โครงการพลังจิตตานุภาพ ฝึกปฏิบัติสมาธิกับคณะ อ. คณานันท์ ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ตุ๊กตาแก้ว, 21 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ท่านประธานกล่าวเปิดงาน และรับมอบพระบรมสารีริกธาตุจากคณะ

    จากนั้นในช่วงเช้าเป็นเนื้อหาให้เห็นภาพรวมของการปฏิบัติธรรมแบบองค์รวม ที่ครอบคลุมในส่วนคุณประโยชน์ทางโลก และภาพรวมแห่งการปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น

    จากนั้น ก็สู่การปฏิบัติโดยเริ่มจากอาณาปานสติ ไปจนถึงสมาธิจนจิตสงบ

    การแผ่เมตตา อัปปันนาณญาณ

    การอธิฐานวสี

    การอธิฐานจิตเพื่อความก้าวหน้าในการปฏิบัติ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010643.JPG
      P1010643.JPG
      ขนาดไฟล์:
      356.7 KB
      เปิดดู:
      35
    • P1010645.JPG
      P1010645.JPG
      ขนาดไฟล์:
      329 KB
      เปิดดู:
      60
    • P1010629.JPG
      P1010629.JPG
      ขนาดไฟล์:
      314.3 KB
      เปิดดู:
      68
    • P1010648.JPG
      P1010648.JPG
      ขนาดไฟล์:
      336.6 KB
      เปิดดู:
      56
    • P1010651.JPG
      P1010651.JPG
      ขนาดไฟล์:
      329.5 KB
      เปิดดู:
      51
    • P1010653.JPG
      P1010653.JPG
      ขนาดไฟล์:
      247.5 KB
      เปิดดู:
      36
    • P1010654.JPG
      P1010654.JPG
      ขนาดไฟล์:
      282.2 KB
      เปิดดู:
      34
    • P1010655.JPG
      P1010655.JPG
      ขนาดไฟล์:
      263.4 KB
      เปิดดู:
      37
  2. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ผู้มาฝึกสมาธิ ในช่วงแรกอาจใช้เวลาปรับตัวบ้าง พอช่วงบ่ายก็ได้โทรตามกันมามาเพิ่มอีกหลายท่าน

    โดยช่วงบ่ายเป็นการบรรยายเรื่องการนำสมาธิจิตมาใช้ร่วมในการรักษาร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน

    และได้มีการฝึกสมาธิจิตในการใช้จิต ตัวรู้ธาตุรู้เข้าไปตรวจดู(Scan) ในร่างกาย

    การใช้สมาธิจิตกระตุ้นการเปิดจักระ การปรับสมดุลฮอร์โมน

    ไปจนถึงการใช้พลังจิตรักษาโรค

    โดยในวันนี้ มีเปิดห้องฝึกสมาธิสำหรับเด็กด้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010647.JPG
      P1010647.JPG
      ขนาดไฟล์:
      388.3 KB
      เปิดดู:
      54
    • P1010649.JPG
      P1010649.JPG
      ขนาดไฟล์:
      362.6 KB
      เปิดดู:
      48
    • P1010650.JPG
      P1010650.JPG
      ขนาดไฟล์:
      368.7 KB
      เปิดดู:
      48
    • P1010659.JPG
      P1010659.JPG
      ขนาดไฟล์:
      374.9 KB
      เปิดดู:
      37
    • P1010668.JPG
      P1010668.JPG
      ขนาดไฟล์:
      353.7 KB
      เปิดดู:
      34
    • P1010664.JPG
      P1010664.JPG
      ขนาดไฟล์:
      373 KB
      เปิดดู:
      39
  3. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ห้องเด็กมี น้องชัชและตุ้ย ลิงเมืองละโว้ช่วยสอนน้องๆ จนมีพลังจิตกันได้ทุกคน

    และเน้นเรื่องการนำสมาธิไปใช้ในการเรียนหนังสือ การสร้างคุณธรรมในจิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010658.JPG
      P1010658.JPG
      ขนาดไฟล์:
      241.1 KB
      เปิดดู:
      48
    • P1010662.JPG
      P1010662.JPG
      ขนาดไฟล์:
      353.7 KB
      เปิดดู:
      49
    • P1010636.JPG
      P1010636.JPG
      ขนาดไฟล์:
      435.6 KB
      เปิดดู:
      383
    • P1010663.JPG
      P1010663.JPG
      ขนาดไฟล์:
      373.1 KB
      เปิดดู:
      37
    • P1010675.JPG
      P1010675.JPG
      ขนาดไฟล์:
      294.1 KB
      เปิดดู:
      31
  4. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ช่วงค่ำก็มี การพูดคุยนอกรอบและแนะนำสมาธิกันเพิ่มเติมอีกสำหรับผู้ที่สนใจ

    และที่สำคัญก็คือการถ่ายทอดวิชาคงกะพันชาตรีเพื่อให้ทหารและประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใ้ต้กัน ให้มีขวัญกำลังใจ ส่งเสริมศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ โดยผลก็เหนียวคงกันถ้วนหน้าสัมฤทธิ์ผลในการสร้างความมั่นคงให้ประเทศชาติได้ในระดับหนึ่ง

    จากนั้นก็เป็นการใช้พลังจิตไล่โรค
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010676.JPG
      P1010676.JPG
      ขนาดไฟล์:
      339.9 KB
      เปิดดู:
      33
    • P1010678.JPG
      P1010678.JPG
      ขนาดไฟล์:
      290.5 KB
      เปิดดู:
      28
    • P1010679.JPG
      P1010679.JPG
      ขนาดไฟล์:
      367.8 KB
      เปิดดู:
      33
    • P1010684.JPG
      P1010684.JPG
      ขนาดไฟล์:
      350.8 KB
      เปิดดู:
      54
    • P1010701.JPG
      P1010701.JPG
      ขนาดไฟล์:
      384.9 KB
      เปิดดู:
      26
    • P1010702.JPG
      P1010702.JPG
      ขนาดไฟล์:
      422.9 KB
      เปิดดู:
      37
    • P1010703.JPG
      P1010703.JPG
      ขนาดไฟล์:
      277.3 KB
      เปิดดู:
      41
    • P1010707.JPG
      P1010707.JPG
      ขนาดไฟล์:
      332.3 KB
      เปิดดู:
      37
    • P1010709.JPG
      P1010709.JPG
      ขนาดไฟล์:
      387 KB
      เปิดดู:
      37
    • P1010710.JPG
      P1010710.JPG
      ขนาดไฟล์:
      427.3 KB
      เปิดดู:
      33
  5. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010692.JPG
      P1010692.JPG
      ขนาดไฟล์:
      286 KB
      เปิดดู:
      33
    • P1010689.JPG
      P1010689.JPG
      ขนาดไฟล์:
      337 KB
      เปิดดู:
      29
    • P1010712.JPG
      P1010712.JPG
      ขนาดไฟล์:
      235.7 KB
      เปิดดู:
      36
    • P1010713.JPG
      P1010713.JPG
      ขนาดไฟล์:
      272.8 KB
      เปิดดู:
      31
  6. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    วันที่สองเป็นการบรรยายในการปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวันซึ่ง ในวันนี้ทุกๆท่านยิ่งให้ความสนใจกันมากขึ้น เป็นการใฝ่ในธรรมความดีที่ น่าโมทนาครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010714.JPG
      P1010714.JPG
      ขนาดไฟล์:
      331.6 KB
      เปิดดู:
      34
    • P1010715.JPG
      P1010715.JPG
      ขนาดไฟล์:
      345.9 KB
      เปิดดู:
      30
    • P1010716.JPG
      P1010716.JPG
      ขนาดไฟล์:
      410.7 KB
      เปิดดู:
      33
    • P1010718.JPG
      P1010718.JPG
      ขนาดไฟล์:
      258.5 KB
      เปิดดู:
      29
    • P1010723.JPG
      P1010723.JPG
      ขนาดไฟล์:
      380.9 KB
      เปิดดู:
      38
    • P1010721.JPG
      P1010721.JPG
      ขนาดไฟล์:
      419.1 KB
      เปิดดู:
      31
    • P1010724.JPG
      P1010724.JPG
      ขนาดไฟล์:
      432.8 KB
      เปิดดู:
      32
  7. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010744.JPG
      P1010744.JPG
      ขนาดไฟล์:
      328 KB
      เปิดดู:
      38
    • P1010745.JPG
      P1010745.JPG
      ขนาดไฟล์:
      325.6 KB
      เปิดดู:
      33
    • P1010753.JPG
      P1010753.JPG
      ขนาดไฟล์:
      314 KB
      เปิดดู:
      24
    • P1010754.JPG
      P1010754.JPG
      ขนาดไฟล์:
      325.9 KB
      เปิดดู:
      29
    • P1010750.JPG
      P1010750.JPG
      ขนาดไฟล์:
      323.8 KB
      เปิดดู:
      27
  8. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    [​IMG]


    โฉมหน้าอัจฉริยะตัวน้อย ฉลาดมากๆ ลูกชายของพี่นุ้ย
     
  9. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    หลังจากนี้ก็เป็นการแจกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงความดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010740.JPG
      P1010740.JPG
      ขนาดไฟล์:
      306.9 KB
      เปิดดู:
      33
    • P1010756.JPG
      P1010756.JPG
      ขนาดไฟล์:
      332.1 KB
      เปิดดู:
      29
    • P1010760.JPG
      P1010760.JPG
      ขนาดไฟล์:
      354.1 KB
      เปิดดู:
      28
    • P1010762.JPG
      P1010762.JPG
      ขนาดไฟล์:
      340.9 KB
      เปิดดู:
      24
    • P1010765.JPG
      P1010765.JPG
      ขนาดไฟล์:
      288.4 KB
      เปิดดู:
      24
    • P1010773.JPG
      P1010773.JPG
      ขนาดไฟล์:
      372.7 KB
      เปิดดู:
      21
    • P1010770.JPG
      P1010770.JPG
      ขนาดไฟล์:
      369.1 KB
      เปิดดู:
      31
    • P1010776.JPG
      P1010776.JPG
      ขนาดไฟล์:
      361.2 KB
      เปิดดู:
      29
    • P1010777.JPG
      P1010777.JPG
      ขนาดไฟล์:
      341.9 KB
      เปิดดู:
      30
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    พานครูที่ทุกคนได้ทำบุญบูชาพระ ทางคณะร่วมกันถวายปัจจัยนี้ยังวิหารน้ำน้อย ซึ่งหลวงพ่อท่านได้สร้างไว้

    เป็นปัจจัยร่วมกันเพื่อสร้างกุศลเพื่อผืนแผ่นดินภาคใต้ เป็นจำนวน เจ็ดพันกว่าบาท โดย พี่นุ้ยครับ ขอโมทนาบุญด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010780.JPG
      P1010780.JPG
      ขนาดไฟล์:
      332 KB
      เปิดดู:
      21
    • P1010783.JPG
      P1010783.JPG
      ขนาดไฟล์:
      386.4 KB
      เปิดดู:
      28
    • P1010784.JPG
      P1010784.JPG
      ขนาดไฟล์:
      412 KB
      เปิดดู:
      25
    • P1010786.JPG
      P1010786.JPG
      ขนาดไฟล์:
      385.3 KB
      เปิดดู:
      25
    • P1010790.JPG
      P1010790.JPG
      ขนาดไฟล์:
      405.8 KB
      เปิดดู:
      25
    • P1010792.JPG
      P1010792.JPG
      ขนาดไฟล์:
      382 KB
      เปิดดู:
      22
    • P1010796.JPG
      P1010796.JPG
      ขนาดไฟล์:
      380.2 KB
      เปิดดู:
      26
    • P1010799.JPG
      P1010799.JPG
      ขนาดไฟล์:
      367.4 KB
      เปิดดู:
      33
    • P1010806.JPG
      P1010806.JPG
      ขนาดไฟล์:
      300.3 KB
      เปิดดู:
      20
    • P1010804.JPG
      P1010804.JPG
      ขนาดไฟล์:
      395.6 KB
      เปิดดู:
      24
  11. ศานติ าณ

    ศานติ าณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,063
    วันนี้เข้ามาศึกษาดูงานตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้ายเลยค่ะ...

    เป็นวาระที่มีได้ไม่บ่อยจริงๆ ได้ทั้งบุญ ทั้งความรู้ ความสมานฉันท์ระหว่างเพื่อนผองน้องพี่และญาติธรรมในดินแดนขวานทองของไทย..

    ชาวเหนือทุกท่าน...โปรดรอฟังข่าวดีจากคณะทีมงานเร็วๆ นี้นะคะ

    ร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่าน ทุกๆ ประการด้วยเทอญ..
     
  12. monsodsai

    monsodsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +570
    ขออนุโมทนาบุญกับอ.คณานันท์และคณะทุกท่าน ที่ร่วมกันสร้างธรรมทานและบำเพ็ญทานบารมีในครั้งนี้ด้วยค่ะ ขอให้ทุกท่านมีความสุขและเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** พลังจิตที่บริสุทธิ์ ****

    เกิดจาก สัจจะทำ...ที่เราตัด ลดทอน นิสัยตนเองได้จริง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  14. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864
    [FONT=&quot]โครงการพลังจิตตานุภาพ[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]บรรยายโดย อ.คณานันท์ ทวีโภค<o></o>[/FONT]​
    [FONT=&quot]หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]7-9 มีนาคม 2552 ณ โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา<o></o>[/FONT]​
    <o>----------------------------------------------------------------------------------

    </o>​
    [FONT=&quot]ถอดความการบรรยายจากคลิปวีดีโอ[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]โดย[/FONT] Forever In LoVE

    <o></o>​
    <o>
    </o>​
    [FONT=&quot]...........................................................................................................ตอนที่ 1[/FONT]<o></o>


    [FONT=&quot]สัมมาทิฐิ ดุจดั่งเข็มทิศ
    นำทางสู่เส้นทางแห่งการปฏิบัติธรรม[/FONT]
    <o></o>


    [FONT=&quot]ในลำดับต่อไปก็คือ เราจะต้องมีความเห็นที่ถูกต้องที่ว่า กรรมมีจริง บุญมีจริง บาปมีจริง กรรมและกฎของกรรมมีผลจริง เพราะถ้าเราไม่เชื่อว่าบุญมีจริง บาปมีจริง เราก็ไม่ทำบุญ เราก็กอบโกย เราก็แสวงหาแต่ความสุขทางโลก หากันแต่เงินโกยกันแต่ทองกันไป แต่ความจริง กรรมมีจริง บุญมีจริง บาปมีจริง นรกมีจริง สวรรค์มีจริง ภพภูมิต่างๆการเวียนว่ายตายเกิด สังสารวัฎทุกอย่างมีจริง พระนิพพานมีจริง ปรากฎจริง ผลแห่งการปฏิบัติธรรมมีจริง ถ้าเราไม่เชื่อข้อใดข้อหนึ่ง ก็คือความเป็นมิจฉาทิฐิ [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]เพราะถ้าเราไม่เชื่อว่ามีการเวียนว่ายตายเกิด เราก็กอบโกยกันเฉพาะชาตินี้พอ เกิดหนเดียวตายหนเดียวภพหน้าไม่มี มีแต่ปัจจุบันนี้เท่านั้น

    ดังนั้น [/FONT]“[FONT=&quot]ฉัน[/FONT]” [FONT=&quot]ก็โกยความสุข กอบโกยทรัพยากร โกงทรัพย์สินเงินทองคนอื่นเพื่อฉันจะบำรุงบำเรอความสุขของฉันคนเดียวเท่านั้นเอง [/FONT]…[FONT=&quot]

    นี้คือโทษของมิจฉาทิฐิ[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]ที่ทำให้เกิดทุกข์ เกิดความเบียดเบียน เกิดความยุ่งยาก เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ กับสังคม และโลกใบนี้ ก็ด้วยทิฐิอันเป็นมิจฉาทิฐิ[/FONT]<o></o>
    <o></o>
    [FONT=&quot]แต่เมื่อเราตั้งมั่นอยู่ในความเห็นที่เป็นสัมมาทิฐิ เราก็จะไม่ประมาท [/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]เชื่อมั่นในบุญ เชื่อมั่นในบาป เชื่อมั่นในกฏของกรรม เราก็จะไม่ทำชั่ว [/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]เราก็จะทำดี เราก็จะเชื่อ ในภพภูมิ ในการเวียนว่ายตายเกิด [/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]และเราก็จะรู้ว่า พระนิพพานมีจริง [/FONT]<o>

    </o> [FONT=&quot]เมื่อเราตั้งมั่นอยู่ในความเป็นสัมมาทิฐิได้ ...สัมมาสมาธิก็เกิด เพราะสมาธิเราจะดำเนินไปอย่างถูกต้อง เมื่อสัมมาสมาธิเกิด สัมมาปฏิบัติ วิถีในการปฏิบัติของเราก็ถูก ตามมรรค ตามผล ในมรรคมีองค์แปด ที่พระพุทธเจ้าท่านทรงตรัสไว้ หากสัมมาทิฐิเราไม่ได้ตัวเดียว มรรคมีองค์แปดก็จบเลย มรรคทั้งแปดข้อจะเพี้ยนหมดเลย ธรรมจักรจะไม่หมุน[/FONT]<o></o>
    <o></o>
    [FONT=&quot]สำหรับผู้ปฏิบัติธรรม สำหรับผู้ที่ตั้งจิตอธิษฐานในความเป็นสัมมาทิฐิ บางท่านธรรมจักรจะปรากฎ [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]ของตัวผมเอง ปรากฏครั้งนึง ในสมัยที่ยังบวชอยู่ที่วัดบวรฯ ในยุคสมัยนั้นยังไม่ได้ศึกษาธรรมมากนัก แต่จะมีญาณทัศนะที่ปรากฏหลังจากที่ได้เมตตาอัปมานฌาณ และก็ได้ทำสมาธิในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร จากนั้นมันมีญาณเครื่องรู้ปรากฏขึ้นมาว่า [/FONT]<o></o>

    “[FONT=&quot] ธรรมทั้งหลาย ปรากฏขึ้น เจริญขึ้น ก็ด้วยมรรคมีองค์แปดดังนี้เอง[/FONT]”<o></o>

    [FONT=&quot]หลังจากนั้นก็ปรากฏภาพธรรมจักรหมุนอยู่ในดวงจิต ...สว่าง ...จากนั้นสภาวะโดยรอบก็เกิดอาการระเบิด จิตสว่างโพลง มีอาการที่จิตของเรามีปีติ มีความสุข มีความสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ...จิตมันเปิด มันระเบิด มันตื่นขึ้น ธรรมจักรในตัว ในจิตของเรามันหมุน มองเห็นธรรมจักรหมุนอย่างชัดเจน วงล้อแห่งธรรม ธรรมในจิตของเรามันได้เดินขึ้นในจิตในใจของเรา ...ธรรมะมีความเจริญมีความไพบูลย์งอกงามขึ้น ก็เพราะด้วยธรรมในข้อที่มรรคมีองค์แปด ตัวแรกที่สุด ก็คือสัมมาทิฐิ ....หากแม้นเราไม่ทรงเราไม่ตั้งมั่นในสัมมาทิฐิ เราเป็นมิจฉาทิฐิแต่ต้น มรรคอีกเจ็ดประการก็จะผิดจะเพี้ยนไปหมด [/FONT]<o></o>
    <o></o>
    [FONT=&quot]ดังนั้นความเป็นสัมมาทิฐิสำคัญที่สุด[/FONT]
    [FONT=&quot] เป็นเข็มทิศนำทางสู่เส้นทางแห่งการปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง ถ้าไม่มีเข็มทิศนำทาง เราก็ยังวกเวียน เราก็ยังหลง เราก็ยังเดินอ้อม ถึงแม้ว่าเราปฏิบัติธรรมก็จริง แต่หากเราวกเวียนเราเดินอ้อมมากเกินไป การปฏิบัติก็ช้า เห็นผลช้า หรือไม่ปรากฏผลที่ชัดเจน [/FONT]<o></o>
    <o></o>
    [FONT=&quot]ให้เราทุกคนตั้งจิตอธิษฐาน [/FONT]“[FONT=&quot]ขอให้ข้าพเจ้าจงมีจิตที่ตั้งมั่น มั่นคง อยู่ในความเป็นไตรสรณคมน์ ขอให้ดวงจิตของเราทรงอยู่ในความเป็นสัมมาทิฐิ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา สัมมาปฏิบัติ ตลอดไป ตราบเท่าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานเป็นที่สุดด้วยเทอญ[/FONT]”[FONT=&quot] ... ขอให้ธรรมจักรจงหมุนจงเดินภายในดวงจิตของทุกคนเพื่อให้เกิดความไพบูลย์ ความเจริญงอกงาม ในความดี ในธรรมะ ขององค์พระสมณโคดมสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า [/FONT]<o></o>
    <o></o>
    [FONT=&quot]หนทางแห่งการปิดอบายภูมิ[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]เมื่อเรามีความตั้งมั่นในไตรสรณะคมน์ ความลังเลสงสัยในความดี เราปราศจากออกไปจากดวงจิตของเราแล้ว เราก็มาพิจารณาต่อไปในหนทางแห่งการปิดอบายภูมิ นั้นก็คือ การรักษาศีล การทรงศีลให้บริสุทธิ์ [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]พระพุทธเจ้าท่านทรงบัญญัติศีลเพื่อเป็นเครื่องปิดอบายภูมิ ศีลของฆราวาสมีทั้งหมด 5 ข้อ ได้แก่ [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]ศีลข้อที่หนึ่งเราไม่ฆ่าสัตว์ ไม่เบียดเบียนทั้งคนและสัตว์ทางกาย อันได้แก่ เราไมได้คร่าไม่ได้พรากชีวิตผู้อื่น เราไม่ทุบตี เราไม่ทำร้าย ร่างกายของคนและสัตว์อื่น [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]กรรมของการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ในภพของที่เป็นสัมปรายภพคือภพต่อไป ก็คือทำให้เราต้องไปเสวยวิบากอยู่ในนรก ส่วนกรรมที่ส่งผลมาตัดรอน ดั่งเช่นในชาติปัจจุบันหรือในชาติต่อๆไปที่เราเกิดเป็นมนุษย์ก็คือ เมื่อเราทำผิดศีลข้อที่หนึ่ง ทำลายสัตว์อื่น ก็จะทำให้ตัวเรา มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยไม่สบายเป็นผู้ที่มีโรคมาก อาพาธมาก กรรมตัดรอนทำให้เป็นผู้ที่มีชีวิตสั้นทันตาเห็น นี้คือโทษของการละเมิดศีลข้อที่หนึ่ง [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]ส่วนธรรมที่เป็นเครื่องตรงกันข้าม เป็นคู่ปรับกับศีลข้อที่หนึ่งการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ก็คือการให้ทานที่เป็นทานแห่งชีวิต การปล่อยสัตว์ การให้ชีวิตสัตว์ ปล่อยโค ปล่อยกระบือ ปล่อยปลา ปล่อยนก เราให้ชีวิตเค้า ...นอกเหนือจากนั้น ยังมีกุศลที่เราทำได้ ก็คือ อย่างหลายๆท่านในที่นี้เป็นแพทย์ก็ดี เป็นพยาบาลก็ดี การที่เราตั้งกำลังใจรักษาอาการโรคภัยไข้เจ็บเหล่านั้น หรือบางครั้งเรามีโอกาสช่วยชีวิตเค้า อย่างเช่นคนไข้ฉุกเฉินมา เราช่วยปั๊มหัวใจเค้าขึ้นมาบ้าง เราช่วยห้ามเลือดให้เค้าบ้าง เราช่วยแก้พิษที่เค้าโดนงูกัดมาบ้าง ก็คือการช่วยชีวิต การให้ชีวิตกับเค้า ดังนั้นตรงส่วนนี้เราสามารถดึงเอาบุญส่วนนี้มาช่วยอธิษฐานจิต ขอให้ตัวเราเป็นผู้มีโรคน้อย มีอาพาธน้อย มีอายุยืนได้เช่นกัน ก็ให้จำไปใช้ [/FONT]<o></o>

    <o></o> [FONT=&quot]ส่วนศีลข้อทื่สอง ก็คือการลักทรัพย์ การลักทรัพย์นั้นก็คือการเบียดเบียน การยักยอกเอาทรัพย์สินของผู้อื่น เอาสิ่งของของผู้อื่น เป็นการเบียดเบียนของของเค้า แย่งของของเค้า ปล้นชิงของของเค้า ขโมยของของเค้า ลักทรัพย์ของเค้า คือ ทำให้เค้าเสียทรัพย์ กรรมตรงนี้ก็ทำให้เราไปเสวยวิบากในนรก [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]ส่วนกรรมที่ตัดรอนก็ส่งผลที่ทำให้เราเสียทรัพย์ เช่นเราโดนขโมยขึ้นบ้านบ้าง โดนลักของ ของหายบ่อยๆ ทรัพย์สินในบ้านเราเสียหายจากภัยธรรมชาติ โดนลมบ้าง โดนไฟไหม้บ้าง โดนพายุบ้าง โดนน้ำท่วม

    [/FONT]----------------------------------------------------------------------------------[FONT=&quot]

    ...จบการถอดความการบรรยายธรรม จาก คลิปวีดีโอตอนที่ 1 ค่ะ
    [/FONT]พลังจิตตานุภาพ โดย อ.คณานันท์ หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ณ โรงพยาบาลหาดใหญ่ ตอนที่ 1
    [FONT=&quot] คลิกที่นี่ เพื่อชมคลิปวีดีโอ ตอนที่ 1
    [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2009
  15. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864
    [FONT=&quot]...........................................................................................................ตอนที่ 2[/FONT]


    [FONT=&quot]มาตัดรอน โดนโกงบ้าง โดนผู้อื่นมาฉ้อโกงบ้าง นี้เป็นกรรมที่เราทำไว้และมันส่งผลกลับมาสู่ตัวเรา [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]ส่วนธรรมที่เป็นปรปักษ์ ที่เป็นเครื่องแก้ในกรรมที่มาตัดรอนในศีลข้อที่สองก็คือ การให้ทาน การช่วยเหลือ การสงเคราะห์ การให้ข้าวปลาอาหาร การบริจาคทรัพย์ การบริจาคทาน การเอื้อเฟื้อ การตั้งโรงทาน [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]อย่างกรณีที่เรามาอบรมครั้งนี้ ทางโรงพยาบาลก็จัดอาหารมาให้ก็เป็นทาน เป็นโรงทานให้กับผู้ปฏิบัติธรรม และทานนั้นก็จะมีระดับของความบริสุทธิ์สูงขึ้นไปอีก
    ถ้าเราให้ทานกับ คนที่ไม่มีศีล อานิสงก็ไม่เท่ากับผู้ที่มีศีล
    ดังนั้นการที่เรามาปฏิบัติธรรมนี้เราเป็นผู้ทรงสมาธิทรงความดี ทุกคนมาปฏิบัติธรรมไม่มีใครละเมิดศีลห้า ก็จัดว่าเป็นผู้ที่มีศีล

    ดังนั้นทานที่ทางโรงพยาบาลได้จัดได้เลี้ยงนี้ ก็เป็นทานที่มีอานิสงมีผล ดังนั้นอานิสงที่เกิดขึ้นเราก็ตั้งใจให้กับทีมงานของโรงพยาบาลหาดใหญ่ ขอให้ทางบุคลากรก็ดี เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกคนก็ดี ตัวโรงพยาบาลเองก็ดี มีความคล่องตัว มีความเจริญรุ่งเรืองต่อๆไป ขอให้การสร้างตึกสร้างอาคารสำเร็จสำฤทธิ์ผล โรงพยาบาลสามารถช่วยเหลืออำนวยประโยชน์สุขให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เขตนี้ให้มาก

    เมื่อเราระลึกต่อไปในระดับของทานจะมีความบริสุทธิ์สูงขึ้นตามผู้ที่รับทาน

    ทานที่เราให้กับผู้ที่มีศีล ก็ยังไม่เท่ากับให้กับผู้ที่เป็นพระสงฆ์ที่มีความบริสุทธิ์เป็นพระสุปฏิปัณโณ [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]ทานที่เราให้กับผู้ที่เป็นพระสุปฏิปัณโณ ก็ไม่เท่ากับทานที่เราให้กับพระโสดาบัน[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]ทานที่เราให้กับพระโสดาบันก็ไม่เท่ากับทานที่เราให้กับพระสกิทาคามี[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]ทานที่เราให้กับพระสกิทาคามี ก็ไม่เท่ากับทานที่เราถวายให้กับพระอนาคามี[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]ทานที่เราถวายให้กับพระอนาคามีก็ไม่เท่ากับทานที่เราถวายให้กับพระอรหันต์[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]ทานที่เราถวายให้กับพระอรหันต์ก็ไม่เท่ากับที่เราถวายพระพุทธเจ้า[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]เคยได้ยินมั้ยครับ ...

    และพระพุทธเจ้าท่านก็ทรงตรัสว่า แต่ทานที่มีผลมากคือ สังฆทาน[/FONT] [FONT=&quot]คือทานที่เราให้กับหมู่สงฆ์เป็นส่วนรวม ดังนั้นทานที่เราให้กับสงฆ์เป็นส่วนรวมจึงเป็นทานที่มีอานิสงมีผลมาก [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]และหากเราจะตั้งกำลังใจให้เกิดมีอานิสงมากขึ้นไปอีก เราก็ต้องมาพิจารณาในทาน ว่า องค์ประกอบของทาน ความบริสุทธิ์ของการให้ทาน มีอะไรบ้าง

    [/FONT] <!--[if !supportLists]-->1.<!--[endif]-->[FONT=&quot]ความบริสุทธิ์ ของผู้รับในทานนั้น ก็คือเราถวายหรือให้กับใคร ดังที่เราบอกมาแล้วว่าสังฆทาน เป็นทานที่มีผลเลิศ [/FONT]<o></o>

    <!--[if !supportLists]-->2.[FONT=&quot]เรามาพิจารณาข้อที่สอง ตัวทานนั้นมีความบริสุทธิ์มั้ย[/FONT]<!--[endif]-->
    [FONT=&quot]
    หนึ่ง ทานนั้นเป็นทานที่เราไม่ได้ลักไม่ได้ขโมยใครมา เป็นทานที่เราได้มาโดยบริสุทธิ์ก่อนที่เราจะให้ [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]สอง ทานนั้นเป็นทานที่มีความละเอียดปราณีตหรือไม่ ถ้าเราให้ทานที่มีความหยาบ อานิสงก็น้อยกว่าการให้ทานที่มีความละเอียด [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]ความหยาบความละเอียดก็คือ เราใช้ของ เช่นไร ถ้าเราให้ของ ที่ต่ำกว่าเรา อย่างเช่นเราใส่เสื้อใหม่ แต่เราให้ทานที่เป็นเสื้อเก่าๆ เสื้อที่เราไม่เอาแล้ว อานิสงก็ไม่เท่ากับ ทานที่เราให้เสื้อเสมอกับที่เราใส่หรือดีกว่าที่เราใส่ อย่างเช่น เวลาเรากินอาหารเรากินอย่างดี แต่เวลาเราไปถวายพระ ถ้าเราถวายเป็นเดน เป็นของที่เราไม่ชอบ ผลักไปถวายพระ ดังนี้เวลาที่เรารับอานิสงของทาน เราก็จะได้รับของห่วยๆแย่ๆ บางคนเป็นเศรษฐีมีเงินเยอะ กลับไม่ได้ใช้ของดี ใช้แต่เสื้อผ้าปุปะ ด้วยความตระหนี่ ด้วยจิตที่เราให้เดนมาก่อน ก็จะใช้แต่เสื้อผ้าเก่าๆ รถโทรม ๆ บ้านผุๆ เงินมีเยอะ แต่ไม่ได้ใช้[/FONT] [FONT=&quot]เนื่องเพราะด้วยอานิสงที่ให้เดนทาน [/FONT]<o></o>
    <o></o>
    [FONT=&quot]ประเภทส่วนที่สองก็คือ ให้มิตรทาน คือ เราใช้อย่างไร เราให้อย่างนั้น ให้ของที่เสมอกับที่เราใช้ อย่างนี้เราก็จะได้เป็นปกติ [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]ส่วนอีกประเภทคือ การให้ทานที่เป็นเลิศ อย่างเช่น เรารู้ว่าเราจะไปกราบพระสุปฏิปัณโณ เรารู้ว่าเราจะไปกราบพระอรหันต์ เราบรรจงทำอาหารที่ปราณีต ซึ่งโดยปกติเรากินของเราเองเราอาจจะกินข้าวราดแกง แต่เรารู้ว่าการทำทานที่ปราณีต มีอานิสง มีผลเลิศ เราบรรจงทำอาหารอย่างปราณีตเต็มกำลัง หมายถึงอย่างไม่เบียดเบียนตัวเราด้วย คือกำลังของเราทำได้อย่างนี้ แต่เราทำให้ได้ดีให้ปราณีตที่สุดเท่าที่เราจะพึงทำได้ แต่ดีกว่าที่เรากิน ดีกว่าที่เราใช้ และน้อมถวายท่าน คราวนี้เวลาอานิสง ผลที่จะได้ เวลาเราได้ของ จะได้อะไร เรามักจะได้แต่ของดีๆ ที่เราเองก็ไม่กล้าแม้แต่จะซื้อใช้เอง แต่คนอื่นกลับเอาของดีๆกว่าที่เราจะกล้าซื้อมาให้เรา หรือจับฉลากได้รางวัลดีๆมา ก็ด้วยเหตุแห่งการให้ทานอันปราณีต[/FONT]<o></o>
    <o></o>
    [FONT=&quot]ดังนี้เราได้รู้แล้วว่าปัจจัยในการทำทานมีอะไรบ้าง [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]หนึ่งผู้รับ มีความบริสุทธิ์สูง ทานก็มีอานิสงสูง[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]ตัวทาน[/FONT][FONT=&quot]มีความปราณีตสูง อานิสงแห่งทานก็สูง[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]และสุดท้ายคือ ผู้ให้ทาน คือตัวเราเอง ทำอย่างไรจึงจะให้ทานมีอานิสงสูงที่สุด นั่นคือ จิตใจของเรา ถ้าเราตั้งกำลังใจของเราให้เป็นกำลังใจให้สูงที่สุด ผู้ให้ทานมีความบริสุทธิ์ด้วย อานิสงก็ยิ่งสูงที่สุด ด้วย[/FONT]<o></o>
    <o></o>
    [FONT=&quot]ทำอย่างไรผู้ให้ทานจึงจะมีความบริสุทธิ์สูง[/FONT]

    [FONT=&quot]หนึ่ง[/FONT][FONT=&quot] เราตั้งกำลังใจว่า ขณะนี้เรากำลังจะทำทาน กำลังจะถวายทาน กำลังจะทำความดี เราย้อนกลับมาพิจารณาจิตเราว่า ตอนนี้ ขณะจิตนี้ ศีลของเราบริสุทธิ์ เราทรงศีลห้าบริสุทธิ์ ไม่ได้ฆ่าสัตว์ ไม่ได้ลักทรัพย์ ไม่ได้ประพฤติผิดในกาม ไม่ได้พูดปด ไม่ได้ดื่มสุรา ทรงอารมณ์ในว่าในขณะที่เราจะถวายทานนี้ เราทรงศีลอยู่อย่างบริสุทธิ์ ดังนี้เรียกว่าศีลเป็นเครื่องรักษาให้เราบริสุทธิ เป็นชั้นที่หนึ่ง[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]ชั้นที่สอง[/FONT][FONT=&quot] เรากำหนดให้เป็นสมาธิ ก็คือเราทรงจิตอยู่ในฌาณ ความบริสุทธิ์ของจิต กำลังของจิตที่เป็นฌาณ ก็เป็นความบริสุทธิ์[/FONT]

    [FONT=&quot]ข้อที่สาม[/FONT][FONT=&quot] เราทรงอารมณ์ใจว่าเราถวายทานเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข จิตของเรา ตั้งจิตว่าเราจะทรงอยู่ในพรหมวิหารสี่ และเราตั้งจิตว่า ทานที่เราจะทำนี้เราปรารถนาที่จะให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย มาร่วมยินดี มาร่วมโมทนา มาร่วมมีส่วนร่วมในบุญกุศลนี้ทุกประการ จิตเราทรงอยู่ในเมตตา ไม่มีขอบเขต แบ่งบุญไม่หวงบุญ มี แต่เมตตา มีแต่ความแบ่งปัน จิตเรามีความบริสุทธิ์มั้ย [/FONT][FONT=&quot]? [/FONT][FONT=&quot] จากนั้นถ้าจะเอาสูงกว่านั้น ......
    [/FONT]----------------------------------------------------------------------------------[FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]...จบการถอดความการบรรยายธรรม จาก คลิปวีดีโอตอนที่ 2 ค่ะ
    [/FONT]พลังจิตตานุภาพ โดย อ.คณานันท์ หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ณ โรงพยาบาลหาดใหญ่ ตอนที่ 2
    [FONT=&quot] คลิกที่นี่ เพื่อชมคลิปวีดีโอ ตอนที่ 2[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2009
  16. Mrs.Kim

    Mrs.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,086
    ค่าพลัง:
    +2,306
    ศึกษางานไว้ให้ดีเลยนะค่ะคุณนิ่ม...หากมีบุญวาสนาส่งให้เราได้มาเจอกันในทริปชาวเหนืออาจจะได้เจอกันซะทีนะค่ะ...ขออนุโมทนาสาธุทุกๆบุญกับทีมงานทุกๆท่านด้วยนะค่ะ...
     
  17. ตุ๊กตาแก้ว

    ตุ๊กตาแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    557
    ค่าพลัง:
    +3,265
    ทริปสายเหนือมีแน่นอนค่ะ

    แล้วจะติดต่อไปนะคะ.... S U R E !!!



     
  18. ๑กุหว่าใจ๋๑

    ๑กุหว่าใจ๋๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2006
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,730
    อิ่มอมอิ่มใจอิ่มบุญครับ กราบอนุโมทนาสุธาในทุกๆความดีทั้งมวลด้วยครับ ได้คุยกับคุณทศ(ปุณกะ) เห็นว่าจะลองเขียนโครงการเสนอวิทยาลัยราชภัฏนครศรีฯ จัดให้มีการสอนสมาธินักศึกษาและเจ้าหน้าที่ในราชภัฏ แต่คงต้องรอช่วงเปิดเทอมก่อน ยังไงเดี๋ยวคงได้รวมตัวกันอีก คิดว่าทริปต่อๆไปพี่น้องคงจะได้มาเจอกันนะครับ
     
  19. ตุ๊กตาแก้ว

    ตุ๊กตาแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    557
    ค่าพลัง:
    +3,265
    โมทนากับทุกบุญของพี่น้องชาวใต้ค่ะ


    โครงการดีๆ เราช่วยกันค่ะ


    คงได้มีโอกาสพบปะกันอีกครั้งนะคะ ไม่นานเกินรอ...
     
  20. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864
    ตอนที่ 3

    <o><o>(...เสียงขาดหายไปช่วงหนึ่ง หากตามข้อความได้ครบแล้วจะนำมาเติมไว้นะคะ..)

    <o>ทำให้เราตกสู่อบายภูมิในส่วนของนรก

    <o></o><o></o>ส่วนกรรมที่ส่งผลในชาติที่เราเกิดเป็นมนุษย์ในส่วนที่เป็นกรรมตัดรอน ก็คือกรรมนั้นจะทำให้
    <o></o>
    หนึ่ง ลูกของเราจะไม่อยู่ในโอวาท ดื้อกับเรา คนในปกครองก็จะดื้อ ไม่ค่อยเชื่อฟัง
    <o></o>
    ข้อต่อไปก็คือ บางครั้งกรรมที่เราเจ้าชู้มากๆ จะทำให้เรากลายเป็นกระเทยบ้าง ผิดเพศบ้าง เพราะกรรมที่เราไปหมกมุ่นกับเพศตรงกันข้าม จิตมันก็จะไปฝัง พอมาเกิดอีกที มันก็จะมาจุติ มาเกิดเป็นเพศที่มีความก้ำกึ่งกันอยู่ นี้เป็นโทษเป็นภัยของความที่เราเจ้าชู้ ผิดศีลข้อนี้ <o></o>
    <o></o>

    ธรรมที่เป็นคู่ปรับกับข้อกาเมฯ ก็คือ การปลีกวิเวก ความสันโดษ เนกขัมมะบารมี
    <o></o>
    ก็คือตรองให้เห็นโทษภัยแห่งกาม การละเมิดกาม การล่วงเกิน การเป็นชู้กัน เราดูข่าวก็มักจะมีข่าวที่ฆ่ากันเพราะหึงหวงกัน คนจะฆ่ากันได้ก็เพราะมีความรู้สึกที่เป็นอย่างไร ..? โกรธมั้ย แค้นมั้ย อาฆาตมั้ย พยาบาทจองเวรมั้ย? มันเป็นโทษเป็นภัยที่ทำให้เกิดทุกข์ เกิดการเบียนเบียนกัน ความยึดติด ความหลงในกาม ทำให้เกิดโทษเกิดภัยเกิดทุกข์ กับตัวเราก็ดี กับบุคคลอื่นก็ดี จริงมั้ย?
    <o></o>
    <o></o>
    เมื่อเราตรองให้เห็นโทษเห็นภัยแล้ว เราก็ปลีกว่าเราปรารถนาที่จะบำเพ็ญเนกขัมมะบารมี เราจะสร้างบุญ สร้างบารมีของเรา เราอาจจะดำรงชีวิตในเพศฆราวาส เราอาจจะไม่สามารถบวชได้ แต่การที่เรามาปฏิบัติธรรมในสองวันนี้ ให้เราตั้งกำลังใจว่า เราได้ปลีกจากกาม ถูกมั้ย ? เรามีความบริสุทธิ์ เรามิได้ละเมิดในศีลข้อนี้ เรามาอบรมจิตอยู่ในสมณะธรรม มาดำรงจิตในสมาธิ ดำรงจิตรักษาศีลกัน
    <o></o>
    <o></o>
    ดังนั้นสองวันที่เรามาปฏิบัติกัน ก็เป็นการบำเพ็ญบารมีเนกขัมมะ ถึงแม้ว่าอาจจะเป็นระยะเวลาสั้นๆก็ตาม แต่ก็คือการสร้างบารมีเนกขัมมะ ข้อที่เราทำได้ก็คือ หาวัน หาเวลา สามวันบ้าง เจ็ดวันบ้าง ไปปลีกบวชชีพราหมณ์ บวชผ้าขาว บำเพ็ญเนกขัมมะบารมี ตรงนี้ก็จะเสริมจะเป็นธรรมที่มาแก้ไขเป็นคู่ปรับในกรรมที่เป็นกาเมสุมิจฉาจาร ถ้าหากเวลาที่เราจะไปสามวัน ก็ไม่ไหว เจ็ดวันก็ไม่ไหว
    <o></o>
    <o></o>
    วิธีการที่จะบำเพ็ญบารมีเนกขัมมะอย่างง่ายก็คือ เรากำหนดว่า วันพระก็ดี วันโกนก็ดี เราจะถืออุโบสถศีล เราจะรักษาศีลที่บ้านนี่ล่ะ จะใส่เสื้อขาวก็ได้ ไม่ใส่เสื้อขาวก็ได้ แต่เราจะรักษาจิต เราจะรักษาอุโบสถศีลให้บริสุทธิ์ และอธิษฐานว่าตรงนี้ขอให้เป็นเนกขัมมะบารมี ก็สามารถทำได้เช่นกัน ... ยากมั้ย ? พอทำได้นะ ....อะไรที่ทำได้ อะไรที่ทำง่าย ....ข้ออ้างจะได้น้อย ..ไม่งั้นก็โน่นนี่นั้นก้อไม่ได้ ถ้ามันง่ายซะก็ หวานเลย ทำได้ตลอด ทำได้เรื่อยๆ
    <o></o>
    <o></o>
    คราวนี้เข้าสู่ศีลข้อที่สี่ คือมุสาวาท
    <o></o>
    คือคำพูดคือวาจาที่ล่อลวงหลอกลวงโกหกฉ้อฉล โดยปรารถนาให้เขาเสียประโยชน์ หรือจะหลอกเขาเอาสนุก ก็มี บางคนพูดโกหกเอาสนุก แกล้งเพื่อนเล่นได้.. สนุก !! แต่คนอื่นเขาเดือดร้อน ตรงนี้ก็เป็นบาป หรือโกหกหลอกลวงฉ้อฉลให้ตัวเองได้ทรัพย์มาบ้าง อย่างนี้ก็เป็นบาป
    <o></o>
    <o></o>
    แต่บางครั้ง ก็ยังมีคำพูดโกหกแต่ไม่ผิดศีลอยู่ อย่างเช่นบางครั้งเราจำเป็นที่จะพูดเพื่อให้กำลังใจคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไข้ บางครั้งเราดูเราสันนัษฐานจากอาการ ท่าทางจะเพียบแปร้ ไม่รอด ...เราบอก..ไม่ได้ๆเราเป็นคนตรง เราบอกเค้าไปตามตรง ...พี่ ไม่รอดหรอก!! …คนไข้จะเป็นไง.. เสียกำลังใจมั้ย ? หมดกำลังใจนะ ดังนั้นเราจำเป็น อย่างนี้ไม่ใช่โกหกเพื่อหลอกลวงเพื่อให้เค้าเสียประโยชน์

    แต่เราพูดเพื่อให้กำลังใจเค้า เราก็ต้องบอกกับเค้า ปลอบเค้าว่า ...ทำใจดีๆนะ ยังงัยก็ดีวันดีคืนนะ ยังงัยก็เข้มแข็งนะ... เราต้องบอกเขาอย่างนี้ไป ตรงนี้ถือว่าไม่ผิด แต่ถ้าเราไปพูดอีกแบบประมาณว่า ....เราแลดูอาการคนไข้แล้วก็ดูท่าจะไม่รอด

    แต่เราจะเลี้ยงจะดึงไว้เพราะว่า เค้าจะได้จ่ายค่ารักษาเรานานๆหน่อย ...อย่างนี้เรียบร้อย ผิดแน่นอนร้อยเปอเซ็นต์
    <o></o>
    <o></o>
    ดังนั้นคำพูดโกหกก็คือการหลอกลวงทำให้ผู้อื่นเค้าเสียประโยชน์ ทำให้ผู้อื่นทุกข์ใจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเรา
    <o></o>
    <o></o>
    กรรมที่ทำให้ส่งผลเวลาที่เราสิ้นจากอรรตภาพนี้ก็ ต้องลงนรกเหมือนกัน ส่วนกรรมที่มาตัดรอนในชาติปัจจุบันก็ดี ที่เรามาเกิดเป็นมนุษย์ก็ดี ในศีลที่เราละเมิดข้อที่เราโกหกหลอกลวงผู้อื่นก็คือ เราก็จะเจอแต่คนที่ไม่จริงใจกับเรา เคยมั้ย? ทำไมเจอแต่คนหลอกเราเรื่อยเลย ไม่จริงใจกับเราเลย นี่เป็นกรรมที่เราทำเอง เป็นกรรมที่มาตัดรอน จากการที่เราบำเพ็ญมุสาวาท จากการที่เราไม่จริงใจกับผู้อื่นก่อน ผล ก็จะปรากฎแบบนี้
    <o></o>
    <o></o>
    ส่วนธรรมที่เป็นเครื่องปรปักษ์ เป็นคู่ปรับกับศีลในข้อมุสาวาท ก็คือสัจจะ
    <o></o>
    สัจจะคือคำพูดที่เด็ดเดี่ยว คำพูดที่มีความจริงใจ <o>:p</o>
    และอธิษฐาน ก็คือการตั้งจิตมั่นมีความเด็ดเดี่ยวไม่คลอนแคลน

    เมื่อเราตั้งมั่นอยู่ในความเป็นสัจจะไว้ให้เป็นปกติ เราก็จะเจอแต่คนที่เค้ามีสัจจะ และคนที่เค้ามองเราคนเค้าปฏิบัติต่อเรา เค้าก็จะรู้ว่าเราเป็นคนจริง เป็นคนที่เด็ดเดี่ยว เป็นคนที่มีสัจจะมีความจริงใจ ผล ก็จะไม่มีคนที่เค้ามาหลอกลวงเรา นี้เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ในข้อคุณธรรม เพื่อให้ศีลเราบริสุทธิ์ และทำให้ธรรมเราเจริญยิ่งๆขึ้นไป <o></o>
    <o></o>

    ศีลนั้น ไม่ใช่เพียงแต่ว่าเราจะรักษาศีลให้บริสุทธิ์ คือ งด เท่านั้น แต่เราต้องทำให้ ธรรมะ เจริญขึ้นด้วย


    ----------------------------------------------------------------------------------
    ...จบการถอดความการบรรยายธรรม จาก คลิปวีดีโอตอนที่ 3 ค่ะ
    พลังจิตตานุภาพ โดย อ.คณานันท์ หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ณ โรงพยาบาลหาดใหญ่ ตอนที่ 3
    [FONT=&quot]คลิกที่นี่ เพื่อชมคลิปวีดีโอ ตอนที่ 3[/FONT] <o></o></o></o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...