คลังเรื่องเด่น
-
ความกตัญญูเป็นนิมิตหมายของคนดี
เรื่องของเจ้าฟ้าพระมหากษัตริย์นี่เป็นภัยอย่างใหญ่หลวงสำหรับคนหลาย ๆ คน
ที่ลบหลู่ ดูถูก ปรามาส จาบจ้วงด้วยความรู้สึกนึกคิด จิตใจ วาจา มันเพราะเหตุอันใดโยม...?
คนเราบ้านใกล้กันก็ยังไม่ดูถูกกันเลยโยม เขายังไม่ว่า เขายังเคารพซึ่งกันและกันเลย เขาเรียกว่าสิทธิในแต่ละคน
แต่อันนี้ท่านคือพ่อบ้านพ่อเมือง พ่อฟ้าพ่อแผ่นดิน
บรรพบุรุษของพระองค์ เจ้าฟ้าพระมหากษัตริย์ทุกองค์
ก็เอาเลือดเอาเนื้อแลกแผ่นดินของประเทศนี้ให้มันเกิดขึ้น ไม่ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของใคร
แต่พอต่อมา พวกเราบางคนรุ่นลูกรุ่นหลานไปก็ขาดความกตัญญู คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของประเทศ แล้วก็ลบหลู่ดูถูก
ก็เปรียบเหมือนกับคนมีพ่อแม่ เลี้ยงดูจนโต...พอโตแล้วก็คิดว่า พ่อแม่ก็หมดหน้าที่...มันเป็นอย่างนั้นเหรอ ?
พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา
ความกตัญญูเป็นนิมิตหมายของคนดี
ชีวิตต่อจากนี้ไปนี่..ใครที่กำลังทำแบบนี้อยู่นี่อาภัพ..หลายคนนะโยมนะ... -
นักวิทยาศาสตร์เปิดเผยว่า ภาวะโลกรวนทำภัยแล้งมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นกว่าเดิม 20 เท่า
นักวิทยาศาสตร์เปิดเผยว่า ภาวะโลกรวนมีแนวโน้มทำให้ภัยแล้งที่เกิดในประเทศซีกโลกเหนือช่วงฤดูร้อนนี้รุนแรงกว่าเดิมอย่างน้อย 20 เท่า โดยหากไม่มีปัญหาเรื่องโลกรวนที่เกิดขึ้นเพราะฝีมือมนุษย์นั้น ภัยแล้งที่รุนแรงนี้คาดว่าจะเกิดเพียง 1 ครั้งในทุกๆ 400 ปี
ภัยแล้งที่รุนแรงสุดเป็นประวัติการณ์ได้กระทบการเก็บเกี่ยวพืชผลและการผลิตพลังงาน ส่งผลให้วิกฤตอาหารและพลังงานที่ย่ำแย่อยู่แล้วจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน หนักหนาขึ้นกว่าเดิม โดยนักวิเคราะห์เตือนว่าภัยแล้งจะรุนแรงขึ้นและเกิดขึ้นบ่อยขึ้นอีกในอนาคต เว้นแต่ว่าทั่วโลกจะร่วมมือกันลดละเลิกการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล
ผลจากการวิเคราะห์ระบุว่า ภัยแล้งในยุโรปช่วงฤดูร้อนนี้แล้งสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 1950 ขณะที่ภัยแล้งในประเทศซีกโลกเหนือนั้นแล้งสุดเป็นอันดับ 2 รองจากปี 2012
คลื่นความร้อนที่โหมกระหน่ำในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียช่วงฤดูร้อนนี้ ได้ทำให้เกิดสภาพอากาศที่แห้งแล้งจัด โดยนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิร้อนระอุอย่างในปีนี้ "แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย" หากไม่มีคลื่นความร้อนที่เป็นผลมาจากภาวะโลกรวน... -
"คำอธิษฐานของหลวงพ่อ"
"คำอธิษฐานของหลวงพ่อ"
ตามธรรมดาคนแก่เป็นนักสะสม ไอ้โน่นก็ของกู ไอ้นี่ก็ของกู แม้แต่เศษกระดาษก็เก็บ เพราะว่าคนแก่เห็นความหมาย เห็นความหวังว่ามันเป็นประโยชน์ อย่างน้อยที่สุดเศษกระดาษเราใช้เช็ดปากเช็ดมือหรือเป็นอะไรก็ได้ นี่เป็นเรื่องของคนแก่ คนแก่น่ะยุ่งอย่างนี้
แต่ว่าแก่อย่างฉันไม่ใช่ยุ่งอย่างนั้น เก็บเหมือนกัน สตางค์ที่ลูกหลานให้มาเพื่อกิน เพื่อใช้ซื้อข้าวซื้ออาหาร ซื้อยารักษาโรค ฉันคิดว่าฉันใกล้จะตาย กินมากนักจะเสียเปล่า แต่กินพอมีพอควร บางทีเหลือแต่ไม่ใช่เหลือไว้กิน
ทั้งนี้เพราะเป็นตามธรรมดาของคนแก่ที่ห่วงลูกห่วงหลาน คนแก่ทุกคนมีความหวังมาก นี่ห่วงว่าลูกหลานของฉันจะเป็นคนจน ไอ้ชาตินี้เขาจะจนหรือรวยไม่สำคัญ เพราะชีวิตนี้เราได้รับผลกันแล้ว วันข้างหน้าสิ คนแก่ที่สะสมทรัพย์สมบัติก็สะสมไว้ให้ลูกหลานในวันหน้า เวลาตายไปแล้วทรัพย์สินส่วนนี้ ที่ดินแปลงนี้ หรือว่าบ้านหลังนี้ หรือว่าเงินจำนวนนี้ จะมีไว้กับหลานคนนั้นคนนี้ นี่เป็นภาวะของคนแก่
แต่ว่าคนแก่อย่างฉันไม่เป็นอย่างนั้น อยากจะให้ลูกหลานของฉันร่ำรวยในอริยทรัพย์... -
ทุกข์จากการงาน
ทุกข์จากการงาน
บางท่านทำจนเย็นแล้วงานยังไม่หมด แบกงานมาทำที่บ้านอีก หรือว่างานไม่ได้แบกมาบ้านแต่งานยังไม่เสร็จกิจ กลับมานอนบ้านตามมาถึงมุ้ง ตามไหม เวลาจะนอนนึกถึงงาน อันนี้ก็เป็นอาการของอารมณ์ที่เป็นทุกข์ เราก็เหนื่อยยาก
...รวมความว่า #เราเกิดมาตั้งแต่วันเกิดถึงวันตายเราไม่มีความสุขจริง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้มาด้วยความเหนื่อยยาก ด้วยความไม่สบายกายไม่สบายใจ และการประกอบกิจการงานร่วมกัน นอกจากจะเหนื่อยกายเหนื่อยใจแล้ว อาจจะทุกข์เพราะการกระทบกระทั่งจากผู้ที่ทำงานร่วมกัน คือคนในฐานะเสมอกันบ้าง คนที่มีฐานะต่ำกว่าบ้าง คนที่อยู่ในฐานะสูงกว่ากันบ้าง พูดแดกดันเสียดสีบ้าง เราก็ทุกข์ กลุ้มใจ ใช่ไหม
รวมความว่า...#พระพุทธเจ้าทรงเห็นทุกข์และอริยสัจ เป็นอันว่าทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าจะมีสภาพเช่นใดมีฐานะเสมอกัน ต้องทุกข์เหมือนกันตามที่ว่านี้ ถ้าหากว่าคนประเภทไหนที่ไม่กินอาหารเลยมีไหม ไม่มี ✨️ถ้ายังต้องกินก็ต้องทุกข์
✨️ถ้ายังต้องหาก็ต้องทุกข์
รวมความว่า #ทุกข์มันมีอยู่กับตัว
หนังสือ คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง ๖๙ หน้า ๑๒๑-๑๒๒ -
ทุกข์จากการมีร่างกาย
⚜️ทุกข์จากการมีร่างกาย⚜️
เราได้ร่างกายของเรามาเราก็ทุกข์เพราะร่างกายของเรา ทีนี้ถ้าไปได้ร่างกายของคนอื่นมามันก็เพิ่มอีก เพิ่มมา ๒ ร่างนะ
"ภารา หเว ปัญจักขันธา" ขันธ์ ๕ เป็นภาระอันหนัก
อยู่คนเดียวเปลี่ยวกายแสนสบายแต่ไม่สนุก
อยู่สองครองทุกข์แสนสนุกแต่ไม่สบาย
เขาว่าอย่างนั้นนะ แต่ข้อ ๒ อาตมาไม่ขอยืนยัน เพราะไม่เคยแต่งงาน ไม่รู้มันสุขหรือมันทุกข์ ถ้าไปถามว่าท่านรู้จริงๆ หรือ ก็ต้องตอบเขาว่า มันก็ไม่แน่นอนนักนะ
รวมความว่า...ถ้ามีคู่ครองก็เพิ่มความทุกข์มาอีกชุดหนึ่ง ทีนี้ถ้าเจ้านายโผล่มาล่ะ เจ้าโอ๋เจ้าเอ๋น่ะ บางทีพ่อแม่นอนสบาย พ่อเจ้าประคุณร้องขึ้นมาอีกแล้ว เอ้า..ต้องตื่น ถ้าป่วยไข้ไม่สบาย ดึกๆ ดื่นๆ ก็ต้องไปหาหมอ ทีนี้อีตอนไปหาหมอมันต้องใช้เงินหรือเปล่า เห็นไหม เพิ่มรายจ่าย
รวมความว่าพระพุทธเจ้าทรงเห็นว่าการเกิด นับตั้งแต่วันเกิดถึงวันตายมันเป็นปัจจัยของความทุกข์ ถ้าเราไม่เกิดเสียอย่างเดียว คำว่าไม่เกิดนี่ต้องไม่ไปเกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นคน เป็นภุมเทวดา รุกขเทวดา อากาสเทวดา เป็นพรหม ไม่เกิดหมด ไปจุดเดียวคือนิพพาน หมดทุกข์... -
เหตุใดพระสีวลีท่านมีลาภมาก
เหตุใดพระสีวลีท่านมีลาภมาก
ถาม : ...........
ตอบ : ลักษณะการทำบุญปิดท้ายจะมีลาภมากแบบพระสีวลี ลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงรุ่นเก่า ๆ จะรู้ดี ทำบุญปิดท้ายไปเรื่อย ปิดไม่รู้จักจบ คนโน้นปิดคนนี้ก็ปิดต่อไปเรื่อย เพราะว่าพระสีวลีท่านทำบุญปิดท้ายรายการบุญใหญ่ของคนอื่นเขา ท่านจึงมีลาภมาก
เนื่องจากว่าสมัยนั้นท่านเกิดเป็นคนจน มีอาชีพตัดฟืนอยู่ในป่า ตอนนั้นระหว่างชาวบ้านกับพระราชาเขาแข่งกันอยู่ แข่งกันทำความดีถือว่าน่าสรรเสริญ ชาวบ้านกับพระราชาเขาแข่งกันทำบุญ ลักษณะว่าใครจะทำบุญถวายพระพุทธเจ้าได้ดีกว่ากัน พอถึงเวลาพระราชาท่านก็จัดโน่นจัดนี่มาให้ดีกว่าชาวบ้าน ทีนี้กำลังของพระราชาเองถ้าไม่เกณฑ์ชาวบ้านนี่ถ้าจะเอาดีก็คงจะได้ไม่เท่าไร ชาวบ้านพอสู้ได้เพราะคนเยอะกว่าก็ช่วยกันสรรหามา
จนกระทั่งถึงครั้งสุดท้ายชาวบ้านเขากะจะเกทับให้พระราชาไม่มีโอกาสกระดิก ทำบุญครั้งนี้จะหาของทุกอย่างที่พึงจะถวายพระมาให้ครบ ปรากฏว่าพอหามาแล้วขาดน้ำผึ้งสดจากรวงอย่างเดียว น้ำผึ้งเก่ามีแล้ว อยากจะได้ที่คั้นสด ๆ ถวายพระเลย บรรดาท่านที่เป็นหัวหน้าก็ประกาศให้ลูกน้องนำเงินคนละ ๑ พันกหาปณะไปยืนรอที่ประตูเมืองทั้ง ๔ ทิศ... -
กราบให้ถึงพระ
กราบให้ถึงพระ
เวลาที่เรากราบพระทุกครั้งนี่ หรือไหว้พระทุกครั้ง จิตจะต้องเห็นพระพุทธเจ้าอยู่เป็นปรกติ แล้วกล่าวว่า "อะระหัง สัมมาสัมพุทธโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ" นั่นหมายถึงว่า เรากราบพระพุทธเจ้า ถ้าเวลาจิตที่กราบ ความจริงเราอาจนั่งอยู่หน้าพระพุทธรูป หรือว่าที่เรากราบไม่มีพระพุทธรูปก็ตาม แต่ว่าจิตของเราถ้าได้ มโนมยิทธิ ต้องส่งจิตขึ้นไปที่นิพพาน แล้วกราบลงไปต่อหน้าพระพักตร์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างนี้เขาเรียกว่า "กราบถึงพระ"
กราบครั้งที่สอง ที่เรียกกันว่า กราบพระธรรม ที่เป็นคำสอนของ หลวงพ่อปาน ก็ดี อาจารย์อีกทั้ง ๑๐ องค์ของอาตมาก็ดีสอนเหมือนกัน เพราะอีก ๑๐ องค์ เป็นพระอรหันต์ หลวงพ่อปานเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านบอกว่า เวลากราบพระธรรม ให้จิตคิดกำหนดไว้ว่า เมื่อกราบลงไปแล้วเห็นเป็น ดอกมะลิแก้ว ไหลออกจากพระโอษฐ์ของพระองค์ลงมาบนเศียรเกล้าของเรา พระธรรมให้ตั้งเป็นนิมิต ให้เหมือนกับ ดอกมะลิแก้ว ที่ใสสะอาด มีความแพรวพราว ไหลออกจากพระโอษฐ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ลงบนเศียรของเรา
แล้วเวลา กราบพระอริยสงฆ์ ตอนนี้พระพุทธเจ้าเสด็จอยู่ที่ไหน... -
เราคือใคร
⚜️เราคือใคร⚜️
ทีนี้เราก็เอาสีลานุสสติกรรมฐานนี่แหละเป็นวิปัสสนาญาณต่อไป เราก็มาพิจารณาร่างกายของเรา เวลานี้เราเป็นผู้ทรงศีล แล้วให้รู้จักคำว่าเรา
#เราคือใคร เลือดเนื้อร่างกายนี้มันเป็นเราหรือว่าเราคือใคร เมื่อพิจารณากันไปจริงๆ ล่ะก็เลือดเนื้อร่างกายนี้ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในเลือดเนื้อร่างกายหรือเลือดเนื้อร่างกายไม่ใช่เรา #เราจริงๆก็คือจิตที่มาสถิตอยู่ในกายชั่วคราว ร่างกายมีสภาพเหมือนบ้านเช่าชั่วคราวเท่านั้น เราไม่สามารถจะทรงร่างกายอยู่ตลอดกาลตลอดสมัย
...ร่างกายมีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น มีความเสื่อมไปในท่ามกลาง มีการสลายตัวไปในที่สุด
ทีนี้การทรงศีลอะไรมันทรงศีล กายทรงศีลหรือว่าจิตทรงศีล เมื่อเราพิจารณากันจริงๆ แล้วจะเห็นว่าศีลนี่มันทรงได้เพราะอาศัยจิตเท่านั้นเป็นตัวสั่ง กายมันมีสภาพเหมือนหุ่น มันไม่มีการรู้สึกรับผิดชอบใดๆ ทั้งหมด ความรู้สึกรับผิดชอบใดๆ ความดีหรือความชั่วจะปรากฏกับกายเพราะอาศัยใจเป็นผู้สั่ง ทีนี้คำว่าเราในที่นี้ก็ได้แก่จิต คือจิตใจหรืออารมณ์ที่สั่งกาย ทีนี้เรามาดูกันสิว่าเรารักษาศีลบริสุทธิ์มีจิตสบายแต่กายมันสบายไหม... -
เรื่อง การชำระหนี้สงฆ์ เพื่อให้พ้นอเวจี
เรื่อง.* การชำระหนี้สงฆ์ เพื่อให้พ้นอเวจี *
* โอวาท : หลวงพ่อฤาษีลิงดำ~พระราชพรหมยานฯ
..." ของทุกอย่าง ที่ขึ้นชื่อว่า เป็นสมบัติของสงฆ์แล้ว จะเป็นสิ่งของ หรือวัตถุเครื่องใช้อะไรก็ตาม จะมีราคามาก หรือน้อยก็ตาม ผู้ที่นำไปใช้โดยพละการ หรือทำสิ่งของเหล่านั้นเสียหาย จะต้องนำสิ่งของเหล่านั้น มาทดแทน ให้เหมือนเดิม.. ไม่เช่นนั้นจะทำให้ผู้ล่วงละเมิด ลงสู่อเวจีมหานรกได้โดยง่าย..
* อย่าง วัดร้างที่ปรากฏว่า เป็นที่ดินเปล่า ไม่มีฐานะแสดงว่า.. เป็นวัด หรือบางแห่งแสดงฐานะว่า.. เป็นวัด แต่อยู่ในป่าในดงหรือ วัดที่มีฐานะอยู่ก็ตาม เราจะนำสิ่งของอะไรมาก็ตาม ในเขตนั้นเป็นของสงฆ์ หรือว่าถ้าใครยึดแผ่นดินของสงฆ์ไว้ เป็นสมบัติ ส่วนตัวละก็ ถือว่า.. ซวยขนาดหนัก..!
* แบบนี้ มีผู้เรืองอำนาจรุกรานสงฆ์ เคยตกนรกขั้นขุมที่ ๗ มาแล้ว ขุมนี้หนักมาก รองจาก อเวจีมหานรก เพราะอะไร.. เพราะ บุกรุกที่ดินของวัด
ถึงแม้จะไม่มีเจตนาโกง วัดก็เป็นวัดร้าง แต่ไม่รู้ว่า เป็นวัดร้าง แค่นี้ก็ ตกนรกขุมที่ ๗ จะมาอ้างว่าไม่รู้ ไม่เจตนาไม่ได้ มีความผิดหมด..!
* หรือว่า มีไม้ลอยมาหน้าบ้าน เราเห็นว่าไม่มีเจ้าของ... -
"ความสุขที่ปลอดภัย" (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
.
"ความสุขที่ปลอดภัย"
" .. ขอให้ท่านทั้งหลาย สำรวจดูความสุขว่า "ตรงไหนที่ตนเห็นว่ามันสุขที่สุดในชีวิต" ครั้นสำรวจดูแล้วมันก็แค่นั้นแหละ แค่ที่เราเคยพบมาแล้วนั่นเอง "ทำไมจึงไม่มากกว่านั้น มากกว่านั้นไม่มี"
โลกนี้มีอยู่แค่นั้นเอง แล้วก็ซ้ำ ๆ ซาก ๆ อยู่แค่นั้น "เกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่ร่ำไป มันจึงน่าจะมีความสุขชนิดพิเศษกว่า" ประเสริฐกว่านั้น ปลอดภัยกว่านั้น
พระอริยเจ้าทั้งหลาย ท่านจึงสละสุขส่วนน้อยนั้นเสีย "เพื่อแสวงหาสุขอันเกิดจากความสงบกาย สงบจิต สงบกิเลส เป็นความสุขที่ปลอดภัย" หาสิ่งใดเปรียบมิได้เลย .. "
"หลวงปู่ฝากไว้"
พระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล) -
คนมีบุญ / ท่านจิตโต
หลวงพ่อจิตโตกล่าวถึง =AZXykQLzOv3We7Mg5u5GD3KfScj1WTBA66QFXOZlT39ghxkzbOpSCmDuM6u_rF2Y1Hz2RnambZK6J-tAxfKpmcXJC52isIJvQoYwr94Serfq9OVDKN2lSB2kIMY6nQmwvMIYhSskM3HgIJFXIbTZY9987uc3Bx1rzXxWeCw_iEZWiEQ1TOsmAywq8hzlKFw6HS8&__tn__=*NK-R']#เรื่องคนมีบุญว่าเป็นอย่างไร ท่านกล่าวไว้ว่า
=AZXykQLzOv3We7Mg5u5GD3KfScj1WTBA66QFXOZlT39ghxkzbOpSCmDuM6u_rF2Y1Hz2RnambZK6J-tAxfKpmcXJC52isIJvQoYwr94Serfq9OVDKN2lSB2kIMY6nQmwvMIYhSskM3HgIJFXIbTZY9987uc3Bx1rzXxWeCw_iEZWiEQ1TOsmAywq8hzlKFw6HS8&__tn__=*NK-R']#คนบุญมาก
คือคนที่เค้านึกถึงบุญทั้งวัน คือคนที่เค้ามีบุญมาก คือใจเค้าก็จะอยู่กับบุญตลอด อะไรที่เป็นความดีเค้าก็จะคอยคิดคอยนึกจะทำตลอดเวลา เรียกคนมีบุญมาก
ก็มักตีความว่า คนที่มีบุญมาก คือคนทำบุญที่มีอานิสงส์มากๆคือคนมีบุญมาก ไอ้อย่างนั้นไม่ใช่
คนที่เขามีบุญกุศลมากก็อย่าง อย่างเช่นตื่นมาเค้าก็นึกถึงแต่ความดี เขาก็ไปสวดมนต์ไหว้พระ เดี๋ยวเขาก็นึกว่า เค้าจะทำบุญอะไรถวายพระ เค้าก็ต้องมีจิตเต็มไปด้วยเมตตากรุณาเป็นปกติใช่ไหมล่ะ
เค้าก็ต้องสำรวมจิตใจระวัง... -
"หลงอาศัยอยู่ในของไม่เที่ยง" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
.
"หลงอาศัยอยู่ในของไม่เที่ยง"
" .. บุคคลจะพ้นทุกข์ได้นั้น "ก็เพราะมาพยายามภาวนา ทำจิตใจให้สงบ ทวนกระแสจิตเข้ามาในปัจจุบัน" เห็นตามว่าไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขา ไม่ใช่ตัวตน อะไรเมื่อมันมาเห็นแจ้ง มันก็ตื่นตัว "รู้ว่าตนนั้นมาหลงอาศัยอยู่ในของไม่เที่ยง" มาอาศัยในสิ่งที่บังคับไม่ได้ ไม่เป็นไปตามใจหวัง
เมื่อมันรู้ดังนี้ "มันก็ปล่อยวาง" นี่แหละ ไม่ยึด ไม่ถือ ไม่สำคัญว่าเป็นตัวเป็นตน ก็เป็นอันว่า "รู้จักต้นเหตุแห่งทุกข์ คีออุปาทานความยึดถือ" เมื่อละความยึดถือนี่ได้ ทุกข์ทางใจมันก็ดับไปหมดเลย เป็นอย่างนั้น
เพราะฉะนั้น เมื่อทราบความจริงอย่างนี้แล้ว "พึงพากันตั้งใจ บำเพ็ญทางจิตใจนี้ให้เป็นไป" ดังแสดงมา .. "
"จิตเป็นของฝึกยาก"
(หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) -
สมเด็จพระสังฆราช ประทานกัปปิยภัณฑ์ พร้อมให้ทุกวัดสวดเจริญพระพุทธมนต์ สร้างขวัญกำลังใจประชาชน
สมเด็จพระสังฆราช ประทานกัปปิยภัณฑ์ พร้อมให้ทุกวัดสวดเจริญพระพุทธมนต์ สร้างขวัญกำลังใจประชาชน
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทาน กัปปิยภัณฑ์ ช่วยผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต คนละ 2 หมื่นบาท พร้อมสั่งทุกวัดสวดเจริญพระพุทธมนต์ หลังทำวัตรเย็นวันนี้ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจประชาชน
สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เผยแพร่ หนังสือ ระบุ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โปรดประทานผ้าไตร และมีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกร จัด กัปปิยภัณฑ์ (หรือปัจจัย 4) รายละ สองหมื่นบาท แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพื่อช่วยการบำเพ็ญกุศลศพ
เช่นเดียวกับ ผู้บาดเจ็บ ให้จัด กัปปิยภัณฑ์ คนละ 20,000 บาท เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการรักษาพยาบาล
อนึ่ง มีพระบัญชาโปรดให้วัดในพื้นที่ อำนวยความสะดวกในการจัดงานศพ และการสงเคราะห์ผู้ได้รับผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจตามกำลังความสามารถ และให้วัดทุกวัด ทั่วราชอาณาจักร เจริญพระพุทธมนต์เป็นกรณีพิเศษหลังการทำวัตรเย็น วันนี้ (7 ต.ค.65)... -
"เพราะฟังธรรมไม่รู้เรื่อง" (หลวงปู่ชา สุภัทโท)
.
"เพราะฟังธรรมไม่รู้เรื่อง"
" .. การฟังธรรมก็คือเรื่องท่านสอนเราโดยตรงนี้แหละ "ท่านสอนเราให้รู้จักบาป ให้รู้จักบุญ" ให้รู้จักคุณ ให้รู้จักโทษ รู้จักผิด รู้จักถูก "เราพากันฟังแต่ก็ไม่รู้เรื่อง เมื่อไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจฟัง" แล้วกลับไปถึงบ้านก็ทำอย่างเก่า
"การประพฤติทางกาย ทางวาจา ทางใจ ในครอบในครัว ในบ้านในเมือง ก็อย่างเก่า" เคยแช่งเคยด่า ก็แช่งก็ดำอย่างเก่า เคยโลภก็โลภอย่างเก่า เคยโมโหก็โมโห อยู่อย่างเก่า
"เคยเป็นผีก็เป็นผี เคยเป็นเปรตก็เป็นเปรตอยู่อย่างเก่า" ไม่เคยเปลี่ยนแปลง "ไม่รู้จักบาป" บาปเป็นอย่างไร ไม่รู้บาปทางกาย ทางวาจาก็ไม่เท่าไหร่หรอก "ใจของเรานั่นซิ วันหนึ่งบาปหลายครั้งนะ คราวใดใจมันโกรธไม่พอใจ นั่นแหละบาป" เกิดขึ้นแล้วที่ใจของเจ้าของ .."
"เหนือสิ่งอื่นใด"
หลวงปู่ชา สุภัทโท -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๕ -
ระดับของบุญที่ให้อานิสงส์สูงขึ้นไปอีกคือ การรักษาศีล เจริญภาวนา
ส่วนใหญ่แล้วพวกเราก็ยังเลือกทำบุญในส่วนของสังฆทาน วิหาร แล้วก็ธรรมทาน ถ้าบอกว่ามีประโยชน์น้อย พวกเราก็คงจะช็อกตาตั้ง เพราะอย่าลืมว่า แม้ว่าจะเป็นสังฆทาน วิหารทาน และธรรมทาน ก็ยังอยู่ในระดับของทานเท่านั้น ยังมีระดับของศีลที่สูงกว่านั้น ระดับของภาวนาที่สูงกว่านั้น แต่หลายคนกลับติดอยู่แค่นี้
ผลอะไรไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นกับตัวเอง ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำทานอย่างเดียว โดยหวังว่าผลของทานจะไปแก้ไขวิถีชีวิตของเราได้ดีขึ้น ต้องบอกว่าหลงทางไปไกล สิ่งที่จะแก้ไขชีวิตของเราให้ดีขึ้นก็คือการภาวนา ถ้าสมาธิทรงตัว ปัญญาก็จะเกิด จะเห็นหนทางแก้ไขได้เร็วยิ่งขึ้น
ถามว่าแล้วทำทานไม่ถูกหรือ ? ถูก...แต่ถูกไม่หมด เพราะว่าส่วนใหญ่เราไปหวังผลของทานในการเปลี่ยนแปลง..ซึ่งยาก การทำทานเราทำตามหน้าที่ ทำตามรูปแบบ ทำตามกำลังใจที่เราสละออก แต่ผลที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ดีขึ้นอย่างชัดเจนก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เพราะว่าควบคุมกาย วาจา ใจของเราทั้งหมด
แต่ปัจจุบันนี้จำนวนมากด้วยกัน ถึงเวลา เอ้า...ไปทำบุญ ดวงไม่ดี...ไปทำบุญ ถ้าอยากจะดวงดีจริง ๆ ให้ภาวนาไว้ทุกวัน เช้า กลางวัน เย็น หรือตลอดทั้งวันได้ยิ่งดี... -
"สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
"สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"
"กมฺมุนา วตฺตตีโลโก" .. สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
" .. "พระพุทธศาสนสุภาษิตบทนี้เป็นคำตอบที่ชัดแจ้ง สำหรับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นมากมาย ว่าทำไมโลกทุกวันนี้จึงร้อนนัก" เต็มไปด้วยความเลวร้ายต่าง ๆ นานาที่ไม่เคยมีมาก่อน
"ทั้งมรสุมใหญ่ ทั้งน้ำไฟทำลาย ทั้งโจรร้ายเข่นฆ่า" ทั้งความเมตตากรุณาสิ้นจากจิตใจ ทั้งความขาดแคลนทุกข์ยากทั่วไปทั้งแผ่นดิน "ความกตัญญูก็สิ้นสูญหมด ลูกหลานทรยศแม่พ่อ พี่ป้า น้าอา ปู่ย่า ตายาย ถึงทุบตีเข่นฆ่าทำทารุณกรรม ครูอาจารย์ก็ทำร้ายได้ทั้งร่ายกายและจิตใจศิษย์น้อย ๆ ทำชีวิตให้พลอยสิ้นสุด" จนถึงเกิดเป็นปัญหาว่า ..
- ทำไมเมืองพระพุทธศาสนาจึงเป็นเช่นนี้ได้
- ทำไมความเดือนร้อนชั่วร้ายจึงมากมายนัก
- ทำไมผู้คนจึงลำบากยากแค้นนัก ตกอยู่ในสภาพที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงนัก
"กมฺมุนา วตฺตตีโลโก" .. สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม "นี่คือคำตอบ" .. "
"อำนาจอันยิ่งใหญ่แห่งกรรม"
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=9926 -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๕ -
"เมื่อรู้จักสุขทุกข์ จะปฏิบัติอย่างไร" (หลวงพ่อชา สุภัทโท)
.
"เมื่อรู้จักสุขทุกข์ จะปฏิบัติอย่างไร"
" .. จะปฏิบัติธรรมอย่างไร คนเราไม่รู้จัก "นึกว่าการเดินจงกรม นึกว่าการฟังธรรม นึกว่าการนั่งสมาธิ เป็นการปฏิบัติ" นั่นเป็นส่วนน้อย ก็จริงอยู่ "แต่มันเป็นเปลือกของมัน"
การปฏิบัติจริง ๆ "ก็ปฏิบัติเมื่อประสบอารมณ์ นั่นแหละการปฏิบัติ" แล้วที่มันประสบอารมณ์อยู่นั้น เช่นมีอะไร "มีคนมาพูดไม่ถูกใจนะ เราเป็นทุกข์ขึ้นมา ถ้าคนพูดให้ถูกใจเรา เราก็เป็นสุข" ตรงนี้แหละตรงที่จะปฏิบัติ "เราจะปฏิบัติอย่างไร" อันนี้สำคัญ
ถ้าเราไปวิ่งกับสุข ไปวิ่งกับทุกข์ "มัวไปวิ่งกับสุข ไปวิ่งกับทุกข์อยู่นั่น" จะวิ่งตลอดจนถึงวันตายก็ไม่พบธรรมะนี่ ก็อยู่ไม่ได้ "เมื่อรู้จักสุขทุกข์ทั้งสองนี้ขึ้นมาเมื่อไร เราจะแก้ไขปัญหาอย่างไรโดยธรรมะ นี่คือการปฏิบัติ" .. "
"รู้แจ้งโลก"
หลวงพ่อชา สุภัทโท
https://www.watnongpahpong.org/ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๕ -
คณะสงฆ์ จ.ลำพูน พร้อมคณะศรัทธา มอบถุงยังชีพช่วยเหลือน้ำท่วม
คณะสงฆ์จังหวัดลำพูน โดยพระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร และพระประกอบบุญ สิริญาโณ เจ้าอาวาสวัดมหาวัน พร้อมคณะศรัทธา มอบถุงยังชีพ จำนวน 500 ชุด ให้นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เพื่อนำไปแจกจ่ายผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ พร้อมกันนี้คณะสงฆ์ ยังได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจญาติโยม และมอบถุงยังชีพ เพื่อเป็นการช่วยในเบื้องต้น
Credit: ขอขอบคุณที่มาจาก Facebook =AZUzdoJSF9EntCONzsBfsJpCP55ca7D6PEhXKx87I2KzrFXt103NlhU6sopyTTsXlRHp9STfQG5QkXBbl1QbcbgpXAirHg3Np3fGCNZAITOUs61HEBOMgTSsV9T8Qxiy1DvHUBa7TaAoJNaVV-1iyX3qqNH4ktVqZPSFxeVLnMv5VQ-hBBLKsXoUcRWuwbrdqoBzSuMXpMLXATN5cOl3E8Jkjn1QwJrpqBc2MNBq8cNlSxqFLlhEmKil2Hfk4p98jus&__tn__=%2CO%2CP-R']สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ -
ควรระมัดระวังในการวางวัตถุมงคล
ควรระมัดระวังในการวางวัตถุมงคล
สำหรับช่วงประมาณ ๒ - ๓ วันที่ผ่านมา อยู่ดี ๆ กระผม/อาตมภาพก็มีประสบการณ์ที่นึกไม่ถึง ก็คือมีโยมท่านหนึ่งทำไม้เท้ากลึงมาจากงาช้าง หัวไม้เท้าแกะเป็นรูปท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณยืนถือกระบองมาถวาย ด้วยความเคยชินกระผม/อาตมภาพ เมื่อลงน้ำมัน ลงขี้ผึ้งเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็ซุกเอาไว้ใต้ที่นอน ถ้าถามว่าทำไมต้องซุกเอาไว้ใต้ที่นอน ? ก็เพราะว่าส่วนใหญ่งาช้าง ถ้าโดนไอตัวคนแล้วจะเปลี่ยนสีสวยมาก ก็คือแทนที่จะเป็นสีขาวก็จะเป็นสีเหลืองอ่อน
แต่คราวนี้ปรากฏว่าพอซุกเข้าไปแล้ว คืนนั้นตอนนอน พอกระผม/อาตมภาพเอนตัวลงไป รู้สึกมีอาการเหมือน "โดนผีอำ" ขยับตัวไม่ได้ เรื่องของอาการผีอำนั้นมี ๒ อย่างด้วยกัน อย่างแรกก็คือท่านที่เรามองไม่เห็นตัว แต่ไม่ใช่ผี เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วพวกเรานั้น อะไรที่มองไม่เห็นก็เหมาเป็นผีไปหมด ท่านเหล่านี้สามารถเป็นได้ตั้งแต่พระบนพระนิพพาน ลงมายันผีเล็กผีน้อยทั่วไป
อีกประการหนึ่งเกิดจากเลือดลมของเราเดินไม่สะดวก ถ้าเลือดลมเดินไม่สะดวกนี่ง่ายมาก จะรู้สึกเหมือนมีอะไรดำ ๆ ใหญ่ ๆ กดทับเราอยู่ แค่พยายามหายใจยาว ๆ สัก ๒ - ๓ ครั้งก็ดิ้นหลุดได้แล้ว... -
"ตายอยู่ในกองทุกข์" (หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร)
.
"ตายอยู่ในกองทุกข์"
" .. คนเราที่เกิดมาในโลกนี้ "ถ้าเราดูรูปร่างกายก็เป็นคน แต่ว่าบางคนนั้นร่างกายเป็นคน ใจยังเป็นสัตว์เดรัจฉานอยู่ก็มี" ถ้าโลกเราสมัยนี้ไม่ว่าที่ไหน "อย่างว่าแผ่นดินเมืองเชียงใหม่สมัยโบราณ คนปล้น คนจี้ คนฆ่ากันทำลายกันไม่ค่อยมี" แต่สมัยนี้ไม่ได้ มันมีทุกอย่าง ฉะนั้น "เราต้องตั้งใจของเราให้ดี ภาวนาให้ใจของเราให้มันเต็มที่"
โลกนี้มันเป็นอย่างนี้แหละ เกิดขึ้นมาก็ตั้งอยู่ในกองทุกข์ "เกิดในกองทุกข์ แก่ในกองทุกข์ เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ในกองทุกข์ ตายอยู่ในกองทุกข์" อันนี้เป็นอย่างนี้มาทั้งโลก เมื่อมาถึงปัจจุบันชาตินี้ เวลานี้ ปัจจุบันนี้ "เราจะต้องเร่งภาวนาพุทโธ ทำใจของเราให้สงบ" พิจารณากายของเราให้เห็นความแก่ ความชรา ให้เห็นร่างกายนี้ไม่คงทน "จิตใจก็จะได้เย็นสบาย" .."
"ถ้าตั้งใจจริงย่อมมีเวลาภาวนา"
พระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร)
๕ พฤษภาคม ๒๕๑๙ -
ช่วยกันปฏิบัติจนเกิดผล จะช่วยสร้างศรัทธาและความมั่นคงให้กับพระพุทธศาสนาได้
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๙
ให้ทุกคนขยับนั่งในท่าที่สบายของเราเอง จะนั่งขัดสมาธิก็ได้ นั่งห้อยขาบนเก้าอี้ก็ได้ หรือจะนั่งพับเพียบก็แล้วแต่เราถนัด ให้กำหนดความรู้สึกของเราทั้งหมดไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ ระยะนี้มีความตื่นตัวทางด้านศาสนา เนื่องจากว่าท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้คำสั่งตามมาตรา ๔๔ ในการบังคับให้ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันโดยปรองดองและสมานฉันท์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เนื่องจากว่าศาสนาพุทธของเรา แม้จะปรองดองกับศาสนาอื่นตลอดเวลา แต่ก็อยู่ในลักษณะของม้าอารี ซึ่งมีโอกาสโดนวัวเบียดหลุดจากคอกไปตามนิทานโบราณสูงมาก อาตมาจึงมีความเห็นว่า ถ้าพวกเราพร้อมใจกันปฏิบัติธรรมให้เกิดผล สามารถแสดงเหตุให้คนอื่นเขาเห็นได้ชัดเจนว่า นี่คือผลของการปฏิบัติธรรมในพุทธศาสนา ก็จะทำให้คนที่ยังไม่เลื่อมใสศรัทธา เกิดความเลื่อมใสศรัทธา คนที่มีความเลื่อมใสศรัทธาอยู่แล้ว... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๕ -
"ธรรมะ กับ เห็นธรรมะ" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
.
"ธรรมะ กับ เห็นธรรมะ"
- คำว่า "ธรรมะ" ในที่นี้หมายถึง "ของมีอยู่ เป็นอยู่ ในโลกนี้ทั้งหมด" มันเป็นอยู่อย่างนั้น มีอยู่อย่างนั้น "เรียกว่า ธรรมะ"
- คำว่า "เห็นธรรมะ" คือ "เห็นจริงตามของที่มันเป็นเองนั่นเอง" มันเป็นอยู่อย่างไร ให้เข้าใจว่า มันเป็นอยู่อย่างนั้น "เรียกว่า เห็นสภาพของธรรมะ"
ตรงนี้แหละเป็นของสำคัญ "เห็นได้ยาก เพราะคนเรานั้นเห็นอะไร ดูอะไร ก็อยากจะดูของใหม่เรื่อยไป" ของเก่าเลยลืมเสีย มันก็เลยไม่ชัดเจนขึ้นมา "หากันไปเถิด หาธรรมะ หาเท่าไรก็หาไป ถ้าไม่เห็นสภาพตามเป็นจริงแล้ว" ก็ไม่เห็นธรรมะอยู่นั่นเอง .. "
"ขันธ์ห้า"
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๕ -
"ธรรมทั้งหลายไหลมาแต่เหตุ" (หลวงปู่ขาว อนาลโย)
.
"ธรรมทั้งหลายไหลมาแต่เหตุ"
" .. อะไรเป็นตัวเหตุ "ตัวเหตุคืออวิชชา" ความโง่นั่นแหละ มันไหลมา อะไรเป็นอวิชชา จิตโง่นั่นแหละเป็นอวิชชา อะไรเป็นสนิมของอวิชชา มันนั่นแหละมันเป็นสนิมของมันเอง
"เหมือนกันกับเหล็ก" เหมือนกันกับดาบและมีด ครั้นไม่ลับมันอยู่นาน ๆ ใครเอามาใส่ล่ะ "สนิมน่ะ มันก็เกิดขึ้นของมันเอง" มันขนเอามาเอง หมักหมมทำให้เกิดสนิม จนว่าจิตดำ จิตมืดน่ะ มันเองแหละเป็นสนิมของมัน
เมื่อทำสนิมให้มันออกจากดวงจิตนี่แล้ว "จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ" ให้เป็นผู้หมั่นพยายามหัดทรมานสั่งสอนมัน อย่าไปปล่อยตามใจมัน มีความรู้เท่ามัน อย่าไปตามใจมัน "หัดให้มันอยู่ในอำนาจของสติ" สติควบคุม ขัดไปขัดมามันก็ขาวหรอก
จิตขาว จิตสะอาด จิตผ่องแผ้วนั่นแหละ "มนสาเจ ปสนฺเนน ภาสติ วา กโรติวา" จิตเจ้าของควบคุมขัดเกลาให้ดีแล้ว จิตผ่องแผ้วดีแล้ว จะพูดอยู่ก็ตามมีความสุขเท่านั้น .. "
"อนาลโยวาทะ" (หลวงปู่ขาว อนาลโย)
โดย นพ.อวย – ม.ร.ว ส่งศรี เกตุสิงห์ -
《 ♤ บุญใหญ่ ไทย-เมียนมา ถึงบรรพบุรุษโยเดีย》
ขอเชิญ ร่วมทำบุญ งานทอดผ้าป่า
ถวายพระพุทธชินราช และ พระศรีอริยเมตไตรย
ประดิษฐาน ณ วัดสุขะกลาง หมู่บ้านสุขะ
(หมู่บ้านทายาทโยเดีย) เมืองมัณฑเลย์
ประเทศ เมียนมา
ในวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2565
ร่วมสนับสนุนตามกำลังศรัทธา หรือ ร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่ากองละ 2000 บาท
อานิสงส์จากงานนี้ เพื่อได้ร่วมรำลึก บรรพบุรุษ
ชาวอยุธยา โดย ลูกหลานเหลนโหลน ไทย รุ่นหลัง
Merit offering of Two Thai Buddha images.
(Buddha Chinnaraj and Sri Ariya Metrei)
To Sukha (central) monastry,
Sukha village (Yordaya descendant), Mandalay, Myanmar
During 18-19 November 2022.
The Memory of Yordaya ancesters from new Thai generation.
Joining rising fund to following account
ได้ ตามบัญชีโครงการ
[ในประเทศไทย, Thailand account]
ธนาคารไทยพาณิชย์, Siam Commercial Bank
2712427689
นางสาว เรวดี จะเรียมพันธ์ และ นายทวิช บุญธรรม
Miss Ravadee Chareamphan and Tawich Boontham
[ประเทศเมียนมา, Myanmar account]
{บช เจ้าอาวาส วัดสุขะ (กลาง) หมู่บ้าน}
Ashin Margainda
24130124100739901
KBZ (MDY26)
โปรแจ้ง ชื่อนามสกุล และ สลิป กลับ... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๕
หน้า 51 ของ 402