ใครว่า กะสือไม่มีจิง ลองมาดูภาพกันน่ะค่ะ

คุณยายเคยเล่าตอนคุณนานเป็นเด็ก แต่ไม่ใช่ผีกระสือนะคะ ภาษาเหนือเขาเรียกว่า ผีโพง อ้าค่ะ ที่เป็นผู้ชาย แต่เขาก็น่าสงสารนะคะ ต้องอยู่อย่างหลบๆซ้อนๆ พระอาจารย์บอกว่า พวกนี้เป็นอสุรกายประเภทหนึ่ง สุดท้าย ชาวบ้านก็กลับบันไดบ้าน (ยังไงแฮปปี้ก็ไม่ทราบ) เช้ามาคุณลุงก็นั่งร้องไห้ใต้ถุนบ้าน บอกว่า ขึ้นบ้านไม่ได้ เพราะบันไดไม่ใช่ของเขา ทีนี้คุณลุงก็โดนชาวบ้านไล่ออกจากบ้านเลยค่ะ

 

สังสัยเหมือนกันค่ะ

นอกจากถอดหัวแล้ว ยังสงสัยว่าตอนเขาจะกลับเข้าร่าง เค้ายัดไส้ใส่เข้าไปได้ยังไง คงลำบากกันน่าดู น่าสงสาร

 

ในเว็บนี้ใครเป็นกระสือรายงานตัวด้วย จะขอถามวิธีถอดและเก็บไส้น่ะครับ มีสมาชิกสงสัยหลายคนรวมผมด้วยครับ

 

ตำนานเรื่องดวงไฟสีเขียวนี้มีกันทุกที่แต่เรียกชื่อไม่เหมือนกันครับผม

 

เจอมาไม่รู้เรียกอะไร แต่เป็นไฟสีเขียวลอยได้ เห็นกันกับเพื่อนเงียบหมด มารู้ทีหลังว่ามีคนแถวนั้นเลี้ยงผี

 

เธอถูกสาบด้วยมนต์ตรา
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=ugTBJK3Irug&feature=related]YouTube - เพชร โอสถานุเคราะห์ - มนต์ตรา[/ame]

 

ฝากให้คุณcenter-in-center เเล้วคนโดนกัดไม่เจ็บหรอที่เอาพริกไปทาที่โดนกัด อย่าว่าเเต่กระสือเลยคนโดนกัดก็เจ็บ

 

ฝากให้คุณcenter-in-center เเล้วคนโดนกัดไม่เจ็บหรอที่เอาพริกไปทาที่โดนกัด อย่าว่าเเต่กระสือเลยคนโดนกัดก็เจ็บ 555 โง่จัง

 

ใช่ครับ แถวบ้านนอกยิ่งห่างจากตัวเมืองมากเท่าไหร่ ยิ่งกันดารมากเท่าไหร่ ก็มีโอกาสจะเจอได้ง่ายครับ ตอนเด็กๆตอนผมบวชเณรหลวงปู่ก็เคยพาไปดูครับ พาผมเเละเพื่อนเณรอีกคนไปยืนแอบรอดูกอไผ่ ประมาณตีสามกว่าๆก็มาจริงๆครับ มากินไก่หลังกุฏิหลวงปู่ แต่พวกเรายืนอยู่ไกล เลยมองไม่ค่อยชัด แต่เห็นเป็นสีเขียวๆแดงๆวูบๆ ๆ เหมือนหิ่งห้อยแต่ใหญ่เท่าซักบาตรพระเห็นจะได้ น่ากลัวมากครับ

 

ผมเคยเห็นกระสือ ตัวจริง ๆ มาแล้ว เห็นใน กทม. ลอยผ่านเข้ามาในบ้านผม เห็นกันจะ จะ ห่างไม่ถึง 10 เมตร

เป็นหัวผู้หญิง แล้วมีปอดลำใส้ เครื่องใน และมีแสงวับ ๆ เป็นสีเขียว

ที่จริงแล้วเดี๋ยวนี้ กระสือ คงจะมีแต่ใน ตจว. ตามบ้านป่า แต่ที่ผมได้เห็น เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน นำมา หรือ ดลบันดาล ทำให้ผมได้เห็น ให้รู้ว่า.....มีจริง

 

มีจริงรึเปล่าไม่ทราบ แต่กลัวไว้ก่อนละผม :boo:

 

น่ากลัวคะ ดูแล้วเหมือนคนแก่คางแหลมๆ

 

กระสือของ แท้ หน้าตาคล้าย ๆ แบบนี้

 

ครับ ผีกองกอย
เป็นผีที่มีขาเดียว กระโดดไป ตีนกลับไปด้านหลัง ส้นเท้าออกก่อน อยู่ป่าไม่ไกลจากผู้คน สันนิฐานเป็นผีเขมรเข้ามาช่วงเขมรรุ่งเรื่อง กินเลือดรึเปล่าไม่รู้น๊ะ แต่ที่รู้มันจะเอาปลา ไปเสียบตากแห้งบนต้นหนามแท่ง (รู้จักต้นนี้รึเปล่า ต้นสีขาว หนามยาวถี่ยิบ ) ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเอาไปตากไว้ได้ยังไง หรือไม่ก็จะโขมยมินของชาวบ้านตามเถียงนาน้อย

 

สมัยผมเด็กๆประมาณ30ปีที่แล้ว ไปบ้านยายแถวนครปฐม ไปนอนค้างคืนผมนอนไม่หลับก็เลยมองออกไปนอกบ้าน เห็นดวงไฟดวงใหญ่มากลอยไปลอยมาก็เลยหลับตานอนไปเลยเพราะกลัว เพราะสมัยก่อนมีหนังทีวีผีกระสือ ก็เลยกลัว
วันรุ่งขึ้นตอนกลางคืนผู้ใหญ่กินเหล้า พวกเด็กๆก็วิ่งเล่นกันหน้าบ้าน จู่ๆก็มีดวงไฟดวงใหญ่มาลอยอยู่บนหัวพวกเด็กๆ บางคนบอกว่าหิ่งห้อย แต่น้าผมคนเล็กที่นั่งอยู่ในบ้านเห็นเข้า เลยวิ่งถือตะเกียงจ้าวพายุมา แล้วบอกพวกเด็กๆให้ขึ้นบ้าน แล้วเอาตะเกียงไล่ดวงไฟนั้น สักพักดวงไฟก็ลอยหายไป อย่างเร็วมาก น้าบอกว่ามันเป็นผีกระสือ พวกเด็กๆก็กลัวกันใหญ่เลยเพราะเห็นจ๊ะๆ

 

ใช่ครับเค้าเรียกผีกองกอย จะกระโดดขาเดียว บ้างก็ว่าไม่มีสะบ้าหัวเข่า เวลาเดินหรือกระโดดจะมีเสียง ก๋อย ก๋อย (ซึ่งจริงๆอาจเป็นนกก้ได้) หรือไม่ก็มีเสียง จุ๊ จุ๊ .. ไปตามต้นไม้ ชอบออกมาตอนดึกๆ คือ ช่วงหมาหลับ (ช่วงดึกสงัดมากๆคนโบราณเค้าจะเปรียบเทียบทั้งคนทั้งหมาก็จะหลับ) ชอบกินของสดของคาว ชอบขโมยของกินจากชาวบ้านที่ไปค้างในป่า หากไม่มีกิน ก็จะแอบไปดูดหัวแม่เท้า หรือ หัวแม่โป้ง เพื่อกินเลือด (แต่ปกติดูดไม่ได้อยู่แล้ว เพราะคนชอบนอนกอดอก) เค้าว่าจริงๆอาจไม่ใช่ผี แต่เป็นค้างคาวกินเลือด ซึ่งในอเมริกาใต้จะเจอ และมีการศึกษากันเป็นจริงเป็นจัง สัตว์ชนิดนี้ ตัวใหญ่พอๆกับค้างคาวแม่ไก่ ตัวดำมีขนดก มีฟัน 2 ซึ่คมมาก เวลาเจอเหยื่อ จะแอบบินลงมาอยู่บริเวณรอบๆ แล้วกระโดด เข้ามาใกล้ๆ จะชอบกัดตรงเท้าเหยื่อ เพราะกลัวเหยื่อ รู้สึกตัว น้ำลายจะเหมือนทาก คือมีฤทธิ์ ไม่ทำให้เกร็ดเลือดจับตัวกัน พออิ่มแล้วก็ไป ไก่หลายตัวตาย เพราะว่าเลือดไหลไม่หยุด แถมไม่รู้ตัวว่ามีแผล ปกติวัวควายจะโดด แต่ไม่เป็นอะไรมาก เพราะตอนเช้าชาวบ้านจะพบและก็จะรักษาห้ามเลือดทัน วัวควายจะซึมๆไปสองสามวัน เพราะเสียเลือดมาก แต่ในเมืองไทยก็น่าจะมีเช่นกัน

 

ผมโชคดีหน่อย ที่เกิดเป็นเด็กบ้านนอก และใกล้ชิดกับคนเก่าคนแก่ เวลาตอนกลางคืน เค้าจะใช้เวลานับดาวแทนซึ่งหนึ่งคืน จะมีดาวเด่นๆออกมา 4 ดวง 4 ช่วง ดาวที่ออกมาช่วงค่ำๆ เรียกอะไรจำไม่ได้ล่ะ ช่วง 5 ทุ่มถึงตี 1-2 จะมีดาวอีกดวงโผล่มาเค้าบอกให้ระวังให้ดี ช่วงนี้คนเราจะเพลียและงุนงง สมัยก่อนเวลาอยู่ฐานที่ชายแดน เค้าเตรียมใจเตรียมกายว่าจะมีลูก m 79 มาตกฐาน ให้สะดุ้งตื่นเป็นประจำ แต่ที่จำได้คือ 2 ดวงตอนสุดท้าย นั่นแหละ ดวงที่ออกตอน ตี 1-4 เค้าเรียกดาวหมาหลับ นั่นคือช่วงที่เงียบสงัดที่สุด เป็นช่วงที่โจร ขโมยจะออกหากิน หรือปฎิบัติการ และพอ ตี 4-7 โมงเช้า คือ ดาวหมูป่า เป็นช่วงที่หมู่ป่าออกหากิน เป็นช่วงที่เค้าจะเริ่มดักยิงหมูป่ากัน สมัยก่อนผมชอบเข้าป่า แต่ไปแบบไปเที่ยว ดีที่ตอนเด็กๆ เราเรียนรู้อะไรหลายอย่างจากพรานป่า สมัยนั้นเค้าสอนเค้าให้ทำอะไรก็ทำหมด มันเลยติดเป็นทักษะ ที่สอนใครก็ไม่ได้ เพราะมันจะรู้โดยสันชาติญาณเอง แต่พอโตขึ้นมาสมัย20 ต้นๆเนี่ย คราวนี้เน้นปฎิบัติธรรม เข้าป่าแสวงหาความวิเวก เรื่องที่เค้าพูดเค้าเล่า พูดตรงๆเลย มันพบ มันเจอ มันเห็นเอง แหละ แต่แปลกดีสมัยที่ท่องเที่ยวไพรเหมือนนักท่องเที่ยวไม่เจอ แต่พอไปหาที่สงบๆภาวนา เจอ .... ลองๆครับ อย่าไปกลัวถ้าถือรัตนตรัยโดยแท้แล้ว ตายเป็นตาย ตายไปก็ไปภูมิดีๆ จะกลัวอะไร

เรื่องที่พระธุดงค์บอก หลายๆอย่างเหมือนพิศดาร เหนือโลก จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องธรรมดาที่มีอยู่จริง ไม่จำเป็นต้องเป็นพระ ก็เห็น เราไปอยู่ที่ของเค้าเอง เค้าก็อยู่ของเค้า เราไปเห็นเองมันไม่ใช่เรื่องแปลก เรื่องมือเดินได้ ขนาดปลาเผือก ลิงข้าง วิญญาณหวงของ เรื่อง เทวดา ผีสาง เรื่องนางไม้ เรื่อง คนธรรค์ พญานาค อะไรนั่นนะ มันไม่ใช่เรื่องแปลกตรงไหน สมัยก่อนไม่กลัวอะไรเพราะตั้งใจที่จะปฎิบัติจริงๆ ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตายเป็นตาย แต่สมัยนี้โอผมเต็มไปด้วยกิเลส ถ้าไปแบบนั้นอีก คงตายจริงๆ เพราะกระแสโลกมันทำให้เราเริ่มๆห่างๆการควบคุมจิตไปเยอะเลย