คลังเรื่องเด่น
-
พระดำริเจ้าฟ้าหญิงสิริวัณณวรีฯ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำทัพเดินหน้าส่งเสริมการใช้และสวมใส่ผ้าไทย ตามพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” และตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563วันนี้ (1 ธ.ค.) นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำทีมหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม ภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน รณรงค์ประชาสัมพันธ์ ตามพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” และส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 ให้บังเกิดผลโดยพร้อมเพรียงกันทั้งจังหวัด เป็นการสร้างวัฒนธรรมอันดีงาม พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยพร้อมใจกันสวมใส่ผ้าไทยถ่ายรูปประชาสัมพันธ์ ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม (หลังเก่า)... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๔
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ -
เหตุตามเป็นจริง... (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
"โลกียะเมื่อพิจารณาให้รู้แจ้ง เห็นเหตุ... ตามเป็นจริงของโลกแล้ว เห็นทางเบื่อหน่าย ไม่หลงเข้าไปยึดถือติดอยู่ ก็กลายเป็นธรรมไป แต่เมื่อหลงเข้าไปยึดถือติดแน่น ไม่ยอมปล่อยวางแล้ว โลกนั้นจะเป็นอยู่อย่างนั้น... ตลอดไปก็หาไม่...
พรหมโลกอาจถอยลงมาเป็นเทวโลกก็ได้
เทวโลกอาจถอยลงมาเป็นมนุษยโลกก็ได้
มนุษยโลกอาจถอยลงมาเป็นอบายภูมิก็ได้
ของเหลวๆย่อมไหลลงสู่ที่ต่ำฉันใด จิตใจของสัตว์ทั้งหลายก็ย่อมไหลลงสู่ที่ต่ำ... (คือความชั่ว) ได้ง่ายฉันนั้น การฝึกหัดอบรมภาวนากัมมัฏฐาน ถึงแม้จะเป็นการปฏิวัติตนเองก็ตาม แต่ถึงกระนั้นก็ต้องยอมเสี่ยงชีวิต อย่างน้อยถ้าไม่สำเร็จต้องหวังเนรเทศตนเอง ผู้ที่มิได้ตั้งปณิธานไว้อย่างนั้น ต้องมีหวังเป็นทาสของเขา (คือกิเลส) ตลอดกาล..."
โอวาทธรรม หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
Credit: ขอขอบพระคุณที่มาจาก โอวาทธรรม หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี โดย กลุ่มเด็กวัดป่ากรรมฐาน (กลุ่มมดงาน) -
"จิตมันหิวอารมณ์" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
.
"จิตมันหิวอารมณ์"
" .. เมื่อใครทำใจให้สงบลงไปได้แล้ว ผู้นั้นก็ได้รับความอุ่นใจ "ความสงบนี้หมายถึงความอิ่ม ใจมันอิ่มทุกสิ่งทุกอย่าง" มันไม่อยากได้อะไรในขณะที่ใจสงบอยู่นั้น
เพราะฉะนั้น เมื่อมันมีอิ่มได้ มันก็สบายไม่ใช่หรือ คิดดูให้ดี "เหตุที่มันไม่สบายนั้น ก็เพราะมันหิว" จิตนี่มันหิวอยู่เรื่อย "มันหิวอารมณ์" มันหิวเรื่องดีเรื่องชั่วต่าง ๆ นานาในโลก
เหตุนั้นมันจึงหาความสุขสบายไม่ได้ ดังนั้น "การที่เรามาพยายามทำใจให้สงบนี่ ก็เพื่อที่จะระงับความหิวของจิตใจ" นั้นเอง .. "
"บุญญาพาชีวิตรอด"
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ -
วิธีปรับฮวงจุ้ยห้องพระรับปีใหม่ 2565 ใช้อะไรบ้าง ชีวิตจะได้ปังๆ
ใกล้สิ้นปีแบบนี้นอกจากแผนการพักผ่อน เดินทาง ท่องเที่ยววิถีใหม่แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่อยากไม่ให้ลืมกันนั่นคือการจัดบ้าน และหนึ่งในพื้นที่หรือห้องสำคัญที่อยากให้คิดวางแผนจัดใหม่เลยคือห้องพระ จะปรับฮวงจุ้ยห้องพระอย่างไร ต้องใช้ของอะไรบ้างมาดูกัน ปีใหม่ 2565 นี้ชีวิตจะได้สุด
หิ้งพระในตำแหน่งที่เหมาะสม : เหมาะสำหรับบ้าน หรือห้องที่ไม่มีพื้นที่สำหรับจัดเป็นห้องพระอย่างจริงจังเพียงมีหิ้งพระก็สามารถนำมาใช้แทนได้ โดยให้หิ้งพระนั้นติดกับผนังอยู่สูงกว่าศีรษะ
ให้ความสำคัญกับช่องแสง และการระบายอากาศ : ห้องพระ หรือพื้นที่กราบไหว้พระนั้นควรตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีหน้าต่าง ช่องลม ช่องเปิดรับแสง เพื่อช่วยการถ่ายเทของอากาศ ระบายควันธูป หรือกลิ่นต่างๆ
วางตำแหน่งหิ้งพระให้ถูกทิศ : สำหรับทิศที่เหมาะสมในการวางหิ้งพระคือให้พระหันหน้าไปทางทิศเหนือ หรือทิศตะวันออก
เพิ่มความมงคลด้วยของตกแต่ง : ในห้องพระ หรือบริเวณที่เป็นพื้นที่ตั้งบูชาพระพุทธรูปนั้นไม่จำเป็นจะต้องมีเฉพาะองค์พระพุทธรูปเท่านั้น แต่พระพุทธรูปปางต่างๆ ขนาดต่างๆ รวมไปถึงภาพประดับ ดอกไม้ ฯลฯ ก็ช่วย
ทำให้ห้องพระมีบรรยากาศที่ดีได้
ขอขอบคุณที่มา... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ -
บรรยายพิเศษ วิชาวิสุทธิมรรคศึกษา
บรรยายพิเศษ วิชาวิสุทธิมรรคศึกษา
วันอังคารที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ เวลา ๑๔.๔๐ น.
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. รักษาการรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ บรรยายถวายความรู้วิชาวิสุทธิมรรคศึกษา แก่นิสิตปริญญาตรี ชั้นปีที่ ๓ สาขาพระพุทธศาสนา ของวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ ผ่านระบบซูมออนไลน์มีตติ้ง ณ ศาลาร้อยปีหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน หมู่ที่ ๑ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี -
ระยะของสมาธิ "ที่คาถาเกิดผล"
เข้าไปอ่านบทความได้ที่นี้ครับ > > > วัดท่าขนุน -
ความเหมือนและความต่าง ระหว่าง "นิมิต กับ มโนมยิทธิ"
เข้าไปอ่านบทความได้ที่นี้ครับ > > > วัดท่าขนุน -
"ผลคือความสุขกายสุขใจ" (หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป)
.
"ผลคือความสุขกายสุขใจ"
" .. "เวลานอนก็กำหนดดูลมหายใจ" ว่ามันจะหลับเมื่อไหร่ เมื่อหลับไป "ตื่นขึ้นเราก็นึกถึงพุทโธ ๆ อยู่เสมอ" นี่เรียกว่า "เป็นผู้ปฏิบัติธรรม เป็นผู้ที่ทำอยู่เป็นนิจ" ไม่ขาดสาย แล้ว "ผลที่ได้ คือความสุขกายสุขใจ" .. "
"๑๐๓ โอวาทธรรมคำสอน"
หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ -
"ธรรมเป็นน้ำดับไฟ" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
.
"ธรรมเป็นน้ำดับไฟ"
" .. "ธรรมจึงเป็นน้ำดับไฟ" คือกิเลสที่ก่อขึ้นมาจากจิตใจของเราที่คิดปรุงเรื่องนั้นเรื่องนี้ ไม่มีน้ำดับไฟก็กลายเป็นไฟเผาเราไปเรื่อย ๆ "แต่มีน้ำดับไฟ คือความสงบของธรรมเข้าสู่จิตใจ" เช่น "เราระลึกถึงพุทโธก็ดี" ธัมโมก็ดี สังโฆก็ดี "แม้จะมีอารมณ์โกรธกริ้วเขาอยู่ก็สงบตัวลงไปด้วยอำนาจแห่งน้ำดับไฟ คือธรรม"
เพราะฉะนั้น "จึงควรให้มีธรรมในใจสำหรับชาวพุทธเรา" ถ้ามีแต่โลกล้วน ๆ แล้ว โลกไหนก็ไม่ค่อยมีความหมาย "เพราะไม่มีที่ยึดที่เกาะ" ไม่มีที่อบอุ่นตายใจได้เหมือนธรรมมีอยู่ภายในใจ .. "
"หาความสุขด้วยการภาวนา"
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
https://luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1757&CatID=2 -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ -
วิธีหนีนรกด้วย กรรมบท ๑๐
" ถึงแม้ว่าจะทรงสมาธิไม่ได้นาน ตามที่เรียกว่า ขณิกสมาธิ นั้น แต่ถ้าสามารถทรง กรรมบถ ๑๐ ประการ ได้ครบถ้วน ท่านกล่าวว่า...เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ไม่ต้องไปเกิดในอบายภูมิอีกต่อไป บาปที่ทำไว้ตั้งแต่สมัยใดก็ตามไม่มีโอกาสนำไปลงโทษในอบายภูมิ มีนรกเป็นต้น อีกต่อไป
ถ้าบุญบารมีไม่มากกว่านี้ ....
ตายจากคนไปเป็นเทวดาหรือพรหม เมื่อหมดบุญแล้วลงมาเกิดเป็นมนุษย์ จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ในชาตินั้น
แต่ถ้าเร่งรัดการบำเพ็ญเพียรดี รู้จักใช้ปัญญาอย่างมีเหตุผล ก็สามารถบรรลุมรรคผลเข้าถึงพระนิพพานได้ในชาตินี้ "
=AZX1yrb63QkDxIUPvbrRTGhBkzEEGp1I7j7-oADz3sHSKRMOIiPrvD1Qqbc0No9T2PUEErQeiu-hANGgAxb0KzYyR01TEOQ-Lwc_4KiEqG38FvjwsIhnC0dwXLDPrGfpBe5_rm40bh5QawkRENzkpqXF&__tn__=*NK*F']#กรรมบถ๑๐ประการ
๑. ไม่ฆ่าสัตว์ หรือไม่ทรมานสัตว์ให้ได้รับความลำบาก
๒. ไม่ลักทรัพย์ คือไม่ถือเอาทรัพย์ของผู้อื่นที่เขาไม่ให้ด้วยความเต็มใจ
๓. ไม่ทำชู้ในบุตรภรรยาและสามีของผู้อื่น... -
"พิจารณาพร้อมกับลมออกเข้า" (หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต)
.
"พิจารณาพร้อมกับลมออกเข้า"
" .. ให้พิจารณาเห็นอนิจจังพร้อมกับลมออกเข้า "พร้อมทั้งเห็นทุกข์เห็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนกลมกลืนกันในขณะเดียว" ไม่มีอันใดก่อนไม่มีอันใดหลัง พร้อมกับลมเข้าออก "แม้ศีล สมาธิ ปัญญา ที่เรียกว่าไตรสิกขาก็รวมพลกันอยู่ ณ ที่นั้นเอง" จะบัญญัติหรือไม่บัญญัติก็เป็นจริงอยู่อย่างนั้นเอง
เมื่อเห็นชัดในส่วนนี้ พร้อมทั้งชำนาญและเห็นเนือง ๆ อยู่ "ความระอาในวัฏสงสารที่เคยหลงมาแล้วก็จะรู้ตามเป็นจริง จะได้ไม่ทะเยอทะยานในโลกทั้งปวง" เพราะโลกทั้งปวงมีแต่เกิดขึ้นแปรดับและมีทุกข์ ไม่ใช่ตัวตนดังที่ว่ามาแล้วนั้น .."
"ตอบปัญหาธรรมะ"
หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต -
หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม พระอภิญญาผู้ไปท่องดาวดึงส์ด้วยกายเนื้อ
หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม องค์นี้ แม้แต่พระอภิญญาอย่าง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง ยังยกย่องและยอมรับว่าหลวงพ่อจวนท่านนี้เก่งจริงๆๆพลังจิตกล้าแกร่งเหลือเกิน
หลวงพ่อจวน เป็นพระองค์หนึ่ง ที่หลวงพ่อฤาษีฯ ให้ลูกศิษย์ไปกราบ และทำบุญด้วย เนื่องจากหลวงพ่อ ไปเจอหลวงพ่อจวนที่พระจุฬามณี โดยหลวงพ่อจวนไปทั้งกายเนื้อ
มีอยู่เที่ยวหนึ่งหลวงพ่อท่านบอกว่า " เฮ้ย ! พวกแกลองสืบดูซิ มีหลวงตาองค์หนึ่งขาว ๆ ท้วม ๆ ล่ะนะ ชื่อ จวน อยู่สิงห์บุรี ลองดูสิว่ามีพระชื่อนี้อยู่สิงห์บุรีวัดไหน ช่วยบอกให้ด้วยหาไม่ยากหรอก ท่านดังด้วย หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม"
ถาม : หลวงพ่อหาทำไมครับ
ท่านบอกว่า : "วันก่อนขึ้นไปพระจุฬามณีเห็นหลวงตาจวนเดินตุ๊บ ๆ ตั๊บ ๆ อยู่ เขาเก่งว่ะ เขาไปทั้งตัวเลย ไม่ได้ใช้มโนมยิทธิถอดจิตไปนะนั่น เล่นไปทั้งตัวเลยล่ะ"
ถาม : ยังอยู่ไหมครับ ?
ตอบ : เรียบร้อยไปแล้ว ถ้าอยู่ไม่กล้าเล่ากลัวท่านเหยียบเอา (หัวเราะ) วัดหนองสุ่ม ขาว ๆ ยิ้มทั้งวันน่ะ น่ารักมาก....
"สมัยที่หลวงพ่อจวนยังอยู่ จะไม่ให้ทำหนังสือวัตถุมงคล ท่านบอกว่า ของ ๆ ฉันถ้าจะดังเดี๋ยวดังเอง"
หลวงพ่อจวนได้ละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันที่ ๑๑... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ -
"จิตคือขุมทรัพย์" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
.
"จิตคือขุมทรัพย์"
" .. "จิตผู้ที่ไม่ได้ฝึกฝนอบรมให้ดีแล้ว มีแต่จะนำให้กิเลสมาทับถมถ่ายเดียว" ตรงกันข้าม "ถ้าผู้ได้ฝึกฝนอบรมจิตไว้ดีแล้ว ก็จะเป็นขุมทรัพย์อันมหาศาล" เพราะจิตเป็นผู้แส่ส่ายแสวงหากิเลสใส่ตัวเอง พร้อม ๆ กันนั้นก็เป็นผู้แสวงหาปัญญามาให้ตัวอีกด้วย .. "
"สิ้นโลกเหลือธรรม"
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี -
ร่วมประกวดภาพวาด ‘หลวงปู่มั่นกับสมาธิและสันติภาพ ในมุมมองของฉัน’ สานต่อศรัทธา 152 ปีชาตกาล
วันศุกร์ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 21.34 น.
สานต่อศรัทธา 152 ปีชาตกาล “หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” เชิญร่วมประกวดภาพวาด “หลวงปู่มั่นกับสมาธิและสันติภาพ ในมุมมองของฉัน” หวังเยาวชนคนรุ่นใหม่ เรียนรู้ เรียนรับ วัตรปฏิบัติที่งดงาม
ร่วมน้อมรำลึก 152 ปีชาตกาล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บุคคลสำคัญของโลก สาขาสันติภาพ กับกิจกรรมการประกวดภาพวาด ในหัวข้อเรื่อง “หลวงปู่มั่นกับสมาธิและสันติภาพ ในมุมมองของฉัน” ชิงทุนการศึกษาและเงินรางวัลพร้อมเกียรติบัตร หนึ่งในกิจกรรมงานน้อมรำลึก 152 ปีชาตกาล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ระหว่างวันที่ 19-20 มกราคม 2565 ณ ธรรมสถานหลวงวิเศษสาครฤทธิ์ (สถานีโทรทัศน์ BMC TV) ซอยจรัญสนิทวงศ์ 22 แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
พระอาทิตย์ อธิปุญโญ (วงศ์แสนสุข) ผู้ประสานงาน ฝ่ายจัดงาน 152 ปีชาตกาลหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เล่าถึงที่มาของการจัดงาน ว่า “เราได้ทำกิจกรรมนี้มาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันมาตั้งแต่เมื่อครั้งครบ 149 ปี จนถึง 151 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งได้ผลักดันทั้งเรื่อง UNESCO บุคคลสำคัญของโลก สาขาสันติภาพ ปี 2563-2564 ซึ่งก่อให้เกิดกระแสต่อสังคมมาก ด้วยหลังจากอาจารย์ได้รับรางวัล... -
ทีมวิจัยญี่ปุ่นคืนชีพภาพจิตรกรรมผนังซุ้มพระพุทธรูปแห่งบามิยัน
ภาพจิตรกรรมนี้มีชื่อเรียกว่า “โพธิสัตว์สีน้ำเงิน” บางครั้งเรียกว่า “เส้นทางสู่พุทธะ” ซึ่งอยู่บนซุ้มเพดานเหนือพระพุทธรูปแห่งบามิยัน โดยถูกทำลายไปพร้อมพระพุทธรูปสลักบนหน้าผาทั้ง 2 องค์ในปี 2544 จากการระเบิดของกลุ่มตอลีบันที่ปกครองอัฟกานิสถานระหว่างปี 2539-2544
พระพุทธรูปแห่งบามิยันเป็นพุทธศิลป์เก่าแก่ มีอายุราว 1,500 ปี เป็นพระพุทธรูปประทับยืนหินแกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งยูเนสโกจัดให้เป็นมรดกโลก รูปสลักที่ถูกทำลายไป ได้แก่ รูปพระศากยมุนี ที่มีความสูง 38 ม. และพระไวโรจนะ ที่มีความสูง 55 ม.
ในการจำลองภาพ ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตเกียวใช้เทคนิคดิจิทัลที่เรียกว่า “Super clone” (ซูเปอร์โคลน) ซึ่งมีรายละเอียดและความแม่นยำสูง ประมวลผลจากภาพที่ถ่ายโดยนักโบราณคดีชาวญี่ปุ่นจำนวนมากกว่า 100 ภาพ ซึ่งบันทึกไว้ก่อนที่รูปสลักบนหน้าผาจะถูกทำลาย และภาพจำลองที่นำมาจัดแสดงมีขนาดกว้าง 6 เมตร สูง 3 เมตรเท่ากับภาพจริงที่ถูกทำลายไปเมื่อกว่า 2 ทศวรรษ
นายทาคาชิ อิโนอูเอะ หนึ่งในหัวหน้าทีมวิจัยบอกว่า ภาพจำลองนี้ใกล้เคียงกับของจริงอย่างมาก เป็นการสร้างภาพวาดขึ้นใหม่ที่มีความแม่นยำสูง ทั้งสี พื้นผิว... -
ประชุมโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวิถีพุทธ “ไหว้พระใหญ่ทั่วไทย”
ดร.ศุภาชัย และ ดร.ทวีศักดิ์ โต้โผใหญ่ ร่วมประชุมโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวิถีพุทธ “ไหว้พระใหญ่ทั่วไทย”
ในปัจจุบันนี้ พุทธศาสนิกชนชาวไทยนิยมเดินทางไปสักการะศาสนสถาน วัดหรือสถานปฏิบัติธรรมในช่วงเทศกาลวันหยุดต่างๆ โดยถือเป็นการท่องเที่ยวและทำบุญไปในตัว จึงได้มีการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวไหว้พระตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนอยู่เสมอ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติได้นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยบางคณะก็ได้มีวัตถุประสงค์ในการท่องเที่ยวจาริกเพื่อสักการะ ศาสนสถานที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ และบางคณะก็เพื่อเยี่ยมชมและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
ในปัจจุบันศาสนาสถานหลายแห่งก็มีการพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม เป็นแรงดึงดูดให้เข้ามาเยี่ยมชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างพระพุทธรูปปางต่างๆ หรือรูปเหมือนรูปเคารพทางพระพุทธศาสนา อาทิ พระอริยสงฆ์ และพระโพธิสัตว์ ทั้งฝ่ายเถรวาทและมหายานที่มีขนาดใหญ่ สร้างแรงศรัทธาและแรงจูงใจให้กับพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทั่วไปอย่างมาก โดยเป็น LAND MARK ให้กับชุมชนบริเวณนั้นๆ ด้วย
ด้วยเหตุนี้ทางคณะอนุกรรมการฝ่ายกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา มจร.... -
“สัญญา” กับ “ปัญญา” (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
ผู้ปฏิบัติทางจิตภาวนา จึง "ควรระวังเจ้าสัญญา" จะแอบเข้ามาทำหน้าที่แทน "ปัญญา" โดย "รู้เอาหมายเองเฉยๆ" แต่กิเลสแม้ตัวเดียวก็ไม่ถอดออกจากใจบ้างเลย และอาจกลายเป็นทำนองว่า “ความรู้ท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด” ก็ได้
"ความเห็น" ตาม "สัญญา" กับความเห็นด้วย "ปัญญา" ที่ออกมาจาก "ผู้รู้" ต่างกันอยู่มากราวฟ้ากับดิน
ความเห็นด้วย "สัญญา" พาให้ผู้เห็นมี "อารมณ์มาก" มัก "เสกสรรตัว" ว่ามี "ความรู้มาก" ทั้งที่ "กำลังหลงมาก" จึงมี "ทิฏฐิมานะมาก" ไม่ "ยอมลงให้ใคร" ง่ายๆ...
ส่วนความ "เห็นด้วยปัญญา" เป็นความเห็นซึ่งพร้อมที่จะ "ถอดถอน" ความสำคัญมั่นหมายต่างๆ อันเป็นตัว "กิเลสทิฏฐิมานะ" น้อยใหญ่ ออกไปโดยลำดับที่ "ปัญญาหยั่งถึง" ถ้าปัญญาหยั่งลงโดยทั่วถึงจริงๆ "กิเลสทั้งมวลก็พัง" ทลายไปหมด
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
Credit: ขอขอบพระคุณที่มาจาก Facebook ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล โดย คณะสายเทอดพงศ์ -
วีดีโอ อย่าบังคับลมหายใจเข้าออก( อานาปานสติสาระสำคัญ )โดยพระราชพรหมยาน( หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง)
อย่าบังคับลมหายใจเข้าออก อานาปานสติสาระสำคัญ โดยพระราชพรหมยาน( หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง) -
"อภัยทาน การให้อภัยคืออย่างไร" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
..
"อภัยทาน การให้อภัยคืออย่างไร"
" .. "อภัยทาน ก็คือการยกโทษให้" คือการไม่ถือความผิดหรือการล่วงเกินกระทบกระทั่งว่าเป็นโทษ "อภัยทานนี้เป็นคุณแก่ผู้ให้ ยิ่งกว่าแก่ผู้รับ" เช่นเดียวกับทานทั้งหลายเหมือนกัน คืออภัยทานหรือการให้อภัยนี้ เมื่อเกิดขึ้นในใจผู้ใด จะยังจิตใจของผู้นั้นให้ผ่องใสพ้นจากการกลุ้มรุมบดบังของโทสะ .."
" .. "โกรธแล้วหายโกรธเอง กับโกรธแล้วหายโกรธเพราะให้อภัย ไม่เหมือนกัน" โกรธแล้วหายโกรธเองเป็นเรื่องธรรมดา ทุกสิ่งเมื่อเกิดแล้วต้องดับ ไม่เป็นการบริหารจิตแต่อย่างใด "แต่โกรธแล้วหายโกรธเพราะคิดให้อภัย เป็นการบริหารจิตโดยตรง" จะเป็นการยกระดับของจิตให้สูงขึ้น ดีขึ้น มีค่าขึ้น .."
" .. "ผู้อบรมจิตให้คุ้นเคยอยู่เสมอกับการให้อภัย แม้จะไม่ได้รับการขอขมาก็ย่อมอภัยให้ได้" ในทางตรงกันข้าม ผู้ไม่เคยอบรมจิตใจให้คุ้นเคยกับการให้อภัยเลย โกรธแล้วก็ให้หายเอง แม้ได้รับการขอขมาโทษ ก็อาจจะไม่อภัยให้ได้ เป็นเรื่องของการไม่ฝึกใจให้เคยชิน "อันใจนั้นฝึกได้ ไม่ใช่ฝึกไม่ได้ ฝึกอย่างไดก็จะเป็นอย่างนั้น" ฝึกให้ดีก็จะดี ฝึกให้ร้ายก็จะร้าย .. "
"การบริหารทางจิตสำหรับผู้ใหญ่"
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า... -
"กรรมนั้นให้ผลสัตย์ซื่อนัก" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
"กรรมนั้นให้ผลสัตย์ซื่อนัก"
" .. "ผู้เบียดเบียนเขา แม้จะได้สิ่งที่มุ่งไว้" แต่ผลที่แท้จริงอันจักเกิดจากกรรม คือการเบียดเบียนที่ได้ประกอบการทำลงไปนั้น จักเป็นทุกข์เป็นโทษแก่ผู้กระทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"กรรมนั้นให้ผลสัตย์ซื่อนัก" เหมือนผลของยาพิษร้ายแรง กรรมนั้นเมื่อทำแล้วก็เหมือนดื่มยาพิษร้ายแรงเข้าไปแล้ว จักไม่เกิดผลร้ายแก่ชีวิตและร่างกายย่อมไม่มี ย่อมเป็นไปไม่ได้ "ถ้าเป็นกรรมดีก็จักให้ผลดี ถ้าเป็นกรรมชั่วก็จักให้ผลชั่ว"
เราเป็นพุทธศาสนิกนับถือพุทธศาสนา "พึงมีปัญญาเชื่อให้จริงจัง ถูกต้องในเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรมเถิด" จักเป็นสิริมงคล เป็นความสวัสดีแก่ตนเอง .. "
"อำนาจอันยิ่งใหญ่แห่งกรรม"
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=9926 -
แบบฝึกหัด ชั้นอนุบาล มโนมยิทธิครึ่งกำลัง
วิธีหาของหาย
เกมส์นี้ต้องใช้สมาธิที่เบาๆสบายๆ เหมาะสำหรับ "เด็กอภิญญา" ทุกรุ่น ตั้งแต่วัยเรียนอนุบาลถึงระดับปริญญาเอก
ให้เด็กดูวัตถุที่ต้องการให้ค้นหา ให้จับต้องลูบคลำวัตถุนั้น...(ในที่นี้จะให้หลับตาหรือใช้ผ้าผูกตา ค้นหาลูกแก้ว หรือวัตถุอะไรก็ได้ ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในบริเวณนั้น เช่น พวงกุญแจบ้าน/รถยนต์ ซ่อนไว้ในห้องนอน)
กำหนดสถานที่จะให้ค้นหา (ควรเป็นห้องนอนของเขาเอง หรือห้องใดห้องหนึ่งในบ้านเขาเอง เช่นห้องรับแขก)
นำวัตถุนั้นไปซ่อนไว้ปกปิดเพียงเล็กน้อย ไม่ให้มองเห็น
ให้เด็กยืนกลางห้อง หลับตา/ใช้ผ้าปิดตาเพียงเบาๆ ก่อนค้นหา
วิธีค้นหา บอกให้เด็กทำตามดังนี้
หลับตา__ให้สนิท หรือใช้ผ้าปิดตาเบาๆ (ห้ามใช้มือปิดตาหรือสิ่งใดไปสัมผัสกับเปลือกลูกตา)
นึกถึงอวกาศ__ท้องฟ้าในเวลากลางคืน มืดดำ ว่างเปล่า มองไม่มีอะไรเลย แม้นร่างกายของตัวเอง
นึกถึงภาพพระพุทธรูป__(พระพุทธชินราช) เนรมิตขึ้นมาตรงหน้า ขยายภาพพระให้สูงใหญ่เต็มท้องฟ้า (เด็กคนไหนนึกไม่ออกให้นำพระพุทธรูปจริง พระคล้องคอ มาดู ลูบคลำ กราบไหว้)
อธิฐานขอพรขอบารมีจากพระพุทธเจ้า__กราบ และถามท่านว่าวัตถุนั้นวางอยู่ตรงไหน... -
"อริยทรัพย์ติดไปจนสิ้นภพสิ้นชาติ" (หลวงปูขาว อนาลโย)
.
"อริยทรัพย์ติดไปจนสิ้นภพสิ้นชาติ"
" .. เราจะไปเกิดในที่ดีมันยากแล้ว บุญมันบ่ถึงเขา เราต้องทำเอา เกิดเป็นมนุษย์เป็นสัตว์อันสูงสุด ก็เป็นเพราะ "ปุพเพกะตะปุญญะตา บุญหนหลังมาติดตามตน" ให้เกิดเป็นผู้สมบูรณ์บริบูรณ์
ครั้นเป็นผู้สมบูรณ์แล้วก็ "อัตตะสัมมาปะณิธิ ให้ตั้งตนอยู่ในที่ชอบ" อย่าไปตั้งตนอยู่ในที่ชั่ว รักษาศีล ให้ทาน หัดทำสมาธิอย่าให้ขาด "ศีลห้ารักษาให้บริสุทธิ์บริบูรณ์" ศีลแปดให้รักษา "ให้พากันภาวนาอยู่" สมาธิมันไม่มีที่อื่น "ให้นั่งภาวนา พทโธ ๆ" ไม่ต้องร้องให้มันแรงดอก ให้มันอยู่ในใจซื่อ ๆ ดอก
"การภาวนาก็เป็นอริยทรัพย์ภายใน" มันจะติดตามไปทุกภพทุกชาติ ติดไปสวรรค์ ลงมามนุษย์ มาตกอยู่ในที่มั่งคั่งสมบูรณ์บริบูรณ์ ไม่ยากไม่จน "ทรัพย์อันนี้ติดตามไป บ่มีสูญหายดอก ตามไปจนสิ้นภพสิ้นชาติ" .."
"อนาลโยวาทะ" (หลวงปูขาว อนาลโย)
จัดพิมพ์เป็นธรรมทาน โดย นพ. อวย – ส่งศรี เกตุสิงห์ -
ปรอทกายสิทธิ์... หลวงปู่พิศดู
ว่าด้วยเรื่องวิชา ปรอท นั้น เคยได้ฟังมาจากลูกศิษย์รุ่นเก่าๆเคยเล่าให้ฟังว่า องค์หลวงปู่พิศดู ท่านมีวิชาที่สูงมากๆ เวลาว่างๆ คิดอยากทำอะไรท่านก็ทำของท่านได้ทุกเมื่อ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ท่านอธิษฐานเรียกปรอทมาทางอากาศ แล้วก็ใช้มือคว้าจับเอาปรอทกลางอากาศว่างๆมาเฉยๆ ไม่เห็นท่านต้องตั้งท่าตั้ง หรือทำพิธีอะไร พอท่านจับมาท่านก็คลึงๆขยำๆ แล้วก็วางไว้ตรงหน้าท่าน ปรากฏกลายเป็นปรอทแข็งๆลูกเท่าหัวแม่มือ ท่านทำเพียงไม่กี่ลูกเท่านั้น แล้วก็บรรยายสรรพคุณว่า ใครพกไว้กันอันตรายได้ทุกอย่าง เวลาคับขันกำบังศัตรูมองไม่เห็นตัวได้... ฯลฯ
ก็พอจะมีคนทราบและมาขอท่าน แต่ท่านไม่ได้ให้ใคร จนลูกศิษย์มาตื๊อท่านบ่อยๆ ท่านก็รำคาญ ก็เลยให้ใครไปไม่ทราบแต่ได้สั่งว่า ให้เอาไปแบ่งกันใช้คนละหนึ่งเดือน อย่าเก็บไว้คนเดียว แต่ตอนนี้ไม่รู้ตกอยู่ที่ใครแล้ว... หายไปไม่มีวี่แววเลย...
หลังจากเม็ดปรอทลูกนั้นแล้ว ต่อก็มีลูกศิษย์น่าจะเป็นชุดที่สร้างพระกสิณ ขออนุญาตหลวงปู่ทำการหุงปรอท และเทกันในวัด มีทั้งพระปรอท และลูกสะกดปรอทครับ แต่ว่ามีจำนวนน้อยมาก...
แต่สำหรับผมนะครับ ผมว่าไม่จำเป็นต้องหาปรอทในตำนานเหล่านั้นหรอกครับ...
หน้า 93 ของ 402