

มิน่า คิดอยู่ว่า พระเครื่องดังๆ บางองค์ แต่ทำไมดิฉันวัดพลังไม่ได้

ได้ความรู้เพิ่มขึ้น กราบอนุโมทนาค่ะ

เห็นภาพเลยว่า วันนั้นคุณดาวฯ คงเดินออกไปจากองค์พระไกลเป็นเมตรเลยแหงๆ ถึงจะจับพลังพระได้

ท่าทางคงสนุก เสียดายไม่ได้ร่วมวงด้วย
*******************

อีกเรืองที่คุณดาวฯ คงไม่ได้เขียนและอธิบายไว้ คือเรืองของที่เอามารวมปลุกเสกในองค์พระเครื่อง

แต่เรื่องที่สงสัยก็มีอีกเรื่อง ที่ the third eyes คงพูดกับคุณดาวฯ เหมือนกัน แต่คุณดาวฯ ไม่ได้เล่าอีกเช่นกัน

คือเรืองมีใครปรากฎตัวในพระเครื่องด้วยหรือเปล่า?

เช่น ขอเล่าประสบการณ์ตัวเองก่อนดีกว่า

อย่างที่เคยเล่าให้ฟังว่า ในงานพลังจิตปี 50 ดิฉันได้ไปเจอแจะกับพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งดูเขาจับพลังพระเครื่อง

อย่างที่บอกไปว่า ดิฉันจับพลังพระเองแล้ว จะไม่เห็นแสงออร่าในองค์พระเครื่อง
แต่ถ้าพี่ผู้หญิงคนนี้จับ แล้วดิฉันได้นั่งดู บางครั้งจะเห็นแสงออร่าจากองค์พระนั้นกระจายออกมาด้วยหน่อยๆ

และยังได้เคยเห็นใครบางคนอยุในนั้นด้วย เช่น เหมือนเป็นคน(พระ) เป็นฤาษี หรือใครนั่งอยู่ไม่ทราบ เด้งขึ้นมาจากองค์พระด้วย
****************

แต่ที่นั่งเห็นเอง ก้จะมีครั้งหนึ่งที่นั่งรถไปขายดอกไม้ช่วยมูลนิธิคนปัญญาอ่อนฯ ของสมเด็จ

ขณะนั่งรถก็มองธงที่แขวนหน้าหระจกรถ ที่เขามักจะทำเป้นยันต์หรือเขียนเป็นรูปพระ ก็แล้วแต่ อะไรเทือกนั้น

วันนั้นนั่งรถไปก็สวดมนต์ เสร็จก็หลับตาทำสมาธิ 2-3 นาที

ตอนสวดเสร็จก็มองที่ธงหน้ารถนั้น ก่อนจะหลับตาทำสมาธิ ก็เลยเห็นว่าธงยังติดตา

และกลางธงนั้นกลายเป็นพุ่มฉัตรสีทอง
************

เท่าที่ทราบ ไอ้แบบนี้ที่จะมีใครอยู่ หรือไม่ จะไม่มีในทุกพระเครื่อง แต่จะมีเฉพาะบางพระเครื่อง หรือบางธงเท่านั้น

รวมถึงวัตถุมงคลอื่นๆ เช่น เสือ ฯลฯ ที่ the third eyes เคยเล่า

สรุปได้ว่า วิชานี้ดิฉันยังต้องเรียนอีกยาวไกล

และอ่านเรื่องของคุณดาวฯ แล้วอยากไปคุยขยายความในเรื่องนี้ด้วยจัง....งัง

แต่เสาร์นี้ติดพระวัดภาษีให้ไปฟังน้องๆ มหา'ลัย คิดทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์

ทั้งๆ ที่อาทิตย์นี้ ตัวเองรู้สึกไม่ค่อยสบาย บางทีนัดไว้ อาจจะต้งโทรไปบอกพระท่านว่าคงไม่ไป หรือเปล่า ยังไม่แน่ใจ

สังขารไม่รู้จะเอื้อหรือเปล่า เกิดเป็นผู้หญิงก็อย่างนี้แหละค่ะ ไม่สบายได้ทุกเดือน

 

ขอบพระคุณอาจารย์ครับ..

ขอโอกาสครับ ขอขอบพระคุณอาจารย์ที่เมตตาบอกบุญ ร่วมโมทนาด้วยโอนไปแล้วนะครับ...ขอแผ่บุญกุศลนี้ให้กับทุกท่านและเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายครับ...

วันนี้เป็นวันครูด้วยครับ... ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย โปรดเมตตาปกปักรักษาทุกๆท่าน ตราบจนเข้าสู่พระนิพพานครับ กราบบูชาพระคุณท่านด้วยใจเคารพ..พุทธบูชามหาเตชะวันโต ธรรมบูชามหาปัญโญ สังฆบูชามหาโภควะโห อะระหังพุทโธ อิติปิโสภควา

ขอบพระคุณครับ;aa40

 

รู้สึกผู้คนจะสนใจเรื่องพลังพระเครื่อง ขึ้นมาก
คนส่วนใหญ่จะใส่เพื่อ ความอุ่นใจ..เรื่อง อุบัติเหตุ
เรื่องกันผีหลอก/ เรื่อง โชคลาภ ค้าขายดี.
.......................................................
ผู้มีพลังจิต ที่มีอำนาจตบะ แรง ก็ อัดพลังลงไปใน วัตถุมงคล
ทำให้เกิด อำนาจ อภิญญา นานา ชนิด..
ที่ฮือฮา มาก จะเป็น พวก ถูกยิง แล้วไม่เข้า
เสื้อที่ ใส่มีรอยกระสุนทะลุ เป็นรูๆๆรอบตัว
..................................................
มีคนเอาเสื้อที่ถูกยิง แล้วมีรูๆๆรอบตัวมาให้ ตรวจ
ว่ามีพลัง คงกระพัน อย่างไร..ยิงไม่เข้าเพราะ เสื้อ หรือเป็นเพราะ ตัวเขา
เพราะ ตัวเขาเอง ก่อนนอน สวด มนต์ คาถา นับชั่วโมงทุกคืน
.......................................................................
หลังจากตรวจ พบว่า ตัวเขาสวดมนต์ จนมีอำนาจแรง มีตบะแรง
อำนาจนั้นจมฝังลงไปในเสื้อ...เหมือนชาร์ตไฟแบตเตอรี่
ก็เลยขอให้ทิ้งไว้ที่บู๊ธ สักพักใหญ่
เราว่างก็เลย ไปหาเสื้อยืดใหม่ๆๆ สีขาว หลายขนาด
ทั้งเสื้อยืด แบบ ผู้หญิง และ แบบผู้ชายกล้ามโตใส่.
...........................................................
พอได้เสื้อมา.ก็เอามาวางเรียง.ซ้อนๆๆกันไว้
แล้ว เอาเสื้อตัว ที่ กันกระสุนจริง วางไว้ ข้างบน
กำกับคาถา อัดพลังลงไป
จนเสื้อทุกตัว มีอำนาจกันกระสุน ได้ เหมือนตัวจริง
เป็นเรื่องที่ ทำได้..และเป็นที่เข้าใจกันดี ในระหว่าง นักพลังจิต
ตอนนี้ที่บู๊ธมีเสื้อยิงไม่เข้า..อยู่หลายตัว สมาชิก มาทดลองได้
ว่า ยิงไม่เข้าจริง หรือ ไม่
...................................................................

 

เจ้าของเสื้อ ต้นตำรับ ยิงไม่เข้า หายไปนาน..ไม่มาที่บู๊ธ นานกว่าเดือน
รู้ว่า เขา ทำงาน ขับรถส่งของ อยู่ แถว ปัตตานี นราธิวาศ
ดินแดน ปลอดภัยทั้งนั้น
..................................................................
วันดีคืนดี ก็โผล่มาที่บู๊ธ..เอาเสื้อมาอีกตัว
ทีนี้ ทั้งตัว มีแต่รอย แบบ..เจี๋ยนปลา เป็น แง่งๆๆ
เขาเล่าว่า ตอนหนึ่งขับรถ กลางวันไปส่ง ของ
ถูกผู้ก่อการร้าย รุมยิง..ก็แกล้ง ทำเป็น ตาย
พอคนร้าย3 เดินเข้ามาจะปลดทรัพย์ปล้น เขาก็ลุกขึ้น
พวก นั้นชัก ดาบแบบกริช ออกมา รุมฟัน ทั้งตัว
ฟันไม่เข้า...พวกนั้นก็ตกใจ...วิ่งหนีไป
เขามีแต่มีดดาบเช่นกัน...ก็ขี้เกียจ วิ่งตาม
......................................................
มาที่บู๊ธ 042 เอาเสื้อ มีรอย ถูกฟัน มาให้ ดูและเก็บไว้ อีก 1 ตัว
ก็ยังไม่ได้ ทำอะไร..ถ้าใครต้องการเสื้อ แบบฟันไม่เข้า ก็ มาบอก..
จะทำให้..แล้วลองฟัน กันตรงนั้นเลย
...................................................
อะ ฮ้า...อะฮ้า...อะฮ้า..ใครจะมาเอาเสื้อ และ ลองให้คน..ฟันดู
ถ้า กล้ว มีดดาบ ก็ เอาปืน มาลอง ยิงก็ได้
ยิงรับรองไม่ผิด เพราะ คนของ "ดาวทะเลทราย"เป็น มือปืนระดับชาติ
เขาว่า หยั่ง นั้น
.......................................................................

 

เห็นคุณกำแพงเรื่องทำบุญวัดคุ้งท่าเลา ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

ก็ขอเล่าถึงเรื่องพระศรีอริยะเมตไตยทีอ.สามตาเคยบอกว่าถึงเวลาท่าลงมา

แล้วได้เคยร่วมกับอ.สามตาเปิดชื่อวัดในประเทศไทยเพื่อสำรวจว่าวัดไหน

ทีท่านลงมาโปรดบ้างแล้วจะได้เดินทางไปกราบเพื่อเป็นศิริมงคลและเป็นการ

พิสูจน์ว่าเป็นไปตามที่เราสัมผัสจากชื่อวัดใช่หรือไม่จนได้พบวัดคุ้งท่าเลา

จ้งหวัดลพบุรีเมื่อเดินทางไปที่วัดก็พบว่าเป็นไปตามที่สัมผัสได้

ล่าสุดได้พบว่ามีวัดที่สัมผัสได้ถึงพลังขององค์พระศรีอริยะเมตไตย

ในพื้นที่คลองหก อ.ธัญญะบุรี ปทุมธานี วันนี้พบว่าฟ้าเปิด

จึงนัดกับสหายธรรมสองสามท่าน เมื่อพร้อมก็เดินทางไปที่

คลองหกเมื่อถึงตรงศาลจัหวัดธัญญะ และโรงพยาบาลธัญญะบุรี(น่าจะใช่)

ก็เลี้ยวซ้ายตรงไฟแดงเข้าไปตรงข้างคลองหก วิ่งตามลำคลองไปเลื่อยๆ

ระยะประมาณสิบกว่ากิโลเมตร ก็สัมผัสได้ถึงพลังที่ท่ามส่งมาเริ่มชัดขึ้น

และพบป้าย ."วัดปัญญานันทาราม" จึงเลี้ยวรถเข้าไปอีกประมาณเกือบ

หนึ่งกิโลเมตรสองข้างทางเป็นนาข้าวเขียวสด เมื่อเข้าถึงบริเวณวัดจอด

รถเรียบร้อย สำรวจบริเวณวัดพบว่าเป็นวัดที่มีรูปแบบสิ่งก่อสร้างไม่เหมือน

วัดไทยทั่วไปเป็นรูปแบบทรงเหมือนวัดยุโรปและที่สัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาล

จึงได้รีบเดินไปดูรูปหอสูงรูปทรงเสาสี่ต้นประกบกันเข้าใจว่าน่าจะเป็นหอระฆัง

เมือเดินเข้ามาพิจารณาไกล้ๆจึงพบว่าบนยอดหอคือยอดวัชระ(ยอดบนหมวก)

ของพระองค์์ ได้เดินเข้าไปใต้หอระฆังดังกล่าวพบว่าท่านส่งพลังเป็นหมวก

ฉัตรลงมาสวมที่หัวของทุกคนที่เข้าไปยืนอยู่ใต้หอทุกๆคน หลังจากนั้นก็เดิน

สำรวจมาทางอาคารขวามือก็มีพลังมากระแทกก็เดินเข้าไปหาพบว่าเป็นแ่ท่งหิน

ที่มีพญานาค เจ็ดเศียรท่านดูแลวัดอยู่ก็ขออนุญาติท่านมากราบพระท่าก็อนุญาติ

และส่งพลังเย็นมาให้เรียบร้อยแล้วก็เดินมาทางอาคารซ้ายมือที่หมายตาไว้แต่

แรกว่าน่าจะ็เป็นอุโบสถพอเดินเข้าไปไกล้พอมองเห็นข้างในเท่านั้นระครับ

ใช่เลยเป็นองค์พระประธานปางมารวิชัยอยู่รูปหน้าเจดีย์เมืองนครนูนสูง

ด้านหน้าทางเข้าพบแท่นศิลาฤกษ์ ที่บรรจุบัวแปดเหลี่ยมรอบพระบาท

ที่พลังไม่แพ้พนมรุ้งระครับท่าน รับพลังเสร็จเข้าไปกราบท่านเดินจน

พบว่าข้างหน้าท่านเป็นเหมือนเวทียกพื้นไม้ก็เหมือนโดนกดให้คุกเข่า

พร้อมกันทราบทันทีว่าห้ามขึ้นไปบนยกพื้นนั้นก็กราบท่านแล้วนั่งสมาธิ

ตามระเบียบครับแล้วท่านก็สื่อมาในจิตว่าชางพุทธที่มีจิตศรัทธาและ

เชื่อมั่นในองค์ท่านเมื่อนึกถึงท่านๆก็ไปพบและจะอยู่เหนือปํญหาตาม

แต่บุญของแต่ละคนเมื่อออกจากสมาธิกราบท่านแล้วเดินออกมาก

ตรงกลางมองบนเพดานพบว่าเป็นดอกบัวสวรรค์จึงยืนใต้ดอกบัวพบว่า

มีพลังดึงจิตพวกเราขึ้นข้างบนได้ ออกมาจากโบสถ์ก็มาเวียนทักษิณานุวัตร

ให้ครบตามกบวนการเรียบร้อยแล้วอิ่มบุญอิ่มอกอิ่มใจเดินกลับมาที่รถนั่นแน่

เทพารักษ์ที่อยู่ระหว่าทางท่านอยู่นานรับบุญที่นี่ทุกวันจะแบ่งบุญให้คณะพวกเราทุกคน

ก็รับกันเต็มๆทุกถ้วนหน้าเเล้วเราก็กล่าวขอบคุณและขอให้บุญถึงท่านเช่นกัน

เป็นอันเดินทางกลับด้วยความเต็มอิ่มในบุญ มีข้อมูลในจิตตอนกลับว่าในกรุงเทพ

ก็มีวัดที่มีพลังท่านเริ่มเช่นกันแล้วนะคราบบบบแล้วจะแจ้งในโอกาศต่อไปเฮ้อเล่าซะเหนื่อย

 

พระเครื่อง นอกจาก อำนาจกฤติยา ที่รู้ๆๆกัน คือ
ยิงไม่เข้า/ แคล้วคลาด/เมตตามหานิยม/พุทธบารมี/โชคลาถ/ กันคุณไสย
ซึ่งเป็น อำนาจหลักๆๆๆ
...................................................................
มีบางองค์ มีอำนาจพิเศษ คือ แก้โรคภูมิแพ้/ ปวดเมื่อยตัว/
เร่งการเปิดตาที่สาม/เพิ่มกำลัง สมาธิ/เพิ่มลมปราณ ฯลฯ
การตรวจพลังพระเครื่อง ทำได้ โดยการสัมผัส
..............................................................
อาจเป็น แบบ ยกมือวัดแรงดัน โดยตรง/ ว่า ดันแรงแค่ไหน

แบบกำไว้ในมือ แล้ว วัด ความชาที่เคลื่อน ขึ้นมาตามแขน
ว่า ขึ้นมาไกลแค่ไหน...ยิ่งไกลก็ยิ่งแรง

แบบกำไว้ในมือ แล้วดูการสั่น แกว่งโยก สะบัด

และแบบดู จากแสงออร่า ของ พระเครื่อง ดูจากสี และความสว่าง
เหมือนหลอดไฟ ที่ ถ้าสว่างมาก แสงก็จะฉายไปไกลมาก
.......................................................................
ที่บู๊ธ 042 ใช้ตรวจแบบ เอามือ มายกขึ้นดื้อๆๆ ว่า ดึง หรือ ดัน แรงแค่ไหน
และดูแสง ออ่า ว่า มีสีใด สว่างแค่ไหน
ที่ จริง คนตรวจ ใช้ตามอง แสงก็ แน่นอนแล้ว
แต่ก็ต้องใช้มือยก เพราะ ต้องการให้ เจ้าของ พระเครื่อง จับพลังได้ ด้วย
จะได้ แน่ใจ และภูมิใจในพระเครื่องของ ตัวเอง
..........................................................................

 

พระเครื่อง นอกจาก อำนาจกฤติยา ที่รู้ๆๆกัน คือ
ยิงไม่เข้า/ แคล้วคลาด/เมตตามหานิยม/พุทธบารมี/โชคลาถ/ กันคุณไสย
ซึ่งเป็น อำนาจหลักๆๆๆ
...................................................................
มีบางองค์ มีอำนาจพิเศษ คือ แก้โรคภูมิแพ้/ ปวดเมื่อยตัว/
เร่งการเปิดตาที่สาม/เพิ่มกำลัง สมาธิ/เพิ่มลมปราณ ฯลฯ
การตรวจพลังพระเครื่อง ทำได้ โดยการสัมผัส
..............................................................
อาจเป็น แบบ ยกมือวัดแรงดัน โดยตรง/ ว่า ดันแรงแค่ไหน

แบบกำไว้ในมือ แล้ว วัด ความชาที่เคลื่อน ขึ้นมาตามแขน
ว่า ขึ้นมาไกลแค่ไหน...ยิ่งไกลก็ยิ่งแรง

แบบกำไว้ในมือ แล้วดูการสั่น แกว่งโยก สะบัด

และแบบดู จากแสงออร่า ของ พระเครื่อง ดูจากสี และความสว่าง
เหมือนหลอดไฟ ที่ ถ้าสว่างมาก แสงก็จะฉายไปไกลมาก
.......................................................................
ที่บู๊ธ 042 ใช้ตรวจแบบ เอามือ มายกขึ้นดื้อๆๆ ว่า ดึง หรือ ดัน แรงแค่ไหน
และดูแสง ออ่า ว่า มีสีใด สว่างแค่ไหน
ที่ จริง คนตรวจ ใช้ตามอง แสงก็ แน่นอนแล้ว
แต่ก็ต้องใช้มือยก เพราะ ต้องการให้ เจ้าของ พระเครื่อง จับพลังได้ ด้วย
จะได้ แน่ใจ และภูมิใจในพระเครื่องของ ตัวเอง
..........................................................................

 

ลืมไปครับตอนเดินทางไปรีบไปหน่อยเลยลืมกล้องไป

เก็บภาพบรรยากาศในวัดมาให้ชมกันเลยเสียดายจัง

แต่กะว่ามีเวลาจะชวนสมาชิกจัดทัวร์เสียเลย 55555

 

อาจารย์เข้ามาเหมือนกันหรือครับพึ่งตื่นหรือยังไม่ได้นอนผมพึ่งส่งงานเสร็จ
ก็เลยพึ่งเข้ามา

 

ในการตรวจด้วยการมองแสง ออร่า ของ พระเครื่อง
จะดีกว่า ตรวจด้วยการสัมผัส

เพราะจะเห็น เพิ่มอีกหลายอย่างที่ การตรวจด้วยสัมผัส จะทำไม่ได้
เช่นในบางกรณีย์ จะเห็น หลวงปู่/ พระเกจิอาจารย์ ผู้สร้าง
มา ลอยมอยู่เหนือ แสดง ตัว..ว่า ฉันเป็นผู้สร้าง
ถ้าเราจำรูปท่านได้..เราก็จะรู้ทันทีว่า ใครมา
............................................................
ที่น่า กลัว บางที ไม่ใช่พระ หรือ ผู้ สร้าง
แต่เป็นวิญญาณ ของเจ้าของพระเครื่อง ที่ตายไปแล้ว ก็ ยังตามมาหวง
ถ้า คนใหม่ ทำตัว ไม่พอ ใจ..ก็จะพาพระเครื่องนั้นหนีได้..
ไปหาคนที่ถูกใจ
............................................................................
เราจึงได้ ยินข่าวบ่อยๆๆว่า อยู่ดีดี พระเครื่อง หายไป
หรือ อยู่ดีดี พระเครื่องก็มาอยู่ด้วย
......................................................................

 

การมองตรวจออร่าของพระเครื่องจะเห็นลักษณธะของแสงสี
และการกระจายของสี แห่งพลัง ว่าเป็นรูปใด
ผู้ใดแขวนพระพลังอย่างใด รูปใด..รูปนั้นก็จะ ครอบ ตัวเขาไว้
......................................................................
โดยทั่วไป แสงสี พลังพระเครื่อง จะ ติดอยู่ชิดผิวหนัง ตัวเรา
เห็นเป็นกลุ่มก้อน แบบ เราเป็นไข่แดง..มีไข่ขาวและเปลือกไข่หุ้มไว้
........................................................................
แต่มีอีกหลายองค์ ที่ เห็น เป็นแบบ พระอาทิตย์ ทรงกลด แสงเป็นชั้นๆๆ
หรือ เหมือนแหวนที่ ล้อมรอบ ดาวเสาร์ ที่ สวยงาม
พระเครื่องแบบนี้ จะมีพลังมากกว่า ปกติ
มีแรงดันมาก จนเกิดเป็น ช่องว่าง หรือ สุญญากาศ
หรือ ภาษา เทคนิค เรียกว่า "วอยด์" หรือVOID
...........................................................
เมื่อวัดโดยการสัมผัส..ก็จะเจอแต่ความว่างเปล่า หรือ มีพลังน้อย
เพราะตรงกลาง จะว่างเปล่า...เป็นสุญญากาศ
ถ้าจะวัด..ก็วัดที่ วง ทรงกลด หรือ ที่ วงแหวน
โดยเดินถอยออกมาจาก พระเครื่อง นั้น ประมาณ 5-10 เมตร
เมื่อ อยู่ในเนื้อ วงแหวนก็ จะวัดพลัง พระเครื่อง นั้นได้
.................................................................
ดังนั้นต่อไป เมื่อใด เจอพระเครื่องที่ดี และคิดว่าใช่ แต่วัดพลัง ไม่ได้
ก็ให้วัดโดยการ ยืนห่างออกไป..แล้วลองดันดู..ก็จะพบพลัง
......................................................................
ถ้าใครตาทิพย์ ก็ไม่ต้อง เดินออกไป ห่าง
เพราะจะเห็นรัศมีวงแหวนว่า กว้างเท่าใด
พลังจะแรงที่ สุด ในระยะเท่าใด
.................................................................
ครับ ลองดู
.............................................................

 

เห็นนินทากันมากเรื่อง" สามตา คาเฟ่"
ขอขยายความ ดัง นี้
เครื้องทำน้ำร้อน/น้ำเย็น ...มีแล้ว
ตู้เย็น........................มีแล้ว
แก้ว/เครื่องผง ชง/ช้อน.....มีแล้ว
แอร์มีแล้ว... ทั้งแอร์กี่ และ แอร์ไก่
..........................................
พอมีตู้เย็น...ต่อไป ก็จะมีคนเอาอาหารและเสบียงมา
พอเหลือ ก็เก็บแช่ ไว้ในตู้เย็น..ไว้วันต่อมาได้
พอคิดได้ แค่นี้...อาหารเย็นจะต้องอุ่นก่อนจะกินใหม่
มีคนยก เครื่อง ไมโครเวฟมาแล้ว ใหม่แกะกล่อง ซิงๆๆ
...........................................................
ทีนี้ก็เลย กลายเป็น " สามตาคาเฟ่" ไปจริงๆๆ
ตามที่ใครคนหนึ่งสาปแช่งไว้
ปากศักดิ์สิทธิ์ จริงๆๆ...น่า นับถือ
............................................................

 

ขอตอบ คุณ เห็ดหอม....ผมยังไม่ได้ นอน...
อ่านกระทู้ ของ ดาวทะเลทราย และ อธิษฐาน
ก็เลย ร่ายยาวเรื่อง..หลักการวัดพลังพระเครื่อง และรายละเอียด

ขอบคุณที่เล่าเรื่องการไป วัด ที่คลองหก มา ให้สมาชิกอื่นๆๆได้ รู้เรื่อง
วัดปัญญานันทาราม...อยู่ไม่ไกล จาก กทม..

ใครที่ไม่มีโอกาสไป วัด ไล ย์/วัดคุ้งท่าเลา ลพบุรี/ วัด พร้าว สุพรรณบุรี
ก็ไปที่ นี่แทนก็จะง่ายกว่า
.............................................................................
ก่อนองค์พระศรีอริยเมตตรัย จะเสด็จ มา
พระองค์ จะทรงเลือกวัด..ที่ จะเริ่มต้นอยู่ในสายของ ท่าน
เพราะ เคลียร์ ปัญหา สะสม ของ แต่ละวัดได้ ง่ายกว่า
..................................................................
เท่า ที่ สังเกตุดู องพระศรีอาริย์ จะเลือกวัด ทีไม่วุ่นวาย
วัดที่ สงบ/ วัดในสายปฏิบัติ/วัดที่ไม่เน้น พุทธพาณิชย์
ไม่เน้น พลังและ อิทธิฤทธิ์ ปลุกเสก วัตถุมงคล
ไม่เน้นวัดที่ ใหญ่แล้วดัง ผู้คนไปแล้ว มากๆๆ
.............................................................
คนที่มีพลังจิตสูง
แค่ จิ้มชื่อวัด บนแผนที่
แค่ขับรถผ่านหน้าวัด
แค่เดินเฉียดวัด
ก็จะรู้ทันที ว่า
วัดนี้เป็นอย่างไร
ดีมาก /ดี น้อย
สมควรจะเข้าไป ไหว้ ข้างในหรือ ไม่
...............................................
เราพบว่า มีวัด ใหญ่ และดังหลายวัด ที่ เราเข้าไปไม่ได้
ข้างบน บอกว่า ไม่ถูกต้อง...และห้ามเราเข้าไป
ด้วยเหตุผลที่ เบื้องบนรู้...และบอกให้เรารู้
และจากสัมผัส พิเศษ เราจะรู้ว่า พระศรีอาริย์ ท่านเลือกวัดใด
ที่ ท่านจะมาเริ่ม ต้น ยุคของท่าน
โดยพระองค์ จะจัดระเบียบวัดใหม่
ให้ถูกต้องเพื่อการหลุดพ้น...ไม่ใช่เพื่อ พาณิชย์ และ โลภะ
ตอนนี้ เราพบแล้ว 16 วัด จาก วัด ทั้งหมด ทั้งประเทศ
ที่มีมากกว่า 70,000 วัด
.................................................................
..............................................................

 

ขอแก้ไขชื่อวัดที่อาจารย์เขียนบอกจริงๆชื่อวัด " ปัญญานันทาราม" ครับ
วัดนี้เป็นวัดปฎิบัติสาย ท่านพระอาจารย์ ปัญญานันทภิกขุ และ อยู่ในการดูแล
มหาจุฬาราชวิทยาลัยเสมือนโรงเรียนสาธิต ในเรื่องปฎิบัติ เป็นวัดที่เงียบสงบ