คลังเรื่องเด่น
-
ผลของการสวดต่อนาม
ในระหว่างที่กำลังรอเพื่อที่จะรับไฟพระราชทานหรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า "กล่องเพลิงพระราชทาน" นั้น ก็ได้เห็นโยมท่านหนึ่งที่มาร่วมงาน มีความรู้สึกแวบขึ้นมาว่า เหมือนกับท่านอาจารย์ ดร.อัมพร ทองเหลือง อดีตอาจารย์ของวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ ซึ่งได้เสียชีวิตและเผาไปแล้ว
ทันทีที่คิดว่าเหมือนกับท่านอาจารย์ ดร.อัมพร ทองเหลือง ท่านอาจารย์ก็ปรากฏตัวขึ้นทันทีทันใด เยื้อง ๆ ไปทางด้านขวามือ มาในชุดขาวสว่างไสวมาก ก็เลยถามว่า "ท่านอาจารย์มาได้เร็วทันใจขนาดนี้ ตอนนี้อยู่ที่ภพภูมิไหน ?" ท่านอาจารย์ดร.อัมพร ทองเหลืองบอกว่า "อยู่ที่สวรรค์ชั้นยามา"
เมื่อถามต่อไปว่าท่านอาจาย์ไปด้วยบุญอะไร ? ท่านบอกว่า ก่อนที่จะเสียชีวิต บรรดาพระภิกษุทั้งที่เป็นเพื่อนอาจารย์ และที่เป็นลูกศิษย์ได้พากันไปเจริญพระพุทธมนต์ให้ กำลังใจเกาะตรงจุดนั้น เมื่อเสียชีวิตแล้วจึงมาเป็นนางฟ้าอยู่ที่ชั้นยามา เสวยสุขอยู่ตามอัตภาพของตน
ตรงจุดนี้ก็เป็นที่น่าคิดว่า โบราณของเรานิยมมีการ "สวดต่อนาม" ให้แก่คนป่วยหนัก บางท่านเมื่อตั้งใจฟังสวด ก็กลายเป็นว่าหายป่วยหายไข้ แข็งแรงขึ้นมาได้ บางท่านที่ไม่ได้ตั้งใจฟังสวดลักษณะนั้น... -
"พุทโธ เป็นยอดกรรมฐาน" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
.
"พุทโธ เป็นยอดกรรมฐาน"
" .. "พุทโธ พุทโธ เป็นยอดกรรมฐาน การภาวนาพุทโธ ๆ ในใจบ่อย ทำให้ใจเย็นสบาย" เพ่งจนพุทโธไม่ถอย เพ่งลงไปจนหายใจเกิดเป็นความสงบ รวมกันเป็นหนึ่งลงไป "พุทโธก็คือ เป็นผู้ที่ตื่นแล้ว เป็นผู้เบิกบานแล้ว" ภาวนาพุทโธไปแล้วจิตใจก็เบิกบานผ่องใส
ตื่นที่อาตมาว่านี้ ก็คือ "การตื่นจากความหลง ไม่หลงใหลไม่เชื่ออะไรที่งมงาย" พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้เชื่ออะไรงมงาย และเราเกิดมาในชาตินี้เป็นบุญลาภอันประเสริฐ ที่ได้มาพบพระพุทธศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ประเสริฐในโลก
"สมควรที่จะลงมือปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์โดยความไม่ประมาท" กิเลสบาปกรรมจะได้น้อยเบาบางจากดวงจิตของตน การที่คนเราจะพ้นทุกข์ไปไม่ได้ก็เพราะไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั่นเอง .. "
"จิตนั่นแหละเป็นแก่นของชีวิต" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
วัดอรัญญบรรพต ศรีเชียงใหม่ หนองคาย -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๕ -
วิชาหนังเหนียว (หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท)
วันหนึ่งมีผู้หญิงวัยแก่คนหนึ่ง แกอยากอยู่ยงคงกะพันอยากหนังเหนียว
นิมนต์ให้หลวงปู่เป่าหัวให้ สุดยอดไปเลย
... หลวงปู่ก็สอนว่า ของพวกนี้ไม่จีรังยั่งยืนศักดิ์สิทธิ์วิเศษเท่ากับภาวนาพุทโธหรอก
แกก็ไม่เอาพุทโธ อยากหนังเหนียวอยู่อย่างเดียว ท่านรำคาญจึงเป่าหัวปู๊ดๆให้ แกก็กลับไปด้วยความสบายใจที่ได้ถูกเป่าเสกกระหม่อมด้วยวิชาหนังเหนียว
... หลังจากนั้นเวลาผ่านไปประมาณครึ่งเดือน เสียงรถพยาบาลวิ่งเข้ามา ที่วัดป่าภูริทัตตฯ อย่างรีบด่วน จอดที่หน้ากุฏิหลวงปู่ ผู้หญิงคนเดิมร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด แพทย์พยาบาลนำเธอ เข้ามากราบเรียนท่านว่า..!!?
"... หลวงปู่เจ้าคะช่วยเป่ากระหม่อมถอดถอนวิชาหนังเหนียวให้ด้วยเถอะ ตอนนี้จะตายอยู่แล้ว ปวดท้องเหลือเกิน ไส้ติ่งจะแตกอยู่แล้ว หมอพยายามผ่าตัด เข็มฉีดยาก็ไม่เข้า เชือดเท่าไหร่ เฉือนเท่าไหร่ก็ไม่เข้า มันเหนียวจริงๆ หนังดิฉันนี่... "
เธอพูดทั้งๆ ที่มือกุมท้องอย่างน่าเวทนาสงสาร หลวงปู่จึงเป่าหัวให้ เธอก็กลับไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลโดยรีบด่วนได้อย่างปกติ
หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท
วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
จาก หนังสือ ประวัติ... -
ถ้ากำลังใจตกควรรีบไปหาพระ หาครูบาอาจารย์ เพื่อให้ท่านช่วยประคับประคอง
ถาม : เมื่อก่อนปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อ ผมพอทำได้กับเขาอยู่บ้าง แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าแย่ลงกว่าเดิมมากครับ ไม่รู้ว่าอยู่ ๆ กำลังใจในการปฏิบัติหายไปไหน มารู้ตัวอีกทีตอนศีลข้อ ๕ ขาดแล้วกู่ไม่กลับ ตอนนี้กำลังพยายามคลานเข้าขอบเขตความดีกับเขาอยู่ครับ แต่ยังอายตัวเอง อายที่แค่ศีลข้อเดียวก็รักษาไม่ได้ อายที่ดีแต่ปาก อายที่ได้สมาธินิด ๆ หน่อย ๆ ก็หลงตัวเอง อายจนแม้แต่อาจารย์ของตัวเองยังไม่กล้าไปเยี่ยมท่าน เหมือนตัวเองเป็นพวกมือถือสากปากถือศีล ทรมานมากครับ ผมอยากขอหนทางแก้ไข และแนวปฏิบัติครับ ?
ตอบ : ขายส้มตำหรือเปล่า ? ถ้าไม่ได้ขายส้มตำก็ไม่ใช่คนมือถือสากหรอก..! เรื่องของการผิดศีลเป็นเรื่องปกติ ปุถุชนที่สติยังไม่สมบูรณ์ โอกาสที่จะผิดพลาดต้องเรียกว่ามี ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ แต่คราวนี้อย่าเศร้าหมองอยู่กับความผิดพลาดนั้นนาน ถ้ารู้ตัวเมื่อไรให้ตั้งใจว่า ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาประคับประคองรักษาของเราต่อไป
อาตมาเคยบอกว่า ถ้ากำลังใจเสียควรจะรีบไปหาพระ หาครูบาอาจารย์ เพื่อที่ท่านจะได้ช่วยประคับประคองให้ ไม่ใช่ว่าอับอายขายหน้า... -
"ใจนี่หละถึงก่อน" (หลวงปู่ขาว อนาลโย)
.
"ใจนี่หละถึงก่อน"
" .. ธรรมทั้งหลาย "จะทำดีทำกุศลก็ใจนี่แหละเป็นผู้ถึงก่อน" เป็นผู้ถึงพร้อม "จะทำบาปอกุศลก็ใจนี่แหละ" จะผ่องแผ้วแจ่มใสเบิกบานก็ใจนี่แหละ "จะเศร้าหมองขุ่นมัว ก็ใจนี่แหละ" ใจเศร้าหมองขุ่นมัวแล้วก็ไม่มีความสุขอยู่ในโลก จะอยู่ที่ไหนก็ไม่มีความสุข
ครั้นใจผ่องแผ้วละก็ พระพุทธเจ้าท่านว่า "มนะสาเจปนะสันเนนะ" บุคคลผู้มีใจผ่องแผ้วดีแล้ว แม้จะพูดอยู่ก็มีความสุข แม้จะทำอยู่ก็มีความสุข "ตโตนะ สุขะมัธเนวติ" อยู่ที่ไหน ๆ ก็มีความสุข มีความสุขเหมือนเงาเทียมตนไป .. "
"อนาลโยวาทะ" (หลวงปู่ขาว อนาลโย)
วัดถ้ากลองเพล จ. หนองบัวลำภู -
วิธีหนีนรกสำหรับผู้มีเวลาน้อย (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
ท่านสาธุชนที่มีเวลาน้อย เพราะต้องประกอบอาชีพ หาเวลาไปนั่งกรรมฐานก็ทำได้ยาก เพราะเวลาว่างมีน้อย ก็ให้ทำตามนี้จะมีผลสมบูรณ์แน่นอน และไม่เสียเวลาประกอบการงานตายแล้วรับรองไม่ลงนรกแน่
๑. เจริญพุทธานุสติแบบง่ายๆ
ให้จัดของบูชาพระพุทธรูปทุกวัน ที่ท่านเรียกว่า ถวายข้าวพระพุทธรูป ของที่ถวายก็เอาอาหารเท่าที่มีอยู่ หรือผลไม้ที่หาได้ง่าย เวลาเช้าหรือตอนสายก็ได้ นำของที่หาได้ถวายพระพุทธรูปที่บ้าน ทำเป็นประจำวัน เวลาถวายคิดในใจหรือว่าออกเสียงก็ได้ ดังนี้
ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายข้าวแกงและน้ำแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อเป็นการบูชาพระคุณ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพระพุทธเจ้าได้เข้าสู่พระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด
เวลาถวายให้ตั้งใจดูภาพพระพุทธรูปด้วยความเคารพ และจดจำรูปของท่านไว้ ตั้งใจทำอย่างนี้ทุกวัน อารมณ์ใจจะมีความคิดถึงและห่วงใยในพระพุทธรูป จะคิดเสมอว่า วันนี้เรามีของอย่างนี้ถวายท่าน วันพรุ่งนี้เราจะหาอะไรถวายท่าน การทำและคิดอย่างนี้เป็นปกติ ไม่จำเป็นต้องคิดทุกวัน
เมื่อจิตมีอารมณ์ว่างจากงานอื่น จิตจะคิดขึ้นมาเอง และเราก็ห่วงการถวายของแก่ท่านทุกวัน ทำอย่างนี้จนมีอารมณ์ชิน... -
คาถาอาราธนา พระยอดขุนพลกาญจนบุรี
สำหรับการพุทธาภิเษกครั้งนี้ก็ได้รับความเมตตาบอกกล่าวจากพระท่านว่า คาถาในการอาราธนาพระยอดขุนพลกาญจนบุรีนั้น ให้ใช้คาถาว่า
"สัตถาธะนุง อากัฑฒิตุง อะเทสะยิ นะโมพุทธายะ" ซึ่งคาถานี้ถ้าหากว่าผู้ฟัง หรือว่าผู้ถอดเสียงฟังแล้วไม่ถนัด เมื่อถอดเสียงแล้วกระผม/อาตมภาพจะให้เขานำมาดูว่า พระคาถาบทนี้ถอดได้ถูกต้องหรือไม่ ส่วนที่ท่านทั้งหลายจะบูชาแล้วนำไปติดตัว ติดรถยนต์ หรือว่าติดบ้าน ก็แล้วแต่ท่านทั้งหลายจะพินิจพิจารณากันเอาเอง
เพียงแต่ขอให้ทราบว่าในเรื่องของรูปสตูดิโอนั้น ตอนแรกช่างถ่ายมาไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทำให้แบบพิมพ์ใหญ่ สีดำ แก่เนื้อผงดินกากยายักษ์นั้น ต้องอาศัยรูปอื่นแทนอยู่ ๒ วาระ ๓ วาระ ท่านทั้งหลายอาจจะเข้าใจว่ามีการจารหลังให้ ซึ่งนั่นเป็นพิมพ์นำฤกษ์พิเศษ ไม่มีการให้บูชาทั่วไป หรือว่าอาจจะเห็นว่ามีการปิดทอง ซึ่งพิมพ์นำฤกษ์เหล่านั้นก็มีแค่ ๒ - ๓ องค์เท่านั้น ไม่สามารถที่จะให้บูชาได้ เนื่องเพราะว่าไม่เพียงพอแก่บุคคลที่ต้องการ
ดังนั้น...ขอให้ท่านทั้งหลายเข้าใจว่า ไม่ว่าจะเป็นพระยอดขุนพลกาญจนบุรีพิมพ์ใหญ่ สีดำ แก่ผงดินกากยายักษ์ หรือว่าพิมพ์ใหญ่ สีขาว แก่ผงพุทธคุณก็ตาม... -
ฝึกยิ้มเข้าไว้
ฝึกยิ้มเข้าไว้
จำไว้นะบรรดาลูกหลานที่รัก อย่างไรๆ ยิ้มมันตลอดวัน หลับยิ้มเสียได้ก็ยิ่งดี ฝึกยิ้มมันเรื่อยๆไป
ถ้าปากเรายิ้ม ไม่ช้าใจเราก็ยิ้มตาม
ไอ้โมโหโทโสมันก็จะค่อยๆ หายไป
นี่คือวิธีดับโมโห
ถ้าใครเขาสรรเสริญก็อย่าเมาตามเขา
#เขาเห็นว่าเราเป็นเทวดา
เราก็ดูตัว เทวดานี่ไม่มีขี้ ไม่มีเยี่ยว ไม่ต้องกินข้าว
เรามีขี้ เรามีเยี่ยว เรากินข้าว เราเป็นเทวดาไม่ได้
#ใครเขาหาว่าเราเป็นพรหม
พรหมท่านมีเนื้อเป็นแก้ว ดูเนื้อของเราเป็นแก้วหรือเปล่า ไม่เป็นแก้ว
เราก็อย่าเชื่อเขาไม่ได้ อย่ายินดีกับคำสรรเสริญ ที่เขากล่าวสรรเสริญมา
ให้ถือกฎธรรมดาตามที่พระพุทธเจ้าตรัส
พระพุทธเจ้าให้ดูตามธรรมชาติของคน คนเรา
จะดีหรือชั่วอยู่ที่การประพฤติปฏิบัติ
ถ้าเราประพฤติปฏิบัติดี ทำตัวดี ปฏิบัติดี
ใครเขาว่าเราเลวขนาดไหนก็ตาม เราก็ไม่เลวไปตามเขา
คนที่ว่าเราเลวน่ะเลวหนักยิ่งขึ้น เพราะอะไรรู้ไหม
เมื่อมีชีวิตอยู่ก็ไม่เป็นสุข ตายแล้วลงนรก
ลงแน่ทุกคนที่ได้มโนมยิทธิแล้วคงจะทราบ”
จาก รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๒ หน้า ๒๒
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง) -
ประวัติหลวงพ่อปาน ตอนท้ายชีวิตของหลวงพ่อปาน
ประวัติหลวงพ่อปาน
ตอนท้ายชีวิตของหลวงพ่อปาน
ลูกหลานทั้งหลาย วันนี้เป็นวันสรุปเรื่องราวของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคจะพยายามสรุปให้จบกันไป จะไม่พยายามเล่าเรื่องให้มันยาวนัก ต่อมาเมื่อหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อายุล่วงเข้า ๖๑ ปี ตอนนี้ท่านป่วยครั้งแรก ความจริงเรื่องการป่วยก็ป่วยกันอยู่เป็นปกติแต่ทว่าอาการป่วยที่จะตายคราวนี้ท่านป่วยมาก เมื่อป่วยมาก คณะศิษยานุศิษย์ในกรุงเทพก็เอาไปรักษาที่บ้านหลวงประธานถ่องวิจัย ที่บ้านหม้อรักษาอยู่ประมาณ ๑ เดือนท่านก็กลับเป็นอันว่า หาย
หลังจากป่วยคราวนี้แล้ว ท่านแจ้งให้แก่บรรดาคณะศิษยานุศิษย์ แล้วก็ท่านพระครูรัตนภิรมย์ เจ้าวาสวัดบ้านแพน อีกองค์หนึ่งทราบว่า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปอีก ๓ ปีท่านจะตาย ท่านบอกไว้ว่าอย่างนั้นนะ ท่านบอกว่าอีก ๓ ปีจะตาย ท่านจะตายวันแรม ๑๔ ค่ำเดือน ๘ เวลาประมาณ ๖ โมงเย็น นี่ท่านประกาศไว้ก่อนนะว่า ท่านจะตาย ตอนนั้นฉันกำลังเป็นลิงหน้าพลับพลา ท่านสั่งให้ฉันเขียนจดหมายถึงหัวหน้าลูกศิษย์ของท่านแต่ละจังหวัด แต่ละสถานที่ส่งไปเฉพาะหัวหน้าลูกศิษย์นะ ว่าท่านให้ไปบอกว่า ท่านจะตาย อีก ๓... -
วิธีใช้ญาณต่างๆ
⚜️วิธีใช้ญาณต่างๆ⚜️
เมื่อเจริญฌานในกสิณจนถึงอุปจารฌานแล้ว ก็เริ่มสร้างทิพยจักษุญาณได้เพราะทิพยจักษุญาณนั้น เริ่มมีผลตั้งแต่จิตเข้าสู่อุปจารฌาน มีผลในการรู้บ้างพอสมควร เช่นรู้สวรรค์นรก และเหตุการณ์ต่างๆ ได้บ้าง ไม่ถึงกับรู้ตายรู้เกิด คือตายแล้วไปเกิดที่ใด ผู้ที่มาเกิดนั้นมาจากไหน รู้เหตุการณ์เพียงผิวเผินกว่านั้น เช่นรู้โรคว่าเป็นโรคอะไร หายได้ด้วยวิธีใด คนนี้จะมีเคราะห์ดีเคราะห์ร้ายประการใด รู้เหตุในอดีตและอนาคตได้บ้างพอสมควร รู้สวรรค์ นรกได้บ้าง แต่ไม่แจ่มใสนัก พูดจากับเทวดาและพรหมได้บ้างคำสองคำ ภาพเทวดาและพรหมก็หายไป ภาพที่เห็นก็ไม่เห็นนาน ประเดี๋ยวก็หายไป จะเอาเรื่องราวที่เป็นการเป็นงานที่ต้องใช้เวลานานๆ ก็ต้องกำหนดจิตกันบ่อยครั้ง ทั้งนี้เพราะสมาธิเพียงอุปจารสมาธิยังเป็นสมาธิที่ทรงกำลังให้สงบอยู่ได้ไม่นาน ถ้าจะเปรียบก็คงเหมือนเด็กเพิ่งสอนเดิน ยืนไม่ได้นาน ยืนเดินได้ชั่วขณะก็ล้ม ต้องลุกๆ เดินๆ อยู่อย่างนั้น กว่าจะเดินถึงที่หมาย ก็ต้องล้มลุกบ่อยๆ ทิพยจักษุญาณระดับอุปจารฌานก็เหมือนอย่างนั้น การเห็นก็ไม่ชัดเจนแจ่มใส ยังเห็นไม่เต็มตัว เห็นบนไม่เห็นล่าง เห็นหน้าไม่เห็นขา... -
ให้ทานอย่างเดียว บารมี ๑๐ ครบ
ให้ทานอย่างเดียว บารมี ๑๐ ครบ
ทีนี้การให้ทานอย่างเดียว ถ้าเรามีปัญญา บารมีจะไปนิพพานได้ไหม แต่ความจริงนี่ขอ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกคนว่า ให้ทานอย่างเดียวนี่มันมีบารมี ๑๐ ครบถ้วน
๑. การให้ทาน เราให้แล้วทานได้อันหนึ่ง
๒. ขณะที่ให้ทานนี่ต้องมีเมตตา กรุณา ๒ ตัว ตัวใดตัวหนึ่ง การให้ทาน ต้องมีเมตตาบารมีด้วยใช่ไหม
ขณะที่ให้ทานต้องมีศีล การให้ทานนี่ถ้าเราไม่มีศีลเราให้ไม่ได้ ถ้าใจร้ายให้ทานไม่ได้ ต้องใจดี ศีลน่ะมันใจร้าย ศีลมันจึงขาด ต้องใจดี เวลานั้นเราไม่เคยจะทำลาย ศีลแม้แต่ข้อใดข้อหนึ่ง ปาณาติบาตคิดจะฆ่า คนรับทานก็ไม่มี อทินนาทาน นึกจะแย่งคนที่รับทานก็ไม่มี กาเมสุมิจฉาจาร นึกจะแย่งคนที่รับทานมาเป็นสามีภรรยาก็ไม่มี มุสาวาทเราจะโกหกเขาทำไม เราให้สตางค์เขาน่ะ การดื่มสุราก็ไม่มี ศีลก็ครบ อันนี้เป็นศีลบารมีด้วย และก็เป็นเนกขัมบารมี
เนกขัมบารมี ก็หมายความว่า ขณะที่ให้ทาน เราไม่เคยคิดว่าจะเอาคนที่รับทานมาเป็นสามีภรรยาของเรา อดใจตรงนี้
และก็เป็นปัญญาบารมี ถ้าไร้ปัญญาบารมีให้ทานไม่ได้ เพราะการให้ทานเป็นปัจจัยแห่งความสุข คนที่รับทานไปแล้วเขาก็รักคนให้ทาน... -
วิธีเจริญอาโลกกสิณเพื่อทิพยจักษุญาณ
⚜️วิธีเจริญอาโลกกสิณเพื่อทิพยจักษุญาณ⚜️
การสร้างทิพยจักษุญาณด้วยการเจริญอาโลกกสิณนั้น ท่านให้ปฏิบัติดังนี้ ท่านให้เพ่งแสงสว่างที่ลอดมาทางช่องฝาหรือหลังคาให้กำหนดจิตจดจำภาพแสงสว่างนั้นไว้ให้จำได้ดี แล้วหลับตากำหนดนึกถึงภาพแสงสว่างที่มองเห็นนั้น ภาวนาในใจ พร้อมทั้งกำหนดนึกถึงภาพนั้นไปด้วย ภาวนาว่า "อาโลกกสิณัง" แปลว่า แสงสว่าง กำหนดนึกไป ภาวนาไป ถ้าภาพแสงสว่างนั้นเลอะเลือนจากไป ก็ลืมตาดูใหม่ ทำอย่างนี้เรื่อยไป จนภาพนั้นติดตาติดใจ นึกคิดขึ้นมาเมื่อไร ภาพนั้นก็ปรากฏแก่ใจตลอดเวลา ในขณะที่กำหนดจิตคิดเห็นภาพนั้น ระวังอารมณ์จิตจะซ่านออกภายนอก และเมื่อจิตเริ่มมีสมาธิ ภาพอื่นมักจะเกิดขึ้นมาสอดแทรกภาพกสิณ เมื่อปรากฏว่ามีภาพอื่นเข้ามาจงตัดทิ้งเสีย โดยไม่ยอมรับรู้รับทราบ กำหนดภาพเฉพาะภาพกสิณอย่างเดียว ภาพแทรกเมื่อไรเราไม่สนใจไยดี ไม่ช้าก็ไม่มารบกวนอีก เมื่อภาพนั้นติดตาติดใจจนเห็นได้ทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะเห็นได้แล้ว และเป็นภาพหนาใหญ่จะกำหนดจิตให้ภาพนั้นเล็ก ใหญ่ได้ตามประสงค์ ให้สูงต่ำก็ได้ตามใจนึก เมื่อเป็นได้อย่างนั้นก็อย่าเพิ่งคิดว่าได้แล้ว ถึงแล้ว จงกำหนดจิตจดจำไว้ตลอดวันตลอดเวลา... -
"พุทโธนี่ดีหนักหนา" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
.
"พุทโธนี่ดีหนักหนา"
" .. "พุทโธ นี่ดีหนักหนา สารพัดปราบได้ทุกสิ่งทุกอย่าง" ตั้งสติแน่วใน "พุทโธ อันเดียว สามารถที่จะระงับทุกข์โศกโรคภัยทั้งหมด" ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูสิ ความโกรธความฉุนเฉียวเกิดขึ้นมา "ก็ตั้งสตินึกถึง "พุทโธ" เดี๋ยวก็หายหมด" อายพระพุทธเจ้าอายพุทโธ "นี่แหละ พุทโธดีอย่างนี้"
"ที่มันไม่หายเพราะไม่ได้ตั้งสติให้แน่วแน่" กำหนดพุทโธเฉย ๆ หลอก ๆ "พุทโธ เลยไม่อยู่กับเรา" พุทโธพระพุทธเจ้าหายหมด "มันก็มีแต่กิเลสเข้ามาครอบงำมีแต่ความโกรธวุ่นวายหมด" ความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นภัยอันตรายอย่างยิ่ง
ถ้าหากเราไม่มีสติตั้งอยู่ในพุทโธแล้ว "สารพัดจะทำตัวของเราให้เป็นไปต่าง ๆ นา ๆ จนกระทั่งคิดประทุษร้ายประหัตประหารฆ่าฟันผู้อื่น" ได้ทุกประการ
"ถ้าตั้งสติกำหนดพุทโธไว้ พุทโธมาอยู่แทนที่" ความโกรธก็เลยหายจากใจหมด "ฉะนั้นอย่าลืมให้ระลึกถึงพุทโธอยู่เสมอ จึงจะเป็นผลให้สำเร็จประโยชน์แก่ตน เอาพุทโธตัวเดียวเท่านั้นแหละไว้ให้มั่น" ตั้งสติกำหนดลงให้จริง ๆ จัง ๆ ในที่เดียวนี่แหละ .."
"การฝึกหัดกัมมัฏฐาน"(หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
วัดหินหมากเป้ง ๒๐ กรกฏาคม ๒๕๒๕ -
คนบางคน เมื่อยังไม่ถึงเวลา...
คนบางคน เมื่อยังไม่ถึงเวลา...
"... จะไปยัดเยียดธรรมะให้ อย่างไร
ก็ไม่ฟัง
... แต่พอถึงเวลาของเขา เขาอาจเอา
จริงเอาจัง
... จนแซงใครๆ กลายเป็นครูบาอาจารย์
ขึ้นมา... อีกคนหนึ่งก็เป็นได้ ทุกอย่างไม่แน่
แต่ ที่แน่ๆ... ควรต้องรักษาจิตของเจ้าของให้ดีไว้ก่อน"
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
Credit: ขอขอบพระคุณที่มาจาก Facebook ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล โดย คณะสายเทอดพงศ์ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๕ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๕ -
เราจำเป็นต้องพกวัตถุมงคลหรือไม่ ?
ถาม : วัตถุมงคลจำเป็นต้องมีหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าเรามั่นใจในความดี นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ได้เป็นปกติ ไม่ต้องมีก็ได้ แต่คราวนี้เนื่องจากว่าเราเองต่อให้เก่งขนาดไหน โอกาสเผลอย่อมมี ในเมื่อโอกาสเผลอมี ถ้าหากว่ามีพระติดตัวไว้หน่อยก็จะมั่นใจได้มากกว่า
ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ได้..สำคัญที่ว่าเรานึกถึงพระได้ไหม ? ตื่นเช้ามาขออาราธนาบารมีท่านช่วยคุ้มครองรักษา ถ้าวันนี้เราหมดอายุขัยตายลงไป หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายถึงแก่ชีวิต ก็ขอไปอยู่กับท่าน ให้ตั้งใจอย่างนั้น
ถาม : ควรเลือกวัตถุมงคลแบบไหน ?
ตอบ : ความจริงจะบอกว่าเอาที่เราศรัทธา แต่บางคนก็บอกว่าต้องตรงกิเลส คือเลือกเอาที่เราชอบด้วย
.....................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
ร่วมบุญแล้วรับวัตถุมงคลที่ระลึกไว้เพื่อเป็นอนุสติ
ถ้าหากว่าญาติโยมทั้งหลายได้พินิจพิจารณาดู จะเห็นว่าตลอดระยะเวลาที่กระผม/อาตมภาพได้ทำงานด้านนี้มาเกิน ๓๐ ปีแล้ว จะไม่มีการบอกกล่าวเพื่อหาเจ้าภาพใหญ่มารับผิดชอบในงานต่าง ๆ แต่จะอาศัยการที่ญาติโยมทั้งหลายร่วมกับทำบุญคนละ ๕ บาท ๑๐ บาท ๒๐ บาท ๕๐ บาท ๑๐๐ บาท ในลักษณะอย่างนี้มาโดยตลอด
ทุกท่านก็จะได้มีส่วนร่วมในบุญต่าง ๆ กับทางวัดท่าขนุนโดยทั่วถึงกัน เนื่องเพราะกระผม/อาตมภาพเห็นว่า ถ้าหากว่ามีเจ้าภาพใหญ่ ก็จะทำให้การทำบุญนั้นอยู่ในวงแคบ มีผู้มีโอกาสร่วมบุญแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
ตรงจุดนี้ไม่ใช่ว่าวัดท่าขนุนหาเจ้าภาพใหญ่ไม่ได้ วัดท่าขนุนมีบุคคลที่ปวารณาเอาไว้ในระดับที่ว่า ให้กระผม/อาตมภาพสร้างหนี้ได้ตามใจชอบ ถึงเวลาจะจัดการ "เคลียร์" หนี้ให้ ถ้าบอกนามสกุลมา พวกเราก็จะร้องอ๋อกันทั้งประเทศ
แต่กระผม/อาตมภาพไม่เคยไปรบกวนท่านทั้งหลายเหล่านี้เลย เพราะรู้ดีว่าถ้าให้ท่านทำคนเดียว ก็จะไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องการให้พวกเราทุกคนตัดความโลภด้วยการให้ทาน ตัดโทสะด้วยการรักษาศีลและปฏิบัติในพรหมวิหาร ๔ ตัดโมหะด้วยการใช้ปัญญาพิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริง... -
"เคยมาเกิด เคยมาตาย" (หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร)
.
"เคยมาเกิด เคยมาตาย"
" .. ความจริงแล้วคนเราทุกคน "เคยมาเกิดเคยมาตาย" มีสุขมีทุกข์อยู่ในโลกมนุษย์ เทวโลก พรหมโลก เปรตโลก ยมโลก นรกอเวจี อสุรกาย "มันเคยเกิดเคยตายอย่างนี้มา" เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็เคยเกิด เกิดเป็นสัตว์น้ำ สัตว์บก สัตว์ปีก สัตว์ไม่มีปีก สัตว์สองเท้า สี่เท้า มากเท้า ไม่มีเท้า ก็เคยเกิดกันมาอย่างนี้ตายมาอย่างนี้
"แต่จิตนี้มันยังโง่เขลาเบาปัญญา ภาวนายังไม่ถึงก็เลยมีความลุ่มหลงมัวเมา" แทนที่เราเกิดมาเป็นคน ไม่ควรให้ใจคิดไปในที่จะไปสู่อบาย คือว่าทางต่ำ "เราต้องหน่วงเหนี่ยวอารมณ์เอาพระพุทธเจ้า พระอริยเจ้าทั้งหลายเป็นอารมณ์" เมื่อเรามีพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ มีภาวนาในใจแล้ว "สิ่งที่เราว่าทำไม่ได้ ปฏิบัติไม่ได้ เป็นไปไม่ได้นั้น มันก็เป็นไปได้อยู่" มันขึ้นอยู่กับความตั้งใจของแต่ละบุคคล .. "
"ถ้าตั้งใจจริงย่อมมีเวลาภาวนา"
พระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร)
๕ พฤษภาคม ๒๕๑๙ -
ปรารถนาเป็นอะไร ผู้รู้ ผู้เห็น หรือผู้บรรลุผลสำเร็จ
ปรารถนาเป็นอะไร ผู้รู้ ผู้เห็น หรือผู้บรรลุผลสำเร็จ
---------------------
พุทธภาวะ โดย ไชย ณ พล ภาค ๑
- การเตรียมพร้อม -
ปรารถนาเป็นอะไร ผู้รู้ ผู้เห็น หรือผู้บรรลุผลสำเร็จ
อ่านโดย นันทนา พงษ์ปฐม
ขอขอบคุณ ดนตรีประกอบ "Calm” Peder B. Helland
YouTube : @Soothing Relaxation @MusicLoverOriginals
website : https://soothingrelaxation.com/
----------
มูลนิธิอุทยานธรรม www.uttayarndham.org -
สัตว์โลกเกิดมาเพราะกรรม
บางคนเกิดมาไม่รู้จักศาสนา เพราะชาติก่อนเขามีนิสัยมาจากสัตว์เดรัจฉาน
บางคนเกิดมาสร้างแต่ความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นเพราะชาติก่อนเขามีนิสัยมาจากนรกมาเกิด
บางคนเกิดมารู้จักเสียสละ ทำบุญให้ทาน รักษา ศีล ภาวนา เพราะชาติก่อนเขามีนิสัยมาจากสวรรค์มาเกิด
บางคนเกิดมายากจนเพราะชาติก่อนเขาไม่เคยคิดเสียสละทรัพย์สิน เงินทองข้าวของ ทำบุญให้ทานแก่ผู้อื่น
กรรมจึงจำแนกความเป็นอยู่ของแต่ละคนให้มีความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันไปต่างๆนานา
โอวาทธรรม หลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป
วัดอรัญญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
Credit: ขอขอบพระคุณที่มาจาก Facebook ธรรมะ-ชาติ-ชีวิต -
"แผนที่สอบพระโสดาบัน" (หลวงปู่หล้า เขมปัตโต)
.
"แผนที่สอบพระโสดาบัน"
" .. ถ้าอยากทราบว่า "ตนเป็นพระโสดาบันหรือไม่" นั้น ก็มีแผนที่สอบ คือสอบตนว่า ..
- ตนเสียดายอยากล่วงละเมิดศีล ๕ หรือไม่
- เสียดายอยากถือศาสนาอื่นนอกจากศาสนาพุทธไปหรือไม่
- เสียดายอยากจจองเวรท่านผู้อื่นหรือไม่
- เสียดายอยากจะเล่นอบายมุขหรือไม่
- เสียดายอยากจะถือฤกษ์ดียามดีหรือไม่
- เสียดายอยากจะค้าขายเครื่องประหาร
- ค้าขายมนุษย์
- ค้าขายสัตว์เป็นและเนื้อสัตว์ทีตัวฆ่าพื่อเป็นอาหาร
- ค้าขายน้ำเมา
- ค้าขายยาพิษทั้งหลายเหล่านี้หรือไม่
ถ้าไม่เสียดายอยากล่วงละเมิดทั้งหลายเหล่านี้แต่ต้นมา ก็ตัดสินเอาเองว่า "เรานี้แหละพระโสดาบัน" ถ้าไม่อย่างนี้แล้ว ก็เป็นโมฆะทั้งนั้น .."
"ธรรมะ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต"
(หลวงปู่หล้า เขมปัตโต) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๕ -
เลิกแข่งดี จึงมีสิทธิ์เป็นพุทธชน
เลิกแข่งดี จึงมีสิทธิ์เป็นพุทธชน
---------------------------------------
ชัยชนะในสนามรบ | พุทธภาวะ
พุทธภาวะ โดย ไชย ณ พล ภาค ๒
-----------
อ่านโดย นันทนา พงษ์ปฐม
ขอขอบคุณ ดนตรีประกอบ "Calm” Peder B. Helland YouTube : @Soothing Relaxation @MusicLoverOriginals website :
https://soothingrelaxation.com
----------
มูลนิธิอุทยานธรรม www.uttayarndham.org สรรพสัจจะ https://line.me/R/ti/p/@340srzek -
"น้ำแก้วหนึ่ง" หรือ "ลำธารหนึ่งสาย"
มีพระหนุ่มรูปหนึ่ง อารมณ์ไม่ค่อยเบิกบานสักเท่าไร แต่ละวันมีเรื่องขุ่นเคืองใจ ไม่พอใจอยู่เสมอ เวลานั่งสมาธิ ถ้ายินเสียงคนพูดคุยกันก็ไม่พอใจ บางครั้งตบะแตกก็ไปต่อว่าคนที่พูดคุยกัน เวลากวาดใบไม้ก็บ่นว่าใบไม้ร่วงเยอะ กวาดไปก็หงุดหงิดไป เวลาทำงานก็มักรู้สึกว่าถูกเพื่อนกินแรงอยู่เสมอ บางทีเขียนหนังสือแล้วปากกาฝืด ก็โมโหขว้างปากกาทิ้ง ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของหลวงพ่อมาตลอด
วันหนึ่งหลวงพ่อบอกให้พระหนุ่มไปเอาเกลือจากในครัวมาหนึ่งห่อ เอาน้ำมาหนึ่งแก้ว แล้วก็ให้เทเกลือครึ่งหนึ่งลงไปในแก้ว จากนั้นก็ให้พระหนุ่มชิมน้ำนั้นดู แล้วถามว่าเป็นอย่างไร พระหนุ่มก็ตอบว่า เค็มมากครับหลวงพ่อ ทีนี้หลวงพ่อก็พาไปที่ลำธาร เอาเกลือที่เหลือโรยลงไปในลำธาร แล้วให้พระหนุ่มชิมน้ำในลำธาร
หลวงพ่อถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง พระหนุ่มตอบว่าจืดครับหลวงพ่อ ในใจก็สงสัยว่าหลวงพ่อตั้งใจจะสอนอะไรหรือ หลวงพ่อให้พระหนุ่มคิดสักพัก พระหนุ่มก็คิดไม่ออก หลวงพ่อจึงบอกพระหนุ่มว่า ความทุกข์ก็เหมือนกับเกลือ มันจะเค็มหรือไม่ขึ้นอยู่กับใจเราว่าเป็นแค่น้ำแก้วหนึ่ง หรือเป็นลำธารหนึ่งสาย
ความทุกข์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรามันเป็นอย่างนั้น... -
ระดับของกำลังใจ
ระดับของกำลังใจ
ถาม : ทำอย่างไรเราจึงจะรู้ว่าบารมีเราจัดอยู่ในระดับใด ? และจะฝึกอย่างไรให้บารมีเกิดขึ้นได้ สำหรับผู้ที่เรียกตัวเองยังบารมีอ่อน ยังไม่เข้มแข็ง เวลาโดนกระทบจะทำกำลังใจตก แล้วบารมีเสื่อมได้ไหม ?
ตอบ : บารมีก็คือกำลังใจ มีอยู่ ๓ ระดับด้วยกัน คือ สามัญบารมี (บารมีขั้นต้น), อุปบารมี (บารมีขั้นกลาง), ปรมัตถบารมี (บารมีขั้นสูงสุด) ในแต่ละขั้นก็ยังมีอย่างหยาบ อย่างกลาง อย่างละเอียด รวมเป็น ๓ ระดับ ๙ ขั้น อยากรู้ว่าตัวเองอยู่ในบารมีระดับไหน ก็พิจารณาดูได้
ถ้าเป็นสามัญบารมีขั้นต้นนี่ เรื่องของทาน ศีล ภาวนา ไม่รู้เรื่องเลย สามัญบารมีขั้นกลาง บอกให้ทานก็รู้สึกเสียดาย ให้ไปก็เสียดายแทบจะขาดใจ แต่ถ้าสามัญบารมีขั้นปลาย ให้ทานได้ แต่ถ้าบอกให้รักษาศีลหรือเจริญภาวนา ก็จะไม่รู้เรื่องเลย
อุปบารมีขั้นต้นให้ทานได้ บอกให้รักษาศีลร้อยวันพันปีจึงจะเข้าใจเสียที ส่วนใหญ่จะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา อุปบารมีขั้นกลางให้ทานได้ รักษาศีลยังขาดตกบกพร่องไปเรื่อย ถ้าเป็นอุปบารมีขั้นปลาย ให้ทานได้ รักษาศีลได้ แต่บอกให้เจริญภาวนา ฟังยังไม่เข้าใจ เหมือนตักน้ำรดหัวตอ
ปรมัตถบารมีขั้นต้น ให้ทานได้ รักษาศีลได้... -
"ปัญญาเกิดจากสมาธิภาวนา" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
.
"ปัญญาเกิดจากสมาธิภาวนา"
" .. เราต้องฝึกจิตใจนี้ให้มันสงบลงไป "โดยที่เราตั้งสติกำหนดลมหายใจเข้าหายใจออก" อธิษฐานใจถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ มาเป็นที่พึ่งของตน แล้วทีนี้ "ก็ตั้งสติกำหนดรู้ลมหายใจเข้าหายใจออกอยู่อย่างนั้น" เพื่อประสงค์ที่จะไม่ให้จิตมันคิดไปภายนอก
การที่เราเพ่งลมหายใจเข้า หายใจออกอยู่ในปัจจุบันนี้ ให้พากันเข้าใจความหมาย "ถ้าหากว่าไม่ยึดเอาลมหายใจเข้าออกนี้เป็นอารมณ์อยู่แล้ว มันไม่อยู่" .. จิตนี้มันไม่ตั้งอยู่ในปัจจุบันนี้ได้ "มันเคยคิดไปยังไง มันก็คิดส่งออกไปข้างนอกโน่น" ให้พากันเข้าใจ
ทำอะไรไม่เข้าใจความหมายนั้น มันไม่ตั้งใจทำหรอก เพราะมันไม่รู้จักจุดหมาย เพราะฉะนั้น "จึงได้ชี้แจงจุดหมายให้ฟัง" ขอให้จำเอาไว้ เพื่อให้จิตใจมันสงบลงเป็นหนึ่งเท่านั้น
"ในขั้นแรกนี้ไม่ได้มุ่งว่าจะให้มีปัญญา" จะให้รู้นั่นรู้นี้ ยังก่อน ในขั้นนี้ไม่ต้องการรู้อะไร "เพียงแต่จะให้ใจมันสงบลงเป็นหนึ่ง ให้มันหยุดคิดส่งออกไปข้างนอก" นี่ความหมายนะ
ให้มันสงบแน่วอยู่ภายในนี้ "พร้อมด้วยสติประคับประคองอยู่" เมื่อเราประคับประคองจิตที่มันสงบอยู่นั้นไปพอสมควร... -
ความอยากที่เป็นมรรค (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
"... ผู้ปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ อย่าปล่อยให้ความอยากเข้าไปเป็นหัวหน้าชักจูงหรือลากถูไป
... ความอยากของสามัญชนนั้น ร้อยทั้งร้อย มักเป็นกิเลสเสมอ ส่วนความอยากที่เป็นไปด้วยเหตุผลนั้น
... เป็นมรรค เช่น อยากทำบุญให้ทาน อยากรักษาศีล อยากทำสมาธิภาวนา อยากพ้นทุกข์ เหล่านี้จัดเป็นมรรค
... มุมานะเพื่อรบกับกิเลส หรือต่อสู้กับกิเลสเหล่านี้ จัดเป็นมรรค เป็นความคิดที่ถูก เพราะเป็นเครื่องหนุนให้มีกำลังใจ
... เพื่อต่อสู้กับกิเลส จนได้ชัยชนะ ถ้าไม่มีกำลังใจ ไม่มีการมุมานะ การปฏิบัติก็ไม่มีกำลัง และไม่สำเร็จประโยชน์เท่าที่ควร... "
โอวาทธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
Credit: ขอขอบพระคุณที่มาจาก Facebook ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น โดย คณะเมตตาธรรม -
ไถ่ชีวิตสัตว์เพื่อไปปล่อยช่วยบรรเทากรรม
"อาตมามีโรคประจำตัวคือมาลาเรียเรื้อรัง เป็นมาตั้งแต่อายุ ๒๒ ปี จนถึง ๖๑ ปีแล้ว ไม่มีใครรักษาได้ ไม่ว่ายาตำรานั้นจะดีขนาดไหน ยาแผนโบราณ ยาแผนปัจจุบัน ยาพระบอก ยาผีบอก ฉันยาไปแล้วรวมกันน่าจะเกิน ๑๐ ตัน สภาพร่างกายย่ำแย่ เพราะว่ายาบางตัวนั้น บีบจนตัวเราจะตาย แต่เชื้อโรคกลับไม่ตาย..!
ขนาดนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะหายได้ มียาอยู่ตัวหนึ่งที่ไปกดภูมิคุ้มกัน ทำให้อาตมาเป็นคนไม่มีภูมิคุ้มกัน เหมือนกับคนเป็นโรคเอดส์ ใครเป็นโรคอะไรติดเชื้อผ่านมาใกล้ อาตมาจะเป็นไปด้วยทันที ทุกครั้งที่ต้องพบปะกับผู้อื่น มักจะได้โรคภัยไข้เจ็บมาเสมอ โดยเฉพาะช่วงรับสังฆทานและสอนกรรมฐานต้นเดือน ต้องนอนซมไปอย่างน้อยก็ ๒ - ๓ วัน"
"เมื่อไวรัส covid-๑๙ ระบาด อาตมาก็คิดว่าแย่แน่ งานนี้คงจะรับมาแล้วเป็น Super spreader ได้แพร่ให้กับผู้อื่นโดยไม่ต้องนับ กลายเป็นคนดังของโลกอย่างแน่นอน
ช่วง ๒ - ๓ วันนี้ มีอาการเจ็บคอ ก็หลงดีใจว่าเราได้รับเชื้อแล้ว จะได้ทำการแพร่กระจายตามประสาคนมีเมตตามาก ต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่คนอื่นให้เต็มที่ แต่ที่ไหนได้..ดันมีน้ำมูกตามมาด้วย...!
จากเอกสารการระมัดระวังป้องกันเบื้องต้น ที่ทางราชการแจกให้...
หน้า 76 ของ 402