คลังเรื่องเด่น
-
"พระพุทโธ คำสิริมงคล" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
"พระพุทโธ คำสิริมงคล"
" .. เมื่อประมาณ ๒๐ ปีมาแล้ว "ญาติโยมมาเล่าให้ฟังว่าพระอาจารย์มีชื่อองค์หนึ่ง" เป็นที่นับถือกว้างขวางไม่น้อยในความมีญาณรู้เห็นอะไรๆ ของท่าน "ท่านบอกว่าหลังกึ่งพุทธกาลแล้วไม่กี่สิบปี จะมีการตายทั้งโลก" และท่านย้ำเน้นว่า "ตายทั้งโลก ทั้งโลกนะ"
เมื่อได้ฟังญาติโยมผู้นั้นเล่าก็ได้บอกไปว่าจะจริงหรือไม่จริงตามที่ท่านบอกก็ตาม "เพื่อความไม่ประมาท เพื่อสิริมงคลยิ่งใหญ่แก่ชีวิต นึกถึงสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้" ให้ทุกลมหายใจเข้าออก
พระพุทโธนั่นแหละท่องไว้ "พระพุทโธ พระพุทโธ พระพุทโธ" ให้คำศักดิ์สิทธิ์มหามงคลที่สุดนี้กึกก้องอยู่ในหัวใจตลอดเวลา "เสียงนี้มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์ที่สุด" ผู้ไม่มีความเคารพเทิดทุนสมเด็จพระบรมศาสดาจริง จะไม่มีวาสนาได้ รับสิริมงคลนี้ไปปกปักรักษาชีวิต
บอกเช่นนี้ไม่ใช่การบอกให้งมงาย "นี้เป็นความจริง ไม่ใช่เรื่องงมงาย หรือหลอกลวง คำพระพุทโธเป็นคำสิริมงคลหาที่เปรียบมิได้" และก็เป็นคำที่อัญเชิญมาประจำใจ ประจำความรู้สึกนึกคิด "เพื่อให้กิเลสพ่ายแพ้ กิเลสไม่อาจเข้าสู่จิตใจผู้ที่มีคำพระพุทโธอยู่แล้วได้อย่างแน่นอน" .. "
"แสงส่องใจ... -
พระอรหันต์ ๑๐ จำพวก
พระอรหันต์ ๑๐ จำพวก
๑.พระอรหันตสุกขวิปัสสกะ
๒.ผู้ออกจากปฐมฌานแล้วบรรลุพระอรหัต
๓.ผู้ออกจากทุติยฌานแล้วบรรลุพระอรหัต
๔.ผู้ออกจากตติยฌานแล้วบรรลุพระอรหัต
๕.ผู้ออกจากจตุตถฌานแล้วบรรลุพระอรหัต
๖.ผู้ออกจากอากาสานัญจายตนฌานแล้วพิจารณาสังขารแล้วบรรลุพระอรหัต
๗.ผู้ออกจากวิญญาณัญจายตนฌานแล้วพิจารณาสังขารแล้วบรรลุพระอรหัต
๘.ผู้ออกจากอากิญจัญญายตนฌานแล้วพิจารณาสังขารแล้วบรรลุพระอรหัต
๙.ผู้ออกจากเนวสัญญานาสัญญายตนฌานแล้วพิจารณาสังขารแล้วบรรลุพระอรหัต
๑๐.ผู้ออกจากนิโรธแล้วบรรลุพระอรหัต
........
ดังปรากฏข้อความดังนี้
........
บทว่า อุภโตภาควิมุตฺโต ความว่า หลุดพ้นแล้วโดยส่วนทั้ง ๒. อธิบายว่า หลุดพ้นแล้วจากรูปกายด้วยอรูปสมาบัติ และหลุดพ้นแล้วจากนามกายด้วยมรรค.
บุคคลนั้นมี ๕ จำพวก คือ บุคคลผู้ออกจากอรูปสมาบัติ ๔ แต่ละสมาบัติแล้วพิจารณาสังขาร แล้วบรรลุพระอรหัต ๔ จำพวก. และพระอนาคามีผู้ออกจากนิโรธแล้ว บรรลุพระอรหัต ๑ จำพวก.
...ฯลฯ...
บุคคลผู้ชื่อว่าปัญญาวิมุตตะ เพราะหลุดพ้นด้วยปัญญา.
ปัญญาวิมุตตะนั้นมี ๕ จำพวก ได้แก่บุคคลเหล่านี้คือ พระอรหันตสุกขวิปัสสกะจำพวก ๑... -
ย้ำ ความผิดสงฆ์ กฎ มส. กำหนดไว้ชัดเจน ไม่ใช่หน้าที่ของฆราวาส
ผอ.พศ. ย้ำ ความผิดสงฆ์ กฎ มส. ออกตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ กำหนดไว้ชัดเจน ไม่ใช่หน้าที่ของฆราวาสในการตัดสินพระภิกษุสงฆ์ว่าถูกหรือผิด
29 พ.ค.- ผอ.พศ. ย้ำ ความผิดสงฆ์ กฎ มส. ออกตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ กำหนดไว้ชัดเจน ไม่ใช่หน้าที่ของฆราวาสในการตัดสินพระภิกษุสงฆ์ว่าถูกหรือผิด
นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติย้ำ พุทธศาสนิกชนต้องให้ความเคารพพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของพุทธศาสนา และส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้เจริญมั่นคง ต้อง ร่วมกันปกป้องพระพุทธศาสนา อย่าถือวิสาสะหรือเอาความคิดของตนเป็นที่ตั้ง เข้าไปก้าวล่วงอำนาจของคณะปกครองสงฆ์ ตั้งตนอยู่เหนือกฎหมาย ทำให้ประชาชนสับสน ความผิดของสงฆ์ ต้องพิจารณาโดยคณะสงฆ์ ซึ่งได้กำหนดไว้ในกฎ มส. ว่าด้วยการลงนิคหกรรม ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ อย่างชัดเจน มิใช่หน้าที่ของฆราวาสในการตัดสินหรือชี้ผิดชี้ถูกพระภิกษุ ทุกอย่างมีกระบวนการ และวิธีการ ชึ้งต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์พระภิกษุสงฆ์ประพฤติไม่เหมาะสม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการร่วมกับเจ้าคณะปกครองสงฆ์... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕ -
อารมณ์เบื่อโลก
อารมณ์เบื่อโลก
หลวงพ่อฤๅษีฯ ตอบปัญหาธรรม
ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ คนที่ไม่เคยปฏิบัติธรรม แต่ว่ามีความรู้สึกเบื่อโลกอย่างนี้เป็นนิพพิทาญาณหรือเปล่าคะ ?
หลวงพ่อ : เบื่อนิพพิทาญาณหรือเบื่อหนักหนี้หรือเบื่อกลุ้มใจ นิพพิทาญาณ เขาแปลว่า เบื่อ ญาณเขาแปลว่ารู้สึกเบื่อ เราก็ต้องดูว่าเขาเบื่อโลกไม่หวังเกิดอีก ไม่หวังเป็นเทวดาหรือพรหม หวังนิพพาน นี่เป็นนิพพิทาญาณ ถ้าเบื่อเฉยๆไม่อยากอยู่ในโลกนี้ อันนี้เรียกมีจิตกังวลหรือจิตเศร้าหมอง นิพพิทาญาณนี่เขาไม่ซึม
ผู้ถาม : อย่างนี้จะแก้โดยการเจริญสมาธิได้ไหมคะ ?
หลวงพ่อ : จะไหวเรอะ ไม่ไหวนะ ใจเขาเป็นแบบนั้น ต้องใช้พระสูตรง่ายๆ จะเป็นเทปพระสูตรหรือหนังสือพระสูตรก็ได้ เอาของที่ยากไปก็ไม่ไหว ถ้าพระสูตรหรือชาดกก็ดี ตอนที่ท่านประชุมชาดกดีมาก
ขอบคุณที่มา : ศูนย์พุทธศรัทธา สำนักปฏิบัติพระกรรมฐานสาขาวัดท่าซุง www.BuddhaSattha.com -
ถวายสังฆทานให้แมว หรือคนที่ป่วยจะได้ผลหรือไม่?
ถวายสังฆทานให้แมวหรือคนที่ป่วยจะได้ผลหรือไม่?
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
ผู้ถาม :- " ทีนี้เรื่องการถวายสังฆทานนะครับ
ถ้าสังฆทานแมวได้หรือเปล่าครับ...?"
หลวงพ่อ :- "เอาแมวมาถวายสังฆทานเหรอ...พระไม่รับหรอก"
ผู้ถาม :- "ไม่ใช่อย่างนั้นครับหลวงพ่อ คือที่บ้านผมมีแมว
ชื่อมงคล ป่วยเพราะถูกแมวใหญ่กัด ไม่กินข้าวหลายวันแล้ว
ก็นึกในใจว่าทิ้งไว้ไม่ได้แน่ ทำท่าจะตาย ก็เลยขอบารมีองค์
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า
ทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ มีวัดท่าซุงเป็นที่สุด
และบอกว่าถ้าหากว่าเจ้าหายละก้อ...พ่อจะถวายสังฆทาน"
หลวงพ่อ :-"อ๋อ...ถวายสังฆทานให้แมว"
ผู้ถาม :- "ครับ..."
หลวงพ่อ :- "เจตนาเป็นกุศล...ใช้ได้"
ผู้ถาม :- "ทีนี้ก็เลยสงสัยว่า ถ้าบ้านใครมีหมู หมา กา ไก่ เจ็บไข้
ได้ป่วย หรือใครป่วย ถ้าถวายสังฆทานแล้วอุทิศส่วนกุศลให้
อย่างนี้จะมีผลไหมครับ...?"
หลวงพ่อ :- "มีผล แต่ผลที่จะมีจริง ๆ คือผู้ถวายสังฆทานมีผล
เต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ อาศัยเมตตาบารมีในพรหมวิหาร ๔ ตัวนี้
มันก็สร้างความดี เขาจะดีขึ้นเองได้เหมือนกัน เขาดีกันเยอะ
แล้วนี่ บางทีเขาป่วย ๆ... -
ทำความดีโดยไม่ต้องนั่งกรรมฐาน จะตกนรกไหม?
ทำความดีโดยไม่ต้องนั่งกรรมฐาน จะตกนรกไหม?
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
“หลวงพ่อครับ ถ้ากระผมทำแต่ความดีโดยไม่ต้องนั่งกรรมฐาน
จะมีสิทธิ์ตกนรกไหมครับ?”
“มีสิทธิ์ตกแน่” หลวงพ่อตอบทันที
“อ้าว ก็พระพุทธเจ้าสอนว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มิใช่หรือครับ?”
ข้าพเจ้าแย้ง
“ใช่ แต่คุณหรือคนธรรมดาทั่วๆ ไปจะมีใครกระทำแต่ความดี
๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เล่า มีแต่ทำดีมากทำชั่วน้อย หรือทำชั่วมาก
ทำดีน้อย จริงไหม? ไม่ใช่พระอรหันต์นี่ ท่านมีสติทุกลมหายใจ
เข้าออกจึงจะทำความดีได้ทั้ง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์” หลวงพ่ออธิบาย
“แต่หลวงพ่อเคยพูดไว้นี่ครับว่า การบำเพ็ญทานและรักษาศีลนั้น
ถือเป็นความงามเบื้องต้นของพระพุทธศาสนา หากตายไปก็มีสิทธิ์
ไปจุติเป็นเทวดา เสวยสุขในสวรรค์ได้” ข้าพเจ้าแย้งเพราะยังข้อง
ใจอยู่
“เก่งนี่ ที่จำได้ แต่นั่นต้องหมายความว่า ก่อนตาย จิตของคุณ
ก่อนที่จะแยกจากกาย ต้องจับอยู่ในกุศลผลบุญของทาน ศีล
ที่คุณทำมาด้วยนะ จึงจะไปเกิดเป็นเทวดาได้ แต่ถ้าจิตของคุณ
ก่อนที่จะแยกจากกาย ไปจับอยู่ในกรรมชั่วแม้เพียงน้อยนิด คุณ
ก็ต้องไปรับกรรมชั่วก่อน ต่อเมื่อชดใช้กรรมชั่วจบสิ้นแล้วนั่นแหละ... -
เรื่องของคนกลัวผี
เรื่องของคนกลัวผี
หลวงพ่อพระราชพรหมยานตอบปัญหาธรรม
ผู้ถาม:- แล้วจะทำยังไงละคะ จะไม่ให้ผีมาหลอก…?
หลวงพ่อ:- ความจริงไม่มีผีคนไหนหลอกคน ฉันถามเขาแล้ว ถ้าเรารู้เรื่องสภาวะของผีจริงๆ ผีนี่เขาไม่หลอกอะไรเลย ไอ้ที่แสดงตนให้ปรากฎนี่เขาต้องการความช่วยเหลือ เพราะเขาลำบาก นี่เขารู้ว่าคนไหนมีบุญพอที่จะช่วยเขาได้ สมมติว่าคนนี้ถูกรถชนตายตรงนี้ ความจริงเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่เขาจะมาอยู่ที่ตรงนั้นแสดงตนให้ปรากฏ ไอ้เราเลยหาว่าผีหลอกแช่งต่อไปเลย ให้พร ไอ้ผีเป็นไง…ผีก็ร้องไห้ เขาก็เสียใจ เพราะแกอดอยาก ใช่ไหม…
ไปถามเขาแล้ว เขาบอกเวลาที่จะหลอกนะไม่มี แต่พวกที่ล้อพวกนี้ก็ไม่ใช่ผี เป็นพวกเทวดาแล้วก็เป็นเทวดาที่เป็นเพื่อนกันมาก่อน ชอบพอกันมาก่อน หมายความว่าเคยเกิดเป็นเทวดามากับเขา หรือว่าเขาไปเกิดเป็นเทวดา แต่เราไม่ได้เกิดเป็นเทวดา เป็นพวกเป็นพ้องกันมาก่อน พวกนี้จึงมาล้อเล่น
ผู้ถาม:- ถึงรู้อย่างนี้แล้วก็ยังกลัวอีกแหละคะ ตอนเป็นเด็กๆเขามักจะพูดว่า เดี๋ยวผีหลอกๆ
หลวงพ่อ:- ไอ้ตัวนี้แหละเป็นตัวอุปาทาน อุปาทานมันกิน คิดว่าผีหลอกอยู่เสมอ มันไม่ใช่ของจริง จิตมันข้องอยู่ก็กลัวอยู่เรื่อย... -
นึกถึงบุญไม่ออก จะทำอย่างไร? หลวงพ่อพระราชพรหมยานตอบปัญหาธรรม
นึกถึงบุญไม่ออก จะทำอย่างไร?
หลวงพ่อพระราชพรหมยานตอบปัญหาธรรม
ผู้ถาม :- "บางทีมันเพี้ยนไป นึกถึงบุญไม่ออกครับ"
หลวงพ่อ :- "เป็นธรรมดา บางครั้งอารมณ์มันมีอย่างนี้จริงๆ
เหมือนกันทุกคนนะ... เหมือนกัน ไม่ใช่เฉพาะบุคคล บางครั้ง
มันจะนึกถึงบุญไม่ออกก็มี ฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงสอนเจริญ
พระกรรมฐาน ฝึกจิตให้ชินไง ใช่ไหม...
ฝึกจิตให้ชิน คือ จับอันดับแรก "พระพุทธเจ้า" ต้องเอาก่อน
ให้อารมณ์มันชิน คำว่า "ฌาน" ก็คือจะได้ไม่ลืม ถ้าเราปล่อย
เละละเดี๋ยวมันก็เผลอ พอบาปเข้าสิงปั๊บมันจะตัด เราลืมเลย
ทีนี้วิธีที่ท่านสอนแบบนี้กันบาปเข้าแทรก วิธีฝึกกรรมฐาน
เขาฝึกให้ชิน กันบาปเข้าแทรกเวลาที่เราจะตาย บาปมันจะ
แทรกไม่ได้ ทำบุญอย่างอื่นหนักขนาดไหนก็ตาม แต่จิตมัน
ยังไม่แน่นอนนัก เราจะตายบาปเข้าแทรกได้ เราจะลงนรกได้
ถึงบอกว่าทำจิตให้เป็นฌาน ทำให้ทรงตัว คำว่า ฌาน ก็คือ
อารมณ์ชิน มันนึกได้เรื่อยๆใช่ไหม การนึกถึงพระพุทธเจ้า
ได้เรื่อยๆ น่ะ คือ ฌาน"
ขอบคุณที่มา : ศูนย์พุทธศรัทธา สำนักปฏิบัติพระกรรมฐานสาขาวัดท่าซุง www.BuddhaSattha.com -
ถ้าที่โรงเรียนให้กินอาหารแพลนต์เบส 1 วันต่อสัปดาห์ ใครสนใจบ้าง?
ถ้าที่โรงเรียนให้กินอาหารแพลนต์เบส 1 วันต่อสัปดาห์ ใครสนใจบ้าง?
ฟังดูน่าสนใจใช่ไหมทุกคน จริง ๆ ในไทยเราล่าสุด ก็มีโครงการหนึ่งที่น่าสนใจมาก ๆ มีชื่อว่า “Nourishing Tomorrow” หรือ “มื้อนี้เพื่ออนาคต” ที่เข้าไปช่วยเสิร์ฟอาหาร Plant-based (อาหารจากพืช) ให้กับนักเรียนในแต่ละโรงเรียนที่เข้าร่วมอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ โดยนักโภชนาการของโครงการจะเข้าไปสอนกำหนดอาหารโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วย เพื่อให้นักเรียนได้ร้บสารอาหารที่ครบถ้วนจากมื้อนั้น
ซึ่งพอเห็นไอเดียของโครงการนี้ มันก็เลยทำให้เรามีคำถามผุดขึ้นในหัวมากมาย ว่าที่มาที่ไปอย่างไร ทำได้จริงไหม เพราะอาหารกลางวันสมัยในโรงเรียนเนี่ยเป็นอาหารที่สำคัญมาก เด็กเป็นวัยเจริญเติบโต อาหารที่กินก็ควรจะได้โภชนาการที่ครบถ้วน แต่บางทีเราก็เห็นว่าบางโรงเรียนเด็กยังได้กินอาหารที่ไม่ถูกหลักโภชนาการอยู่เลย
เราเลยไปพูดคุยกับคุณจันจรี เชียรวิชัย ผู้จัดการฝ่ายนโยบายอาหารประจำประเทศไทย ถึงที่มาที่ไปของโครงการ ทำไมต้องเจาะกลุ่มเป้าหมายนักเรียนด้วย? นักเรียนชอบไหม? ราคาอาหารจะแพงขึ้นหรือเปล่า?
ว่าแล้วก็ไปอ่านแคปชั่นใต้ภาพเลย!
โพสต์แบบเต็ม... -
"พระอรหันต์ไมมีบาปไมมีบุญ" (หลวงปู่หล้า เขมปัตโต)
.
"พระอรหันต์ไมมีบาปไมมีบุญ"
" .. ที่กล่าวว่า "พระอรหันต์ไม่มีบาปไม่มีบุญนั้นเป็นของจริงแท้" เพราะเหตุว่า "พระอรหันต์นั้นสร้างบุญเต็มแล้ว จะเอาบุญไปเทใส่จิตใจขององค์ท่านก็ไหลทิ้งเพราะเต็มแล้ว" จะเอาบาปไปใส่ใจอีกก็ไม่มีที่ใส่เพราะบุญเต็มก่อนแล้วและองค์ท่านก็เว้นบาปพอแล้ว .. "
"ข้อคิดธรรม"
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๕ -
ทำบุญด้วยอะไรจึงได้บุญตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน
ทำบุญด้วยอะไรจึงได้บุญตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน
๑. การสร้างอาราม การปลูกสวน เช่น ปลูกสวนดอกไม้ และสวนผลไม้
๒. การปลูกป่า การปลูกหมู่ไม้ หรือการจัดทำสถานที่ปฏิบัติธรรมโดยทำการล้อมเขตแดนในป่าธรรมชาติที่เกิดขึ้นเองแล้ว ทำเจดีย์ ปลูกต้นโพธิ์ ทำที่จงกรม ทำมณฑป กุฏิ ที่หลีกเร้นและที่พักในเวลากลางวันและกลางคืน
๓. การสร้างสะพาน การบริจาคเรือ
๔. การขุดสระน้ำ บ่อน้ำ การตั้งโรงทานน้ำดื่ม
๕. การให้ที่พักอาศัย
........
ดูรายละเอียดใน วนโรปสูตร สังยุตตนิกาย สคาถวรรค พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕
วนโรปสูตร ภาษาบาลี ฉบับสยามรัฐ
https://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=15&A=857
วนโรปสูตร ภาษาไทย ฉบับหลวง
https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=15&A=966
วนโรปสูตร ภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาฯ
https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=15&siri=47
วนโรปสูตร ภาษาอังกฤษ แปลโดย สุชาโต ภิกขุ
https://suttacentral.net/sn1.47/en/sujato?layout=none...
อรรถกถาวนโรปสูตร
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=145
CR... -
ขนลุก "อดีตศัลยแพทย์" บอกเหตุช่วย "แตงโม" เพราะมีสิ่งที่มองไม่เห็นทำแบบนี้
พ.อ.นพ. ธวัชชัย กาญจนรินทร์ "อดีตศัลยแพทย์" โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาทวงความยุติธรรมให้กับสาว "แตงโม" แบบรัวๆโดยที่ไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ
ล่าสุด คุณหมอธวัชชัย "อดีตศัลยแพทย์" ได้ออกมาเปิดเผยเหตุผลที่เข้ามาข้องเกี่ยวในคดีของสาว "แตงโม" ทั้งที่ตอนแรกที่เกิดเรื่องไม่เคยเคลื่อนไหวใดๆ โดยเป็นเรื่องที่ได้ฟังแล้วก็ขนลุก สำหรับข้อความดังกล่าวได้ถูกเขียนไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของคุณหมอ ซึ่งระบุว่า "ลาก่อนนะ สังขารน้องแตงโม ขณะที่น้องแตงโมยังมีชีวิต ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ไม่เคยได้ดูภาพที่สวยงาม ละคร รายการ หรือ ผลงานของน้อง เมื่อน้องเสียชีวิต ได้มีเพื่อนที่เป็นตำรวจ ส่งภาพถ่ายเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ มาให้ดูแล้วถามว่า "แผลต้นขาข้างขวาด้านในเกิดจากใบพัดเรือได้ไหม" จึงตอบไปตามความเห็นของศัลยแพทย์อุบัติเหตุ เรื่อง mechanisms of injuries ว่า "เป็นไปไม่ได้" หลังจากนั้นก็มีคนถามเรื่อยๆ จึงเขียนบทความ"
ครั้งแรก 7 มีนาคม: เรื่องบาดแผล very sharp cut และ ลิ่มเลือดแข็งตัวที่ติดอยู่บนผ้า
ครั้งที่สอง 10 มีนาคม: เรื่องการบาดเจ็บจากใบพัดเรือ
บทความเป็นลักษณะวิชาการ... -
"โชคดีที่ได้มาเกิดพบพุทธศาสนา" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
.
"โชคดีที่ได้มาเกิดพบพุทธศาสนา"
" .. คนไทยที่เกิดในเมืองไทยเป็นชาวพุทธ "บรรพบุรุษ ปู่ ย่า ตา ยาย ครูบาอาจารย์สั่งสอนให้ละชั่วทำดีตามหลักศาสนา" เกิดความรู้สึกละอายบาปทำแต่สิ่งที่เป็นบุญกุศล "จึงรู้สึกว่าเป็นโชคดีที่ได้มาเกิดพบพุทธศาสนา" ได้ลืมหูลืมตาเห็นแสงสว่างตั้งแต่เกิดมาทีเดียว
ขอทุกคน "จงอย่าพากันลืมพุทธศาสนา" ให้ตั้งมั่นอยู่ในใจเสมอว่าวิชาและอาชีพ "ตลอดถึงความประพฤติทางกาย วาจา ใจ ของเรานั้น ล้วนแล้วแต่อยู่ในขอบเขตของพุทธศาสนา"
ฉะนั้น เราทำสิ่งใดลงไป "จงให้ระมัดระวังสังวร คิดได้เสมอว่าเวลานี้พระพุทธเจ้ารู้เห็นตัวเราอยู่เสมอ" แล้วจึงทำลงไปก็จะมีผิดน้อยหรือจะไม่ผิดก็ได้ .. "
"สนทนาธรรม" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
เมืองเพิร์ธ ออสเตรเลีย ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ -
ตราบเท้าเข้าสู่พระนิพพาน
หลวงพ่อจิตโตได้พูดถึงคำว่าตราบเท้า กับตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานได้น่าสนใจมาก ท่านอธิบายอย่างละเอียด สำคัญมาก( พูดผิดชีวิตเปลี่ยน) ถ้าพูดว่าตราบเท่าไม่ถึงพระนิพพานนะ อีกนานเลย ท่านกล่าวว่า
*ไปกับพระ นั่งอยู่ในรถ พระถามอยู่เรื่อง ถามว่า หลวงพี่ ! ตราบเท้ากับตราบเท่านี่เหมือนกันมั้ย เราก็ถามว่า
แล้วท่านเคยได้ยินหลวงพ่อท่านพูดตราบเท่ามั้ยล่ะ? (หลวงพ่อวัดท่าซุง)มีบ้างมั้ยล่ะ? ตราบเท่าเข้าสู่นิพพานน่ะ เคยได้ยินหลวงพ่อพูดมั้ยล่ะ ก็ว่างั้น
*ตราบเท่ามันไปไม่ถึงนิพพานหรอกนะ ไม่เหมือนตราบเท้า ใครปรารถนาตราบเท่า ก็ยังไปไม่ถึงนิพพานหรอกนะ
*เพราะแกก็ต้องอยู่ตราบเท่าตลอดไป เอ้อ จนกว่าจะเฒ่าอ่ะ ไปอีกนาน เอออย่างงั้น
**มันไม่ใช่ของเล็กน้อยนะ อย่าไปพูดส่งเดชนะ มันมีผลต่อสิ่งที่เธออธิษฐานเหมือนกันนะ
*หลวงพ่อท่านพูดยังไง ก็พูดตามท่านเถอะ
*เพราะนั่นน่ะ ท่านคิดแล้วพิจารณาแล้ว ท่านเห็นว่าสิ่งที่ นำให้เราอธิษฐานเนี่ยมันตรงที่สุดแล้วล่ะ
*อย่าไปแปลงไปเปลี่ยนท่านนะ ใครเขาจะแปลงจะเปลี่ยนก็อย่าไปตราบเท่ากับเขาล่ะ
*ตราบเท่าเนี่ยมันแปลว่าอะไร เธอทราบไหมล่ะ ??
*อย่างเธอจะรักกันตราบเท่าชั่วฟ้าดินสลายเนี่ย... -
พิจารณาให้เห็นตามความจริง (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็น ค่อยๆ คิด ค่อยๆนึก เห็นตามความจริง เราเรียนหาความจริงกันในหลักพระพุทธศาสนา ไม่ใช่จะมานั่งโกหกมดเท็จตนเอง ถ้าเห็นตัวเราแล้วก็เห็นบุคคลอื่น ดูหาความเป็นจริงให้พบ จนกระทั่งจิตสลดคิดว่า
ร่างกายของคนและสัตว์เต็มไปด้วยความสกปรกจริงๆ
ร่างกายของคนและสัตว์มีทุกข์จริงๆ
ร่างกายของคนและสัตว์หาความเที่ยงไม่ได้จริงๆ
มันมีการสลายตัวไปในที่สุด
ไม่มีใครจะบังคับบัญชาร่างกายให้มีสภาพทรงตัว
ไม่มีใครกล้าจะแสดงว่าเราเป็นเจ้าของร่างกายจริงจังโดยการบังคับให้ทรงตัวได้ ในเมื่อร่างกายมันไม่ดีอย่างนี้ เราจะไปเมามันเพื่อประโยชน์ในโลกีย์วิสัยทำไม
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
(พระมหาวีระ ถาวโร)
วัดจันทาราม (ท่าซุง) จ. อุทัยธานี
ที่มาจากหนังสือ : รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๗ (๒๕๓๙) หน้า ๑๙
Credit: ขอขอบพระคุณที่มาจาก Facebook =AZWj6JRkqG9WYgo84jAxZdQdW7xAIJuNTlvJpDua4Y0OfDHV-9jE4QcX0tZ41b0J2im5D1OAuRbsVXvcfTa2iR61aMhspv0ilWIXWLhKR5rrY0mse7dYYYq0dmdNyC-9-EKiEe35qpT5a7B12j--vRdE16PQ9eTzfBmT6l2mT8paa3ixfu_N_Ztqqpqzd3juuag&__tn__=%2CO%2CP-R']แสงเทียนส่องธรรม -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕ -
"ปฏิบัติเพื่อละ" (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
.
"ปฏิบัติเพื่อละ"
" .. "การปฏิบัติ" ให้มุ่งปฏิบัติเพื่อสำรวม "เพื่อความละเพื่อคลายความกำหนัดยินดี เพื่อความดับทุกข์" ไม่ใช่เพื่อเห็นสวรรค์วิมานหรือ แม้พระนิพพานก็ไม่ต้องตั้งเป้าหมายเพื่อจะเห็นทั้งนั้น ให้ปฏิบัติไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องอยากเห็นอะไร "เพราะนิพพานมันเป็นของว่าง ไม่มีตัวมีตน หาที่ตั้งไม่มี" หาที่เปรียบไม่ได้ปฏิบัติไปจึงจะรู้เอง .. "
"หลวงปู่ฝากไว้"
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล -
กรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระราชดำเนินพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธมหาสมณโคดมบรมสุข
วันพฤหัสบดี ที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธมหาสมณโคดมบรมสุข พระผงเนื้อว่านยา และมังคลาภิเษกพระรูป พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และหนังสือตำรายา ซึ่งมูลนิธิราชสกุลอาภากร ในพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จัดสร้างขึ้น
การนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานสงฆ์ ทรงจุดเทียนชัย และทรงเป็นประธานการเจริญจิตภาวนาในพิธีพุทธาภิเษกและมังคลาภิเษก
Credit: ขอขอบคุณที่มาจาก Facebook =AZXPGiIb1woCMvIUhUOHtFZbYiKngGJdkHEz-1I7koAvS8M1ea5GB1VuhtIATz_sVpTpaytLBlYEO9EUNkwVsyB19m3BbBnPWKuq-dODTfYtaGXeu23cNlyV5xEeUoE3W853RXdv5cQBT_P_W6QZXpLb2mzFjFZG52x3GNjVAZgqa_OBz0OB7d9DSk7JLLiJ52Q&__tn__=%2CO%2CP-R']ข่าวสารงานพระพุทธศาสนา -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕ -
อาราธนาศีลเราต้องสวดอะไรไหมคะ หรือแค่ตั้งใจก็พอ ?
ถาม : อาราธนาศีลเราต้องสวดอะไรไหมคะ หรือแค่ตั้งใจก็พอ ?
ตอบ : แค่เราตั้งใจว่าจะรักษาศีลก็พอ การอาราธนาก็คือการขอร้องให้พระท่านบอกว่าศีลมีอะไรบ้าง พอพระท่านบอก เราก็สมาทาน คือศึกษาตามนั้นว่าศีลแต่ละข้อเราต้องปฏิบัติอย่างไร ในเมื่อเรารู้อยู่แล้วเราก็ทำไปเลย ไม่ต้องเสียเวลาอาราธนา ไม่ต้องเสียเวลาสมาทาน
ถาม : มีคนบอกว่า ถ้าไม่อาราธนาแล้วไม่นับ ถ้าอย่างนั้นที่ทำมาก็เป็นศูนย์ ?
ตอบ : บางคนเขาก็เข้าใจอย่างนั้นแหละ ศีลอยู่ที่การตั้งใจงดเว้น ไม่ได้อยู่ที่การอาราธนาหรือสมาทาน
...................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
"ธรรมเกิดจากปฏิบัติจิตภาวนา" (หลวงปู่ขาว อนาลโย)
.
"ธรรมเกิดจากปฏิบัติจิตภาวนา"
" .. พระพุทธเจ้าแลพระอรหันต์ทั้งหลายเป็นจำนวนล้าน ๆ "ล้วนพิสูจน์จากธรรมปฏิบัติจิตภาวนาทั้งสิ้น" ท่านจึงรู้ได้เห็นได้โดยไม่ต้องถามกันและถามใคร "แล้วนำธรรมเหล่านั้นมาสอนโลก"
โดยผลัดเปลี่ยนกันมา "จนถึงพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันคือพระสมณโคดมของพวกเราชาวพุทธ" ให้ได้กราบไหว้บูชาและปฏิบัติตามอยู่เวลานี้ จะสงสัยไปไหน "กิเลสเคยหลอกโลกให้สงสัยและล่มจมมามากต่อมากและนานแสนนานแล้ว" ทำไมจึงไม่พากันเบื่อหน่ายอิ่มพอในโทษของมันบ้าง พอได้ลืมตาอ้าปากเข้าสู่ธรรมดวงประเสริฐเลิศในไตรภพ .. "
"อนาลโย ผู้ไม่มีความอาลัย"
(หลวงปู่ขาว อนาลโย) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕ -
หากตั้งใจปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบัน ท่านท้าวมหาราชจะตามคุ้มครองตลอดชีวิต
ในเรื่องของท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ พระองค์ ท่านเคยให้พรไว้ว่า บุคคลใดก็ตามถ้าตั้งใจปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบันจริง ๆ ท่านจะตามคุ้มครองตลอดชีวิต เพราะฉะนั้น..ให้ทุกคนตั้งหน้าตั้งตาทำเพื่อความเป็นพระโสดาบันไว้
สุดยอดองครักษ์อย่างท่านท้าวจตุมหาราช ถ้าไม่ใช่คนสำคัญสุด ๆ ท่านไม่เสียเวลาไปมองหรอก ลูกน้องของท่านมีเป็นล้าน ๆ องค์
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๔ ณ บ้านวิริยบารมี -
"ผู้ทำชั่วย่อมเศร้าหมอง" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
.
"ผู้ทำชั่วย่อมเศร้าหมอง"
" .. ที่ท่านกล่าวว่าทำชั่วได้ชั่วนั้น คือว่าไม่ได้หมายเอาภายนอกนะ "หมายเอาภายในนี้" เพราะบางคนทำชั่วแล้ว มันไม่ได้ให้ผลภายนอกก็มี "แต่ว่าภายในใจแน่นอนแหละ ผู้ทำชั่วย่อมเศร้าหมอง" ขุ่นมัว เร่าร้อน ไม่เบิกบาน
อันนี้ "เป็นลักษณะแห่งกรรมอันชั่วที่เกิดขึ้นในใจ" เช่นอย่าง บุคคลผู้มีความโลภจัดอยู่ในใจอย่างนี้ ไปเห็นสมบัติผู้ อื่นมาก ๆ เข้า "อยากได้ คิดวิตกวิจารณ์ ทำอย่างไรจะได้ คิดเท่าใด จิตใจเร่าร้อนไปเท่านั้น"
เพราะว่าบุญตัวน้อย คิดอย่างไรก็ไม่ได้มากอย่างเขา "ถ้าจะคิดไปเบียดเบียนเขา ก็ยิ่งเป็นทุกข์หลาย กลัวว่าเจ้าหน้าที่เขาจะจับได้" ฟ้องร้อง แล้วติดคุกติดตะราง ก็ยิ่งเดือดร้อนใจ เป็นอย่างนี้ละ .. "
"ธรรมโอวาท หลวงปู่เหรียญ ๒"
(หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕ -
สร้างบุญให้เกิดวาสนาก่อน (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธฺมโม)
สร้างบุญให้เกิดวาสนาก่อน ถ้าโยมมีบุญมีวาสนาแล้วไม่จำเป็นต้องขายที่ดินหรอก แค่กระโถนก็ขายได้ อะไรก็ขายได้
บางท่านมาเจริญวิปัสสนากรรมฐาน บอกว่า หลวงพ่อ ดิฉันจะขายที่ดิน ได้ข่าวว่าเขามานั่งกรรมฐาน ๕ วัน ขายที่ดินได้ อย่าหวังผลอย่างนั้น
สร้างบุญให้เกิดวาสนาก่อนถ้าโยมมีบุญมีวาสนาแล้วไม่จำเป็นต้องขายที่ดินหรอก แค่กระโถนก็ขายได้ อะไรก็ขายได้
ถ้าไร้บุญขาดวาสนา ทองคำอยู่ในบ้านก็ขายไม่ออก เพชรนิลจินดา ราคาแพงที่ซื้อเข้าไว้ก็ขายไม่ออกไม่มีคนอยากซื้อ
สร้างบุญไว้กับตัวเองก่อน สร้างกุศลไว้ในใจ เกิดมีบุญวาสนา จะขายอะไรก็ออกหมด จะทำอะไรก็ไม่ขัดข้อง มันอยู่ตรงนี้
บุญ...ช่วยเราได้อย่างไร? - ลายมือหลวงพ่อจรัญ ฐิตธฺมโม
โอวาทธรรม หลวงพ่อจรัญ ฐิตธฺมโม
หนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมะปฎิบัติ เล่มที่ ๖
Credit: ขอขอบพระคุณที่มาจาก Facebook =AZVm3uL-QcXh9QfUgkgLtsWQSTApsN51qWkfRFZZqs6Xf9fkaDy1isTN_e1tuRGSCxzZ6mW_LQSCDpnI8hzJ7uU2PCSqIn-oLaa892x3eXIJuyXp51Bu2zH359Y88S9GdkQJa59npjatmfV20vtKisCGC874Rx3DQrXCKvgX8zf21s0wUGGkZQIfdYByi8ZdqOY&__tn__=%2CO%2CP-R']Nippaan.org -
ถ้าจิตถอนออกมาจากการยึดมั่นถือมั่น ถ้าอย่างนั้นโอกาสหลุดพ้นก็จะมี
(มีโยมพาลูกอ่อนมาทำบุญ) "เห็นอนิจจังไหม ? ตอนนี้ยังเดินไม่ได้ ยังพลิกไม่ได้ ต่อมาก็มาพลิกตัวได้ ขยับไปข้างหน้าได้ หัดคลาน หัดยืน หัดเดิน หัดวิ่ง มีอนิจจังอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่เราได้เห็นหรือเปล่า ? จากเด็กเล็กก็กลายเป็นเด็กโต เป็นหนุ่มเป็นสาว เป็นวัยกลางคน เป็นคนแก่ อนิจจังอยู่เรื่อย
ฉะนั้น...ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม ต้องเห็นทุกอย่างเป็นธรรมะ ไม่ใช่เห็นเฉพาะเวลา ถ้าเห็นเฉพาะเวลานั่งกรรมฐานนี่เสร็จหมด กลายเป็นเหยื่อของวัฏสงสารหมด ต้องเห็นอยู่ตลอดเวลา แล้วเกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด จิตถอนออกมาจากการยึดมั่นถือมั่น ถ้าอย่างนั้นโอกาสหลุดพ้นก็จะมี"
...................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
"ทุกข์ทั้งหลายอยู่ที่จิต อยู่ที่ใจ" (หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร)
,
"ทุกข์ทั้งหลายอยู่ที่จิต อยู่ที่ใจ"
" .. คนเราที่เกิดมาในโลกนี้ ถ้าเราดูรูปร่างกายก็เป็นคน "แต่ว่าบางคนนั้นร่างกายเป็นคน ใจยังเป็นสัตว์เดรัจฉานอยู่ก็มี" ถ้าโลกเราสมัยนี้ไม่ว่าที่ไหน "อย่างว่าแผ่นดินเมืองเชียงใหม่สมัยโบราณ คนปล้น คนจี้ คนฆ่ากันทำลายกันไม่ค่อยมี" แต่สมัยนี้ไม่ได้ มันมีทุกอย่าง "ฉะนั้นเราต้องตั้งใจของเราให้ดี ภาวนาให้ใจของเราให้มันเต็มที่"
โลกนี้มันเป็นอย่างนี้แหละ "เกิดขึ้นมาก็ตั้งอยู่ในกองทุกข์ เกิดในกองทุกข์ แก่ในกองทุกข์ เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ในกองทุกข์ ตายอยู่ในกองทุกข์อันนี้" เป็นอย่างนี้มาทั้งโลก เมื่อมาถึงปัจจุบันชาตินี้ เวลานี้ ปัจจุบันนี้ "เราจะต้องเร่งภาวนาพุทโธ" ทำใจของเราให้สงบ พิจารณากายของเราให้เห็นความแก่ ความชรา ให้เห็นร่างกายนี้ไม่คงทน จิตใจก็จะได้เย็นสบาย ความทุกข์ต่าง ๆ มันจะได้ออกไป
คนเราเมื่อจิตไม่มีทุกข์ ทุกข์อะไรก็ไม่มี "แต่ว่าถ้าจิตมีทุกข์แล้ว อะไรทุกอย่างมันเต็มไปด้วยทุกข์" เมื่อย่นย่อเข้ามา "ทุกข์ทั้งหลายมันอยู่ที่จิต อยู่ที่ใจ" แล้วก็คือใจมีอุปาทานยึดถือ "เมื่อจิตนี้ยึดถือมากก็ทุกข์มาก ยึดถือน้อยก็ทุกข์น้อย" ไม่ยึดเสียเลยก็พ้นทุกข์...
หน้า 67 ของ 402