เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ร่วมบุญครับ

 

วันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีฉลู
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

สาธุธรรม วันพระ จาก หนังสือพินัยธรรม พระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี)

 

สวัสดีครับอาจารย์วันวิ พี่น้องทุกท่านครับ
อนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ
ขอให้อาจารย์วันวิ พี่น้องทุกท่าน มั่งมีเงินทอง ร่ำรวยความสุข หมดทุกข์โศกโรคภัย รวยๆๆๆ ทุกท่านครับ สาธุ

 

โอนเงินให้คุณน้ำฝนเรียบร้อยแล้วครับ ส่วนเกินขอร่วมบุญอื่นๆกับท่านอา Wanwi ด้วยครับ

 

สวัสดีครับคุณอา วันวิ และสมาชิกนักขุดกรุทุกท่าน
ตอนนี้ไวรัสร้าย ออกอาละวาดหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ รักษาสุขภาพกันทุกท่านด้วยนะครับ
ที่ออฟฟิศผมเองนี่ก็ประกาศ WFH กันตั้งแต่สัปดาห์ก่อน แหมๆลู่ทางค้าขายกำลังจะดีทีเดียว..
วันก่อนท่อง ยูทูปไปเรื่อย เจอเรื่องทายาทช่างหลวงท่านหนึ่งเข้า(เขาว่านะ) เห็นว่ามีสมบัติของบรรพบุรุษเยอะโดยเฉพาะพระสมเด็จฯ เห็นว่ามีมากขนาดครึ่งล้านองค์เลย แล้วแจกฟรีด้วย แค่ช่วยค่าขนส่ง ค่ากรอบ ค่าสร้อยฯ เล็กน้อย
ไอ้ผมเองก็จะเรียกว่าคนในวงการพระเครื่องได้หรือเปล่า ตอบเลยว่าไม่ได้เด็ดขาด หากเปรียบวงการพระเครื่องเป็นร้านค้าปากซอย ผมนะอยู่นู่น ท้ายซอยของอีก 5 ซอยถัดไป...
พอพิจารณาการสร้างพระในยุคของสมเด็จฯท่าน ที่ต้องทำผงเอง โดยวิธี รวมมวลสารมาปลุกเสก เขียนแล้วลบ ลบแล้วเขียน จนได้ที่ค่อยนำมากดพิมพ์แล้วยังต้องนำองค์พระไปผ่านพิธีการปลุกเสกอีก ถ้าทันสมเด็จฯท่านทำจริง ผมว่าท่านไม่ต้องรับกิจนิมนต์แล้วล่ะวันๆนั่งปั๊มแต่พระชุดนี้...
เล่าสู่กันฟังครับ ดีนะที่ผมมีภูมิคุ้มกันจากคุณอา เลยพิจารณาด้วยเหตุและผลแล้วจึงรู้ได้เองว่ามันคืออะไร?

 

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

เหรียญ"ปราบกบฏ" เข้าทำนอง "ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร" ผู้แพ้จึงต้องก้มหน้าเดินเข้าหลักประหารสมัยนั้น ท่านระดับ พลเอกชื่อเสียงเกรียงไกรไม่เบา ไม่ขอนำชื่อท่านมาเอ่ย ผู้สนใจใคร่รู้ ค้นหาอ่านเองได้ไม่ยาก

อีทีนี้อีกไม่กี่เดือน...ชุดปราบกบฏ ทำปฏิวัติบ้าง ก็ทำสำเร็จ จึงกลายเป็นคณะปฏิวัติ-ปฏิรูปไปโน่น ไม่โดนประวัติศาสตร์ตราหน้าว่า...กบฏ!

เหรียญนี้จึงเป็นความทรงจำในหนึ่งห้วงประวัติศาสตร์ มีเก็บไว้บ้างก็ดีมาก สืบนานไปถึงรุ่นลูกหลานเหลนจะมีค่ามากมาย ผมเองก็ยังมีเก็บไว้อีกหลายเหรียญ เอามาแบ่งปันเล่าประวัติศาสตร์บางช่วงให้คนรุ่นหลังรับรู้ บางคนเกิดไม่ทัน บางคนเกิดทันแต่ยังเด็กเกินไป ก็จะได้รู้ไว้ใช่ว่า

เป็นบทเรียนให้ซึ้งหัวอก ทั้งพ่อแม่ลูกเล็กเด็กแดงไร้เดียงสา...ใครมาชวนไปทำปฏิวัติอย่าได้สะแหล็น(เสือก)ไปกะเค้า แพ้มาเป็น 'กบฏ'จบไม่สวยทันที ส่วนไอ้คนชวน-คนปลุกปั่นอยู่เบื้องหลัง นั่งกระดิกเท้าสบายใจเฉิบ ชนะมากรูโหนเด็กเป็นเจ้า แพ้ขึ้นมา เด็กไปชูนิ้วในคุก เป็นความฝันบัดซบที่มันยัดใส่สมองเด็กอมมือ แล้วอุตส่าห์มีคนปัญญาอ่อนที่คิดว่าตัวเองเป็นปัญญาชนเชื่อมัน-ฮ่วย!

โมทนาน้องศิวะ รวบรวมไว้อีกชุดจัดส่งปลายเดือนครับ

 

อีกหนึ่งเหรียญในชุดหลวงปู่แหวนที่อายุการสร้างนานมาก เรียกว่าพระยุคต้นที่สร้างก่อนหน้านั้นก็ห่างรุ่นนี้ไม่กี่ปี เป็นชุดประวัติศาสตร์ระดับประเทศเช่นกัน เพราะ"รวมใจ"กันเป็นหนึ่งเดียวดีแท้ ตั้งแต่เบื้องบนลงมาถึงรากหญ้า เมื่อออกใหม่ๆสร้างความตื่นเต้นให้กับนักสะสมมาก ในห้วงนั้นการค้าขายพุทธพาณิชย์แค่วงเล็กๆแถววัดมหาธาตุ วัดราชนัดดา ท่าพระจันทร์ ฯ ไม่มากสถานที่ การสร้างเหรียญ"รวมใจ" ให้คนจองจึงพอๆกับเหรียญรุ่น"เราสู้" ราคาเหรียญละ 20 บาทถ้าจำไม่ผิด

ความต้องการมีมาก เหรียญแท้ยังแจกไม่หมด ไอ้พวกมือผีก็เคาะของปลอมออกมาแข่ง เพราะต้นทุนเหรียญละไม่เกิน 2-3 บาท ขายได้สักพัน-หมื่นเหรียญก็รวย ดูมันทำ ความรียำตำบอนของนักปลอมแปลงแข่งพระ แข่งเจ้า แข่งหลวง มันมีตั้งแต่พระเครื่องเริ่มเปลี่ยนค่าเป็นเงิน หนีมันไม่พ้น

พระเก๊ไม่น่ากลัวเพราะเรามีความรู้ มีวิชาสู้กับมัน มีของแท้ดู...พระเสริมเราไม่กลัวเพราะเรารู้ เราก็ไม่เล่น

ไอ้พระเก๊คลุมเครือไม่มีประวัติสร้าง แต่ถูกสร้างขึ้นมาแล้วเขียนประวัติเอง อย่างที่แก็งค์ไอ้พวกหอยเน่าสับปะรังเคไร้ราคา ไร้ศักดิ์ศรีบางคนพยายามปั้นนิยายให้กลายเป็น "พระแท้" นี่สิ น่ากลัวที่สุด เพราะมันแต่งนิยายยัดเยียดใส่กระโหลกคนอ่านไปเรื่อยๆ เหมือนเปิดเพลงฟังซ้ำซาก ไม่ช้าก็โดนใจคนแบบเดียวกับนิยาย"พระในดง-ลวงโลก' ที่พระปูนปลาสเตอร์กลายเป็นพระแท้-พระเก่า น่าเวทนา น่าสงสารคนซื้อ

โมทนาน้องศิวะ เก็บรวมใจไว้รวมพลังรอส่งทีเดียวอีกชุด

 

ภาพบุญเช้าที่สร้างความตื่นตา
สะพานคุ้นแต่ลืมชื่อ เขียนดีกว่า...

สะพานบุญ.......หนุนเนื่องยาว
ข้ามนาข้าว........ผู้สาวเพียบ
เปรียบเส้นทาง...วางราบเรียบ
ฉาบบุญเฉียบ.....เทียบทุ่งทอง!

 

บุญที่ไม่ต้องอาศัยสะพาน แต่ใช้ถนนหลวงเป็นเส้นทางบุญก็เก๋ไปอีกแบบในวันพระ เช้านี้คนคงกังวลโควิด มีใส่บาตรหรอมแหรม แต่ก็ยังพอมีให้ร่วมอนุโมทนา

 

ทักปจว.น้องปรายฯใกล้นิ้ว
เคาะรับเสียก่อนไปโพสท์อื่น

 

อีกทักกับพรดีชื่นใจประจำวันจันทร์ น้องน้อตพอมีเวลาแวะทักทาย ก็แสดงว่า ศึกสุพรรณกับเจ้าโคร้ายยังพอสู้ไหว ผิดกับกทม.น่าจะใกล้โดนหมัดน็อค-ล็อคดาวน์รอมร่อ แม้ว่าระดับหัวจะออกมานั่งยัน ยืนยันว่า ไม่ล็อค ไม่เคอร์ฟิวส์ แต่ดูตามหน้าเสื่อ...

ที่ประกาศห้ามโน่น ห้ามนี่ ก็น้องๆล็อคเข้าไปครึ่งทาง คงต้องทำใจจำยอม (ทั้งที่จริงไม่อยากจะยอม) กันไปอีกสักระยะ

แต่ศึกเที่ยวนี้ พิสูจน์ได้ว่า เอาเข้าจริง ก.สาธารณสุขที่ว่าแน่ เนื้อแท้แล้ว ส่วนหัวบริหารไม่เอาไหน รอดได้ครั้งแรก-ครั้งสอง เพราะคนไทยใส่ใจร่วมมือ ครั้งที่3 นี้ เป็นบทพิสูจน์ชัดว่า ทำงานช้า งุ่มง่ามหลายเรื่อง ทั้ง"วัคซีน" การตัดสินใจห้ามคนเดินทางช่วงสงกรานต์ และ ฯลฯ

ปลดมันแบบยกเครื่องใหม่เสียทีก็ดีนะลุง...หรือจะให้ดี ลุงพิจารณาตัวเองเสียด้วยก็ไม่เลว-ฮ่า

(((นี่ขนาดผมเอาใจช่วย เชียร์ลุงมาตลอดทาง ยังรู้สึกเอือมระอา กับการหย่อนยานขาดลูกเด็ดขาด ทั้งตำรวจขี้ฉ้อตั้งแต่หัวลงหาง อัยการ ศาล ไอ้เด็กสามนิ้ว รกประเทศ...ลุงจะรอให้สุกงอมจนบรรลัยไปถึงไหน?)))

 

กลับมาร่วมโมทนาบุญดี ทานบารมีเยี่ยมกับน้องเสฯ พระสิวลีหมายเลข 1 แดนอีสาน กำลังเดินทางไปหา เดี๋ยวลูกน้องซึ่งแต่งตัวรัดกุมมิดชิด ปิดหมดรับประกันความปลอดภัย กลับมาจากไปรษณีย์ ค่อยลงเลข วันนี้มีของน้องณัฐวุฒิอีกคน

 

น้องโต้ดว่าถูกต้อง-โควิดรอบ3 นี้เหมือนโดนหมัดน็อค เพราะก่อนนั้นเหตุการณ์ทำท่าดี ขนาดการส่งออกที่ฟุบมาหลายเดือนยังพลิกกลับเป็นบวก...เจอะหมัดนี้ิเจ็บนี้อีกนานเทียว

เปรียบเล่นๆ...โควิดยกแรก เหมือนเราโดน "หมัดแย็ป" ซัดรบกวนหน้าตาแค่บวมปูด หมดยกเดินกลับเข้ามุมสบาย

โควิดยกที่ 2- เป็น "หมัดหลง" ครับ มันต่อยเหวี่ยงขว้างมาแบบมวยวัด ฟลุ๊คโดนเข้าปลายคาง ทรุดลงไป โชคดีไม่ถึงกับโดนนับ ระฆังหมดยกช่วย ประคองตัวเข้ามุมได้อีก

โควิดยก3 นี่สิ-มันออก "หมัดชุด" ถลุงมาเป็นระลอก เวลานี้ เรากองอยู่ที่พื้นเวที กรรมการเตรียมสับมือนับ ไม่รู้จะนับ 8-9 หรือนับถึง 10 แพ้เท็คนิเกิ้ลน็อคเอ้าท์ไปเลย!!!

เปรียบเป็นมวยแบบนี้เห็นภาพชัดดีมั้ย?

เหมือนกับที่น้องโต้ดเปรียบเรื่องพระสมเด็จล้านองค์ด้วยเหตุและผลนั่นแล ทุกอย่างที่ว่ามา ล้วนถูกต้องตรงเผง เป็นความจริงเหนือจริง ยิ่งกว่าสัจธรรมเลื่อนลอย เป็นถ้อยที่เห็นภาพชัด ไม่ต้องฟังใครโม้ ใครฝอย คนมีสติปัญญาห่างไกลหูหนาตาเร่อเซ่อบอด...คิดเองเป็นทุกคน...!

นอกจากคนที่เชื่อว่ามีพระสงฆ์บางรูปเหาะได้ ฝึกถอดจิตกระโดดเหวลึกแล้วไม่ตาย หรือถอดอทิสสมานกาย(กายละเอียดที่สุดเทียบเท่าเทวดา)ไปเอาเขี้ยวแมวน้ำ สิงห์โตทะเล ขี้ปลาวาฬมาจากขั้วโลกได้ คนพวกนั้นเขียนนิยายบอกหมาเหาะเป็น ลิงกลายเป็นเห้งเจียได้ทุกตัว พวกสติอ่อนก็ยังเชื่อ!

ขอบคุณการทักทายยาวๆ เนื้อหายอดเยี่ยมบนสติปัญญาแจ่มใส แม้โควิดมาบดบังบ้าง ก็ยังไม่บังตาในการสะสมพระ

 

เลขจัดส่งวันนี้
--ED 8106 8169 3 TH เชียงราย
--ED 8106 8170 2 TH จตุจักร

 

เมื่อไม่กี่วันก่อน ยังมีข่าว (หลวง)ปู่ เทพสุริยะจักรวาล(อะไรสักอย่าง)
ที่ห่มจีวรสีดำ อุปโลกตัวเป็นเจ้าลัทธิ ทำสาวท้อง แล้วก็ทำวัตถุมงคลขาย
ให้กินน้ำล้างเท้าตัวเองเป็นยา ฯลฯ

พอนักข่าว กับ กรมการศาสนาเข้า
ก็แก้ตัวลิ้นพันกัน ว่าคนเขามากราบไหว้เอง
แล้วก็ท้าให้ไปแจ้งความสิ

วันรุ่งขึ้นก็หายแว็ปไป ทิ้งไว้แต่จีวร กับอุปกรณ์สักยันต์

 

ทุกวันพระกับ "หนังสือพินัยธรรม" ของ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ซึ่งน้องคัมภีร์ตั้งใจนำมาถ่ายทอดให้เป็นคติธรรม คติสอน+เตือนใจที่หลวงปู่ท่านได้มอบไว้ให้แก่ศิษย์และชนรุ่นหลัง

ให้เห็นความลึกซึ้งว่า นอกจากเป็น "หนึ่ง" เรื่องวัตถุมงคลอันเป็นเพียง "เปลือก-กระพี้" หลวงปู่โต๊ะ ยังเข้าถึง "แก่นธรรม" แห่งองค์สมเด็จพระบรมมหาศาสดา ทุกบท ทุกขั้น ทุกตอน ตั้งแต่ตำราไปจนถึงการปฏิบัติ ชัดเจน แจ่มใส ประดุจดั่ง จันทราเต็มดวง สว่างสดใสไร้เมฆหมอกเมฆาบดบัง!!!

สมแล้วที่หลวงปู่ได้เคยปรารภไว้สั้นๆว่า...จบกิจทางธรรม!

เชิญอ่านกันทุกวันพระ กับกวี ที่ผมเขียนเสริมให้ รับรองเพลิดธรรม เพลินใจ ขอบคุณน้องคัมภีร์ที่มีของดี ไม่เก็บไว้คนเดียว...

บทนี้หลวงปู่ยกองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้า รัชกาลที่ 9 พระมหากษัตริย์ผู้ทรง"ทศพิธราชธรรม"ทั้ง "พรหมวิหาร4" และ "อิทธิบาท 4" พร้อม ให้เราน้อมนำปฏิบัติ!

พระผู้ทรง....องค์'อิทธิบาท'
'ทศพิธ'ราช...ชาติเชื้อ'พรหม'
ร่มโพธิ์ไทร...ไร้ทุกข์ตรม
วิหารพรหม....ห่มใจ-กาย
...เดินตามทาง...พ่อวางไว้
...เพียงพอใช้....ได้ดังหมาย
...กายประพฤติ...ยึดธรรมไท้
...ควบคุมใคร่......ฝักใฝ่ดี!

 

ไอ้โล้นจะห่มดำหรือห่มเหลืองหากินไม่ได้ถ้าไม่มีคนสติอ่อน+ปัญญาอ่อน โง่เขลาเข้าไปส่งเสริมเชื่อถือ

อลัชชีเหล่านี้มีมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล พระพุทธองค์ยังทรงตรัสทิ้งไว้ก่อนปรินิพพานว่า...

ธรรมของพระศาสดาจะถูกนำไปดัดแปลงหากิน โดยพวกนักบวชทุศีล ละโมบ ซึ่งเหมือนท่อนซุงที่ลอยอยู่กลางมหาสมุทร พวกนี้จะมีมากเมื่อตถาคตสิ้นแล้ว!

อาจไม่ตรงตามพุทธวจนะเป๊ะ แต่ความหมายที่พระพุทธองค์ทรงตรัสก็ตามนั้น เศษสวะศาสนาเรายังต้องพบเจออีกมาก อย่าตื่นเต้นกับมันเลย ทุกศาสนามี"กาฝาก"ทั้งนั้น!