คลังเรื่องเด่น
-
."ผู้สร้างกิเลสคือใจ" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
.
"ผู้สร้างกิเลสคือใจ"
" .. "อำนาจวาสนาเราสร้างอยู่ทุกวัน สร้างอยู่ที่ตัวของเรานี้" เราอย่าไปคิดว่า "อำนาจวาสนาอยู่ทางโน้นทางนี้" อยู่ทางใกล้ทางไกลเอื้อมไม่ถึงบ้างอะไรบ้าง เป็นความเข้าใจผิด "กิเลสมันได้วาสนามาจากไหน" มันถึงสร้างได้มากมายก่ายกองเต็มหัวใจเราจนหาทางเดินไม่ได้ มันมีวาสนามาจากไหน
"ก็ผู้สร้างกิเลสคือใจ" กิเลสจึงเกิดขึ้นมาได้ แล้วการแก้กิเลสไม่แก้ที่นี่ จะไปหาวาสนาที่ไหนมาแก้ มันไม่ทันกัน แก้ตรงนี้ "หนามยอกเอาหนามบ่ง" ถอดถอนหัวหนามออกมา "มันอยู่ที่ใจ" แก้ที่ตรงนี้ .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=3054&CatID=3 -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๖ -
"เอาปัจจุบันนี้เป็นหลัก" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
.
"เอาปัจจุบันนี้เป็นหลัก"
" .. เวลานี้เป็นเวลาพักผ่อนของจิตใจ ขอให้เตือนตนอย่างนี้ "เวลานี้เป็นเวลาพักผ่อนของจิตใจในขณะนี้" เบื้องต้นนี้ ก็อยากคิดอยากรู้นั้น รู้นี้ เห็นนั้น เห็นนี้ก่อน "คือพยายามตั้งสติกำหนดลมหายใจเข้า หายใจออก" อธิษฐานจิตถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ว่าเป็นที่พึงที่ระลึกของตนแล้ว ก็พยายามประกอบจิตนี้ ให้หยุดคิดหยุดนึก
"ให้กำหนดรู้เฉพาะแต่ลมหายใจเข้าหายใจออกเท่านี้ก่อน" เพราะเวลานี้ให้เข้าใจว่าเราพักผ่อนจิตใจ คำว่าพักผ่อนคือหยุดคิดหยุดนึกในการงานต่าง ๆ เลย วางจิตลงให้สบาย สบาย ไม่ต้องกังวลข้างหน้าข้างหลังอะไรเลย "กำหนดรู้อยู่แต่ปัจจุบันเท่านั้น เอาปัจจุบันนี้เป็นหลักเลย ชีวิตนี้ก็ให้กำหนดว่ามีอยู่แค่ปัจจุบัน ๆ นี้" เท่านั้นแหละ.."
"เคล็ดปฏิบัติสมาธิ"
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๖ -
."รักษาใจให้เป็นศีล" (หลวงปู่ชา สุภัทโท)
.
"รักษาใจให้เป็นศีล"
" .. "ศีล นั้นคือระเบียบควบคุมรักษากายวาจาให้เรียบร้อย" ว่าโดยประเภทมีทั้งของชาวบ้านและของนักบวช "แต่เมื่อกล่าวโดยรวบยอดแล้วมีอย่างเดียว คือเจตนา" ในเมื่อเรามีสติระลึกได้อยู่เสมอ เพื่อควบคุมใจให้รู้จักละอายต่อการทำชั่วเสียหายและรู้สึกตัวกลัวผลของความชั่วจะตามมา
"พยายามรักษาใจให้อยู่ในแนวทางแห่งการปฏิบัติที่ถูกที่ควร เป็นศีลอย่างดีอยู่แล้ว" ตามธรรมดาเมื่อเราใช้เสื้อผ้าที่สกปรกและตัวเองก็สกปรก ย่อมทำให้จิตใจอึดอัดไม่สบาย แต่ถ้าหากเรารู้จักรักษาความสะอาดทั้งร่างกายและเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ย่อมทำให้จิตใจผ่องใสเบิกบาน
ดังนั้น "เมื่อศีลไม่บริสุทธิ์เพราะกายวาจาสกปรก ก็เป็นผลให้จิตใจเศร้าหมอง" ขัดต่อการปฏิบัติธรรมและเป็นเครื่องกั้นใจมิให้บรรลุถึงจุดหมาย "ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจิตใจที่ได้รับการฝึกมาดีหรือไม่เท่านั้น เพราะใจเป็นผู้สั่งให้พูดให้ทำ" ฉะนั้นเราจึงต้องมีการฝึกจิตใจต่อไป .. "
"๘๔ พระธรรมเทศนา"
หลวงปู่ชา สุภัทโท -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๖ -
"ลืมตัว ลืมสติ" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
"ลืมตัว ลืมสติ"
" .. อันความลืมที่สำคัญมาก คือ "ความลืมตัว"
เพราะเมื่อลืมตัวไปเสียอย่างเดียวก็ชื่อว่าลืมข้ออื่น ๆ
ไปด้วยอีกมากมาย และเพราะลืมตัว "จึงทำให้สำคัญ
ตนผิดเป็นต้น" ดังได้กล่าวมาแล้ว "ความลืมตัวเป็น
ความขาดสติ" ที่จะระลึกได้ว่าตนเป็นอะไรอย่างไร
ตามที่เป็นอยู่ .. "
"๑๐๑ ญาณทรรศน์"
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๖ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๖ -
."เมื่อจิตสงบ จิตมันก็สบาย" (หลวงปู่ฝั้น อาจาโร)
.
"เมื่อจิตสงบ จิตมันก็สบาย"
" .. "เมื่อจิตเป็นกุศล" จิตมันว่างหมด "จิตมันสบาย จิตดีมีความสุขควาสบาย" ที่เรามานี้ต้องการความสุข ความสบาย ต้องการความพ้นทุกข์เท่านั้น เราจะเอาอะไรสุขสบายล่ะนอกจากใจของเราสงบ
"เมื่อใจของเราสงบแล้ว ความสุขความสบายก็เกิดที่นั่น" ไม่ได้เกิดที่อื่น ไม่ได้สุขสบาย เพราะวัตถุข้าวของทั้งหลายต่าง ๆ "ใจเราสบายเท่านั้นแหละ" ความสุข เมื่อใจเราสบายแล้วทำอะไรก็สบาย ทำมาหากิน ค้าขาย การอะไรทุกสิ่งทุกอย่าง "เราก็สุขก็สบาย ธรรมนั้นก็นำความสุขความสบายให้" ไปในชาติใดภพใดธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติธรรม .. "
"หลวงปู่ฝั้น อาจาโร" วัดป่าอุดมสมพร สกลนคร ๓ กันยายน ๒๕๑๑
ม.ร.ว. ส่งศรี เกตุสิงห์ ถอดจากแถบบันทึกเสียง -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๖ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๖ -
สุตนุสูตร | การบรรลุภาวะแห่งมหาอภิญญา | พระอนุรุธเถระ
สุตนุสูตร | การบรรลุภาวะแห่งมหาอภิญญา | พระอนุรุธเถระ | มหาเถรธรรม
******************
https://www.youtube.com/@Uttayarndham -
ยันต์เกราะเพชรหรือคาถาอิติปิโส ๘ ทิศ
หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา องค์บูรพาจารย์ของหลวงพ่อ เป็นต้นตำรับการเป่ายันต์เกราะเพชร หลวงพ่อเมตตาเล่าว่า งานเป่ายันต์แต่ละครั้ง เรือแพแน่นขนัดไปทั้งแม่น้ำ เดินข้ามไปอีกฝั่งได้สบาย ๆ ผู้คนหลั่งไหลกันมามืดฟ้ามัวดิน หุงข้าวพร้อมกันทีละแปดกระทะ ตั้งแต่เช้ายันเย็นยังไม่พอเลี้ยงคนเลย...!
ยันต์เกราะเพชรนี้ หลวงปู่ปานศึกษาจากตำราพระร่วง โดยตัดมาจากส่วนหนึ่งของธงมหาพิชัยสงคราม เป็นการนำเอาพุทธคุณบทต้นมาเขียนเป็นตัวขอม อ่านตามขวางว่า
อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา
ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง
ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท
โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ
ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ
คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ
วา โธ โน อะ มะ มะ วา
อะ วิ สุ นุต สา นุส ติ
บางคนเรียกว่าคาถาอิติปิโสแปดทิศ เขียนแล้วชักสูตรจะออกมาเป็นยันต์เกราะเพชร
วันเป่ายันต์ เป่าได้เฉพาะวันเสาร์ห้า คือ ต้องตรงกับวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือนใดก็ได้ ผู้รับยันต์ต้องมีธูปเทียน ๑ ชุด เป็นเครื่องบูชาพระ ถ้าเป็นหญิงมีครรภ์ ต้องจัดธูปเทียนเผื่อลูกในท้องอีก ๑ ชุด ธูปเทียนนี้ไม่ต้องจุด เมื่อเสร็จพิธีแล้ว นำกลับบ้านได้ ใช้สำหรับไล่ผีชะงัดนัก... -
ปกิณกธรรมสัปดาห์วันวิสาขบูชา วันจันทร์ที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๖ (ช่วงเช้า)
ปกิณกธรรมสัปดาห์วันวิสาขบูชา วันจันทร์ที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๖ (ช่วงเช้า) -
การบรรยายทางวิชาการเรื่อง "ความเชื่อเรื่องพระเครื่องและเครื่องรางในสังคมไทย"
การบรรยายทางวิชาการเรื่อง "ความเชื่อเรื่องพระเครื่องและเครื่องรางในสังคมไทย" -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๖ -
เนื้อนาบุญ ในสายธรรม วัดท่าซุง "ยุคปัจจุบัน" พระลูกศิษย์สายตรงหลวงพ่อฤาษีฯ
เนื้อนาบุญ ในสายธรรม วัดท่าซุง "ยุคปัจจุบัน"
พระลูกศิษย์สายตรงหลวงพ่อฤาษีฯ
เครดิต ท่านเจ้าของคลิบ https://www.youtube.com/@pongamulets889/videos -
สัปเหร่อน้อยวัย 13 เขียนจดหมายถึงในหลวงรัชกาลที่ 10
สัปเหร่อน้อยวัย 13 สัปเหร่อน้อยวัย 13 ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 10ในหลวงรัชกาลที่ 10 -
จดหมายจากเด็กชาย 7 ขวบ ถึงในหลวง ร.9
จดหมายจากเด็กชาย 7 ขวบ ถึงในหลวง ร.9 -
จงทำจิตใจของเราให้เหมือนดั่ง ดิน น้ำ ไฟ ลม
พระอาจารย์กล่าวว่า "จงทำจิตใจของเราให้เหมือนดั่ง ดิน น้ำ ไฟ ลม คือ
#แผ่นดิน รองรับคนและสัตว์ สิ่งที่ทั้งดีและไม่ดีอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน โดยไม่แบ่งแยกว่าสิ่งนั้นดี สิ่งนี้ไม่ดี
#น้ำ มีความเต็มอยู่เสมอในขอบทั้ง ๒ ฝั่งอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกสถานที่
#ไฟ เผาผลาญทั้งสิ่งดีหรือไม่ดีโดยเสมอภาค ไม่เลือกว่าจะเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี หากโยนเข้าไปในกองไฟ ไฟก็จะแผดเผาให้มอดสูญสลายไปเท่าเทียมกันโดยทั้งสิ้น
#ลม พัดไปในทุก ๆ สถานที่โดยเท่าเทียม ยังความสดชื่น เย็นสบายให้กับทุกสิ่งที่ลมพัดไปสัมผัส โดยเท่าเทียม ไม่มีเลือกว่าสิ่งนี้ดี สิ่งนี้ไม่ดี"
___________________________________________
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ที่มา www.watthakhanun.com
———————————————————-
#ชุมชนคุณธรรมฯวัดพุทธบริษัท #วัดพุทธบริษัท
#ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร
#แบ่งปันธรรมะ -
การปฏิบัติของเราจำเป็นที่จะต้องทำให้ต่อเนื่องอยู่เสมอ
กระแสโลกนั้นเหมือนกับน้ำ ถ้าหากว่าจะต่อต้านกระแสโลก เราต้องว่ายทวนน้ำขึ้นไป คราวนี้พอเราว่ายทวนน้ำไป ถึงเวลาก็ปล่อยไหลตามน้ำ กว่าจะว่ายอีกทีหนึ่ง แค่คราวที่แล้วก็เหนื่อยแล้ว ตอนนี้จะเอาเรี่ยวเอาแรงที่ไหนมาว่ายต่อ ? ดังนั้น...การปฏิบัติของเราจึงจำเป็นที่จะต้องทำให้ต่อเนื่องอยู่เสมอ
...................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๖ -
ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีใครดีไม่มีใครชั่ว มีแต่คนที่เป็นไปตามกรรม
เมื่อไม่กี่วันก่อนมีผู้ส่งคลิปมาให้ดู เป็นบุคคลหนึ่งที่น่าจะ "สิ้นคิด" ถึงได้กล่าวว่า "การภาวนาพระคาถาเงินล้านนั้นไร้ประโยชน์ เสียเวลาไปทำเปล่า ๆ"
กระผม/อาตมภาพเห็นอย่างชัดเจนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านเมตตาสั่งสอนมา ก็คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านสอนพวกกระผม/อาตมภาพมาให้รู้กรรมฐานครบทั้ง ๔๐ กอง เมื่อถึงเวลา จะได้ไม่ไปตำหนิใครที่เขาประพฤติปฏิบัติคนละแนวทางกัน เหตุเพราะว่าถ้าเราศึกษาไม่ครบ ก็จะไปเข้าใจผิดว่าสิ่งที่คนอื่นเขาทำนั้นไม่ใช่กรรมฐานในพระพุทธศาสนา เป็นต้น
ดังนั้น..ถ้าญาติโยมทั้งหลายมาพิจารณาดูว่า กระผม/อาตมภาพสอนให้ท่านทั้งหลายทำอะไรบ้าง ? ก็คือสอนให้ท่านทั้งหลายภาวนาพระคาถาเงินล้านอย่างน้อยวันละ ๑๐๘ จบ ในขณะที่ภาวนา ก็ต้องไม่ลืมว่าเราต้องมีการให้ทานเป็นปกติ ถ้าหากว่าไม่สามารถที่จะทำบุญใส่บาตรได้ตามปกติ อย่างน้อย ๆ ก็ให้หยอดกระปุกไว้วันละ ๑ บาท เมื่อถึงเวลาแล้ว ก็รวบรวมเอาไปถวายพระเป็นสังฆทาน แล้วสิ่งที่ท่านทำก็คือต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอทุกวัน อย่างน้อยสองเดือนขึ้นไปถึงจะเกิดผล
ดังนั้น..สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่ว่ามา ถือว่าอยู่ในหมวดของศีล... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๖
หน้า 38 ของ 413