แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 15 พฤษภาคม 2010.

  1. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
     
  2. moo noi

    moo noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    6,328
    ค่าพลัง:
    +23,902
    ร่วมฉลอง 2,000,000 click ด้วยคนค่ะ

    :cool::cool::cool:

    อ่านแล้วถึงบางอ้อ....ว่าทำไมพระดี แต่อยู่กับเราแล้วเงียบ....

    ต้องย้อนกลับมาคิดว่าเราทำดีพอที่จะสมควรได้รับบารมีจากพระนั้นแล้วหรือยัง....
     
  3. บุญพามา

    บุญพามา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2010
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,566
    ยินดีด้วยครับ ขอร่วมฉลอง 2ล้านด้วยอีกคนครับ รู้สึกดีที่ได้ร่วมทำบุญกับเพื่อนๆทุกคน
    ทั้งผู้ช่วยเหลืองานบุญใหญ่นี้ทุกๆคน และ พี่หนุ่มผู้จัดสร้างวัตถุมงคลชุดประวัติศาสตร์ครั้งนี้ครับ...
     
  4. บัวใต้โคลน

    บัวใต้โคลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +380
    น่าจะมีกิจกรรมและของรางวัลฉลองคลิกที่สองล้านนะครับ

    ใครใจดีจัดหนักหน่อยเร้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2011
  5. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,353
    ค่าพลัง:
    +19,459
    ร่วมแสดงความยินดีด้วยเช่นกันค่ะ (k)
     
  6. moo noi

    moo noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    6,328
    ค่าพลัง:
    +23,902
    ขอบคุณพี่เดชาที่นำบทความดีๆมาให้แต่เช้าเลยค่ะ......
     
  7. ละม่อม

    ละม่อม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,329
    ค่าพลัง:
    +3,892
    ขอร่วมแสดงความยินดีด้วยคับbubu
     
  8. saweit

    saweit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    747
    ค่าพลัง:
    +2,338
    ร่วมยินดี และร่วมบุญด้วยครับ ^^
     
  9. ฌานกร

    ฌานกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,433
    ค่าพลัง:
    +14,651
    ร่วมแสดงความยินดีด้วยครับ ฉลอง 2,000,000 :cool::cool:
     
  10. Na_mo_

    Na_mo_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    2,025
    ค่าพลัง:
    +4,750
    ขอร่วมแสดงความยินดีกับ 2,000,000 คลิ๊ก กระทู้สุดยอดแห่งปีครับ
     
  11. si12a

    si12a Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +34
    ผมว่า เสาร์ อาทิตย์นี้ อาจจะมีบทความดีๆ จากพี่หนุ่ม มาอีกเเน่ๆเลย รอฟังดีกว่า
     
  12. ฝูงบินต่ำ

    ฝูงบินต่ำ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2011
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +17
    เรื่องจริง ไม่ใช่อิงนิยาย มนต์พระกาฬนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ใครไม่เชื่อก็จะหาว่าผมเพล้อเจอ แต่ถ้าเอามาวิเคราะแล้ว ผมเชื่อมั่นสุดๆ เมื่อก่อนตัวผมเองผมแขวนพระหลวงพ่อกวย องค์เดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้ผมแขวนหลวงปู่ดู่ด้วยเพราะศรัทธาในบารมีธรรมองค์หลวงปู่ดู่ด้วยเช่นกัน ตัวผมเองเป็นคนพิการตั้งแต่เด็กทำงานก็หลายปี จนมีเพื่อนร่วมรุ่นแต่คนละห้อง ได้มาทำที่เดียวกับผม(ผู้หญิง) เพื่อนผมคนนี้เขาจะเป็นพวกคุยสนุก ให้เพื่อนๆได้หัวเราะกัน บ้างครั้งก็ชอบล้อผมเรื่องการเดินของผม ผมเฉยๆไม่ได้โกรธอะไรเขา เพราะเขาแค่อยากให้สนุก แต่ก็มีแอบน้อยใจเล็กๆว่าจะล้อทำมัย จำไม่ได้ว่าเคยหลุดปาก บอกเขาหรือเปล่า ว่าระวังจะเข้าตัวเอง (แต่ผมจะไม่แช่งใครกลัวปาป) เพื่อนผมคนนี้ก็ยังทำเหมือนเคย จนมาปีนี้ แฟนเขาคงถึงปีชงด้วยกระมัง อยู่ๆแฟนเขาก็ตกเก้าอี้ จากแค่กระดูกหักนิดหน่อย อยู่ๆขาก็ปวม เพราะมีเลือดคลั่งอยู่ข้างใน ทำให้มีการติดเชื้อ จนต้องผ่าตัดใหม่ ทุกวันนี้แฟนเขาก็ยังเดินไม่ปกติ ต้องใช้ไม่เท้า นี้แหละครับ ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อกวย แต่อยากให้ระวังด้วย ถึงเรามีวัตถุมงคลของหลวงพ่อ อย่าได้ไปเผลอว่าใคร เพราะมันจะย้อนกลับมาเหมือนกัน ผมโดนมาแล้ว
     
  13. daychar

    daychar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    714
    ค่าพลัง:
    +12,050
    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle></TD><TD vAlign=middle>อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอนที่ 4



    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right>อ้างถึง</TD></TR></TBODY></TABLE>


    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">..."หลวงพ่อ กวย ชุตินธโร" พระอริยสงฆ์แห่งแดนคนจริง....

    ...ด้วยจิตอันบริสุทธิ์...ในโลกแห่งจักรวาลนี้ ย่อมมีโลกที่มีอยู่อีก จำนวนนับหมื่นโลกธาตุกับทั้งแสนจักรพิภพ พวกเราทั้งหลายนี้

    จะนับเม็ดทรายในท้องมหาสมุทรทั้งสี่ ก็ยังมีได้เพียงเศษเสี้ยวของละอองธุลีของส่วนหนึ่งแห่งจักรวาล ประมาณไปไม่ได้ ที่ๆมีสิ่งมีชีวิต
    เหมือนอย่างเรานั้น ก็เช่นเดียวกัน ยากนักที่จะอุปมาได้ทั่วถึง แต่ในอนันตจักรวาลนี้ มีอยู่ที่ๆเดียวเท่านั้น ที่จะสามารถ ที่จะมี พระสัมมา
    สัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาได้ นั้นก็คือ ที่ตรงนี้ที่เรียกที่ว่า"ชมพูทวีป" บางยุคบางสมัยก็ว่างจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเนินนานยาวไกลจนวังเวง
    แต่พวกเราทุกคน ก็ยังได้มาเกิดทันบนแผ่นดินในโลกใบเดียวกันกับที่ๆเคยมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทับอยู่ และพวกเราทุกๆนี้
    ก็ยังได้มีโอกาสได้เกิดมาทันในยุคสมัยที่ยังมีบวร"พระพุทธศาสนา"ให้เราได้น้อมนำมาปฏิบัติ ได้รู้จัก พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ น้อมนำมาบูชา
    และพวกเราทุกๆคนนี้ ก็ยังโชคดีเหลือเกินที่ได้มี"พระพุทธศาสนา"เป็นศาสนาที่พวกเราได้นับถือเป็นที่พึ่ง เป็นสรณะ และได้ในอยู่ประเทศไทย
    ซึ่งเป็น เมืองพุทธ การได้ เกิดมาเป็นคนนั้นเป็นของยากมากเหลือเกิน พวกเรานั้นก็เองก็อยู่บนโลกใบนี้กันได้ อย่างมากก็ไม่เกินหมื่นกว่าวันกัน
    หรอกหนา ตายไปแล้วก็ไม่อาจที่จะรู้ไดเลยว่า จะได้กลับมายืนที่ตรงนี้ได้อีกหรือเปล่า เพราะฉนั้น จงอย่าทำวันเวลานี้ที่เหลืออยู่น้อยนิด ให้ไม่มี
    คุณค่า ไม่มีประโยชน์เลยนะ เรานี้เป็นลูก "หลวงพ่อ กวย ชุตินธโร" จะกี่ภพกี่ชาติ ก็จะขอเกิดเป็นลูกของพ่อตลอดไป จะขอทำแต่ความดีถวาย
    พ่อของพวกเราทุกๆวัน อย่างน้อยเรื่องอะไรก็ได้ สักหนึ่งเรื่อง ถวายท่าน กตัญญูกตเวทิตา ต่อท่าน ในสมดังกับที่พ่อไม่เคยทอดทิ้งพวเรา "
    "พา มา นา อุ อะ กะ สะ นัน ทู" หลวงพ่อให้ไว้ ภาวนาให้ขึ้นใจเทิดหนา หมั่นทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้เบิกบาน มิตกอบายภูมิแล
    สาธุ สาธุ สาธุ ..."ความเดิมต่อจากตอนที่แล้ว"....
     
  14. daychar

    daychar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    714
    ค่าพลัง:
    +12,050
    ...."ที่มาของฉายา"....

    ...ครั้งหนึ่ง เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยตอนที่ข้าพเจ้านั้นได้ อุปสมบทใหม่ๆได้เพียงแค่ 1 เดือน พอดีข้าพเจ้าพึ่งจะนึกขึ้นมาได้ ก็เลยนำมาเล่าให้กับพวกพี่ๆน้องนั้นได้อ่านฟังกัน
    เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ตอนที่ข้าพเจ้าเนั้นได้บวชมาใหม่ๆ ข้าพเจ้าก็ยังติดนิสัย ฆารวาสอยู่มาก กล่าวคือ ข้าพเจ้านั้นมีนิสัยอยู่อย่างหนึ่งว่า ไม่ค่อยจะยอมคนสักเท่าใดนักและ
    เมื่อตอนที่บวชอยู่นั้น ก็มีพระที่บวชก่อนข้าพเจ้าอยู่องค์หนึ่ง ที่รู้สึกว่าไม่ชอบหน้าข้าพเจ้าเท่าไรนัก แกถือว่าแกบวชมาก่อน ก็เลยอาวุโสภันเตฯ คือส่วนตัวของข้าพเจ้า
    จริงๆแล้ว ก็เป็นคนอ่นน้อนถ่อมตนอยู่ ใครมาดีก็ดีไป ใครมาร้ายก็แล้วแต่สถานะการณ์ แต่เมื่อข้าพเจ้าบวชแล้ว ข้าพเจ้าก็คิดว่า อายุทางโลกของเรานี้ก็คือไม่มีแล้ว จะนับ
    กันใหม่อีกทีก็ตอน อุปัชฌาย์สวมอังสะให้ก็เริ่มนับกันตอนนั้น ความมีสัมมาคาระวะนั้น ข้าพเจ้านั้นถือมาก ในตอนที่เป็นฆารวาสนั้น ข้าพเจาไม่เคยที่จะปีนเกลียวผู้ใหญ่เลย
    สักครั้ง เพราะครอบครัวของข้าพเจ้าปลูกฝังมาเช่นนี้...

    ...ที่นี้เรื่องมันก็มีอยู่ว่า พระองค์ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ท่านเป็นพระจำพวกพระเคร่ง (เคร่งเครียดนะ) คือว่าองค์ใหนไม่เคร่งตาม องค์นั้นก็จะแลดูไม่เข้มขลัง ประมาณนั้น เอ่อ
    !!!เอาซิ ให้มันได้อย่างนั้น ความจริงข้าพเจ้าก็ไม่อยากยุ่งกับท่านสักเท่าไร่หรอก แต่พระองค์นั้นท่านมีนิสัย ค่อนข้างจู้จี้ขี้บ่นมาก จะว่าท่านนั้นก็จะไม่ชอบอยู่ว่างก็ว่าใช่(ปากนะ)
    แต่ตัวนะไม่ค่อยทำหรอก นึกถึงดาวตลกที่ชื่อ "ปลาคร๊าบ" กันได้ใหมพี่ๆน้องๆ อื้ม!!!นั้นล่ะท่าน(หลวงพี่เขา) ท่านนั้นก็จะคอยสั่ง โน้น!สั่งนี่!พระลูกวัดไปทั่ว แต่ตัวท่านเองนะไม่ใช่
    ท่านเจ้าอาวาสหรอกนะ แต่ถือว่าตัวเอง อาวุโสภันเตฯ ขนาดโยมเข้ามายังคิดว่า โอ้!!!นี่ต้องเป็นท่านอธิการณ์แน่เลย ก็คิดดูกันเอาเอง นี่ล่ะ!!!จึงเป็นที่มาของคำว่า"หลวงพี่ฮีดเลอร์"
    ....ที่สุดของที่สุ...ด(อ่านว่าสูดนะ) เลย ...เพราะขนาดพัดลมเห็นท่านยังส่ายหน้าเลย...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2011
  15. daychar

    daychar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    714
    ค่าพลัง:
    +12,050
    ..."หลวงพี่ฮีดเลอร์"....

    ...ดังที่ข้าพเจ้าได้เคยกล่าวไว้แต่ตอนต้นว่า ข้าพเจ้านี้ไม่ค่อยไปสุงสิงกับใครมากนัก แต่เวลามีงานส่วนรวม ข้าพเจ้าก็ไม่ใช่คนเห็นแกตัว เขาทำข้าพเจ้าก็ทำ แต่บางครั้งตรงนี้
    ข้าพเจ้าก็อยู่แต่ในกุฏิ บางครั้งถ้าไม่มีใครมาตาม หรือไม่เห็นจริงๆ ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ไปช่วยเขาก็มีบ้าง นี้จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ "หลวงพี่ฮีดเลอร์" เกิดความไม่สบายใจ กลัวว่าข้าพเจ้า
    จะสุขภาพไม่แข็งแรง เพราะไม่ได้ออกกำลังกายแบบท่าน (ข้าพเจ้าคิดแบบแง่บวกนะ) น่าจะเป็นแบบนั้น ที่นี้เวลาท่านเจอข้าพเจ้าก็เลยมักจะเหน็บแนมข้าพเจ้าอยู่บ่อยๆ

    ตอนหลังๆ ข้าพเจ้าก็คิดว่า ข้าพเจ้าคงนิ่งมากไปหน่อย ที่นี้เจอหนักเลย แต่ข้าพเจ้าก็ได้แต่ยิ้มเฉย โตๆกันแล้วนี่ จะว่าไงได้ล่ะ!!! ตอนหลังท่านชักได้ใจใหญ่ ก็ให้เด็กวัดมาตามไปนวด
    ให้บ้าง (เพราะข้าพเจ้าพอนวดได้) ถึงข้าพเจ้าจะไม่ใช่หมอนวด แต่ข้าพเจ้าก็พอจะรู้ว่า ถ้าเราชอบหรืออยากให้คนอื่นนวดยังไง คนอื่นๆ ก็ต้องชอบเหมือนๆ กัน ก็เลยนวดในแบบที่
    ตัวเองชอบให้คนอื่นไป เรื่องของเรื่อง ครั้งแรกมันมาจาก ได้เคยไปสงเคราะห์หลวงตาอยู่องค์หนึ่ง ก็เห็นว่าท่านชราภาพมากแล้ว บ่นว่าปวดหลังปวดเอว ก็เลยไปสงเคาระห์ท่าน ก็เลยดังใหญ่

    แต่ตอนหลังๆมันไม่ใช่อย่างนั้นซะแล้วซิ (องค์อื่นนะ) คนถูกนวดนะสบาย แต่คนนวดซิกว่าจะจบคอร์ดเล่นเอาเหงื่อท่วมตัวเหมือนกัน แต่ในทางกลับกัน เวลาตัวเองเป็นบ้าง หาสักคนมานวด
    ให้กลับหาไม่ได้เลย เอ่อ!!!(ถอนหายใจยาวๆ)...ดังนั้นข้าพเจ้าก็เลยมักจะโดนท่าน "หลวงพี่ฮีดเลอร์" นึกยังไงไม่ทราบให้เด็กวัดมาตามบอกว่านิมนต์ให้ไปสงเคราะห์นวดให้สักหน่อย ท่านไป
    นวดก็ไปนวดให้ อาวุโสภันเตฯใช้นี่นะ ก็ไป เอ่อ!!! แต่ตอนหลังๆมันไม่ใช่ซะแล้วซิ โอ้โห้!!!เล่นมาตามกันทุกวัน เลยนวดครั้งละเป็นชั่วโมงๆ ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ที่นี้พอท่านให้เด็กมาตามอีก
    ข้าพเจ้าก็พิจรนาดูแล้วก็เลยไม่ไป สรุปว่าก็เลยเป็นเหตุที่ทำให้ท่าน "หลวงพี่ฮีดเลอร์" ท่านเกิดความไม่พอใจในตัวของข้าพเจ้าเท่าใดนัก เอ้า!!!ก็ข้าพเจ้าพิจรณาดูแล้วนี่ว่าตรงนี้มันไม่สมเหตุสมผล
    ก็เลยไม่ไปสงเคราะห์ จะโกรธก็โกรธไป ก็เรื่องของท่านเถอะนะ อ้อ!!!ลืมบอกไปอย่างหนึ่งท่าน "หลวงพี่อีดเลอร์" นี้ท่านมีดีกรีเป็นพระครูปลัดด้วยนะ แต่เอ้!!!เป็นพระครูยังไงบางทีก็สอน
    (ตรงนี้ไม่พูดดีกว่า) แต่ข้าพเจ้าก็คิดว่า คนเรานั้นไม่ได้วัดกันที่ตรงบวชก่อนบวชหลัง เรื่องของความตั้งใจ จะเอา วันเดือน ปี มาวัดกันข้าพเจ้าคิดว่าวัดกันไม่ได้ แต่ที่เห็นบางส่วนหนึ่งก็ยังมี
    วัดไม่กวาด บาตรไม่โปรด โบสถ์ไม่ลง เอาหน้า ไม่เอางาน ประมาณนั้น สารพัด ฯลฯ เมื่อให้เด็กวัดมาตามแล้วข้าพเจ้ากลับไม่ยอมไป ก็เลยเป็นเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ข้าพเจ้ามักจะโดนท่าน
    "หลวงพี่อีดเลอร์ "ประมาณจะฉีกหน้าอยู่บ่อยๆ อย่างนี้ เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2011
  16. daychar

    daychar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    714
    ค่าพลัง:
    +12,050
    ...."คำบัญชาจากท่านเจ้าอาวาส"...

    ...จนมีอยู่วันหนึ่ง ตอนนั้นทางขึ้นศาลาวัดของข้าพเจ้านั้นมันเป็นปูนซีเมนท์แบบที่เขาเทพื้นกัน ที่นี้เวลาฝนมันตกต้นไม้จำพวกตะใคร่มันก็เกาะกันเต็มไปหมด แลดูเหมือนประหนึ่งสนามฟุตบองย่อมๆ
    มันก็มองดูสวยดีหรอกนะ ข้าพเจ้าว่า แต่พิษสงของมันซิดันเยอะได้หน่อย เล่นเอาโยม อุบาสก อุบาสิกา ทายกกา ทายิกา ล้นล้มหัวแตกหัวปูด หัวโน ไปหลายราย หนักๆเข้า บาตร งี้กระเด็นเลยก็มี
    ไม่ไหวลานมันกว้างด้วย ก็เลยมีบัญชาลงมาจากท่านเจ้าอาวาส ว่าให้จัดการมันออก เสียก่อน ที่จะมีคนตาย (โอ้โฮ้!!!ร้ายแรงจริงๆ) พระในวัดก็เลยช่วยกันใช้แปรงเหล็กขัดกัน ก็ได้ความว่าลูกศิษย์วัด
    เขาได้ไปยืม เครื่องพ้นน้ำจากร้านล้างรถมาได้เครื่องหนึ่ง เครื่องพ่นน้ำนี้พ่นน้ำออกมาได้แรงมาก ชนิดที่เรียกว่าถ้าโดนเนื้อก็แสบร้อนเหมือนกัน ใหม่ๆ ก็สนุกกันอยู่หรอก แต่พอทำกันไปได้ครึ่งวัน ได้แค่
    ครึ่งเดียว โซเลย !!!ทุกๆคนก็ต่างเหนื่อยและร้อนมาก

    ข้าพเจ้าก็ทำจนเหงื่อไหลท่วมตัวด้วยเหมือนกัน แต่ขณะที่ข้าพเจ้านั้นกำลังเข็นใบไม้ไปทิ้งที่หลังวัดอยู่นั้นท่าน "หลวงพี่อีดเลอร์" ท่านก็กำลังหาฆ้อนเพื่อที่จะไปตีตะปูอะไรสักอย่าง ท่านก็เลยใช้ให้
    ข้าพเจ้าไปหามาให้ ข้าพเจ้าก็ยังทำงานของข้าพเจ้าค้างคาอยู่ คือต้องขนใบไม้ไปทิ้งหลังวัด ก็นึกหงุดหงิดในใจนิดหน่อย (เพิ่งบวชใหม่ๆ จิตยังไม่นิ่ง) ก็คิดไปว่า อยู่บ้าน พี่ป้า น้าอา พ่อแม่ ยังไม่ใช้
    ขนาดนี้เลย แต่ก็วางงานของตัวเองไปหาให้ท่าน

    แต่ปรากฏว่า หายังไงก็หาไม่เจอ ของๆ วัดแท้จะหาคนเก็บก็ไม่ได้ สรุปว่าเดินหาทั่ววัดกว่าครึ่งชั่วโมงคนเดียวก็ยังไม่ได้ แบ๊ววัดของข้าพเจ้ามันเล็กซะที่ใหนล่ะ วัดหลวงพ่อเชียวนะ โอ้โฮ้!!!เล่นเอาข้าพเจ้า
    ซะจิตตกเลย ก็เลยเดินมาบอกท่าน "หลวงพี่ฮีดเลอร์" รอบแรก ท่านทำเสียงแข็งใส่ บอกว่าให้ไปหามาใหม่ รอบสองแรงกว่าเดิม ก็ไป ไปก็ไป แต่พอรอบสามเท่านั้น ล่ะ ท่านตะคอกใส่ข้าพเจ้าเลย แทนที่
    จะพูดกันดีๆ ข้าพเจ้างี้วางของลงกับพื้น เดินกลับกุฏิเลยพอไปถึงกุฏิ ปิดประตูดัง ปัง!!!! (ไม่ควรทำตาม มันไม่ดีพอเข้าไปในห้องได้ บังเอิญตามันดีอีก เหลืออบมองไปเห็น "ฆ้อน" ที่โยมพ่อของข้าพเจ้า
    มาวางลืมทิ้งไว้ ที่ข้างตู้หนังสือ (ฆ้อนของที่บ้านไม่ใช่ของวัด) เท่านั้นแหละครับพี่น้องเอ้ย!!!!...........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2011
  17. daychar

    daychar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    714
    ค่าพลัง:
    +12,050
    ...."โดนผีเข้าสิง"....

    ...พอข้าพเจ้าเห็นฆ้อนเท่านั้นล่ะ!!!ข้าพเจ้าก็ลุกขึ้นทันที แล้วเดินตรงไปที่ฆ้อนนั้น พร้อมกับกัมลงหยิบตะปูตัวเล็กประมาณ 1 กำมือ ไม่ต่ำกว่า 50 ตัว รู้ใหมพี่ๆน้องๆครับข้าพเจ้าทำยังไง พอข้าพเจ้า
    เปิดประตูกุฏิได้เท่านั้นล่ะ ลงได้ไม่ถึงสามก้าว ทันใดนั้นข้าพเจ้าก็ "เขวี้ยง"!!!!!ฆ้อนนั้นกระเด็นออกไปไกลประมาณ 4 สนามบาสเกตบอลพร้อมทั้งตะโกนออกไปว่า "หลวงพี่ครับนี่ ฆ้อนมาแล้วครับ!!!!"
    เสียงตกไปโดนถังขยะวัดดังโครม!!!!เท่านั้นยังไม่พอ ข้าพเจ้าก้ยังเดินจ้ำอ้าวไปยังฆ้อนนั้นอีก พร้อมทั้งทำแบบเดิมอีกทีนี้ ฆ้อนตกถึงหนาศาลาเลย เล่นเอาทุกคนงี้ ตะลึกเลย ยัง-ยังไม่จบ ทันใดนั้นเอง
    ข้าพเจ้าก็ได้เดินตรงดิ่งไปยังที่ท่าน "หลวงพี่ฮีดเลอร์ "นั้นยืนอยู่ พอไปถึงตรงหน้าของท่าน ข้าพเจ้าก็ตะโกนออกมาว่า เอ้า!!!นี่ครับตะปูมาแล้วครับ แล้วข้าพเจ้าก็อันตระธานหว่านตะปูนั้น(มันน่าจะเรียกว่า
    ปามากกว่า) ลงไปตรงหน้าของท่าน "หลวงพี่ฮีดเลอร์" เสร็จแล้วข้าพเจ้าก็เดินกลับขึ้นบนกุฏิ ปิดประตูดัง !!!ปัง!!!!เฉยเลย ใช้ระยะเวลาไปประมาณน่าจะไม่เกิน 2-3 นาที..ก็มานั่งสูดลมหายใจอยู่ครู่หนึ่ง
    ทีนี้ สติเริ่มมาเท่านั้น ใจของข้าพเจ้าหล่นลงไปอยู่ที่กระตุ่ม นี่ฉันทำอะไรลงไปว่ะ!!!ลืมตัวไปว่าเป็นพระอยู่ ตายห่าล่ะ!!!งานนี้สงสัยต้องโดนจับสึกกลางพรรษาแน่เลยเรา ...(ยอมรับว่ารู้สึกผิดและเสียใจมาก).....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2011
  18. daychar

    daychar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    714
    ค่าพลัง:
    +12,050
    ...."หลวงพ่อช่วยลูกด้วย"...

    ...พอตั้งสติได้แล้ว ข้าพเจ้าก็รีบหันไปมองรูป "หลวงพ่อ" บนหิ้งเลย ข้าพเจ้าก็ได้ยกมือสาธุ บอกหลวงพ่อไปว่า "หลวงพ่อครับลูกผิดไปแล้ว""ลูกไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้เลย "หลวงพ่อครับ"
    หลวงพ่อต้องช่วยลูกด้วยนะครับ" "ลูกสำนึกผิดแล้ว" หลวงพ่อโปรดช่วยลูกด้วยนะครับ" (พร่ำเพ้อ ทำอะไรไม่ถูก) ก็เลยตั้งสติขึ้นอีกครั้ง รีบจุดธุป 16 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ ตามด้วย ตะมังธัง
    ปะกาเสนโตฯ ระลึกถึงบารมีของ "หลวงพ่อ กวย ชุตินธโร" เป็นที่สุด แล้วบอกท่านว่า ขอให้ความผิดในครั้งนี้ได้ "เป็นครู" ด้วยเทิด

    ถ้า"หลวงพ่อ"ไม่ช่วยลูกคราวนี้ ลูกต้องแย่แน่ๆสาธุ เสร็จแล้วข้าพเจ้าจึงตั้ง สัจจะกิริยาอธิษฐานแล้วเปล่งวาจาต่อหน้า พระแก้วมรกต (25 พุทธศตวรรษ) ที่เป็นประประธานหิ้ง ต่อหน้า"หลวงพ่อ"ว่า
    ข้าพเจ้าขอระลึกถึง คุณงามความดีทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยกระทำมา ทั้งการให้ทาน รักษาศีล สวดมนต์ไหว้พระ เจริญพระกรรมฐาน ภาวนาแผ่เมตตา และปล่อยชีวิตสัตว์ บุญบารมีทั้งหลายที่ข้าพเจ้า
    ได้เคย บำเพ็ญมาแล้ว ในอดีตชาติก็ดี ในปัจจุบันชาติก็ดี ในอนาคตกาลเบื้องหน้าก็ดี ขอจงมาเป็นภาวะปัจจัย เป็นวิสัยตามส่ง ให้ข้าพเจ้านั้นจงรอดพ้นจากวิบากกรรมในครั้งนั้ได้ด้วยเทอญ ข้าพเจ้านั้น
    ยังเป็นปุถุชนอยู่ ย่อมยังมีผิดชอบชั่วดีอยู่ ข้าพเจ้านั้นสำนึกผิดแล้ว ขอบารมี "หลวงพ่อ กวย ชุตินธโร" โปรดช่วยเหลือลูกด้วยเทอญ สา.....ธุ สา.....ธุ สา.......ธุ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2011
  19. daychar

    daychar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    714
    ค่าพลัง:
    +12,050
    ..."บารมีหลวงพ่อกำบังฆ้อนบิน"....

    ...และพอสิ้นคำอธิฐาน ข้าพเจ้าก็ได้เดินหน้าสลดๆ ลงไปที่ศาลา แต่เอ้!!! ไง๋!!!! ไม่เห็นมีใครผิดปรกติอะไรเลยนะ ข้าพเจ้ารู้สึกเอ๊ะใจ!!!พระทุกๆองค์ รวมถึงท่าน"หลวงพี่ฮีดเลอร์"กับทำงานกันแบบปกติ
    เหมือนไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นเลยข้าพเจ้ารู้สึกตกใจมาก เฮ้ย!!!!อะไร!!!!ก็เมื่อตะกี้นี่เราระเบิดอารมณไปขนาดนั้น แล้วยังไม่มีใครสนใจเราอีกหรือนี่ ....

    ....และแล้วความอัศจรรย์ ก็ได้บังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า!!!แทบช็อค!!!ข้าพเจ้าแทบไม่เชื่อสายตาและหูของตัวเองเลยว่า เมื่อข้าพเจ้านั้นเดินไปถึงท่าน"หลวงพี่ฮีดเลอร์"แล้วก้มลงกราบขอขมาท่านสิ่งที่ทำให้
    ข้าพเจ้านั้นประหลาดใจมากก็คือท่าน "หลวงพี่ฮีดเลอร์" กับพระประมาณ10 กว่าองค์ทำหน้ามึนๆ งงๆ ชนิดที่ว่า "อะไรของมัน" "อยู่ดีๆมากราบเราทำใมว่ะ" ข้าพเจ้าก็กล่าวขึ้นมาว่า" หลวงพี่ครับ ผมผิดไปแล้ว
    "โปรดยกโทษอโหสิกรรมให้ผมด้วยเทิดนะครับ

    ทันใดนั้นเองท่าน "หลวงพี่ฮีดเลอร์" ซึ่งทำหน้างงๆ ท่านก็ได้พูดสวนข้าพเจ้าออกมาว่า "ขอโทษเรื่องอะไร" งง?[​IMG]??งง?[​IMG]'งง?[​IMG] ข้าพเจ้าก็เลยบอกกับท่าน "หลวงพี่ฮีดเลอร์" ไปว่าก็เมื่อตะกี้ผมเขวี้ยงฆ้อนใส่
    หลวงพี่ แล้วก็ยังปาตะปูใส่หน้า หลวงพี่อีก ผมต้องกราบขอขมาหลวงพี่ด้วยนะครับ ผมผิดไปแล้วครับ ที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ พอพูดจบท่า "หลวงพี่ฮีดเลอร์" ก็ทำหน้ายิ่งงงใหญ่ แถมยังพูดสวนข้าพเจ้าออกมาอีกว่า

    "นี่ท่านมาพูดเพ้อเจ้ออะไรของท่าน" ผมทำงานของผมอยู่ตั้งนานนมแล้ว ผมยังไม่เห็นคุณมาตรงนี้เลย แล้วท่านเดินไปใหนมาล่ะ เห็นแว๊บๆ !!!ข้าพเจ้าก็เลยรีบพูดสวนออกไปว่า ก็เมื่อตะกี้นี้ ข้าพเจ้าจึงหันไปถาม
    พระองค์อื่นๆก็ไได้รับคำตอบเดียวกัน เล่นเอาซะข้าพเจ้างงเป็นไก่ตาแตก !!โอ้ยนี่ มันเรื่องอะไรกันเนี้ย ข้าพเจ้าถึงกับ อุทานขึ้นแต่ก็ยังไม่หายสงสัย พอดีนึกขึ้นมาได้ว่า ข้าพเจ้าได้โปรยตะปู บริเวณนี้ เมื่อตะกี้นี้เอง
    เป็นกำๆ ยังไงๆ มันก็ต้องมีเหลืออยู่บ้างล่ะหน่า แต่ข้าพเจ้าพบกับความตกตะลึง

    ครั้นเมื่อข้าพเจ้ามองไปยังบริเวณที่ได้ปาตะปูไว้ ก็กลับไม่พบเจอ แม้แต่เงาของตะปูเลยสักดอก โอ้โฮ้!!!เล่นเอาข้าพเจ้านั้น ขนลุกไปทั้งตัวเลย (ระลึกถึงหลวงพ่อทันทีทันใดเลย) ตอนที่ เขวี้ยง ฆ้อนออกไป ก็นึกเอะ
    ใจอยู่เหมือนกัน คล้ายๆว่าเหมือนได้ยินเสียง "ฟ้าผ่า" ชะรอยว่า "ประดุจล่องลอยอยู่ในความฝัน" นี่ต้องเป็นเพราะบารมีของ "หลวงพ่อ กวย ชุตินธโร" ของเราแน่ๆ ข้าพเจ้า เชื่อจนหมดหัวใจ ต้องเป็นเพราะ หลวงพ่อ
    ต้องการที่จะสั่งสอนข้าพเจ้า ให้รู้จักผิดชอบชั่วดี และท่านก็เล็งเห็นว่า "ลูกของท่านคนนี้นั้นก้าวพลาดอยู่" ท่านก็เลยมาสงเคราะห์แสดงอภินิหาร"กำบังฆ้อนบินและกำบังตัวข้าพเจ้าไว้" เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย

    ข้าพเจ้านั้น ซาบซึ้งใจมากเหลือเกิน รู้สึกว่า "พ่อ" หลวงพ่อของพวกเรา ที่เรารักและนับถือบูชาท่านอยู่ตลอดเวลา ท่านก็ไม่เคยได้ทอดทิ้งเราเลยสักนาที ครั้น"ลูก"ทำผิดท่านก็เห็นว่าให้ผิดนี้จงเป็น"ครู" มาช่วยสงเคราะห์
    "ลูก"คนนี้ น้ำตาของข้าพเจ้านั้นไหลเลย สุดซึ้งใจจนเกินจะพรรณนา ตั้งแต่วันนั้นมา ข้าพเจ้าจึงให้สัจจะกับ "หลวงพ่อ" ว่า ลูกคนนี้จะไม่มีวันทำอย่างนี้อีกเลย จะใช้สติในการดำเนินชีวิต ให้สมกับที่ "หลวงพ่อ"นั้นได้เมตตา
    ให้โอกาสกับลูก ลูกอยากบอก "หลวงพ่อ" ว่า"หลวงพ่อครับ ลูกคนนี้รักหลวงพ่อเหลือเกิน" ....สาธุ สาธุ สาธุ ..."หลวงพ่อ กวย ชุตินธโร"...

    ....ขอขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านแล้วข้าพเจ้าจะนำประสบการณ์มามาถ่ายทอดให้-
    ...พี่ๆน้องๆได้อ่านฟังกันใหม่ตอนต่อไป (เจ้าพ่อเสือแยกเขี้ยว,เทวดามานมัสการหลวงพ่อ,ร้องไห้กันทั้งบ้าน) ซึ่งจะใช้ชื่อว่า"อภินิหารรูปถ่าย หลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน 5...
    ....ด้วยความเคารพเป็นอย่างสูง....
    ...."คนเมืองกาญฯ”...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2011
  20. jiratornwiwat

    jiratornwiwat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +656
    เรื่องเล่าหลวงพ่อกวย สนุกมากครับพี่ รอติดตามตอนต่อไปน่ะครับ กราบนมัสการหลวงพ่อกวยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...