คลังเรื่องเด่น
-
บรรลุธรรมในบ้านได้หรือไม่
=AZUt6GN_hzPtybAirSLN4YzFIn1A3JLw3A44dXlv3ID1MYCfREK7fl5T1w7psgcSwZQUwv8RubKYRl-hE3C_QfDWEde1MsgreSCgTEbApBEwdcBalIj4AB1JDSudZPUUZimMSnbuJPPBlxzMv2JVN3zKuze8jFrxKwFI8jofV6K-SO9iZmwKNBpBzbdM_nH4Q2UQ1CCEqKy-2HxJ2Id04dJj&__tn__=*NK-R']บรรลุธรรมในบ้านได้หรือไม่
ถาม : การบรรลุธรรมนั้นจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องบรรลุธรรมในวัดหรือในป่า บรรลุธรรมในบ้านได้หรือไม่ ?
ตอบ : สถานที่ไหนก็ได้ถ้าเหมาะสม อย่างที่พระพุทธเจ้าท่านบอกไว้ว่า =AZUt6GN_hzPtybAirSLN4YzFIn1A3JLw3A44dXlv3ID1MYCfREK7fl5T1w7psgcSwZQUwv8RubKYRl-hE3C_QfDWEde1MsgreSCgTEbApBEwdcBalIj4AB1JDSudZPUUZimMSnbuJPPBlxzMv2JVN3zKuze8jFrxKwFI8jofV6K-SO9iZmwKNBpBzbdM_nH4Q2UQ1CCEqKy-2HxJ2Id04dJj&__tn__=*NK-R']สถานที่สัปปายะ คือสถานที่เหมาะ หมายถึงอยู่ในที่สงัด ไม่เกลื่อนกล่นไปด้วยผู้คน =AZUt6GN_hzPtybAirSLN4YzFIn1A3JLw3A44dXlv3ID1MYCfREK7fl5T1w7psgcSwZQUwv8RubKYRl-hE3C_QfDWEde1MsgreSCgTEbApBEwdcBalIj4AB1JDSudZPUUZimMSnbuJPPBlxzMv2JVN3zKuze8jFrxKwFI8jofV6K-SO9iZmwKNBpBzbdM_nH4Q2UQ1CCEqKy-2HxJ2Id04dJj&__tn__=*NK-R']อาหารสัปปายะ หมายความว่า... -
"ใจเศร้าหมองกับใจหดหู่" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
.
"ใจเศร้าหมองกับใจหดหู่"
" .. "ใจหดหู่" นั้นมันสลดสังเวช แล้วมันคิดถึงตัวของเราจะต้องเป็นอย่างนั้นแล้วมันหดหู่ลงไป "ส่วนใจเศร้าหมอง" นั้นคิดถึงเรื่องความแก่ ความตาย แล้วเศร้าโศกเสียใจอาลัยอาวรณ์ กลัวเราจะเป็นอย่างนั้น เรียกว่าเศร้าโศก จิตไม่ตั้งมั่นอยู่ในที่เดียว
"ส่วนหดหู่นั้นจิตใจยิ่งตั้งมั่นลงไป" แล้วเกิดความสลดสังเวชในตัวของตน เราเกิดมาได้ของไม่ดีซึ่งเราหลงใหลมานมนานแล้ว เข้าใจว่าได้ของดี จะมีอายุยืน จะมีสุขภาพดี แท้ที่จริงมันได้ของตาย ของอสุภะ ปฏิกูล ของชำรุดทรุดโทรมทั้งนั้น .. "
"ความเกิด ความดับ"
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี -
การจะเห็นอะไรก่อนตายขึ้นอยู่กับอาสันนกรรม คือ กรรมก่อนตาย
ถาม : ผมอ่านมาว่า ก่อนที่คนเราจะตาย จะเห็นภาพต่าง ๆ เช่น ถ้าเห็นพระมารับไปดีแน่นอน หรือเห็นพรหมมารับก็ไปเกิดเป็นพรหม เห็นเทวดาก็ไปเกิดเป็นเทวดา หรือถ้าเห็นเนื้อก็ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน แต่บางคนก็เห็นมีผู้ชายนุ่งแดงมารับ หรือบางคนก็เห็นภาพในอดีตตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบันอย่างไวมาก อยากทราบว่าตามความจริงคนเราก่อนที่จะตาย จะเห็นอะไรแน่ครับ ?
ตอบ : คนถามคงจะเห็นเนื้อแล้วไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานแน่เลย ถ้าหากเห็นชิ้นเนื้อหรือเห็นก้อนเนื้อเขาไปเกิดเป็นมนุษย์กัน น่าจะเป็นมนุสสติรัจฉาโน แสดงว่าคนถามไปต่ำกว่าความเป็นจริงมาก
การจะเห็นอะไรก่อนตายขึ้นอยู่กับอาสันนกรรม คือ กรรมก่อนตาย กรรมตัวนี้จะเป็นตัวพลิกชีวิตหลังความตายของเราให้ดีหรือชั่ว ก็ตามสภาพจิตที่เคยมีความเคยชินนั้น ๆ เขาถึงสอนให้เกาะพระให้เคยชิน เพื่อเป็นการประกันความเสี่ยงว่าเราจะได้ไปที่ดีแน่ ๆ
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกันยายน ๒๕๖๑
ที่มา : www.watthakhanun.com
#พระครูวิลาศกาญจนธรรม #หลวงพ่อเล็ก
#ชุมชนคุณธรรม #วัดท่าขนุน
#ชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน... -
"แก่นพุทธศาสนาอยู่ที่ภาวนา" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
.
"แก่นพุทธศาสนาอยู่ที่ภาวนา"
" .. เวลามีเทศน์ที่ไหนเราไม่ค่อยจะได้ปล่อยแหละ "เรื่องจิตตภาวนา" ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของพุทธศาสนา หรือรากแก้ว "หรือแก่นพุทธศาสนาอยู่ที่ภาวนานะ"
การทำบุญให้ทาน รักษาศีลนี้ "เป็นกิ่งของการภาวนา" ถ้าการภาวนามีหลักมีเกณฑ์ดีเท่าไร เรื่องการทำบุญให้ทานภายนอกนั้นจะมีกำลังดึงดูดกันเอง มีกำลังไปเอง เพราะอำนาจแห่งการภาวนา
ความเชื่อมั่นในจิตของตัวเองจากภาวนานี้ "เป็นเครื่องหนุนให้ทำความดีหนักเข้า ๆ หนักเข้าในเรื่องบุญเรื่องกรรม" ทุกอย่างหนักเข้าไป "การภาวนาจึงเป็นของสำคัญ" .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=250&CatID=2 -
การทำบุญเป็นเจ้าภาพสร้างลูกนิมิตมีอานิสงส์อย่างไรคะ ?
ถาม : การทำบุญเป็นเจ้าภาพสร้างลูกนิมิตมีอานิสงส์อย่างไรคะ ? จะมีอานิสงส์เท่าวิหารทานไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจว่าสิ่งที่เราทำเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้โบสถ์ซึ่งเป็นสถานที่ทำสังฆกรรมนั้นเสร็จลง ภายในโบสถ์ตั้งไว้ด้วยพระพุทธรูป สิ่งที่เราทำนั้นเป็นสิ่งที่เราสละออกตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า โบสถ์หลังนี้พระสงฆ์ทั้งหลายได้ทำสังฆกรรม ก็แปลว่าเราจะได้อนุสติทั้งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไปพร้อมกัน
ถาม : โยมอ่านเจอว่าการปิดทองสร้างลูกนิมิตไม่ใช่พุทธแท้ เรื่องนี้เป็นความจริงไหมคะ ?
ตอบ : พระพุทธเจ้าท่านอนุญาตให้ว่า จะใช้สถานที่ใดทำสังฆกรรมก็ได้ หากมีนิมิตคือมีเครื่องหมายบอกเขตอย่างชัดเจน แต่สมัยนี้ส่วนใหญ่ก็เอาเฉพาะก้อนหินมาเป็นนิมิตเท่านั้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้จะเรียกว่าไม่ใช่พุทธแท้ก็ไม่ใช่ ส่วนใหญ่พวกที่กล่าวลักษณะนี้ไม่ได้ดูบริบทว่าสังคมได้เปลี่ยนไปแล้ว
สมัยก่อนพวกสิ่งก่อสร้างโดยเฉพาะวัสดุต่าง ๆ หายากมาก ไม่ว่าจะเป็นหวาย เป็นไม้ เป็นจากมุงหลังคา พระพุทธเจ้าจัดเป็นครุภัณฑ์ที่ห้ามแบ่งปันกับวัดอื่น ที่ห้ามแบ่งปันไม่ใช่หวง แต่ถ้าตัวเองแบ่งให้คนอื่นไป ก็ต้องไปรบกวนไปขอจากชาวบ้านเขาอีก... -
"ทำจิตใจให้สงบ พาพ้นทุกข์" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
.
"ทำจิตใจให้สงบ พาพ้นทุกข์"
" .. "บุคคลจะพ้นทุกข์ได้นั้น ก็เพราะมาพยายามภาวนา ทำจิตใจให้สงบ" ทวนกระแสจิตเข้ามาในปัจจุบัน เห็นตามว่า "ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขา ไม่ใช่ตัวตน"
อะไรเมื่อมันมาเห็นแจ้ง มันก็ตื่นตัว "รู้ว่าตนนั้นมาหลงอาศัยอยู่ในของไม่เที่ยง" มาอาศัยในสิ่งที่ บังคับไม่ได้ ไม่เป็นไปตามใจหวัง "เมื่อมันรู้ด้งนี้ มันก็ปล่อยวาง"
นี่แหละ "ไม่ยึด ไม่ถือ ไม่สำคัญว่าเป็นตัวเป็นตน" ก็เป็นอันว่า "รู้จักต้นเหตุแห่งทุกข์ คืออุปาทานความยึดถือ" เมื่อละความยึดถือนี่ได้ "ทุกข์ทางใจมันก็ด้บไปหมดเลย" เป็นอย่างนั้น
เพราะฉะนั้นเมื่อทราบความจริงอย่างนี้แล้ว "พึงพากันตั้งใจบำเพ็ญทางจิตใจนี้ ให้เป็นไปดังแสดงมา" .. "
"ธรรมโอวาท"
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ -
ข่าวชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน (พระอาจารย์เล็ก) ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๖๔
ชุมชนคุณธรรมออนไลน์ Palungjit.org
เครือข่ายชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
ขอรวบรวมข่าวกิจกรรมการดำเนินงานของ
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (พระอาจารย์เล็ก)
เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เพื่อให้ทุกท่านได้โมทนาบุญในการทำงานของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
และเพื่อให้ทุกท่านได้ศึกษารูปแบบการดำเนินงานของพระอาจารย์
ซึ่งท่านเป็นต้นแบบการทำงานของ ชุมชนคุณธรรมออนไลน์ Palungjit.org
ข่าวการดำเนินงานประจำเดือนมีนาคม ๒๕๖๔ -
เมื่อจิตปรามาสพระรัตนตรัย ให้กราบขอขมาพระไปเรื่อย ๆ
ถาม : (ปรามาสพระ)
ตอบ : การปรามาสพระรัตนตรัยมีเป็นปกติ บุคคลที่เริ่มปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญา มารเขาจะรู้ว่าเราจะพ้นมือเขาแล้ว เขาใช้วิธีหลอกให้เราปรามาสพระ ถ้าหากว่าเราปรามาสพระ เราก็ไม่สามารถเข้าถึงมรรคผล ก็จะหลุดพ้นจากมือเขาไม่ได้ ฉะนั้นก็มีวิธีเดียวคือ อยากจะปรามาสก็ปรามาสไป เราก็กราบขอขมาพระไปเรื่อย ๆ
สิ่งที่เขาหวังผลก็คือทำให้เราวุ่นวายใจ ไม่เป็นอันปฏิบัติอย่างหนึ่ง และทำให้เรารู้สึกว่าเป็นเพราะมาปฏิบัติก็เลยเกิดอารมณ์อย่างนี้ แล้วเลิกปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง ฉะนั้น...ไม่ต้องไปใส่ใจ ตั้งหน้าตั้งตาขอขมาไป มีปัญญาจะปรามาสอย่างไรก็ปรามาสไป พอเขาเห็นเราไม่หวั่นไหว ขอขมาเป็นปกติก็เลิกของเขาไปเอง
...................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
"ความตายนี้เป็นธรรมวิเศษ" (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร)
.
"ความตายนี้เป็นธรรมวิเศษ"
" .. "ความตายนี้ ถ้านึกเจริญได้แล้วเป็นของวิเศษเป็นธรรมวิเศษได้" เพราะเวลาดูคนทีเขาตายไปแล้วเมื่อยังมีชีวิตอยู่ก็มีแต่ห่วงอาลัยในชีวิตของตน แตเวลาเขาตายเขาได้อะไรไป
เราต้องเอามาเพ่งภาวนาให้จิตใจของเราดู เมื่อถึงเวลาเราตายก็เหมือนกันนั้นแหละ "อันมรณภัยคือความตายนี่แหละ ถ้าผู้ใดพิจารณาลงสู่จิตใจให้ถึงจนหายหลงหายลืมได้ จิตใจจะถึงซึงความสบาย" .. "
"หลวงปู่สอนว่า"
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร -
ปฏิสัมภิทาญาณ รู้ทุกอย่าง สุดท้ายลงที่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ในเรื่องของพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ ท่านรอบรู้ในธรรม ในเมื่อท่านรอบรู้ธรรม สิ่งที่ท่านรู้ทุกอย่างก็ลงที่เดียวกัน ก็คือ รู้ในเรื่องของอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของร่างกายและทุกสรรพสิ่ง เท่ากับว่าท่านทรงพระไตรปิฎกไปเลย เพราะว่าพระไตรปิฎก ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ก็กล่าวถึงแต่เรื่องพวกนี้ทั้งนั้น
บุคคลที่จะสามารถอ่านพระไตรปิฎกได้ครบ ๔๕ เล่ม มีจำนวนน้อยมาก น้อยเสียยิ่งกว่าน้อย อาตมาเองโดนหลวงพ่อบังคับจึงยอมอ่าน สิ่งทั้งหลายเหล่านี้พอไปฝังอยู่ในจิต จะไม่ได้ฝังอยู่แค่ชาติเดียว แต่ว่าจะพาติดตัวข้ามชาติข้ามภพไปเรื่อย ๆ พอกระทบเข้าเมื่อไร ก็จะเกิดการตื่นรู้ขึ้นมาทันที ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าเรารู้เพราะอะไร เพราะไม่ทราบว่าโดนเพาะฝังไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๔ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
ที่มา : www.watthakhanun.com -
"รักษาศีล รักษาที่ใจ" (หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)
.
"รักษาศีล รักษาที่ใจ"
ถาม : ในตำราว่าไว้ว่า "รักษากายวาจาให้เรียบร้อยเรียกว่าศีล" จึงเข้าใจว่า "การรักษาศีลไม่จำเป็นต้องรักษาใจก็ได้" จึงเรียนถามอย่างนั้น
หลวงปู่ตอบว่า : ที่ว่ารักษากายวาจาให้เรียบร้อยเป็นศีลนั้นก็ถูก "แต่ก่อนกายวาจาจะเรียบร้อยเป็นศีลไต้นั้น ด้นเหตุเป็นมาจากอะไรถ้าไม่เป็นมาจากใจ" ผู้เป็นนายคอยบังคับกายวาจาให้เป็นไปในทางที่ถูก
"เมื่อเป็นมาจากใจ ใจควรประพฤติปฏิบัติอย่างไรต่อตัวเองบ้าง" จึงจะควรเป็นผู้ควบคุมกายวาจาให้เป็นคัลเป็นธรรมที่น่าอบอุ่นแก่ตนเองและน่าเคารพเลื่อมใสแก่ผู้อื่นได้
"ไม่เพียงแต่ศีลธรรม ที่จำต้องอาคัยใจเป็นผู้คอยควบคุมรักษาเลย แม้กิจการอื่น ๆ ก็จำต้องอาคัยใจเป็นผู้ควบคุมดูแลอยู่โดยดี การงานนั้น ๆ จึงจะเป็นที่เรียบร้อย" ไม่ผิดพลาดและทรงคุณภาพโดยสมบูรณ์ตามชนิดของมัน .. "
"หนังสือบูรพาจารย์"
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต -
พระโพธิสัตว์ผู้สามารถพัฒนาบารมี
พระโพธิสัตว์ผู้สามารถพัฒนาบารมี
ทาน
สามารถแปลงคนให้กลายเป็นพระโพธิสัตว์
ผู้เป็นมหาธนบดี อาจจะไม่ได้เป็นผู้มั่งมีในทรัพย์
แต่มี " การให้ " เป็นสมบัติแห่งพุทธธรรม
เปิดทางให้กับการสร้างบารมี
แต่ไม่ใช้การซื้อทางแบบที่คนทางโลกๆคิดกัน
ศีล
สามารถแปลงคนให้กลายเป็นพระโพธิสัตว์ผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ทำให้ใจเรา " ไร้ซึ่งมลทินทั้งปวง "
แต่ก็อย่าอวดอ้างว่าเราคือผู้เหนือโลก
จงรักษาแต่ไม่ใช้อวดอ้างมัน
ว่าเรารักษาศีลเราบริสุทธิ์ที่สุดในโลก
วิริยะ
สามารถแปลงความเฉื่อยชา
ใช้ความเพียรพยายามให้เราตั้งมั่นมากขึ้น
" กำจัดเสียความชาด้าน " ในการประพฤติธรรม
เพิ่มพูนความบ่มรมในธรรม
เป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาจิตใจไปในทางกุศล
ขันติ
จงใช้มันเหมือนผงชูรส
หากเพิ่มเติมด้วยความพอดี อาหารก็อร่อย
แต่ถ้าขาดมันไปชีวิตการบำเพ็ญก็จะพาเราไปสู่ทุคติ
ขาดความอดทนต่อการรับฟัง
ขาดความอดทนต่อกิจกรรมที่ทำ
ขาดการตั้งตารอที่เราจะชนะอารมณ์ทั้งมวลในตน
หากบำเพ็ญอย่างไร้ขันติ
ก็อยากที่จะดับกรรมจากอดีต ปัจจุบันและอนาคต
สมาธิ
ไม่ใช่แค่เอามือซ้อนกัน เอาขาซ้อนแล้วนั่งนิ่งยิ่งนานยิ่งดี... -
นิสัยของพระโพธิสัตว์ ( โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน )
=AZW56HZ7_-6HnJ2SeuCnLa5bYEZGHY_jamPsPTvmKUH_oSirP3UvdaG8AMHYKbOi_9TqMotbi-Q4Z5M0Yv7DCpyoPNnGg4HcjTGQRTvoxsofD0tukYyfT9Sk06jYtSqlJFsgrm5tn1C4YwYWWQac19qgJChik_Sj4PjNDsYoEq0GDr2MYG7DZtaTrcSSdMJLfYs&__tn__=*NK-R']#นิสัยของพระโพธิสัตว์
=AZW56HZ7_-6HnJ2SeuCnLa5bYEZGHY_jamPsPTvmKUH_oSirP3UvdaG8AMHYKbOi_9TqMotbi-Q4Z5M0Yv7DCpyoPNnGg4HcjTGQRTvoxsofD0tukYyfT9Sk06jYtSqlJFsgrm5tn1C4YwYWWQac19qgJChik_Sj4PjNDsYoEq0GDr2MYG7DZtaTrcSSdMJLfYs&__tn__=*NK-R']#โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
พวกเราทั้งหลายให้เห็นใจพระพุทธเจ้าที่ทรงขวนขวายแทบเป็นแทบตาย สร้างพระบารมีมาเฉพาะพระพุทธเจ้าของเรานี่ ๔ อสงไขยแสนมหากัป คำว่า ๔ อสงไขย แปลว่านับไม่ได้ ๔ หน ถ้าหากเราเทียบก็อย่างเรานับ ๑, ๒, ๓ , ไปถึง ๑ ล้าน พอล้านแล้วก็หยุดที่ตรงนั้นแล้วมานับใหม่ จนถึงล้านเป็นสองล้าน สามล้าน เป็นสี่ล้าน นี่อสงไขยคือนับไม่ได้ ตั้งแต่ครั้งนั้นเขาจะถือเลขไหนเป็นสำคัญไม่รู้ แต่สำหรับเมืองไทยเรานี้ถือเลขล้าน พอถึงล้านแล้วก็หยุดมานับใหม่ ไปถึงล้านแล้วหยุด เพราะฉะนั้นจึงว่าหนึ่งล้าน สองล้าน หรือสิบล้าน ยี่สิบล้าน พันล้าน หมื่นล้าน... -
"ผู้ว่าเขาเป็นผู้มีบาป" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
"ผู้ว่าเขาเป็นผู้มีบาป"
" .. บาปอกุศลทั้งปวงเกิดจาก กาย วาจา ใจ ของแต่ละคน ของตนเองโดยเฉพาะ "บาปอกุศลของตนไม่ได้เกิดแต่ กาย วาจา ใจ ของผู้อื่น" เรียกตามภาษาที่พูดกันว่า "ของใครของมัน" ของใครผู้ใดต้องใครผู้นั้นทำ เป็นของตายตัวเช่นนี้ "ไม่มีใครจะทำใครให้มีบาปอกุศลได้" ถ้าตัวเองของผู้นั้นมิได้ทำ
ผู้ที่คิดว่า "คนนั้นไม่ดีคนนี้ไม่ดี แล้วตำหนิติเตียนไปต่าง ๆ นานา ตามความคิดความเชื่อของตน นั่นเป็นหนึ่งของการทำบาปอกุศล" แต่ไม่ใช่ของผู้ถูกตำหนิติเตียน แต่เป็นของผู้ตำหนิติเตียน "คือผู้ว่าเขาเป็นผู้มีบาป" ผู้ถูกว่าไม่เป็นผู้มีบาป คือไม่มีบาปไปตามปากว่าของผู้ใดอื่น จะเป็นผู้มีบาปก็ต้องเป็นผู้ได้ทำบาปด้วยตนเองหัวใจ
พระพุทธศาสนาข้อต้น "การไม่ทำบาปอกุศลทั้งปวง" มีความสำคัญสำหรับทุกคน ทุกคนจึงต้องเข้าใจให้ดี ทุกคนจึงควรต้องเข้าใจให้ถูก "การทุ่มเทความคิดจิตใจไปมองดูผู้อื่น อย่างเจตตาไม่ดี คือการกำลังนำตนไปทำบาปอกุศล"
ดังนั้นจึงควรมีสติ "พยายามยับยั้งความคิดที่จะมองใครอื่นอย่างยึดมั่นเชื่อมั่นว่าเขาเป็นคนไม่ดี เพราะความคิดนั้นจะสามารถหยุดบาปอกุศลมิให้เข้าไปสู่ชีวิตตนได้" .. "
"แสงส่องใจ"... -
วางใจให้ถูก...เราฝึกเพื่ออะไร?
วางใจให้ถูก...เราฝึกเพื่ออะไร?
--------------------------------------------------------
ช่องทางกัลยาณมิตร ช่วยเหลือเกื้อกูล
(ปัญหาสภาวธรรมในการปฏิบัติ)
.
LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://line.me/ti/g2/SStK5q9sZl2eM77IsNKSHg
LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ -
อุทิศบุญให้เจ้าของเลือดเนื้อร่างกายที่สละมาเพื่อเป็นอาหารให้เราได้กินกัน
เข้าไปอ่านบทความได้ที่นี้ครับ > > > วัดท่าขนุน -
ความทุกข์ของการเป็นเทวดา คือทำอย่างไรจะเข้าสู่พระนิพพาน
ถาม : ควรทำบุญ อธิษฐานจิต ทรงฌาน หรือทำอย่างไร จึงจะติดอยู่ในภูมิของมนุษย์ที่เป็นอมตะ ไม่แก่และไม่ตายครับ อยากอยู่บนดาวโลกไปนาน ๆ ?
ตอบ : เพิ่งเห็นมึงคนแรกนี่แหละ...! จะมีโลกที่ไหนเป็นอมตะไม่ตายบ้างวะ ? ขนาดพรหมหรือเทวดาถึงเวลาก็ยังต้องจุติเพราะหมดอายุ เขาเรียกว่าฟุ้งซ่านในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ถาม : จริงไหมคะที่เขาบอกว่า ความทุกข์ของพรหมเทวดา คือการจุติลงมาเป็นมนุษย์ ?
ตอบ : ความทุกข์ของท่านคือทำอย่างไรจะเข้าสู่พระนิพพาน
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกันยายน ๒๕๖๑
ที่มา : www.watthakhanun.com
=AZUVEhRVuqZQ9tmh2flfqtu7vtG-1jH4qknvkIWqWlWf2AGDUQ9AUkRjqKE0o4-W45SuPFJAKDytuIAijiL7A9f0qBMyVkDbJYoFCkd3nk40LFQkaxTlqoLeV_e0lts2n8NRfHY5-sUe1o5M-WoiUQLKRIIgsILz-ujjSadirVJGHQpI6xr4nKAOJXmKGCdM0ks&__tn__=*NK-R']#พระครูวิลาศกาญจนธรรม... -
วิทาสาโท คือ เหลือจากพระฉันแล้ว ใช้แล้ว จึงจะมอบแก่ผู่อื่นที่ไม่ใช่พระได้
ถาม : ตอนที่บวชอยู่ ในระหว่างบิณฑบาตตอนเช้าได้เห็นขอทาน คนพเนจร คนเก็บของเก่า หรือแม้แต่แม่ค้ารถเข็น ได้ให้อาหารโยมตามทางก่อนถึงวัดเพียงเหลือแค่พอฉัน เรียนถามหลวงพ่อครับ สิ่งที่ผมกระทำเป็นเหตุที่พึงสมควรกระทำหรือไม่ ?
ตอบ : เป็นเหตุที่ทำให้โยมทั้งหมดต้องลงนรก พระพุทธเจ้าอนุญาตให้พระภิกษุเลี้ยงได้เฉพาะพ่อแม่เท่านั้น ส่วนที่เหลือถ้าต้องการจะเลี้ยงต้องเป็นวิทาสาโท คือ เหลือจากพระฉันแล้ว ใช้แล้ว ไม่ใช่พระยังไม่ทันฉัน ไม่ทันใช้ ก็เอาไปให้เขา จะมีโทษในการทำให้คนเสื่อมศรัทธาด้วย เพราะว่าเจตนาของเขาคือถวายพระ ไม่ได้เอาไปให้คนอื่น
ถาม : หากเกิดโทษสามารถระงับโทษนั้นได้อย่างไรบ้าง ?
ตอบ : บอกให้โยมชำระหนี้สงฆ์ แต่ถ้าหากไปบอกโยมคงเจอกำปั้นแน่..! เพราะดันทะลึ่งเอาไปให้เขาเอง
เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๐ -
"ธรรมไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศ" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
.
"ธรรมไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศ"
" .. ขอให้พากันไปปฏิบัติเถอะน่ะ "ไม่ว่าหญิงว่าชาย อุปนิสัยมีเหมือนกันหมด" ไม่นิยมว่าเป็นหญิงเป็นชาย นักบวชและฆราวาส "มันมีอยู่ที่หัวใจ ใครก็ไปได้หลุดพ้นได้เหมือนกัน" ถ้าตั้งใจปฏิบัติ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศ
เพศนี้ประกาศตนว่า "เป็นนักบวช เป็นนักรบที่จะแก้กิเลสอย่างแท้จริง ความหมายว่างั้น" แต่เมื่อพลิกจากนั้นแล้ว มันบวชมาเพื่อสั่งสมกิเลส เป็นฟืนเป็นไฟเผาตนเองและเผาคนอื่นให้เดือดร้อนไปหมดอย่างนี้ก็ได้
"มันเป็นอยู่กับกิเลสบังคับจิตใจ" ไม่ให้หมุนไปทางธรรมให้หมุนไปทางกิเลสไปเสีย มันก็สร้างแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้ทั้งตนเองและผู้อื่นนั้นแล พากันจำเอานะ .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=3587&CatID=2 -
เวลาขึ้นไปบนพระนิพพาน ต้องใช้กำลังของฌานสี่หรือเปล่าครับ ?
ถาม : เวลาขึ้นไปบนพระนิพพาน ต้องใช้กำลังของฌานสี่หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าไปได้นี่เป็นกำลังของฌานสี่
ถาม : ผมคิดว่าไปได้ แต่ยังรู้สึกว่าเชื่อมกับร่างกาย ?
ตอบ : เรื่องนี้ต้องบอกว่าเป็นหลักวิชาพิเศษ ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านขอกับพระพุทธเจ้าไว้ ว่าขอให้คนอื่นสามารถสอบถามได้ ไม่อย่างนั้นแล้วพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง ในเมื่อคนอื่นสามารถสอบถามได้ ก็จะต้องมีส่วนหนึ่งที่โดนบังคับให้โยงกับร่างกายอยู่
คราวนี้เราจะใช้ประโยชน์จากฌาน ๔ ตรงนี้อย่างไร ? ก็มีอยู่ ๒ อย่าง อย่างแรกก็คือขึ้นไปอยู่ยาว ๆ เลย เพราะว่าช่วงนั้นจิตจะสะอาด ปราศจาก รัก โลภ โกรธ หลง ถ้าเคยชินก็ไปได้เลย อีกอย่างหนึ่งก็คือ ตอนนั้นสภาพจิตของเราละ รัก โลภ โกรธ หลง ได้ลักษณะไหน พอลงมาเราก็พยายามทำให้ได้ในลักษณะอย่างนั้น ก็คือเราทรงสมาธิในระดับไหนแล้ว รัก โลภ โกรธ หลง เกิดขึ้นไม่ได้ เราก็ทรงแบบนั้น แล้วพยายามทำให้ได้แบบนั้น
ถ้าเกิดขึ้นมาก็ให้เห็นว่าเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน สภาพร่างกายเราก็เป็นเช่นนี้ คนอื่นก็เป็นเช่นนี้ สัตว์อื่นก็เป็นเช่นนี้ ท้ายสุดก็ไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายได้ ต่างคนต่างตาย... -
นึกถึงภาพพระเป็นพุทธานุสติที่ทำได้ง่ายและมีอานิสงส์ใหญ่
การที่อาตมภาพสร้างพระพุทธรูปทองคำก็ดี พระพุทธรูปนาก พระพุทธรูปเงินก็ตาม หลายท่านตำหนิว่าอวดร่ำอวดรวย ทำให้ญาติโยมยึดติด ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าท่านมีความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริงแล้ว ก็จะไม่พูดอย่างนั้น เนื่องจากว่าท่านยังไม่เข้าใจในสิ่งที่โบราณาจารย์ท่านสอนมา จึงมีการกล่าวตำหนิติโทษกันขึ้น
ซึ่งเรื่องของการสร้างพระพุทธรูปนั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะถือว่าเป็นพุทธานุสติ คือการระลึกถึงคุณงามความดีขององค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ขณะเดียวกันอานิสงส์ที่จะพึงได้ในส่วนอื่น ก็ดังที่มีในพระบาลีได้กล่าวไว้ว่า พุทโธ อัปปมาโณ คุณของพระพุทธเจ้านั้นประมาณไม่ได้
โบราณาจารย์ของเรานั้นท่านมีความฉลาดมาก การที่เราจะมานั่งระลึกถึงคุณงามความดีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยส่วนเดียว บางทีก็เป็นสิ่งที่เลื่อนลอย เกาะติดได้ยาก จึงได้มีการสร้างพระพุทธนิมิต ก็คือพระพุทธรูปขึ้นมา เป็นรูปเปรียบว่านี่คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อถึงเวลาระลึกถึงพระองค์ท่าน เห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เรียกกันว่าพระพุทธรูป ก็จะระลึกถึงได้โดยง่าย เพราะว่ามีภาพที่เป็นของหยาบ... -
"ชีวิตเป็นของน้อย" (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร)
.
"ชีวิตเป็นของน้อย"
" .. จิตผู้ใดรู้ได้ เข้าใจตามโอวาทของพระพุทธเจ้าคำว่า "ชีวิตเป็นของน้อย" ก็จะตั้งใจภาวนาเต็มที่ "เพราะเราไม่รู้ว่าวันตายจะมาถึงเราเวลาใด" รู้ได้แต่วันเกิด เมื่อเรารู้วันเกิด ไม่รู้วันตาย ไฉนจะมาประมาทอยู่เล่า
สิ่งอื่นไม่สำคัญ "สำคัญที่กาย วาจา จิตของเรา" ต้องตั้งอยู่ในทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมบารมี "เป็นการฝึกฝนให้บุญกุศลเกิดขึ้น" ระวังรักษาไม่ให้บาปมาเกาะอยู่ .. "
"หลวงปู่สอนว่า"
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร -
บารมีอ่อนมากจนถึงอ่อนที่สุด
ถาม : ผมปรารถนาพระโพธิญาณ แต่ผมไม่ได้เร่งความเพียรเพื่อจะทรงฌานและอภิญญา เพราะพอใจกับความดีที่มีอยู่ตอนนี้ และรู้สึกว่าเวลายังมีอีกเยอะ แปลว่าผมไม่ได้มาสายพุทธภูมิใช่หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : แปลว่าบารมีอ่อนมากจนถึงอ่อนที่สุด..!
ถาม : เท่าที่ผมสังเกต พระโพธิสัตว์ท่านจะเกิดมา ท่านต้องมีภารกิจอะไรสักอย่าง ยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุด คือหลวงปู่ปาน กับหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านเกิดมาเพื่อมาบำเพ็ญด้านเนกขัมมะ ผมสงสัยว่าพระโพธิสัตว์จะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองเกิดมาเพื่อภารกิจอะไร หรือว่าตัวเราเองที่เป็นคนกำหนดทั้งหมดครับ ?
ตอบ : ตอนแรกก็ทำเปะปะไปเรื่อย เมื่อบารมีเข้มข้นถึงระดับก็จะทราบชัดว่าตนเองมาเพื่อภารกิจอะไร
ถาม : หลวงพ่อเล่าเรื่องที่หลวงพ่อโดนมารที่เป็นเทวดาแกล้ง ทำให้ผมนึกถึงสมัยพุทธกาล แม้แต่พระอรหันต์รุ่นใหญ่ ๆ ยังโดนมารแกล้ง ผมอยากทราบจริง ๆ ครับว่า ที่มารมาแกล้งได้ มารไม่กลัวบาปหรือครับ เพราะผมเข้าใจว่ามารส่วนใหญ่ไม่น่าจะโง่ มารน่าจะรู้ผลลัพธ์ที่ตามมา
ตอบ : เพราะว่ามารฉลาดกว่าคุณ จึงไม่เสียเวลามาคิดตรงนี้..!
ถาม : ผมได้อธิบายว่ากรรมคืออะไรให้กับเพื่อนฝรั่งฟัง ผมอธิบายว่ากรรมก็คือพลังงาน... -
"บัณฑิตจะเพ่งโทษตนเอง" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
"บัณฑิตจะเพ่งโทษตนเอง"
" .. "การเพ่งโทษตนเอง เป็นการฝึกตนที่ได้ผลจริง" บัณฑิตไม่มีความเพ่งโทษผู้อื่น "บัณฑิตจะเพ่งโทษตนเอง" การเพ่งโทษตนเองนั้นเป็นการฝึกตนเองอย่างหนึ่งที่จักเกิดผลจริง
"การเพ่งโทษผู้อื่นเป็นวิสัยของผู้ไม่ใช่บัณฑิต" ผู้ที่เพ่งแต่โทษผู้อื่น ไม่เพ่งโทษตนเอง ย่อมไม่เห็นโทษของตนเอง ย่อมไม่เห็นความบกพร่องที่จะต้องแก้ไขให้ดีขึ้น ย่อมไม่รู้ว่ามีโทษเพียงไรในแง่ใด ไม่มีโอกาสจะแก้ไขตนเอง แต่จะมุ่งไปแก้ผู้อื่น ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์แก่ตนอย่างใด
"ผู้อื่นนั้นไม่ใช่ว่าจะยอมให้แก้" เพราะถ้าเป็นผู้อื่นที่เป็นบัณฑิต ก็ย่อมแก้ตนเองอยู่แล้ว ฝึกตนเองอยู่แล้ว ส่วนผู้ที่ไม่เป็นบัณฑิตก็ย่อมไม่สนใจที่จะแก้ตนเองฝึกตนเองอยู่แล้ว ผู้อื่นจะไปแก้จึงเป็นไปได้ยาก .. "
"การให้ธรรม ชนะการให้ทั้งปวง"
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร -
ถ้าจะพิจารณาปฏิจจสมุปบาท ต้องพิจารณาโพธิปักขิยธรรมด้วยหรือเปล่าครับ ?
ถาม : ถ้าจะพิจารณาปฏิจจสมุปบาท ต้องพิจารณาโพธิปักขิยธรรมด้วยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วปฏิจจสมุปบาทเป็นหลักธรรมขั้นสูง ถ้าเข้าไม่ถึงความเป็นพระอริยเจ้าสักระดับหนึ่ง โอกาสที่จะเห็นได้ชัดจะมีน้อยมาก ฉะนั้น..ถ้าจะพิจารณาก็ได้ แต่จะไม่ค่อยได้อะไร ยกเว้นเรามีพื้นฐานอย่างเป็นพระโสดาบันขึ้นไป คราวนี้จะเข้าใจชัดขึ้น
ถ้าผมบอกว่าปฏิจจสมุปบาทเป็นคุณสมบัติของพระอนาคามี เดี๋ยวคนเขาจะรับกันไม่ได้ เพราะว่าสูงเกินไป เห็นคนทั่วไปเขานิยมพิจารณากัน ถ้าปัญญาเข้าไม่ถึงระดับก็ได้แค่ผิวเผิน พวกเราทั่วไปพิจารณาไตรลักษณ์ง่ายที่สุด จะเห็นชัดและยอมรับได้ง่าย
ถาม : ถ้ามีโยมมาถามเรื่องปฏิจจสมุปบาท ?
ตอบ : อธิบายไปตามที่เราเข้าใจ ถ้าเราเข้าใจน้อย โยมก็ไม่ได้อะไร ฉะนั้น..แนะนำให้เขาในเรื่องอื่นดีกว่า เพราะว่าเป็นเรื่องของพระอริยเจ้า ว่ากันยากหน่อย
หลักธรรมของพระพุทธเจ้านั้น พระองค์ท่านเทศน์เฉพาะคน เฉพาะสถานที่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องเทศน์ถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ บางอย่างไม่ได้เหมาะสำหรับคนทั่วไป พระองค์ท่านเทศน์ให้เหมาะกับอุปนิสัยของผู้รับฟังตรงนั้น ในเมื่อได้สิ่งที่ตรงกับบุญเก่า... -
"เรื่องกามกิเลส" (หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท)
.
"เรื่องกามกิเลส"
" .. "กิเลสตัวนี้สำคัญมาก" สำหรับพระใกล้ชิดท่านจริง ๆ ท่านจะสอนเน้นเรื่องนี้ตลอด "ก็คือเรื่องกามกิเลส" ต้นเหตุแห่งกามกิเลส ต้นตอมันอยู่ไหน "ท่านก็ให้พิจารณาตรงนั้น อย่าอ้อมค้อม ให้ตีให้แตกด้วยอริยสัจ"
อย่างอื่นท่านก็สอนแต่ไม่เน้นเท่ากับ "เรื่องกามกิเลส ชนะอันนี้ ชนะได้หมด" ท่านว่า "ไม่ชนะอันนี้อย่ามาคุย คุยได้ก็ไมรู้เรื่อง" นี้แหละคือ "สุดยอดแห่งกรรมฐาน" มนุษย์สร้างภพสร้างชาติก็เพราะตัวนี้แหละ "ไม่พิจารณาตัวนี้ จะพิจารณาอะไร"
ท่านก็ยกเรื่องท่านอาจารย์มหาบัว มาเล่าประกอบว่า เคยสนทนากับท่านอาจารย์มหา(บัว) สรปความได้ว่า "ถ้าพระกรรมฐานคุยกันเรื่องภาวนา ถ้ายังละกามฉันทะไม่ได้" ไม่ต้องมาคุยกัน .."
"พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง"
หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท -
ธรรมนิทรา แก้ปัญหานอนไม่หลับ
ธรรมนิทรา แก้ปัญหานอนไม่หลับ
Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/duenjitpage/ Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/duenjitfound... Youtube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/duenjit Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/duen_jit/ LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://line.me/ti/g2/SStK5q9sZl2eM77... LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ #คลายเครียด #ธรรมะ #นอนไม่หลับ -
เป็นออทิสติก คือ ผลของกรรมเก่า
ถาม : ลูกชายเหมือนเป็นออทิสติก เป็นกฎของกรรม โยมเป็นแม่ จะช่วยเขาอย่างไรคะ ?
ตอบ : ดูแลเขาให้ดีที่สุดจ้ะ บางทีคนออทิสติกก็มีอัจฉริยภาพบางอย่างเหนือกว่าคนทั่วไป เราดูว่าเขาถนัดทางด้านไหน แล้วให้เขาศึกษาทางด้านนั้น เขาจะทำได้ดีมากเลย ลองให้หมอลองทดสอบดูก่อนว่าเขาถนัดทางด้านไหน
ออทิสติกจะมีแค่การรับรู้หรือการอยู่ร่วมกับคนอื่นที่ลำบากเท่านั้น แต่การเรียนของเขาบางด้านจะเป็นอัจฉริยะเลย
ถาม : ตัวนี้จะติดไปตลอดชีวิตหรือว่าจะเบาบางลง ?
ตอบ : จะมีพัฒนาการของเขาอยู่ ถ้าพัฒนาถูกทางก็จะเบาบางลงได้
ถาม : กรรมตัวนี้ เขาต้องรับไว้ทั้งชีวิตเลยหรือคะ ?
ตอบ : อาจจะหลายชาติด้วยซ้ำไป ถ้ามีโอกาสก็ให้เขาทำบุญ อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรบ่อย ๆ ขอให้อโหสิกรรมให้เขาด้วย
ถาม : แล้วเขาจะมีโอกาสที่เขาจะนิพพานในชาตินี้บ้างไหมคะ ?
ตอบ : ต้องดูว่าเขาจะมีความเข้าใจและตัดสินใจในการปฏิบัติได้หรือไม่ ? ถ้าหากสามารถที่จะเข้าใจธรรมะ ตัดสินใจได้ ก็มีโอกาสจ้ะ
ถาม : สอนลูกอย่างไรให้ได้สติทีละน้อย ?
ตอบ : ทำตัวเองให้เป็นตัวอย่าง อยากให้เขาทำสมาธิ เราก็ต้องนั่งสมาธิให้เขาดู อยากให้เขาทำบุญ เราก็ต้องพาไป... -
"อานิสงส์ของการเดินจงกรม" (หลวงปู่ขาว อนาลโย)
.
"อานิสงส์ของการเดินจงกรม" มี ..
(๑) เดินทางบ่มีเจ็บแข้งเจ็บขา
(๒) ทำให้อาหารย่อย
(๓) ทำให้เลือดลมเดินสะดวก
(๔) เวลาเดินจงกรมไป ๆ มา ๆ จิตจะลงเป็นสมาธิได้ "ถ้ามันรวมลงเวลาเดินจงกรมได้ สมาธิของผู้นั้นไม่เสื่อม"
(5) เทพยดาถือพานดอกไม้มา สาธุ ๆ มาอนุโมทนา
"นี่เป็นอานิสงส์ของการเดินจงกรม" บางวันเมื่อครั้งอยู่กุฏิเก่า ตรงข้างเจดีย์ อาตมาเดินจงกรม มันหอม ๆ หมด ทั่วหมด หอมอิหยังนี่มันไม่เหมือนดอกไม้บ้านเรา "มันแม่นเทพยดามาอนุโมทนา" ถือพานดอกไม้มาอนุโมทนา
"เรื่องเดินนี่มันเรื่องหัดสติ" จะใช้นึกพุทโธไปพร้อมกันกับเท้า ที่ก้าวไปก็ได้ ยังไงก็ได้ "อย่าให้จิตมันออกไปเกี่ยวข้องกับอารมณ์ ทั้งอดีตและอนาคต" ให้อยู่ที่จิตเท่านั้น
"อาตมากำหนดพุทโธ ๆ อยู่ที่จิต เท้าก็เดินไป กำหนดอยู่ที่จิต" ไม่ให้เกี่ยวข้องกับอารมณ์ใด ๆ ส่วนทางเดินจงกรม ก็ไม่เลือกทิศเลือกทาง ได้หมด แล้วแต่มันจำเป็น ในที่เหมาะสม เดินไปเพื่อแก้ทุกข์เวทนา
ท่านอาจารย์มั่น "ท่านว่าให้เดินตัดกระแสของโลก จากทิศตะวันออกไปตะวันตก ท่านว่าตัดกระแสของสมุทัย" ให้ตัดกระแส แต่ถ้ามันจำเป็น มันยังไม่มีบ่อนที่เหมาะสม ก็ไม่เป็นไร... -
"เจ้าพ่อกับพระธุดงค์" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
.
"เจ้าพ่อกับพระธุดงค์"
" .. เดิมทีศาลเจ้าอำเภอเถินนั้นดุมาก "ต้องกินควายปีละ ๑ ตัว ชาวบ้านจะฆ่าควายปีละ ๑ ตัว" เพื่อทำพิธีบวงสรวงต่อเจ้าพ่อ "ขอให้คุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข ทำมาหากิน สะดวกและขอหวย ขอเบอร์ด้วย" ศาลเจ้านั้นใหญ่โตมากทำด้วยไม้ทั้งหลัง มีไม้เสาเป็นไม้แดงไม้ประดู่ต้นใหญ่ ๆ ทั้งนั้น ในพิธีก็มีคนประทับทรงเจ้าพ่อเหมือนกัน เจ้าพ่อได้บอกว่า ..
"ต่อไปนี้ เจ้าพ่อจะไปจำศีลอยู่ที่ภูเขา อินทรโขงแล้ว อย่าได้ทำการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต มาเช่นสรวงเจ้าพ่ออีก ไม่ดีมันบาป" ชาวบ้านก็ว่า "อ้าว .. ทำไมว่าอย่างนั้น"
เจ้าพ่อก็บอกว่า "อ้าว .. เจ้าพ่อได้ยิน พระธุดงค์มาแสดงธรรมอยู่ที่ป่าช้า" เจ้าพ่อก็ไปฟังเหมือนกัน "ก่อนนี้พระที่วัดเจ้าคณะอำเภอไม่เคยเทศน์อย่างนี้ ว่าบาป" แต่พระธุดงค์กรรมฐานได้มาเทศน์สอนชาวบ้านว่า "ไม่สมควรเป็นบาปมาก เจ้าพ่อพึงเข้าใจ ด้งนั้นพวกลูกหลานขออย่าได้ทำบาปเช่นนั้นอีก"
ต่อมาศาลเจ้านั้นก็ร้าง "พวกเจ้าหน้าที่ วัดป่าก็ได้ไปขอเอาศาลเจ้านั้นรื้อมาทำศาลาวัดได้หนึ่งหลัง" อาตมากลับขึ้นไปที่นั่นได้ เห็นศาลาใหม่ ชาวบ้านจึงได้เล่าให้ฟังถึงได้รู้เรื่องว่า "ศาลานี้เกิดจากเจ้าพ่อนั้น"...
หน้า 128 ของ 403