ใครมีปัญหาอะไรในการปฏิบัติลองเข้ามาถามดู

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย พระ ธรรมะ, 9 มีนาคม 2013.

  1. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    สาธุ คุณ มะหน่อ 1. และการนำเอาปฎิบัติปริยัติปฏิเวธ
    มารวมกันโดยไม่ขัดกัน
    เกื้อหนุนกันได้
    ทำให้มีรสหรือระสะอันใกล้ มากกว่าการเอาอย่างใดอย่างหนึ่งมา
    คือไม่ครบหรือไม่อย่างไรเพื่อความรู้แจ้ง
    หรือไม่อย่างไรขอรับ -ถ้าเราทำถูก แม้จะเอาอย่างใดอย่าง1ก่อน สุดท้าย มันก้ต้อง ทำทุกอย่างอยู่ดีนะ มันจะทำได้ ทุกอย่าง เช่นแม้นไม่ตั้งใจให้เกิด ทิพย์ หรือ ฤทธิ์ มันก้จะเกิดกับเราอยู่ดี ประมาณนี้
    2.การรู้ปัจจุบันคือการรู้อารมณ์ความรู้สึกหรือไม่อย่างไรขอรับ
    และบอกได้ว่ารู้ธรรมขณะปัจจุบันเท่านั้นยังไม่แจ้งหรือไม่อย่างไรขอรับ
    = ทั้งหมดนั่นแหละ ส่วนการรู้ปัจจุบัน มันช่วยให้เราเห็นทุกอย่างเท่านั้น ส่วนแจ้ง หรือ จริง มันจะเกิดจาก ใช้ ปัญญา พิจารณา แทงตลอดในธรรมที่เราเห็นนะ
    3. และกระผมเข้าใจว่า
    สมมุติมีอยู่เราแจ้งเท่าใด
    วิมุติมีอยู่เราเข้าใจวิอย่างไร

    แจ้งทั้งหมด ในสมมติ ด้วย ปัญญา ไม่ใช่เห็น หรือรู้ วิมุติเราจะรู้ว่า คือการพ้นไม่ยึด ด้วยวิธีใด นั่น จะนำเราเข้าสู่ วิมุติได้
     
  2. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    หากกระผมจิตฟุ้ง
    กระผมจะไปพิจารณาเวทนาเลยขอรับ
    หรือหาที่พึ่งทางอื่น
    หากฟุ้งแล้วรออยู่ดูลมหายใจกลัวลักษณะทางกายที่เรียกว่าฝุ่น
    มันจะทำให้เราหนีจากการพิจารณานั้นหรือไม่อย่างไร

    พระพุทธองค์ท่านกล่าวว่า

    หากสงบแล้วนิ่งรออยู่หรือไม่อย่างไร

    สงบตอนไหน
    ฟุ้งแล้วรอคงไม่เป็นการดีหรือไม่อย่างไรขอรับ
    เดี๋ยวเตลิด

    เปลี่ยนเรื่องพิจาณาเลย
    พอสงบแล้วเข้าเรื่องเดิมอีก
    เป็นสิ่งที่ดีกว่าหรือไม่อย่างไร
    เพราะขั้นตอนการพิจาณาท่านกำหนดไว้อย่างดีคือวิตกวิจารณ์ปิติสุข
    หรือไม่อย่างไรขอรับ[/QUOTE]

    1.หากกระผมจิตฟุ้ง
    กระผมจะไปพิจารณาเวทนาเลยขอรับ
    หรือหาที่พึ่งทางอื่น
    หากฟุ้งแล้วรออยู่ดูลมหายใจกลัวลักษณะทางกายที่เรียกว่าฝุ่น
    มันจะทำให้เราหนีจากการพิจารณานั้นหรือไม่อย่างไร
    = ไม่ใช่รอดูลมนะ แต่ดูอารนั้นๆ ที่เราเป็น มันคือการเฝ้าดู จนกว่ามันจะเปลี่ยน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป แล้วก้จะเกิด อีก ด้วยตัณหา
    2. พระพุทธองค์ท่านกล่าวว่า

    หากสงบแล้วนิ่งรออยู่หรือไม่อย่างไร

    สงบตอนไหน
    ฟุ้งแล้วรอคงไม่เป็นการดีหรือไม่อย่างไรขอรับ
    เดี๋ยวเตลิด
    =พระองค์ตรัสว่า แล้วแลอยู่
    3. เปลี่ยนเรื่องพิจาณาเลย
    พอสงบแล้วเข้าเรื่องเดิมอีก
    เป็นสิ่งที่ดีกว่าหรือไม่อย่างไร
    =มันคือการหนี ชั่วคราว สุด ท้าย ก้กลับมาอยู่ดี มีค่าเท่ากัน
    4.เพราะขั้นตอนการพิจาณาท่านกำหนดไว้อย่างดีคือวิตกวิจารณ์ปิติสุข
    หรือไม่อย่างไรขอรับ เมื่อไม่ผ่าน วิตกวิจารณ์ มันจะไม่ ชักเข้าหา ปีติ สุข
     
  3. DR-NOTH

    DR-NOTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    581
    ค่าพลัง:
    +1,276
    กราบนมัสการพระคุณเจ้า ขออนุญาติ สนทนาแลกเปลี่ยนสาระธรรมด้วยคนครับ
    (อินทรปัญญาสกุล)​
     
  4. DR-NOTH

    DR-NOTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    581
    ค่าพลัง:
    +1,276
    การยกระดับจิตให้อยู่เหนือความคิดทั้งหลาย
    ความคิดของเราเป็นนามธรรมที่เกิดขึ้นจากขันธ์5เป็นเหตคือตัว รูป เวทนา สัญญา
    เมื่อ จิตวิญญาณยังคงยึดมั่นใน ขันทั้ง 4 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร(ความรู้สึกนึกคิด)
    ความทุกข์จากกิเลสตัณหาต่างย่อมยังเกิดขึ้นอยู่ เพราะใจยังคงปรุงแต่งตามกระแสแห่ง..
    อารมต่างๆนั่นเอง
    จิตที่ยึดมั่นอยู่ความคิดทั้งหลายนั้นแสดงว่าบารมีในธรรมยังไม่แน่นพอ
    จึงต้องฝึกเสริมเติมแต่งให้สมบูรณ์
    คือฝึกทำจิตให้มีสติสัมปัญญะคือรู้ตัวในความคิดของตนจนเชี่ยวชาญไม่ไหล..
    ไปตามความคิดที่ไม่ได้ตั้งใจอย่างนี้เป็นตน
    มีความรู้ตัวในความคิดอันตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดี..
    เฝ้ามองต่อไปจนจับความคิดของตนได้
    (กล่าวคือ จิตที่เฝ้ามองใจคือความคิด1/ ใจที่คิดโดยตั้งใจ1 /และใจที่คิดโดยไม่ตั้งใจ1)หากเฝ้ามองจนสามารถแยกออก3ประเภทในวงเล็บได้นับว่าก้าวหน้าในระดับหนึ่งแล้ว
    พึงเพิ่ม อุเบกขาเข้าไปคือ เข้าไปรู้ด้วยปัญญาและปล่อยวางนามในความคิดต่างๆได้
    **สภาวะแห่งวิญญาณอันบริสุทธิ์จะเกิดขึ้นได้นั้น จำเป็นต้องอบรมขัดเกลาจนจิตปล่อยวางจากขันธ์ทั้ง4ให้ได้...ซึ่งข้าพเจ้าจะนำมากล่าวในโอกาสต่อไป
    โมทนาธรรม ทุกท่าน
    (อินทรปัญญาสกุล)​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2013
  5. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ..ตามคำถาม..ท่านมะหน่อถามว่า..เวทนาเอาไปทิ้งไว้ไหนครับท่าน
    หรือว่าเวทนาไม่เกิดเลย..หรือทำอย่างไรกับเวทนา นมัสการครับ:cool:
     
  6. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    เวทนาน่ะ มันไม่ได้ เกิดขึ้นเฉพาะ ในกายเท่านั้นนะ มันเกิด ในเวทนา เกิดในจิต เกิดในธรรมด้วย มันก้เกิด ดับอยู่ตลอดนั่นแหละ เพราะมันคือการกระทบ ที่มันกระทบผัสสะ แล้วรู้ มันคือเวทนาทั้งหมด มันไม่ได้หายไปไหนทั้งนั้น แต่เมื่อไม่ใส่ใจ ภายในจิตก้ไม่ได้ดิ้นรนแต่อย่างใด ไงล่ะ
     
  7. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    นมัสการ..ไม่ใส่ใจก็ไม่รู้ ไม่สามารถจะแยกรูป-นาม ได้ต่างตัว ต่างอยู่ ได้นะซิครับ ..ตรงนี้ปัญญา ก็ไม่เกิด..หรือเหตุผลควรเป็นเช่นใด นมัสการท่าน :cool:
     
  8. DR-NOTH

    DR-NOTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    581
    ค่าพลัง:
    +1,276
    การไม่ใส่ใจในที่นี้ คือตัวอุเบกขาที่พรั่งพร้อมด้วยปัญหา คือเข้าไปรู้จนสรุปลงว่า
    สิ่งนั้นสิ่งนี้ไม่น่ายึดถือยึดมั่นเลย ล้วนเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วดับไปตามกฏของไตรลักษณ์ การไม่ใส่ใจแล้วไม่สนใจโดยปล่อยผ่านไปนั้นจะยังสรุปลงสิ่งนั้นไม่ได้ เพราะยังไม่เข้ารู้และพิจาณาความไม่มีสาระของสิ่งนั้น นั่นเอง โมทนาครับ
    **หรือท่านสับสน เข้าใจประการใดครับ
     
  9. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    ถ้าไม่เจ็บก่อน มันจะไปวางได้เพราะเหตุใดล่ะ ถ้าไม่พิจารณา ก่อนมันจะวางอะไร! คุณต้องถามให้ถูกที่ และเข้าใจใหก้ถูกที่นะ อย่า'ที่ท่านสับสนบอกว่าอาจารย์ท่านนั่งได้ทั้งคืนน่ะ แรกๆยังไม่มีปัญญา ก้เจ็บแทบตายกันทุกคนนะ
     
  10. DR-NOTH

    DR-NOTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    581
    ค่าพลัง:
    +1,276
    การไม่ใส่ใจในที่นี้ คือตัวอุเบกขาที่พรั่งพร้อมด้วยปัญหา คือเข้าไปรู้จนสรุปลงว่า
    สิ่งนั้นสิ่งนี้ไม่น่ายึดถือยึดมั่นเลย ล้วนเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วดับไปตามกฏของไตรลักษณ์ การไม่ใส่ใจแล้วไม่สนใจโดยปล่อยผ่านไปนั้นจะยังสรุปลงสิ่งนั้นไม่ได้ เพราะยังไม่เข้ารู้และพิจาณาความไม่มีสาระของสิ่งนั้น นั่งเอง
    **หรือท่านสับสน เข้าใจประการใดครับ
     
  11. gae2012

    gae2012 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +65
    ขอเรียนถาม พระ ธรรมะ
    ผมปฏิบัตินั่งสมาธิมาประมาณเกือบสองปี ก็ไม่มีอะไร คือจิตฟุ้งซ่านบ้าง สงบบ้าง ระยะหลังผมนั่งปฏิบัติ(พองยุบ)แล้วรู้สึกท้องที่พองยุบค่อยๆหายไป เหลือแต่ลมหายใจที่เหมือนจะเบาลงแต่มันขึ้นไปที่หน้าอก แล้วมาที่บริเวณจมูก ช่วงนี้ผมจับที่ท้องไม่ได้ เลยกำหนดที่ลมหายใจแทน แล้วภาวนา พุทโธ
    ขอถามว่าผมปฏิบัติผิดหรือเปล่า และจะแก้ไขอย่างไร ขอขอบคุณครับ
     
  12. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    ถ้าเปลี่ยนก้เปลี่ยนเลยนะ ทำให้มันต่อเนื่อง ข้าพเจ้าเอง ก้ทำทุกทางเหมือนกัน ทุกอย่างเลยนะ สุดท้าย ก้ดูลม คือไม่ต้องพะวงว่า อะไรมันดี หรือถูกกว่าหรอก เพราะ ค่าของคำบริกรรมนั้นมันเท่าๆกัน สุดท้ายมันก้หายไป ทำอันไหนแล้วมันสงบ ก้ทำอันนั้น และมันก้ไม่ใช่เฉพาะคำ บริกรรม นะที่สำคัญ คุณต้อง แผ่เมตตา บ่อยๆด้วย เอาแบบให้ ทุกที่ทุกภพ ทุกภูมิเลยนะ แล้วก้อยู่กับตัวเอง ดูการกระทำของตัวเองให้มาก คุณไม่ได้ ทำถูก หรือผิด หรอกนะ ทำบุญบ่อยๆ แล้วระลึกถึง บุญนั้นด้วยความอิ่มเอิบบ่อยๆด้วย สิ่งที่เป็นกังวล ให้น้อยลง สิ่งเหล่านี้จะทำ ให้ผู้ปฏิบัติเป็น สมาธิได้เร็วและดีมาก +พอดีนึกได้ มีคนถามกันบ่อยๆว่า ถ้าคำ บริกรรมหายไป เราจะยึดอะไร นี่ไม่เข้าใจคำว่ารู้อยู่ เฉพาะหน้า มันคือ อะไรเกิดขึ้น ก้ดูอันนั้น จัดการอันนั้น ก่อน นี่ มันหมายความว่าอย่างนี้นะ นั่งสมาธิน่ะ ให้มันสงบ บาวครั้งสงบบ้าง ไม่สงบบ้างก้ไม่เป็นไร ขอให้จริงใจ กับสิ่งที่เราทำ ตั้งใจนะ ขอให้ประสบผลสำเร็จ สาธุ
     
  13. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    เวทนาของกายเรียก ความรู้สึก
    เวทนาของจิตเรียกอะไรหรือขอรับ

    อีกประการท่านกล่าวว่า
    ปฎิบัติปริยัติปฎิเวธเอาอย่างใดอย่างหนึ่งมานำแล้วทำได้ทั้งหมด
    คือปฎิบัติแล้วรู้ธรรม
    ธรรมคืออะไรหรือขอรับ

    ธรรมะคืออะไร

    ท่านดูจิตมาหรือทำกายานุมาก่อนท่านทำเวทนามาก่อนคือสติปัฎฐานสี่แน่นอน
    ไม่ว่าจะเริ่มที่ไหน
    ถามว่าเวทนานุสติกรรมฐานนี้
    เรื่องทางธรรมเราพบเจออะไรบ้าง
    เรื่องทางโลกเราพบเจออะไรบ้าง
    เรื่องทางกายเราเป็นอย่างไรขอรับ

    เอากลางๆก่อน
    เพื่อที่จะข้ามต่อไปขอรับ

    ผมอยู่รอขอรับ
    แสดงสด
    โดยไม่เอาตัวเอาตนมาด้วย

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ
     
  14. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    กรุณา ถามแต่ ที่ตัวเองกำลังติดขัดด้วย นำไปใช้มันก้จะเข้าใจได้ แต่ถ้าอย่างอื่น อธิบายไปก้เปล่าประโยชน์ เพราะจะไม่มีทางเข้าใจ ถ้าไม่ได้ลงมือ อาตมาตั้งใจ และเต็มใจที่จะช่วย เรื่องการปฏิบัติเสมอนะ เท่าที่อาตมา ช่วยได้ แต่ถ้าไม่ใช่สิ่งที่ติดขัด มันรังแต่ จะถกเถียงความรู้กันเปล่าๆ อาตมาไม่ได้หวังอะไร สิ่งที่อธิบาย ก้เกิดจากการปฏิบัติ จึงไม่ได้ ยกหนังสือ มาอ้างอิงเท่าไหร่ อาตมาไม่ได้มาหาเสียง หรือลงโฆษณาใดๆ ไม่ได้อยู่ในเจตนาเลย เชื่อเถอะว่า ถ้าคำถามไม่ได้อยู่ระหว่างการปฏิบัติ จะไม่ได้ ประโยชน์อะไรเลยนะ!! สาธุ
     
  15. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ท่านพิจารณาอะไร
    กายหรือเวทนาหรือจิตหรือธรรม

    กายนี้ไม่เที่ยง
    เวทนานี้ไม่เที่ยง
    จิตนี้ไม่เที่ยง
    ธรรมนี้ไม่เที่ยงอย่างไร
    ทำที่เที่ยงคือทำกินข้าวกลางวันหรือไม่
    ท่านสมมุติธรรมอย่างไรขอรับ
    ท่านเอาอะไรเป็นสื่อ

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้ว
     
  16. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ท่านเจ็บกาย
    ท่านเจ็บเรียกว่าเวทนา
    ท่านเจ็บเรียกเจ็บจิต
    หรือไม่อย่างไร

    กายของนักมวยขึ้นไปต่อย
    โดนเตะป้าบ.....
    จิตเจ็บตรงไหนขอรับ

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ
     
  17. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    1.เวทนาของกายเรียก ความรู้สึก
    เวทนาของจิตเรียกอะไรหรือขอรับ
    = เหมือนกัน
    2.อีกประการท่านกล่าวว่า
    ปฎิบัติปริยัติปฎิเวธเอาอย่างใดอย่างหนึ่งมานำแล้วทำได้ทั้งหมด
    คือปฎิบัติแล้วรู้ธรรม
    ธรรมคืออะไรหรือขอรับ
    =สิ่งที่เกิดขึ้นคือธรรม สิ่งที่ตั้งอยู่คือธรรม สิ่งที่ดับไป ก้คือ ธรรม
    3.ถามว่าเวทนานุสติกรรมฐานนี้
    เรื่องทางธรรมเราพบเจออะไรบ้าง
    เรื่องทางโลกเราพบเจออะไรบ้าง
    เรื่องทางกายเราเป็นอย่างไรขอรับ

    =ทางธรรมจะไม่มีใครได้เจออะไรทั้งนั้น ทางโลก เจอทุกอย่าง ทางกาย โกหกตัวเอง
     
  18. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ตรงนี้กายสงบ
    เวทนาสงบ
    หรือจิตท่านสงบขอรับ
    จิตที่สงบนี้เป็นอย่างไร
    มีความรู้สึกสงบหรือไม่อย่างไรขอรับ

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

    ตรงนี้ขอเรียนถามท่าวว่า
    อากาศนะญานนี้
    เรื่องทางโลกท่านเจออะไร
    เรื่องทางธรรมคือการปฎิบัติท่านเจออะไร
    เรื่องทางความรู้สึกของท่านท่านมีความรู้สึกเช่นไรขอรับ

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ
     
  19. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    1.ท่านเจ็บกาย
    ท่านเจ็บเรียกว่าเวทนา
    ท่านเจ็บเรียกเจ็บจิต
    หรือไม่อย่างไร
    =เจ็บ ไม่เจ็บ ก้เวทนา

    2.กายของนักมวยขึ้นไปต่อย
    โดนเตะป้าบ.....
    จิตเจ็บตรงไหนขอรับ
    = เจ็บใจ
     
  20. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    เอาสิ่งที่ติดขัด
    คือกระผมควรแก้ไขอาการเมาแล้วอยากอ้วก
    จากการทำสติในระหว่างลืมตาได้อย่างไรหรือขอรับ

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...