คลังเรื่องเด่น
-
การด่าว่าผู้อื่น จิตต้องประกอบด้วยโทสะ โมหะ ลงนรกได้ง่าย ๆ เลย
พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้พระพุทธศาสนาของเราค่อนข้างจะสั่นคลอน เพราะว่าสื่อสังคมต่าง ๆ ทำให้ข่าวไปถึงได้เร็วแล้วก็ง่าย แต่การรับข่าวของพวกเราก็ควรที่จะรับอย่างมีสติ คำว่ามีสติในที่นี้ก็คือ อย่าไปใส่อารมณ์ตามเนื้อข่าว ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่เป็นจริงก็ตาม ถ้าเราไปใส่อารมณ์ตามเนื้อข่าวเมื่อไร โอกาสที่เราจะขาดทุนมีสูงมาก
โดยเฉพาะบรรดาท่านทั้งหลายที่ไปลงความเห็นในลักษณะของการตำหนิติเตียนหรือด่าว่าพระสงฆ์ การที่เราตำหนิติเตียนหรือด่าว่าพระสงฆ์ ท่านยิ่งบริสุทธิ์เท่าไร โทษก็ยิ่งหนักเท่านั้น
ถ้าหากว่าจะดูตัวอย่างในพระธรรมบท ซึ่งเศรษฐีไปด่าพระที่ต้องอาบัติปาราชิก ขาดความเป็นพระไปแล้ว ปรากฏว่าเศรษฐีต้องไปเกิดเป็นเปรตอยู่ในหลุมขี้ ก็เพราะว่าคนอื่นทำผิดทำชั่วก็จริง แต่พอเราไปด่าว่า เราก็ทำชั่วไปด้วย ก็คือทำชั่วด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจนั่นเอง การไปจ้องจับผิดผู้อื่นเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำอยู่แล้ว การด่าว่าจิตก็ต้องประกอบไปด้วยโทสะ โมหะ
ดังนั้น...เมื่อตายไปเศรษฐีก็เลยกลายเป็นเปรต เหมือนอย่างกับว่าคนอื่นหาทางลงอบายภูมิ เราเห็นเข้าเราก็โดดตามลงไปด้วย ทั้ง ๆ ที่ตัวเราไม่จำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้น... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๗ -
"การภาวนา ไม่ใช่เป็นของหนัก" (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร)
.
"การภาวนา ไม่ใช่เป็นของหนัก"
" .. "การภาวนา ไม่ใช่เป็นของหนัก เหมือนแบกไม้หามเสา" เป็นของเบาที่สุด นึกภาวนาบทใดข้อใด ก็ให้เข้าถึงจิตถึงใจ "จนจิตใจผ่องใสสะอาดตั้งมั่นเที่ยงตรงคงที่อยู่ ภายในจิตใจของตน ใจก็สบาย" นั่งก็สบาย นอนก็สบาย ยืนไปมาที่ไหนก็สบายทั้งนั้น ในตัวคนเรานี้ "เมื่อจิตใจสบาย กายก็พลอยสบายไปด้วย อะไร ๆ ทุกอย่างมันก็สบายไป มันแล้วแต่จิตใจ" .. "
(หลวงปู่สิม พุทธาจาโร) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๗ -
พุทธวิธีเจริญอานาปานสติควบอสุภกรรมฐาน | อสุภสูตร
พุทธวิธีเจริญอานาปานสติควบอสุภกรรมฐาน | อสุภสูตร
------------------------
ที่มา https://www.youtube.com/@Uttayarndham -
ทำไมตอนทำบุญควรอธิษฐานทุกครั้ง
ทำไมตอนทำบุญควรอธิษฐานทุกครั้ง
ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ การทำบุญทุกอย่าง แต่ไม่ได้ปรารถนาอะไรเลย จะได้ไหมคะ ?
หลวงพ่อ : ได้โยม...ทำไมจะไม่ได้ คือถ้าไม่ตั้งมโนปณิธานปรารถนา บุญมันก็ต้องเป็นบุญ แต่ว่าอานิสงส์เบื้องปลายมันไม่เหมือนกัน
ผู้ถาม : เป็นไงคะ
หลวงพ่อ : การปรารถนา จัดเป็นอธิษฐานบารมีนะ ตั้งใจว่าการทำบุญอย่างนี้เพื่ออะไร อย่างนี้ไม่ปรารถนาพุทธภูมิ ไม่ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ไม่ปรารถนาเป็นอัครสาวก แต่ปรารถนาเป็นการหมดกิเลส ก็ชื่อว่ายังปรารถนาอยู่
ผู้ถาม : ถ้าหากว่า ทำเฉย ๆ เล่าคะ ?
หลวงพ่อ : ถ้าหากว่าทำเฉย ๆ ไม่ปรารถนาอะไรเลย ตัวอย่างก็มีท่าน อาฬวีเศรษฐี จะฟังนิทานไหม ฉันจะเล่าให้ฟัง
ผู้ถาม : ฟังค่ะ...
หลวงพ่อ : จะให้เท่าไหร่ล่ะ..
ผู้ถาม : (หัวเราะ)
หลวงพ่อ : คือว่า ท่านอาฬวีเศรษฐี พ่อท่านเป็นมหาเศรษฐี พอพ่อท่านตายลง ท่านก็เป็นเศรษฐีแทน เศรษฐีสมัยนั้นพระราชาต้องแต่งตั้ง แล้วต่อมาพวกขี้เมาก็ชวนกินเหล้าเมายา ในที่สุดทรัพย์สินก็หมดไป จนกระทั่งกลายเป็นขอทาน
วันหนึ่ง พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์เสด็จไปที่เมืองอาฬวี เห็นอาฬวีเศรษฐี นั่งขอทานอยู่ข้างฝาเรือนชาวบ้าน... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๗ -
พรหลวงพ่อ
พรหลวงพ่อ
สำหรับวันนี้ ขอให้ตั้งใจรับพรนะ ขอให้พรคนที่นี่ทั้งหมด คนที่อยู่บ้านทั้งหมด คนที่ยังไม่เกิดทั้งหมด ที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
และ "ถ้าเป็นเครือที่เป็นเผ่าพันธุ์มาแล้วตั้งแต่อดีต" ขอให้มีผลตามพุทธประสงค์ทุกคน
เวลาว่างๆ นั่งนึกก็ได้ เดินไปก็ได้ ไม่ห้ามเลยนะ ให้มัน(คาถาเงินล้าน) ติดใจอยู่อย่างนั้น ให้ถือว่าเป็นกรรมฐานไปในตัวเสร็จ เพราะคาถาที่พระพุทธเจ้าบอกทุกบท
=AZXmYYhmm5gJC_68XkiRMBOAYOvvD2Ghg5tgaCHm5B7m7hpP1FytmVOC8JQ-rQJ_cPWu5raxFT9iWEPEd68jC_OrrYIw7xMhIuWqc7Db-6qdikV_-rOGVuJcZSP7Mopou5cte172n7epJjpwa2d0jzZ6cXQ3OVC72-hJYut9iBs7UIjkMtDYEFKXNY4sF_FUME4']ก่อนจะทำต้องนึกถึงท่าน ถือว่าเป็น พุทธานุสสติ
จึงขอให้ทุกคน ถ้าได้รับคาถาเงินล้านนี้ไป =AZXmYYhmm5gJC_68XkiRMBOAYOvvD2Ghg5tgaCHm5B7m7hpP1FytmVOC8JQ-rQJ_cPWu5raxFT9iWEPEd68jC_OrrYIw7xMhIuWqc7Db-6qdikV_-rOGVuJcZSP7Mopou5cte172n7epJjpwa2d0jzZ6cXQ3OVC72-hJYut9iBs7UIjkMtDYEFKXNY4sF_FUME4']ให้ตั้งใจปฏิบัติด้วยความจริงใจ... -
"มิเตพาหุหะติ" เป็นคาถาเงินล้าน และ คาถามหาอำนาจ ของพระพุทธกัสสป
"มิเตพาหุหะติ" เป็นคาถาเงินล้าน และ คาถามหาอำนาจ ของพระพุทธกัสสป
ตอนกลางคืนฝึกพระปฏิบัติกรรมฐานมียักษ์ตนหนึ่งมาหาแล้วแจ้งว่า
"ท้าวเวสสุวัณ" ได้ให้นำคาถาบทหนึ่งมาให้
คาถาบทนี้เป็นคาถาของ "พระพุทธกัสสปพุทธเจ้า" เป็นคาถามหาอำนาจ ภาวนาหรือสวดมนต์ไว้ทุกวันจะมีอำนาจ เหตุร้ายจะไม่เกิดขึ้น
และเป็นคาถามหาลาภ ภาวนาตลอดไป โดยเอานำคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้ามาต่อ ว่าดังนี้
มิเตพาหุหะติ
พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย ฯลฯ
อย่างนี้เป็นปกติ ท่านว่าเงินล้านจะเข้ามาสู่สำนัก เวลาไปหาเงินเจ้าของเงินทั้งรักทั้งเกรงใจ
พ่อขออนุญาตท่านให้ลูก ท่านก็อนุญาต บอก...มันด้วย เพราะปกครองคนมากต้องหากิน ถ้าพี่แสวง และคนอื่นที่พอใจก็ให้ได้ แต่ขอให้จุดธูปบอกท่าน "ท้าวเวสสุวัณ" และท่านพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า "พระพุทธกัสสป" เสียก่อน
ทำจริงได้ผลจริง ทำเล่นๆ ได้ผลเล่นๆ สักแต่ว่าทำ ไม่ได้ผลเลย
ท่านพระพุทธบิดาพุทธกัสสป ท่านห่วงจึงให้คาถาป้องกัน และเป็นคาถาหาเงินด้วย ลูกภาวนาไว้คู่กับ คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า ตามที่พ่อเขียนมาอย่าให้ขาด จะเกิดผลสบายใจ จะปลูกบ้านได้ตามที่คิดไว้ ค่อยๆทำไปให้สบาย
อย่าเร่งรัด อย่าคิดรวย... -
"เจตนางดเว้นเป็นศีล" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
.
"เจตนางดเว้นเป็นศีล"
" .. พระพุทธองค์ตรัสว่า "เจตนาความงดเว้นเป็นศีล เจตนานับว่าเป็นธรรมโดยแท้ เมื่อเจตนาคือธรรม งดเว้นซึ่งโทษนั้น ๆ แล้วกลายมาเป็นศีล" ศีลและธรรมจะแยกออกจากกันไม่ได้
"ผู้ชอบธรรม คือสมถะและวิปัสสนา เห็นว่าเป็นทางตรงต่อมรรคผลนิพพาน ศีลยังเป็นอาการภายนอก" แล้วสรรเอาแต่เฉพาะธรรมมาปฏิบัติ "เลยลืมนึกถึงการปฏิบัตินั้นก็เป็นศีลอยู่แล้ว"
"หรือผู้ชอบศีลเห็นว่า ธรรมเป็นของปฏิบัติยาก แล้วตั้งใจรักษาเอาแต่ศีลอย่างเดียว" เลยลืมคิดว่า "การมีเจตนางดเว้นจากโทษนั้น ๆ ก็คือธรรมนั่นเอง จิตที่แน่วแน่อยู่ในศีลนั้นเป็นสมาธิมิใช่หรือ"
พระพุทธเจ้าทรงวางธรรมเป็นอมตะไว้เป็นอย่างดีเลิศ ธรรมนั้น ๆ อันใคร ๆ ผู้ไม่หยั่งถึงธรรมของพระพุทธองค์ "ไม่ควรจะไปบัญญัติขึ้นมาใหม่ให้ถูกต้องตามกิเลสของตนเลย มันจะเป็นการทำลายพระพุทธศาสนาโดยไม่รู้ตัว" .. "
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๗ -
อิณา ทานัง ทุกขัง โลเก การเป็นหนี้เป็นทุกข์ในโลก
มารเขาส่งเครื่องมือมาเยอะขึ้น ๆ หลอกให้เรายึดติดอยู่กับโลก เราก็อย่าไปยึดติดตามเขา โดยเฉพาะที่อยากเตือนไว้ก็คือสินค้าเงินผ่อน อาตมาเห็นความจำเป็นอย่างเดียวคือบ้าน เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัย ๔ ใครจะผ่อนก็ผ่อนเถอะ แต่ถ้าไม่ใช่ที่อยู่อาศัยที่เป็นบ้านเป็นคอนโดฯ หลังแรกแล้ว ส่วนที่เหลือถือว่าเกินความจำเป็นทั้งหมด
ถ้าเราไม่ไหลตามกระแสไป เราก็ไม่จำเป็นต้องตะเกียกตะกายดิ้นรนหาเงินให้มากมายมหาศาล จนเหนื่อยแทบจะล้มประดาตาย เพื่อมาสนองกิเลสตัวเอง อาตมาก็ยังใช้โทรศัพท์เครื่องละ ๗๙๐ บาท สบายใจ...ทิ้งไว้ตรงไหนก็ไม่มีใครเอา ไม่ต้องกลัวหาย ไม่เหมือน iPhone ไม่เหมือน iPad ไม่เหมือน MacBook ทิ้งไว้ตรงไหนก็หายตรงนั้น ของอาตมาทิ้งไว้ตรงนั้น บางทีมีคนเอาเงินมาวางแล้วเอาโทรศัพท์ทับเอาไว้ เพื่อให้ไปซื้อเครื่องใหม่ คงสงสารว่าไม่มีสตางค์ซื้อ iPhone กับเขาหรือหรืออย่างไร ?
เทคโนโลยีเป็นสิ่งจำเป็น ความเจริญของโลกเป็นสิ่งจำเป็น แต่อย่าให้เขาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเรา เพราะว่าเขาจะจูงจมูกเรา เราไม่ใช่วัวไม่ใช่ควาย ที่จะให้เขาเจาะจมูกร้อยห่วงแล้วเอาเชือกผูกจูงไป เราเป็นคนมีปัญญา อย่าทำให้ตนเองเดือดร้อน... -
"การภาวนา คือวิธีอ่านตัวเรา" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
.
"การภาวนา คือวิธีอ่านตัวเรา"
" .. "การภาวนา คือวิธีอ่านตัวเรา ให้รู้ความผิด ถูก ชั่ว ดี ได้อย่างถูกต้อง" ยิ่งกว่าผู้อื่นจะมาคอยชี้แจงความบกพร่อง ของเราให้เราทราบเสียอีก "ในขณะเดียวกันก็เป็นวิธีกำจัด หรือลดละความผิดของตัวที่เคยมีมาและปิดกั้นสิ่งไม่ดีทั้งหลาย มิให้เกิดขึ้นอีกต่อไปด้วย" ..
การไม่หัดอ่านตัวเองทำให้เกิดเรื่องยุ่งบ่อย ๆ
.. การภาวนานี้แล "เป็นวิธีการของผู้แสวงหาความสุข โดยถูกต้องอย่างแท้จริง" และเป็นวิธีที่ไม่หลอกลวงให้เกิด ความฟ้งเฟ้อเห่อเหิมไปในทางที่ผิด .. "
"ธรรมชาวบ้าน"
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๗ -
ถูกน้ำมันพราย
ถูกน้ำมันพราย
ผู้ถาม : กราบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่าอย่างนี้ขอรับ คุณแม่ของเด็กนักเรียนที่ลูกสอนอยู่ปัจจุบันนี้ หลงถูกน้ำมันพรายมา 30 กว่าปี
ครั้งแรกผมก็ใช้น้ำมนต์ของหลวงพ่อเอาไปทามันก็บรรเทาลงไปดีมากแต่ยังไม่หายขาด มีโอกาสไปที่วัดหลวงพ่อก็ได้สงเคราะห์ ก็ดีขึ้นเยอะ
ทีนี้กลับมาถึงบ้านผมเลยเอาธูปเป่ายันต์เกราะเพชรลองจี้ (ไม่ได้จุด) เอาธูปจี้ก็ปรากฏว่าเนื้อตรงนั้นเต้นผางๆ แล้วมีน้ำมันไหลออกมาอีก แต่ว่ายังไม่หายสนิทดี
ที่จะเรียนถามก็คือว่ามีคำแนะนำเพิ่มเติมอย่างไรหรือไม่ ขอกราบขอบพระคุณล่วงหน้าอย่างสูงขอรับ
หลวงพ่อ : ทำตามนั้นเรื่อยๆ นะ เพราะเขาทำได้ผลแล้วนะ แต่อย่าลืมว่าคนกินน้ำมันพรายนี้กินน้ำมันอื่นไม่ได้นะ
ถ้ากินน้ำมันหมู กินน้ำมันต่างๆ เข้าไปมันจะเพิ่ม
ผู้ถาม : อย่างนั้นคนถูกประเภทนี้ห้ามกินน้ำมันเลยนะครับ
หลวงพ่อ : ใช่ๆๆ ประเภทน้ำมันนะ เอางี้ก็แล้วกันกินเจเลย แต่เจปลาได้นะ เจเนื้อได้ เจน้ำมันหมูไม่ได้
(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 119 เดือนมกราคม 2534 หน้า 21) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๗ -
ฮือฮา สามเณร สอบผ่านเปรียญ9 สำเร็จ ทำสถิติอายุน้อยที่สุด ในประวัติศาสตร์
ฮือฮา สามเณรอายุ 17 ปี สอบผ่านเปรียญ 9 สำเร็จ ทำสถิติอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์วงการการศึกษาภาษาบาลีของคณะสงฆ์ไทย
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2567 ที่วัดสามพระยา กองบาลีสนามหลวง ประกาศผลสอบบาลีสนามหลวง ประจำปี 2567 ในชั้นเปรียญเอก ได้แก่ ประโยค ป.ธ.9 สอบผ่าน 76 รูป ประโยค ป.ธ.8 สอบผ่าน 165 รูป และประโยค ป.ธ.7 สอบผ่าน 226 รูป
สำนักเรียนที่มีผู้สอบผ่านในรับเปรียญ 9 มากที่สุดได้แก่สำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม มีพระภิกษุและสามเณรสอบได้มากที่สุดรวม 25 รูป
ในจำนวนนี้มีสามเณรภานุวัฒน์ กองทุ่งมน อายุ 17 ปี สอบผ่านได้ด้วย นับเป็นสามเณรอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลีชั้นสูงสุด
สามเณรภานุวัฒน์ เกิดที่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา บวชตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ที่สำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม กรุงเทพฯ อายุ 10 ขวบ สอบไล่ได้ประโยค 1-2 อายุ 11 ขวบ สอบไล่ได้ประโยค 3 อายุ 12 ปี สอบไล่ได้ประโยค 4 อายุ 13 ปี สอบไล่ได้ประโยค 5 อายุ 14 ปี สอบไล่ได้ประโยค 6 พ.ศ.2565 ก็สอบไล่ได้ประโยค 7 พ.ศ.2566 อายุ 16 ปี สอบไล่ได้ประโยค 8
ด้านพระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ ปิยสีโล)... -
ข่าวชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน (พระอาจารย์เล็ก) เดือนเมษายน ๒๕๖๗
ชุมชนคุณธรรมออนไลน์ Palungjit.org
เครือข่ายชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
ขอรวบรวมข่าวกิจกรรมการดำเนินงานของ
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (พระอาจารย์เล็ก)
เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เพื่อให้ทุกท่านได้โมทนาบุญในการทำงานของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
และเพื่อให้ทุกท่านได้ศึกษารูปแบบการดำเนินงานของพระอาจารย์
ซึ่งท่านเป็นต้นแบบการทำงานของ ชุมชนคุณธรรมออนไลน์ Palungjit.org
ข่าวการดำเนินงาน เดือนเมษายน ๒๕๖๗ -
"นักภาวนาที่แท้จริง" (หลวงปู่ลี กุสลธโร)
.
"นักภาวนาที่แท้จริง"
" .. เฮ็ดจังใด๋มันสิสงบเฮ็ด
ลงไปแล้ว "ความสงบมันเป็น
ความสุข ขั่นบ่เห็นความสงบ
ซะก่อนล่ะ มันบ่เห็นธรรมดอก"
เข้าสงบ "บริกรรมพุทโธ ๆ ให้มัน
ถี่เข้า" เรื่องอารมณ์ทางอื่นบ่มีดอก
คือมันสงบแล้วมันบ่คิดไป
ทางอื่น มีแต่เกิดทางธรรม
มันสิเกิดแสงสว่างขึ้นเด๊
จับหลักได้ "พ่อแม่ครูจารย์
เพิ่นเว่าให้ฟัง ออกบวชแล้วไป
ดูพุทธประวัติว่าได้ตรัสรู้เบิ้ด"
ว่าได้ตรัสรู้ "เกิดอยากภาวนาว่า
ภาวนาอันใด๋ เพิ่นบอกว่า พุทโธ"
เพิ่นว่าบริกรรมพุทโธ ๆ เข้า
จิตสงบเกิดแสงสว่างขึ้น
คล้ายกันกับว่า "คือแหมันตาก
ดึงจอมแหหดเข้า ๆ มันจับหลักได้" .. "
"กุสลธโร" ผู้ทรงไว้ซึ่งความฉลาด
(หลวงปู่ลี กุสลธโร) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๗ -
หลวงปู่บุดดากับหลวงพ่อ
หลวงปู่บุดดากับหลวงพ่อ
ถ้าจะมีพระสงฆ์สักองค์หนึ่ง.. ที่สามารถนั่งสนทนาโต้ตอบกับพ่อ (หลวงพ่อของพวกเรา) ได้แบบทันปากพ่อ ทันใจพวกเราแล้ว ผู้เขียนนึกออกมาได้เพียงองค์เดียวจริงๆ นั่นคือ "พระคุณหลวงปู่บุดดา ถาวโร"
หนึ่งในจำนวนพระสุปฏิปันโนที่พ่อนิมนต์มาในงานฉลองวัด เมื่อเกือบ 24 ปีมาแล้ว ที่จริงผู้เขียน..รู้จักหลวงปู่บุดดา ก่อนที่จะได้พบพ่อ ได้กราบ ได้ฟังท่านพูด มาตั้งแต่ผู้เขียนยังพอใจจริยาสัตว์นรก คือดื่มเหล้าเมาตัวเองอยู่ (ตอนนี้ก็ยังไม่สร่างสนิท)
ฉะนั้น..ความประทับใจใสแจ๋วจึงยังไม่มี จนกระทั่งมาพบพ่อ ได้ช่วยพ่อต้อนรับปรนนิบัติหลวงปู่ จึงได้รู้ว่านี่เราชนพระทองคํานั่งทับพระแก้วอยู่ตั้งนาน ก็ไม่รู้สึกรู้สาเลย ช่างสมกับที่พ่อเคย
ชมเชยว่า "เหมือนทัพพีแช่น้ำแกง" เสียจริงๆหนอ
มาจับความกันตอนหลวงปู่ท่านเข้าพักที่กุฏิรับรองเบอร์ 2 แล้ว เรื่องสนุกก็เกิดขึ้นทันที (ที่เล่านี่ไม่ได้ตั้งใจจะกล่าวร้ายท่านใดทั้งสิ้น แต่มันเป็นกุญแจนําไปสู่เรื่องที่พุทธบริษัทงุนงงกันตราบเท่าทุกวันนี้)
คือมีญาติโยมที่ศรัทธาหลวงปู่มาอ้อนวอนให้ท่านกลับออกไปสงเคราะห์เขาที่บ้าน... -
การทำดีตามแบบบุญกิริยาวัตถุ ๑๐
บุญนั้นเราทำได้ ๑๐ วิธีด้วยกัน ที่เขาเรียก บุญกิริยาวัตถุ ทาน ศีล ภาวนา จะเป็นบุญที่ใหญ่ที่สุด เพียงแต่ว่าทานทำหนึ่งได้ร้อย ส่วนศีลทำหนึ่งได้หมื่น ถ้าภาวนาทำหนึ่งได้ล้าน ถามว่าทำไมถึงต่างกันขนาดนั้น ? ทานนั้นทำด้วยกาย ศีลนั้นรักษาทั้งกายและวาจา พูดปดก็ไม่ได้ พูดคำหยาบก็ไม่ได้ แต่ภาวนานั้นต้องทั้งกาย วาจา ใจ พร้อมกันเลย นั่งหลับตาอยู่ตรงนั้นต่อให้จิตมันไม่เป็นสมาธิอย่างไรก็ตาม กายเราไปทำชั่วได้ไหม ?...ไม่ได้หรอก วาจาเราพูดชั่วได้ไหม ?...หลับตานั่งอยู่ พูดไม่ได้หรอก อย่างเก่งก็คิดชั่วได้อย่างเดียว การคิดชั่วเป็นมโนกรรม กรรมก็น้อย อานิสงส์เราได้ทั้ง ๆ ที่ฟุ้งซ่าน ก็เลยกลายเป็นบุญใหญ่
ในเมื่อเป็นบุญใหญ่ ในแต่ละวันของเรา ถ้าไม่ทิ้งการภาวนา ก็จะสั่งสมตัวมากขึ้น ๆ แรก ๆ เราไม่รู้หรอก เหมือนกับน้ำทีละหยด..ทีละหยดรวมกัน พอนานเข้า..นานเข้าก็เป็นโอ่งเป็นไห ตอนที่ค่อย ๆ รวมนี่เราจะไม่รู้สึก แต่ว่าเราจะวัดปริมาณมันได้ก็ต่อเมื่อเกิดฉุกเฉินขึ้นมา อาจจะเป็นว่า อยู่ ๆ เกิดเจ็บไข้ได้ป่วยปางตายไปเลยอย่างนี้ โห..กำลังใจรวมตัวดีแท้ ๆ เลย มีเท่าไหร่มันโกยมาหมด เพราะรู้ว่าจะตายแล้วนี่... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๗ -
"ฌาน 4 ใช้งาน" เป็นอย่างไร
"ฌาน 4 ใช้งาน" เป็นอย่างไร
ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ ตอนที่ฝึกมโนมยิทธินะคะ เมื่อขึ้นไปบนสวรรค์แล้ว เห็นใส่เสื้อผ้าเป็นธรรมดาค่ะ อันนี้เป็นภาพจริงหรือเปล่าคะ ?
หลวงพ่อ : ภาพน่ะเป็นภาพจริง แต่ไม่ตรงความจริง
ผู้ถาม : แล้วยังเห็นคนที่เขาอยู่บนสวรรค์ เขาก็แต่งตัวไม่เหมือนชาวสวรรค์ เราเป็นมนุษย์ยังแต่งตัวสวยกว่าตั้งเยอะ
หลวงพ่อ : ที่เราเห็นเขาอย่างนั้นน่ะ เขาทำภาพเดิมให้ดู คือว่าเขาเกรงว่าเราจะจำเขาไม่ได้ อันดับแรกเขาต้องแสดงแบบนั้นก่อน ถ้าเราเห็นแบบนั้น เราควรจะถามเขาว่า เวลานี้สภาพความเป็นจริงของท่านมีรูปร่างเป็นอย่างไร ขอให้แสดงความเป็นจริง
ผู้ถาม : อยากถามเขาเหมือนกันค่ะ แต่ดูหน้าหน้าตาเขาแล้ว ไม่อยากจะพูดกับเขาเลย
หลวงพ่อ : หน้าตาเขาไม่อยากจะพูด ต้องปากพูด ถ้าพูดเร็วๆอย่างนี้ เขาไม่อยากพูดด้วยหรอก เขาเหนื่อย ขอโทษเถอะ มาจากอินเดียกี่วันแล้ว ?
ผู้ถาม : ยังไม่เคยไปเลยค่ะ
หลวงพ่อ : นี่ถ้าไปแล้วกลับมาคงพูดไม่รู้เรื่องนะ
ผู้ถาม : (หัวเราะ) อยากไปเหมือนกันค่ะ ตอนนี้พยายามฝึกให้ได้ถึงฌาน 4 ก่อน เผื่อจะได้ถอดจิตไปถึงอินเดียบ้าง
หลวงพ่อ : ฌาน 4 เป็นอย่างไร ?
ผู้ถาม : ไม่ทราบซิคะ
หลวงพ่อ... -
"วิธีดับกรรม ดับเวร" (หลวงปู่ฝั้น อาจาโร)
.
"วิธีดับกรรม ดับเวร"
" .. "วิธีดับบาป ดับกรรม" ดับความชั่วทั้งหลายดับภัย คับเวร จะล้างบาป ล้างกรรม ล้างภัย "ล้างเวรทั้งหลายนั้น ไม่มีวิธีอื่น นอกจากเรานั่งสมาธิ" เมือนั่งสมาธิจิตเป็นหนึ่งแล้ว "เป็นจิตอันเดียวแล้ว บาปกรรมทั้งหลายมันก็ไม่มี ภัยเวรทั้งหลายมันก็ไม่มี" ความชั่วทั้งหลายมันก็ไม่มี มีแต่ความสุขน่ะซี .. "
"อาจาโรวาท"
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
หน้า 19 ของ 412