เหรียญมนต์พระกาฬ ประสบการณ์มากมาย มาแล้ว หลวงปู่สิมพะลี วัดป่าวิชัยรวมมิตร

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย supako, 23 เมษายน 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    ของท่านส่งพรุ่งนี้นะครับผม ฝนตกหนักครับ
     
  2. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    [​IMG]

    ข่าวนี้ตั้งแต่ พฤษภาคม 2556 นะครับ

    Visudhi Punya (((14))) จดหมายถึงลูกจากองค์จิตจักรวาล:
    (ฉบับที่ 14)

    “ดีเอ็นเอ.ของพวกเจ้ากำลังถูกเปลี่ยนแปลง”

    บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย

    นับแต่เดือนพฤษภาคม ค.ศ.2013 นี้เป็นต้นไป…..
    เจ้าจักต้องรู้ว่า ทุกอณูของตารางพื้นที่บนดาวเคราะห์โลก ซึ่งเป็นดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรีนี้ จะเกิดการสั่นสะเทือนครั้งสำคัญขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ตามแผนปฏิบัติการชำระโลกของบิดาแห่งเจ้า เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่เหล่ามวลมนุษย์และโลก ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ในอันที่จะดำรงอยู่ร่วมกันในฐานะเพื่อนร่วมงานของกันและกัน สำหรับดาวโลกยุคพลังงานใหม่ ภายหลังปฏิบัติการปิดยุคพลังงานเก่าที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว......
    Visudhi Punya ปฏิบัติการสั่นสะเทือนที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ มิได้เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการให้เกิดแรงสั่นสะเทือนแผ่นเปลือกโลกภายใต้ฝ่าเท้าของพวกเจ้า ที่กำลังเกิดขึ้นถี่ๆ ในระดับที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และกระจายทั่วทุกภาคพื้นทวีปอยู่ในระยะนี้และในช่วงเวลาที่ผ่านๆมาหรอก กรณีแผ่นดินสะเทือนเลื่อนไหวอะไรเหล่านี้ บิดาแห่งเจ้ารู้ดีว่าพวกเจ้าทั้งหลายต่างก็ได้เรียนรู้ ต่างก็ได้เผชิญกันมาทั้งทางตรงทางอ้อมเสียจนเริ่มจะคุ้นชินกันอยู่แล้ว ในวันข้างหน้าแม้มันอาจเกิดเหตุร้ายรุนแรงให้เสียหายอย่างมากมายเท่าทวีกว่าที่ผ่านมา แต่พวกเจ้าส่วนใหญ่ก็น่าจะยังตั้งรับเหตุการณ์อันแรงร้ายประเภทนี้กันได้อย่างไม่ยากเย็น

    ข่าวสารปฏิบัติการชำระโลก ที่บิดาแห่งเจ้าจะนำมาบอกกล่าวเล่าเผยให้ล่วงรู้ไว้ในห้องเรียนอันศักดิ์สิทธิ์นี้ เป็นข่าวสารชิ้นพิเศษ...ล่าสุด...ล่าสุด...เกี่ยวกับปฏิบัติการสำคัญที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้วตราบจนบัดนี้ และมันยังจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปอีกยาวโข ซึ่งมนุษย์โลกส่วนใหญ่นั้นยังไม่รู้ และมีไม่น้อยเลยที่ไม่รู้ว่าตนจักต้องรู้อีกด้วย
    Visudhi Punya บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย

    นี่จะเป็นทั้ง “คำเตือน” และ “ข่าวสาร” ชิ้นสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง ที่พวกเจ้าจะเฉยเมยด้านชามิได้ หากจะสร้างความพร้อมให้กับเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์และแก่นแท้ในตนเอง สู่การเป็นมนุษย์ยุคพลังงานใหม่ที่จะสามารถข้ามผ่านและฟันฝ่า สถานการณ์เลวร้ายสุดๆของบรรดาหายนภัยทุกรูปแบบที่โลกของเจ้ายังมิเคยเผชิญกันมาก่อน ในช่วงเวลา 56 วัน 8 ราตรีอันมืดมิด ชนิดที่มืดสนิทอย่างไม่เคยมืดมาก่อน มันมืดเสียจนแม้กระทั่งเส้นลายมือของเจ้าเองก็มิอาจเห็นกันเลยทีเดียว
    Visudhi Punya ปฏิบัติการที่กำลังเกิดขึ้นก็คือ ภารกิจในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขดีเอ็นเอ (DNA) ภายในเซลอวัยวะร่างกายของเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของพวกเจ้าทุกคน ไม่ว่าชายหรือหญิง เด็กหรือผู้ใหญ่ไปจนกระทั่งผู้ที่อยู่ในวัยชรา ทั้งนี้ไม่ว่าเขากำลังมีสุขภาพดีหรือที่กำลังพักผ่อนนอนป่วยอยู่บนเตียง ไม่ว่าเขากำลังประพฤติดีหรือประพฤติชั่ว หรือว่ากำลังทำตัวโง่เง่างมงายไปวันๆ และไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะล่วงรู้ข่าวสารสำคัญชิ้นนี้กันแล้วหรือว่ายังไม่รู้กันอยู่ก็ตาม ทุกรูปธรรมล้วนจะได้รับแรงสั่นสะเทือนด้านบวกจากปฏิบัติการทางเท็คนิกในครั้งนี้โดยถ้วนหน้ากัน
    Visudhi Punya ปฏิบัติการทางเท็คนิกสำหรับภารกิจการชำระโลกนี้ ช่างเท็คนิกทั้งหลายจะใช้วิธีส่งคลื่นพลังงานความรักมาจากการระเบิดบนพื้นผิวของพระสุริยะ ที่พี่ๆน้องๆชาวโลกของเธอเฝ้าสนใจติดตามดูกันอยู่นั่นล่ะ บิดาแห่งเจ้าเพียงอนุญาตให้พวกเขาสร้างจุดดำบนดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้นจากปกติที่มีอยู่แล้ว 6 จุดกระจายทั่ว ให้เพิ่มเป็น 7-8-9 จุดไปเรื่อยๆ โดยเน้นสร้างจุดดำที่ขั้วเหนือและขั้วใต้ของดวงอาทิตย์เป็นสำคัญ คลื่นพลังงานที่ผลิตสร้างจากจุดดำบริเวณที่ค่อนไปทางขั้วเหนือจะถูกขับเคลื่อนตรงมายังซีกโลกตอนใต้ ขณะที่คลื่นพลังงานที่ผลิตสร้างจากจุดดำทางขั้วใต้ของดวงอาทิตย์ ก็จะถูกขับเคลื่อนตรงมายังซีกโลกตอนบนหรือตอนเหนือ

    พวกเขาสร้างจุดดำบนดวงอาทิตย์ได้ โดยใช้เท็คโนโลยีขั้นสูงยิงเส้นแสงจากระยะไกลตรงไปยังพิกัดตำแหน่งบนดวงอาทิตย์ตามที่กำหนดไว้ จนยังผลให้ก๊าซเหลวมากกว่าหนึ่งอย่างภายในดวงอาทิตย์ตรงจุดนั้นเกิดปฏิกิริยา Nuclear Fusion แล้วระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงจากภายใน จึงก่อให้เกิดการหมุนวนของก๊าซคล้ายดั่งพายุหมุน พุ่งขึ้นมาจากด้านในสู่บริเวณชั้นนอกของดวงอาทิตย์ เมื่อพวกเจ้าส่องกล้องมองไกลๆจะเห็นคล้ายจุดดำเล็กๆ จนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นจุดดับกันตลอดมา แท้จริงแล้วที่เห็นเป็นสีดำเพราะตรงจุดนั้นคือบริเวณที่เป็นศูนย์กลางของการหมุนของตำแหน่งที่ถูกทำให้ระเบิดนั่นเอง ที่พวกเจ้ามองเห็นเป็นสีดำก็เพราะเป็นบริเวณที่อยู่ลึกลงไปในดวงอาทิตย์ต่างหากล่ะ

    สายธารพลังงานความรักจากดวงอาทิตย์ ซึ่งระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่องพร้อมๆกันหลายจุดนั้นมีเป้าหมายสำคัญ คือกระทำต่อดาวเคราะห์โลก โดยมันจะอยู่ในรูปของ คลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็ก (Electromagnetic Energies) ที่พวกเจ้าอาจเรียกว่า ลำแสงแห่งจักรวาล (Cosmic Rays) ก็ได้
     
  3. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    บุตรรักทั้งหลาย.....
    พวกเจ้าจักต้องรู้ว่า เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ชายหญิงของพวกเจ้านี้ ที่สามารถแสดงพลังอำนาจต่างๆผ่านพลังชีวิตของตนได้นั้น นอกจากอำนาจแห่งรักในแก่นแท้ของเจ้าเองกับอำนาจแม่เหล็กโลกที่เข้มข้นทางด้านบวกแล้ว “ลำแสงแห่งจักรวาล” ที่ถูกขับเคลื่อนออกมาจากจุดดำรายรอบพื้นผิวของดวงอาทิตย์ ทั้ง 6 จุด ก็เป็นแหล่งพลังงานอันสำคัญที่จะทำหน้าที่คอยป้อนรหัสคำสั่งลับเพื่อกำกับการทำงานของ ดีเอ็นเอ (DNA) ภายในเซลอวัยวะร่างกายทุกๆเซลให้มันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีสมรรถภาพ โดยให้มันสามารถใช้งานได้ยาวนานไม่มีวันตาย และลำแสงแห่งจักรวาลที่ว่านี้ก็ยังคอยทำหน้าที่โปรยหว่านองค์ความรู้ใหม่ในทุกด้านมาให้เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตของพวกเจ้าเสมอมาในเวลาเดียวกันอีกด้วย โดยหลักการทางด้านเท็คนิกข้อหนึ่งซึ่งพวกเจ้าควรจะรู้ไว้ก็คือ กระบวนการที่ว่านี้มันจะสามารถสั่นสะเทือนอย่างมีประสิทธิภาพในระดับที่พวกเจ้าแต่ละคนจะเข้าถึง ลำแสงแห่งจักรวาลดังว่านี้ได้นั้น เงื่อนไขสำคัญมีอยู่ 3 ประการ คือ
    1).เจ้าจะต้องสามารถเข้าถึง การสั่นสะเทือนจิตสำนึก (Consciousness) ในตนเองทางด้านบวก เพื่อการมีอารมณ์ดี คิดดี พูดดี และทำดีได้ตลอดเวลาในยามตื่น
    2).ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกจะต้องสมดุลและคงที่ ไม่เบี่ยงเบน ซึ่งในยุคพลังงานเก่าที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 14 เกาส์ ถ้าหลังชำระโลกเสร็จแล้วในยุคพลังงานใหม่นั้นมันจะเปลี่ยนค่าเป็น 20-22 เกาส์
    3).พวกเจ้าจะต้องเข้าถึง พลังอำนาจทางวิญญาณซึ่งเป็นแก่นแท้ของตนเองได้ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า “ความรักบริสุทธิ์” หรือ “รักเพื่อรัก” แล้วสั่นสะเทือนขับเคลื่อนมันออกมามอบให้แก่ดาวเคราะห์โลกอย่างเพียงพอ
    ถ้ามนุษย์โลกเสรีนี้ สามารถสั่นสะเทือนตนเองให้บรรลุเป้าหมายทั้ง 3 ประการเหล่านี้ได้ ดาวเคราะห์ดวงนี้ก็จะไม่สูญเสียความสมดุลไปในทางต่ำรุนแรงขึ้นจนยากจะแก้ไขเยียวยาได้
    ถ้ามนุษย์โลกเสรีนี้ สามารถสั่นสะเทือนตนเองให้บรรลุเป้าหมายทั้ง 3 ประการเหล่านี้ได้ พวกเจ้าจะไม่แก่ง่ายตายไวเหมือนเช่นทุกวันนี้ และพวกเจ้าก็จะมีความเฉลียวฉลาดมากกว่าทุกวันนี้อีกด้วย
    บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย....
    เมื่อพวกเจ้าบกพร่องล้มเหลวในการปฏิบัติทั้งสามประการดังว่านั้น พลังอำนาจทางจิตวิญญาณที่จะนำพาตนเองผ่านด่านนภาลัยออกไปเพื่อคืนกลับบ้านเกิดเมืองนอนทางจิตวิญญาณของเจ้าเองก็อ่อนแอตกต่ำลงจนยากจะแก้ไขใดๆได้อีกเช่นกัน

    ดังนั้น ปฏิบัติการชำระโลกอันหมายรวมถึง จิตตปัญญาหรือจิตสำนึก กายหยาบหรือเครื่องยนต์แห่งกรรม และจิตวิญญาณแก่นแท้ในพวกเธอแต่ละคน ย่อมจักต้องถูกชำระไปพร้อมกัน ด้วยการแก้ไขความเสื่อมและเพิ่มสมรรถนะในการใช้งาน ให้เหมาะสมต่อการเป็นเพื่อนร่วมงานกับดาวเคราะห์โลกเสรีนี้ให้ได้โดยเร็ว ปฏิบัติการทางเท็คนิกเพื่อการนี้ก็คือ
    1).ยกระดับความเข้มข้นของ “ลำแสงแห่งจักรวาล” ที่ส่งมายังระบบโลกให้สูงขึ้นถึงระดับ 7 แล้วกำหนดให้ดาวเคราะห์โลกมีสมการทางพลังงานสามมิติเป็น 6-6-6 ซึ่งจะยังผลให้มีพลังอำนาจมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า การใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของพวกเจ้าจะมีสมรรถนะสูงกว่าในอดีตที่ผ่านมาหลายเท่า ทั้งพลังอำนาจทางกาย พลังอำนาจทางปัญญา และพลังอำนาจทางจิตวิญญาณ ซึ่งบิดาสามารถทำได้ด้วยการกำหนดสร้างจุดดำบนดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้น แล้วส่งคลื่นพลังงานที่เข้มข้นกว่าเข้ามาในระบบดังกล่าวแล้ว
    2).โปรยหว่านรหัสคำสั่งใหม่เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในดีเอ็นเอ ของเซลอวัยวะร่างกายของพวกเจ้า ทั้งการสร้างดีเอ็นเอชุดใหม่แทนของเก่าที่เสื่อมไป และกระตุ้นที่มีอยู่เดิมให้ตื่นจากความหลับไหลขึ้นมาทำหน้าที่ของตนกันเสียที ด้วยพลังงานใหม่ที่เข้มข้นจากดวงอาทิตย์ที่ว่านี้นั่นเอง

    การเปลี่ยนแปลงในข้อนี้มันจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆในลักษณะของวิวัฒนาการ โดยในระบบเซล ดีเอ็นเอที่รับรู้แรงกระตุ้นจากจักรวาล ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงตนเองด้วยการสร้างเส้นใยดีเอ็นเอเส้นเล็กๆที่เป็นขดเกลียวขึ้นมาใหม่ ในขณะเดียวกันกับที่รหัสความเข้มของ “ลำแสงแห่งจักรวาล” ที่เปลี่ยนแปลงไปจากยุคที่ผ่านมา ก็จะถูกแปลรหัสเป็นคำสั่งใหม่ให้เส้นใยดีเอ็นเอเหล่านี้ก่อร่างสร้างรูปด้วยการผูกมัดตนเองเข้าด้วยกัน ซึ่งข้อมูลคำสั่งที่ถูกโปรยหว่านอย่างพรั่งพรูลงมาพร้อมๆกับเส้นแสงเหล่านี้มันเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และจะเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆจนกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะบรรลุผลโดยสมบูรณ์ ขณะนี้ข้อมูลทั้งหลายกำลังถูกดึงดูดเหนี่ยวรั้งเข้าสู่ระบบเซลภายในร่างกายของเจ้าอยู่แล้ว
    นอกจากจะเกิดผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงดังว่านั้นแล้ว เมื่อปฏิบัติการชำระโลกสิ้นสุด หลังผ่าน 56 วัน 8 ราตรีอันน่าพรั่นพรึงไปได้แล้ว ภายในเครื่องยนต์แห่งกรรมของผู้ที่ถูกคัดไว้ทั้งหลาย ยังจะมีวิวัฒนาการใหม่ของระบบเส้นใยประสาทสมองเกิดขึ้น ในอันที่จะช่วยให้การลำเลียงข้อมูลที่ถูกโปรยลงมาจากฟ้าผ่านไปยังจิตสำนึกได้มากขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น จะยังผลให้เซลสมองที่ใช้งานได้เฉลี่ยเพียง 20% ของที่มีอยู่ ในขณะที่ยังมีเพื่อนร่วมงานที่หลับใหลอยู่อีก 80% นั้นจะถูกปลุกให้ลุกตื่นขึ้นมาทำหน้าที่กับเขาบ้าง หลังจากแน่นิ่งไม่ไหวติงมาหลายภพชาติแล้ว
    บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย.....
    การเปลี่ยนแปลงนี้มันกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เครื่องยนต์แห่งกรรมของเจ้าเองกำลังรับรู้แรงสั่นสะเทือนของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ ในขณะที่กลไกอายตนะทั้งหลายมิอาจรู้เพราะมันล้วนถูกปกปิดมิติไว้ แต่พวกเจ้าอาจสามารถสังเกตจากบานประตูมิติที่แง้มออก ด้วยปัญญาญาณชาญฉลาดกันก็พอได้บ้าง โดยสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นผ่านมายา 6 ประการ ต่อไปนี้ คือ
    (1).วันดีคืนดีตัวเจ้าเองหรือคนใกล้ตัวบางคน เกิดอาการท้องเสียขึ้นมาดื้อๆโดยไม่ทราบสาเหตุ
    (2).วันดีคืนดีตัวเจ้าเองหรือคนใกล้ตัวบางคน เกิดอาการบ้านหมุน คลื่นไส้ คล้ายจะอาเจียน เมื่อเวลาผ่านไปอาการดังกล่าวจะดีขึ้นจนหายไปจนบางคนตกใจและแปลกใจว่าตัวเองป่วยเป็นอะไรก็ไม่รู้ เพราะไม่เคยเกิดอาการเช่นนี้มาก่อน
    (3).วันดีคืนดีตัวเจ้าเองหรือคนใกล้ตัวบางคน เกิดอาการนอนไม่หลับ หัวใจสั่นหวิวๆ คล้ายจะเป็นลม
    (4).วันดีคืนดีตัวเจ้าเองหรือคนใกล้ตัวบางคน เกิดอาการเหมือนคนขี้ลืมขึ้นมาดื้อๆ นึกคิดอะไรไม่ออกขึ้นมาเฉยๆทั้งๆที่ปกติแล้วความจำดีและฉลาด
    (5).เวลาถ่ายรูปย้อนแสงอาทิตย์ จะเห็นแสงสีชมพูซึ่งเป็นสีแห่งรักปรากฏอยู่ในภาพนั้นด้วย มิใช่แสงสว่างจ้าเหมือนปกติทั่วไปอีกแล้ว ไม่ว่าจะใช้กล้องราคาถูกหรือแพงก็ปรากฏเหมือนกัน
    (6).รูปที่ถ่ายย้อนแสง ที่เคยเห็นแสงสีชมพูปรากฏอยู่แต่เดิมนั้น มันจะเปลี่ยนสีเป็นชมพูม่วง และค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นสีม่วงเข้มขึ้นเรื่อยๆ ในราวๆปลายเดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป โดยมายาสีม่วงเข้มขึ้นเรื่อยๆบ่งชี้ว่าพลังงานที่ถูกส่งเข้ามายังระบบโลก ได้ยกระดับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆเพื่อให้ถึงระดับ 7 ให้ได้ในเร็ววัน แน่นอนว่าจุดดำหรือจุดดับบนดวงอาทิตย์ย่อมต้องเพิ่มจำนวนเข้าหา 11 จุดดังได้เคยกล่าวไว้นานแล้วมิช้านาน
     
  4. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย....
    เจ้าจงทำตัวเองให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่นี้ ด้วยการปฏิบัติสามเหลี่ยมกับบิดาแห่งเจ้าเอาไว้ตลอดเวลา (Enlightenment) ในขณะเดินทาง ขณะใช้ชีวิตประจำวัน และในยามว่าง เพื่อนำเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของเจ้าติดต่อกับบิดาผ่านทางบุตรเอกแห่งบิดา โดยต่อสายดิน (Ground ) ไว้กับโลก และสั่นสะเทือนตนเองเพื่อเข้าให้ถึงความรักกับการครองมหาสติตลอดวัน ผลดีจะบังเกิดแก่เจ้าและคนใกล้ตัว จงอย่าปฏิเสธพลังอำนาจใหม่ของตนเองอันจะบังเกิดผลจากปฏิบัติการนี้

    ผู้ใดเป็นคนดีประพฤติดี คลื่นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงจากนอกระบบโลกนี้ จะเข้าคู่เข้าขากันได้เพราะพลังงานที่เกิดขึ้นภายในตนเองจากการสั่นสะเทือนจิตตปัญญาจะเป็นชนิดเดียวกัน คนๆนั้นก็จะเป็นคนดียิ่งขึ้น
    ผู้ใดเป็นคนพาลสันดานไม่ดี และมีนิสัยเจ้าอารมณ์อ่อนไหวไปในทางก้าวร้าวเศร้าสลดง่ายๆ จิตไม่หนักแน่น คลื่นพลังงานแห่งการเปลี่ยนแปลงจากนอกระบบโลกนี้ จะเข้าคู่เข้าขากันกับพลังงานลบที่ได้จากการสั่นสะเทือนจิตสำนึกด้านลบในชีวิตประจำวันนั้นไม่ได้ เพราะเป็นคนละชนิดกัน มันจะต่อต้านกันจนส่งผลด้านลบที่รุนแรงมากขึ้น คือ คนๆนั้นจะแสดงพฤติกรรมในทางพาลสันดานไม่ดีมากขึ้น เจ้าอารมณ์มากขึ้น อ่อนไหวง่ายมากขึ้น เป็นต้น
    แน่นอนว่า...ใครๆก็ปรารถนาจะนิพพานกันทั้งนั้น
    เมื่อได้ทราบข่าวสารสำคัญชิ้นนี้แล้ว
    ทุกคนจึงน่าจะรู้ว่า...ตนเองจะต้องปฏิบัติอย่างไรจึงจะแจ้งกระจ่างในนิพพานได้ทันเวลา
    ตนเองจะต้องเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตที่ยังจำเจซ้ำซาก มากด้วยกิเลสตัณหาอุปาทานกันอย่างไร...จึงจะก้าวหน้าบนเส้นทางสายนิพพานนี้ได้
    บิดาแห่งเจ้าจักเฝ้าดูพวกเจ้าอยู่ทุกวันเวลาว่า การต่อสู้ของพวกเจ้าสู่การรู้แจ้งนั้น
    ท่าทีกับลีลาแต่ละคนนั้นเป็นฉันใด......

    ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากจิตจักรวาล ในระบบจิตสู่จิต (Vertical Telepathy)
    โดย: ป.วิสุทธิปัญญา
    14-05-2013

    ANSWER: J Noht AE
    1.การมองเห็นคลื่นพลังงานด้วยอายตนะที่เป็นตาเนื้อ หรือการได้ยินได้ฟังสรรพเสียงในมิติที่สูงกว่าด้วยอายตนะที่เป็นหู หรือสภาวะจิตที่ล่วงรู้บางสิ่งเบื้องหน้าและรู้ล่วงหน้าได้โดยมิได้ผ่านการฝึกฝนใดๆมาก่อนนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกนะถ้าเธอรู้ความจริงที่เราจะกล่าวเฉลยให้รู้ดังต่อไปนี้
    2.ปกติแล้วกลไกประสาทสัมผัสภายนอกที่จัดเป็นอายตนะทั้งห้านั้น มันจะทำงานร่วมกันกับจิตหยาบที่เป็นอายตนะภายในเองด้วย โดยจิตหยาบซึ่งมีที่ตั้งตรงต่อมไพเนียลในกระโหลกศีรษะของเธอนั้น จะเป็นจุดศูนย์รวมของผัสสะสัมผัสของอายตนะภายนอกทั้งห้า เพื่อทำหน้าที่ "รับรู้" ว่าตาเห็นอะไร หูได้ยินอะไร จมูกได้กลิ่นอะไร ลิ้นรับรสอะไรอยู่ และกายสัมผัสกับร้อนเย็นเช่นไร เป็นต้น โดยที่กลไกอายตนะทั้งห้านั้นมันบอกตัวมันเองไม่ได้ว่าที่สัมผัสรู้ดูเห็นอยู่นั่นอะไรเป็นอะไร
    3.พระบิดาแห่งจิตวิญญาณของพวกเธอคือองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่ พระผู้สร้างทุกสรรพสิ่งรวมทั้งเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ชายหญิงด้วย ทรงกำหนดให้อายตนะทั้งห้าสามารถสัมผัสรู้ดูเห็นแต่สรรพสิ่งในมิติโลกทางกายภาพได้เท่านั้น เพื่อให้ลูกๆได้เรียนรู้โลกของพระบิดาตามที่ขันอาสามา แล้วปิดมิติการรับรู้สรรพสิ่งในมิติสูงกว่า คือ มิติทางพลังงานด้านของแก่นแท้คือจิตวิญญาณเอาไว้ให้ เพราะจิตวิญญาณของพวกเธอก่อนมาเกิดเป็นมนุษย์รู้ทุกสิ่งอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องเรียนรู้อีกให้สับสนเสียเวลา วิชาโลกมากกว่าที่พวกเธอเมื่อเป็นมนุษย์แล้วควรใส่ใจใฝ่รู้
    4.ดังนั้น พระบิดาจึงทรงปิดมิติของตาที่สามของเธอและมนุษย์ทุกคนเอาไว้ ด้วยอำนาจแม่เหล็กโลกที่เข้มข้น (14 เกาส์) อำนาจแม่เหล็กโลกระดับนี้จะยังผลให้ต่่อมไพเนียลสั่นสะเทือนเต็มพลังของตนมากกว่าที่ทรงกำหนดคุณสมบัติเอาไว้ให้ไม่ได้ เมื่อไม่ได้ จิตหยาบที่อยู่ตรงตาที่สามหรือไพเนียลนี้ก็มิอาจรับรู้ได้ว่า ตาเห็นคลื่นพลังงานอยู่ เห็นผีอยู่ ได้ยินผีคุยกันอยู่....มันล้วนแต่อยู่ในมิติทางพลังงานที่เหนือกว่ามิติทางกายภาพทั้งสิ้น คนปกติทั่วไปจะเป็นเช่นที่เรากล่าวมานี้ทั้งนั้น
    5.เธออาจมีคำถามว่า...แล้วใยเธอจึงมองเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นได้ล่ะ? คำตอบคือ ทุกวันนี้มิใช่เธอคนเดียวหรอกนะที่เป็นพิเศษกว่าคนอื่นในลักษณะนี้.....
    <บางคนถึงขนาดคุยกับผีได้โดยไม่ได้ฝึกฝนมาก่อน เลยเปลี่ยนอาชีพไปหากินกับผีก็มีเหมือนกัน
    <บางคนได้ยินเสียงคนคุยกัน...(ผี) ก็เข้าใจว่าหูแว่ว-ประสาทหลอน เข้าใจว่าเพี้ยนจึงไปหาหมอแผนปัจจุบันจนกลายเป็นคนไข้โรคจิตประสาทไป ทั้งๆที่ไม่ได้ป่วยเลย <บางคนก็พาอาการแบบนี้ไปหาพ่อมดหมอผี จึงเสียผู้เสียคนไปก็มี ทั้งๆที่ไม่ได้ป่วยทางจิตประสาท
    <บางคนถึงขนาดจิตไปก้าวล่วงจิตคนอื่นได้ แอบดูกรรมของเขาได้ แอบดูความลับในจิตของเขาได้ แม่นยำเสียด้วยโดยไม่ต้องฝึกฝนไม่ต้องมีครูบาอาจารย์ให้เสียเงินเสียเวลาเลย เขาก็ตั้งตนเป็นเจ้าสำนักไปก็มี ช่วยเหลือคนอื่นบ้าง ทำเป็นธุรกิจการค้าบ้างก็ยังมีให้เห็น
    6.อาการที่เกิดเป็นเห็นเองเช่นนี้ โดยมิพักต้องฝึกฝนเป็นเพราะว่า....
    <โลกเรากำลังสิ้นยุค กำลังถูกชำระ และกำลังเสียสมดุล สนามแม่เหล็กโลกที่กำกับตาที่สามไว้มิให้เข้าถึงสรรพสิ่งในมิติของจิตวิญญาณหรือด้านพลังงานอ่อนแอลงหรือเสียสมดุล ทำให้ประตูมิติคือตาที่สามแง้มออก อำนาจพิเศษของมนุษย์บางคนจึงรู้เห็นเช่นเธอที่ถามมานี้ก็เลยบังเกิดขึ้น อย่าได้แปลกใจเลยนะ....อย่างน้อยคิดเสียว่ามันทำให้เธอมั่นใจว่า พลังงานมีจริง ผีมีจริงก็แล้วกัน
    <การที่บางคนรู้บางคนไม่รู้ในอำนาจพิเศษนี้ เพราะเธอและคนที่สามารถเห็นพลังงานได้นั้น บ้างก็เคยฝึกใช้ตาที่สาม (จิตทิพย์/หูทิพย์/ตาทิพย์) มาแล้วในอดีตชาติ บ้างก็เมื่อภพชาติที่แล้วสิ้นชีวิตขณะตาที่สามยังคงเปิดอยู่หรือปิดไม่สนิทแต่ตายก่อน หรือบางรายก็บรรลุธรรมขั้นสูงในระดับหนึ่งก็ถูกผู้เป็นครูที่สูงส่งของเขาทดสอบว่าจะหลงติดยึดกับมันไหม...ถ้าไม่ยึดติดก็จะนำพาให้ก้าวหน้าสูงขึ้นต่อไป เป็นต้น

    [​IMG]

    ป.วิสุทธิปัญญา
    14-05-2013
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2013
  5. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    Visudhi Punya หลักการดำเนินชีวิต:
    1.จงครองมหาสติให้ได้ตลอดวันเวลาในยามตื่น
    กล่าวคือ.....
    1.1 รู้ตัวว่าตนกำลังพูดหรือทำอะไรอยู่ กำลังทำหรือจะทำในสิ่งสอดคล้องกับ กฎแห่ง 4 ถูก ของ "ปริญญาโมเดล" หรือเปล่า?
    1.2 ถ้าพบว่ากำลังพูดหรือทำผิดกฎ 4 ถูก ข้อใดข้อหนึ่ง จะได้ละเลิกเสียทันทีก่อนที่มันจะเป็นบาปกรรมทำเวรกับใครๆในทำนอง เดินเตะก้อนหินไปเรื่อยๆเหมือนรนหาเรื่องให้เท้าบาดเจ็บ ถ้าไม่เจ็บไม่เลือดตกไม่รู้สติก็จะไม่หยุดยังไงยังงั้น
    1.3 ถ้าพบว่าตนเองยังไม่ได้พูดไม่ได้ทำในสิ่งสมควรพูดหรือทำ ก็ให้รีบพูดรีบทำสิ่งนั้นเสียทันที ก่อนที่ตนเองจะเสียใจในภายหลังให้เป็นบาปคาใจไปชั่วชีวิตนี้

    2.จงแสดงปณิธานแห่งนิพพานให้ชัดเจนเป็นรูปธรรมไว้
    กล่าวคือ......
    2.1 รักคนที่ไม่น่ารักให้ได้ด้วยน้ำใสใจจริง อย่าเสแสร้ง หรือดัดจริต
    2.2 ให้ในสิ่งที่เราพอมีอยู่แก่คนที่เราเห็นว่าไม่น่าจะให้นั้นให้เป็น
    2.3 ไม่ทำตัวก้าวก่ายล่วงเกินใครให้เดือดเนื้อร้อนใจ ใครเขาอยู่ของเขาเฉยๆก็อย่าไปเที่ยวแส่แหย่ยุ่งมุ่งเกี่ยวก่อกรรมสัมพันธ์กับเขา แบบแกว่งเท้าหาเสี้ยน หรือแกว่งปากหาเท้า มันเป็นความเขลาทั้งนั้น

    3.จงเรียนรู้ทุกสิ่งที่เผชิญเพื่อเก็บเป็นองค์ความรู้(ประสบการณ์)ไว้ ไม่ทำตัวแบบ "แก่แล้วแก่เลย" หรือแบบ "แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน" และรู้จักนำประสบการณ์นั้นมาปฏิบัติในชีวิตจริงให้ได้ มิใช่เพียงแค่ "ดีแต่พูด" ให้ตนดูสูงแลสวยเพียงเท่านั้น

    4.จงสอบให้ผ่านบททดสอบจิตสำนึกรายวัน ที่มันจะเข้ามาในรูปของปัญหาชีวิต ปัญหาสังคม ปัญหาสุขภาพ และปัญหาปากท้อง หรืออื่นๆ ทั้งที่ตนก่อเองและที่คนอื่นๆหยิบยื่นมาให้ เพื่อทดสอบอารมณ์และสติปัญญาแบบรายวันทั้งยากและง่ายให้จงได้
    กล่าวคือ....
    4.1 จิตใจต้องมั่นคง ไม่หวั่นไหวคล้อยตามเงื่อนไขยั่วยุนั้น ไม่ว่าจะเสียสมดุลไปในทางด้านบวกหรือลบก็จักต้องไม่เกิดขึ้น
    โดยต้องไม่คิดบวกไปตามอารมณ์ดีที่เกิดขึ้นจากเงื่อนไขบททดสอบนั้น หรือต้องไม่คิดลบไปตามอารมณ์ไม่ดีที่เกิดขึ้นจากเงื่อนไขบททดสอบนั้น
    4.2 เมื่อรักษาสภาวะจิตให้สงบได้แล้ว จึงค่อย "คิดด้านบวก" ต่อเงื่อนไขสถานการณ์ที่เป็นบททดสอบนั้น เพื่อเรียนรู้มันว่าอะไรเป็นอะไร
    4.3 เมื่อ "คิดด้านบวก" จนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรอบคอบแยบยลแล้วก็ให้หันมา "คิดด้านลบ" ด้วยว่า เงื่อนไขเดียวกันสถานการณ์เดียวกันนั้น หากจะมองด้านลบแล้ว ตนสามารถจะเรียนรู้อะไรได้อีกบ้าง

    5.นำข้อมูลที่มองแบบสองด้านมาวิเคราะห์ เพื่อการตัดสินใจด้วยปัญญาจากฐานข้อมูลที่ได้ในข้อ 4.นั่นให้รอบคอบที่สุด มั่นใจที่สุดเพื่อแสดงออกหรือกระทำตอบสนองต่อปัญหาที่เป็นบททดสอบนั้นๆต่อไป

    6.กรณีที่ไม่มั่นใจในการมองปัญหาของตนว่า เบี่ยงเบน คลุมเครือ ไม่ถูกต้องหรือไม่ ก็อาจปรึกษามนุษย์เจ้าปัญญาผู้มากประสบการณ์อันควรรับฟังเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจใดๆก็ได้ อย่าอวดดี อวดเก่งเพราะหลงตัวเอง หรืออย่าด่วนตัดสินใจด้วยความประมาทต่อบททดสอบนั้น

    ป.วิสุทธิปัญญา
    06-06-2013
     
  6. g_banman

    g_banman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,165
    ได้รับตะกรุดแล้วครับ ขอบคุณครับ
     
  7. ปลายธาตุ

    ปลายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +225
    มันใด้อะไรกันง่ายๆขนาดนี้เลยเหรอ ตูอยู่มาก่อนตั้งโลกนี้อีก ยังไม่ใด้อะไรเท่าไหร่เลย จะใด้มาแต่ละอย่างเลือดตาแทบกระเด็น:'(
     
  8. musume

    musume Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +27
    ขอสอบถามหน่อยครับ พระเครื่องครูบาคำเป็ง จะดูดพลังพระเครื่ององค์อื่นไหมครับ เคยได้ยินมาว่าสามารถดูดพลังพระเครื่ององค์อื่นได้ กังวลครับกลัวจะดูดพลังพระที่บ้านครับ
     
  9. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    พลังพระเครื่อง ดูดกันไม่ได้หรอกครับ ไม่ต้องกังวล ลองดูก็ได้ครับ แขวนพระองค์นี้แล้วพุทธคุณเป็นยังงัย เอาพระเครื่องของหลวงปู่มาไว้ด้วย แล้วแขวนรวมกัน เป็นยังงัย จากนั้นวันต่อไปก็แยกออก แขวนเดี่ยวองค์เดิม ว่า ออกเป็นยังงัย
     
  10. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407

    รับทราบแล้วนะครับ บูชาตะกรุดน้ำมันเพชรพยาธรไปหลายรอบแล้วแต่ไม่บอกประสบการณ์กันเลยนะจ๊ะ
     
  11. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    ท่านโทรไปนี้เลยครับ 091-3716617 ได้มาง่ายๆเลยครับ
     
  12. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    Visudhi Punya จริงๆแล้วตัวปัญหาที่แท้จริง มิใช่เป็นกลไกอายตนะภายนอกทั้ง 5 หรอกเธอ แต่จิตซึ่งเป็นทั้งอายตนะภายในเพื่อการนึกเองคิดเองและเป็น "ตัวรู้"ต่างหากล่ะที่มีปัญหาต้องแก้ไข...

    จิตมีปัญหาเพราะเมื่ออายตนะภายนอกทั้งห้าเกิดการสัมผัสสิ่งแวดล้อมใดๆรายรอบตัว จิตข้างในของพวกเธอแทนที่มันจะรับข้อมูลเข้าไว้แล้วกำหนดรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จิตมันกลับทำเกินหน้าที่ของ "การรับรู้" ไป คือ มันจะสั่นสะเทือนเป็น "การรับเอา" แถมให้ด้วย เช่น แทนที่จะรู้แค่เพียงว่าตากำลังมองเห็นช่อดอกไม้ในแจกัน มันกลับสั่นสะเทือนเลยเถิดไปว่า "สวย-ไม่สวย" ทั้งๆที่ไม่มีใครถามสักหน่อย พอบอกตนเองว่าสวยตัณหาก็มาทันที คือ "ความอยาก" ที่จะมีอะไรกับดอกไม้ช่อนั้น อาทิ อยากดูนานๆ อยากดมว่าหอมมั้ย อยากสัมผัสลูบไล้ อยากได้เป็นเจ้าของ....เลยเถิดไปใหญ่เลยใช่มั้ย?

    นักเรียนจะแลเห็นได้ว่า ตัวปัญหามิใช่ตาสองข้างของเธอหรอก ไม่ต้องไปแก้ไขที่ตา สายตาดีไม่สั้นไม่ยาวน่ะดีแล้ว ไม่ต้องไปนั่งหลับตา ยืนหลับตา หรือเดินหลับตา เพราะมันผิดธรรมชาติ การปิดตาไว้ไม่ให้รู้เห็นจึงมิใช่วิถีแห่งการประพฤติธรรมเพราะมันผิดธรรมชาติ ขนาดคนตาบอดก็ถือว่าอาการไม่ครบสามสิบสองแล้วมิใช่หรือ?

    การจะนิพพานหรือดับการเกิดดับอย่างสิ้นเชิงของกิเลสตัณหานั้น ไปดับที่อายตนะทั้งห้าภายนอกน่ะไม่ถูกต้องหรอกนะ อายตนะภายนอกทั้งห้ามันเป็นแค่เพียงกลไกหรืออวัยวะของเครื่องยนต์แห่งกรรมที่พระบิดาทรงกำหนดติดตั้งเอาไว้ให้มนุษย์ใช้เป็น 6 ช่องทางแห่งการรับรู้ของจิต เพื่อการเรียนรู้โลก-จักรวาลเท่านั้นแหละ เธอจึงไม่ต้องไปยุ่งกับอายตนะ หันมาใส่ใจตัวเจ้าปัญหาที่แท้จริงของเธอดีกว่า นั่นคือ "นิสัยของจิต" ของเธอนั่นเอง พยายามควบคุมมันให้ "รับรู้เพื่อการเรียนรู้" อย่ายอมให้มัน "รับรู้เพื่อการรับเอาไม่รับเอา" ให้จงได้ ดัดจริตตนเองที่ตรงนี้ให้อยู่หมัด เธอจะจัดการกรรมได้ทุกสิ่ง หมายความว่าเธอจะเป็นผู้หนึ่งที่สามารถเข้าถึงจิตวิญญาณแก่นแท้ของตนเองได้ เพราะหมุนธรรมจักรเป็นผลสำเร็จ หากทำได้เยี่ยงนี้เมื่อไหร่นิพพานก็อยู่ไม่ไกลแล้วววว....

    ป.วิสุทธิปัญญา
    07-06-2013
     
  13. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    เลขที่ใบส่งของครับ

    คุณ ฉันทนา EX051572268TH
    คุณ อัครศักดิ์ EX051572166TH
    คุณ วุฒิพงษ์ EX051572170TH
    คุณ นันทปภัสส์ EX051572254TH
    คุณ กิตติกร EX051572237TH
    คุณ ธีรพจน์ EX051572245TH
    คุณ ไพสิฐ EX051572223ะ้
    คุณ วิวิทศน์ EX051572210TH
    คุณ ปัญจพัฒน์ EX051572197TH
    คุณ สายเมธี EX051572183TH
    คุณ ธีรพล EX051572206TH
     
  14. timon4

    timon4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +282
    หมดเร็วจัง เสียดายไม่ทัน

    อยากได้ไม่ทราบว่าที่ศุนย์พระยังพอมีหรือเป่ลาครับ ทำมาน้อยจังเลยน่าทำซักร้อยดอก กำลังดีไม่มากเกินไปpig_cryy
    -พลอยที่อยู่ด้านหลังของขุนแผนหมายถึงอะไรครับ
     
  15. itr

    itr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +4,857
    วันนี้ได้รับตะกรุดเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ
     
  16. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407

    เดี่ยวจะไปหาให้นะครับว่า เหลือไหม ทำมาก ไม่ทันสิครับ เพราะช่วงนั้นเร่งเอาไปปลุกเสกให้ทันตามกำหนดที่หลวงปู่ท่านกำหนดมาครับ
     
  17. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    ธาตุเหล่านี้มิใช่ธาตุเกิด ตามที่ดูดวงกันนะครับ เป็นธาตุที่แสดงออกทางนิสัยและการดำเนินชีวิต

    สภาวะ ธาตุลม หรือคนที่มีธาตุลม
    สายลมเย็น แผ่วเบาบาง สัมผัสการปล่อยวาง
    ท่ามกลางอิสระ ไร้พันธะผูกพัน...
    หากลมนั้นผันแปร คล้อยตามกระแส
    ขาดความแน่นหนัก ผลักภาระเพื่อรักษาสภาพเบา

    สภาวะธาตุไฟคนที่มีธาตุไฟ

    ไฟ เป็นธาตุอาศัย ซึ่งอาศัยดิน น้ำ ลม เพื่อตั้งอยู่...
    ต้องการปัจจัยอย่าง ถ่าน ไม้ ,น้ำมัน และอากาศ...

    สภาวะธาตุ ดิน คนที่มีธาตุดิน

    ดินนั้น มั่นคง แต่ยึดมั่น และปรุงเสริมเติมแต่ง
    คล้ายการเกาะตัว ของเม็ดทราย
    จนกลายเป็นภูหิน...
     
  18. Band987

    Band987 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +39
    ถ้ายังพอมีขอเผื่อผมด้วยนะครับ pity_pigpity_pig
     
  19. ashigun

    ashigun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +718
    ได้รับตะกรุดแล้วครับ สวยดีครับ
     
  20. PeacE123

    PeacE123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    3,179
    ค่าพลัง:
    +2,485
    ได้รับแล้วครับ ขอบพระคุณครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...