WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ฺB1

เลย-ฝนกระหน่ำเมือง น้ำท่วมฉับพลัน



เกิดฝนตกหนักนานหลายชั่วโมงทั่วจังหวัดเลย ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในเขตเทศบาลเมืองเลย ถนนทุกสายรถเล็กผ่าไม่ได้ ร้านค้ากว่า 500 ร้านต้องปิดบริการ เตรียมขนของหนีน้ำ

เวลา 09.30 น.วันนี้ (2 ก.ย.) ได้เกิดฝนตกหนักในทุกอำเภอของจังหวัดเลย โดยเฉพาะเขตอำเภอเมืองเลย ในเขตเทศบาลเมืองตั้งแต่เช้า มีฝนตกหลายชั่วโมง จนทำให้เกิดน้ำท่วมขังตามถนนสายต่างๆ อย่างฉับพลัน รถเล็กไม่สามารถสัญจรไป-มาได้ ถนนทุกเส้นในเทศบาลเมืองเลยใช้งานไม่ได้

โดยเฉพาะถนนเจริญรัฐ ถนนพิพัฒนะมงคล ถนนร่วมใจ ถนนนกแก้ว น้ำท่วมขังสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ร้านค้าที่อยู่ในระดับต่ำ น้ำได้ไหลเข้าท่วมเข้าไปในร้านได้รับความเสียหาย ต้องระดมอุปกรณ์กั้นน้ำไม่ให้เข้าตัวบ้านเรือน บางจุดต้อง รีบวิดน้ำออกจากร้านค้า ทำให้ร้านค้ากว่า 500 ร้าน ต้องปิดบริการเพื่อเตรียมขนของมีค่าขึ้นที่สูง ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันครั้งนี้ เนื่องจากการระบายน้ำไม่ทัน เพราะเทศบาลเมืองเลยไม่เคยลอกท่อเลยในรอบหลายปีที่ผ่านมา

 

B1

พิษณุโลก - ชาวพรหมพิรามอ่วมเขื่อนผันน้ำท่วมบ้านป้องกันน้ำท่วมเมือง


2 ตค. 2554 11:40 น.


นายน้อย ม่วงทอง อายุ 50 ปี ชาวบ้านหาดใหญ่ หมู่ 4 ต.หนองแขม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนเองและคนในหมู่บ้าน ต้องได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังจากชลประทานใช้เขื่อนนเรศวร ผันแม่น้ำน่านออกสู่ ต.หนองแขม เพื่อรักษาเขตเศรษฐกิจของเมืองพิษณุโลก ทำให้มีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านพักอาศัย ประกอบกับมีฝนตกลงมาอย่างหนัก น้ำไม่สามารถระบายออกได้ และขณะนี้น้ำเริ่มเน่าเหม็น จึงอยากขอร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ สูบน้ำออกจากหมู่บ้านเป็นการเร่งด่วน
นายสุพจน์ หวาเกตุ ผู้ใหญ่บ้านม.4 ต.หนองแขม เปิดเผยว่า หลังจากที่น้ำเริ่มเข้าท่วมในหมู่บ้าน ตนเองติดต่อขอเครื่องสูบน้ำของราชการ จะนำมาสูบน้ำออกจากหมู่บ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน แต่กลับได้รับคำตอบว่า เครื่องสูบน้ำ ได้ระดมไปช่วยในเมืองหมดแล้ว ขณะนี้ทำได้เพียง ระดมรถไถนาของชาวบ้าน กว่า 30 คัน มาตั้งเครื่อง สูบน้ำออก ทั้งวัน ทั้งคืนตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่ง นายสุพจน์ กล่าวว่า หากไม่สูบ น้ำจะท่วมสูง จนชาวบ้านไม่สามารถอยู่อาศัยได้แน่นอน แต่ตอนนี้ติดปัญหาไม่มีน้ำมันเติมรถไถนา เนื่องจากน้ำมันที่ใช้เรี่ยไรมาจากชาวบ้าน ที่ไม่มีรายได้ ดังนั้นจึงอยากขอความเห็นใจ เพราะชาวบ้านถูกน้ำท่วมนาข้าวเสียหายไปหมดแล้ว หากจะต้องถูกน้ำท่วมบ้านจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ จากการรักษาเขตเศรษฐกิจของเมือง ก็ดูเหมือนจะเหมือนซ้ำเติมความโชคร้ายเกินไป อย่างน้อยที่สุด ก็ขอสนับสนุนน้ำมัน ในการเติมรถไถนาที่ใช้สูบน้ำออกจากหมู่บ้านบ้างก็ยังดี

 

B1

กทม.เตรียมสร้างอุโมงค์ยักษ์แก้น้ำท่วมดอนเมือง

02-10-2554 | 05:00 l ชมทั้งหมด 30
ในการลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจประชาชน ชุมชนสันติชนสงเคราะห์ริมคลองบางกอกน้อย หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยืนยันว่า กทม. ยังรับมือปริมาณน้ำสูงในแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองต่าง ๆ ได้ โดยเมื่อคืนนี้ระดับน้ำขึ้นสูงสุด 1.98 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งระดับน้ำที่รองรับได้คือ 2.50 เมตร

อย่างไรก็ตาม กทม. ได้จัดเจ้าหน้าที่ พร้อมเครื่องสูบน้ำ และกระสอบทราย เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ตามจุดอ่อนไหว โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ฝั่งตะวันออกที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด เนื่องจากไม่มีแนวคันกั้นน้ำ

ส่วนบริเวณคลองเปรมประชากร เขตดอนเมือง วานนี้ระดับน้ำสูงขึ้นกว่าปกติ แต่ยังอยู่ในภาวะรับมือได้และจะทำการสูบน้ำออกจากคลองเปรมประชากร คลองบางเขนใหม่ คลองบางซื่อ คลองสามเสน และคลองผดุงกรุงเกษม ช่วยลดระดับน้ำให้อยู่ในภาวะปกติ

นอกจากนี้ กทม.เตรียมจะสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ ในเขตดอนเมืองให้มีขนาดใหญ่และยาวที่สุดในประเทศไทย เส้นผ่าศูนย์กลาง 5.6 เมตร ยาว 17 กิโลเมตร โดยจะเริ่มดำเนินการในปี 2556 - 2559 เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว

 

B1


อุบลฯใช้เรือผันน้ำมูลลงโขงเตรียมรับน้ำเหนือจากเขื่อนอุบลรัตน์-ลำปาว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ตุลาคม 2554 10:44 น.



อุบลราชธานี - ระดับน้ำท่วม จ.อุบลราชธานี ปรับตัวลดลงเฉลี่ยวันละ 4-7 เซนติเมตร แต่ยังต้องเร่งผลักดันน้ำให้ไหลลงแม่น้ำโขงเร็วขึ้น เพื่อรองรับปริมาณน้ำเหนือที่เขื่อนอุบลรัตน์ และเขื่อนลำปาว ระบายออกมาและจะเดินทางมาถึงจังหวัดในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อลดผลกระทบระดับน้ำท่วมไม่ให้สูงไปกว่านี้

วานนี้(1 ต.ค.) นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นำเรือลากจูงเรือดูดทรายจำนวน 4 ลำ ผลักดันน้ำที่กำลังไหลผ่านสะพามข้ามแม่น้ำมูลบริเวณบ้านบัวท่าบัวเทิง อ.สว่างวีระวงศ์ กับ อ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อให้น้ำที่ไหลวนบริเวณตอมอของสะพานกระจายตัวแล้วไหลผ่านไปได้สะดวกรวดเร็วกว่าปกติ เร่งลดระดับน้ำท่วมในเขตชุมชนสองฝั่งแม่น้ำมูลในเทศบาลวารินชำราบ และเทศบาลนครอุบลราชธานี

สำหรับการใช้เรือลากจูงเรือดูดทรายเร่งผลักดันน้ำให้ไหลลงแม่น้ำโขงอย่างรวดเร็วครั้งนี้ ทำพร้อมกัน 2 จุด คือ ที่สะพานบัวท่าบัวเทิง และสะพานเสรีประชาธิปไตย โดยแต่ละจุดใช้เรือแห่งละ 4 ลำ และทำต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน

นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีกล่าวถึงน้ำเหนือที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และเขื่อนลำปาว จ.กาฬสิทธุ์ กำลังปล่อยน้ำปริมาณมากไหลมาตามลำน้ำชีและจะไหลมารวมที่จังหวัดอุบลราชธานีอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าว่า ทำให้ขณะนี้ จังหวัดต้องเร่งผลักดันน้ำจากแม่น้ำมูลไหลลงแม่น้ำโขง เพราะระดับน้ำแม่น้ำโขงต่ำลง เพื่อเตรียมรับปริมาณน้ำเหนือที่จะไหลเข้ามาสมทบ

โดยเมื่อถึงช่วงนั้น ระดับน้ำที่ไหลมารวมกันจะสูงขึ้นไม่มาก รวมทั้งที่ผ่านมาจังหวัดได้ทำพื้นที่บล็อกน้ำตามลำน้ำสาขาไม่ให้ไหลลงแม่น้ำมูลในเวลาเดียวกัน เพื่อให้เวลาแม่น้ำมูลมีโอกาสปรับสภาพในการรองรับน้ำมากขึ้นด้วย

ส่วนระดับแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำสะพานเสรีประชาธิปไตย ลดลงอีก 4 เซนติเมตร แต่ยังมีระดับน้ำล้นตลิ่งสูง 2 เมตร และชาวบ้านใน 3 อำเภอคือ อ.เมือง วารนิชำราบ และตาลสุม กว่า 1,600 ครอบครัว ยังต้องอาศัยอยู่ในจุดอพยพต่อไป

 

B1

"นาลเก"พัดขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ ส่งผลน้ำท่วม-ดินถล่ม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ตุลาคม 2554 11:26 น.

พายุไต้ฝุ่นนาลเกพัดขึ้นฝั่งทางภาคเหนือของเกาะลูซอน ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มอันเนื่องมาจากฝนตกหนัก โดยสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า มีสตรีคนหนึ่งเสียชีวิต หลังเกิดเหตุดินถล่มลงมาจากเนิน และปะทะเข้ากับรถประจำทาง นอกจากนี้นาข้าว ซึ่ง จ.อิซาเบลา ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตสำคัญก็เสียหายยับเยิน
ล่าสุด พายุนาลเกลดความเร็วลมลงเหลือเพียง 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นผลจากการปะทะเข้ากับแนวเทือกเขา แต่ทางการฟิลิปปินส์ยังเตือนประชาชนว่าอันตรายยังไม่พ้นไป เพราะจะเกิดน้ำท่วมซ้ำจากผลพวงของพายุไต้ฝุ่นเนสาดก่อนหน้านี้

 

B1

ปริมาณน้ำฝนเมื่อวานนี้ 1 -10-54

 

B1

ภาพถ่ายจากดาวเทียม GOES-9 IR1



ภาพถ่ายสภาพพายุจาก Asia Satellite (Weather Channel)

 

ฺB1

พายุ นาลแก จะมาถึง ลาว วันที่ 7 ต.ค.54 และจะอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ

 

Daily News Online > ข่าวหน้า 1 > ตำรวจ-อพปร.ถือปืนป้องกันพังคันกั้นน้ำ





เจ้าหน้าที่ตำรวจ อปพร. ศาลาแดง คว้าปืนยาวเฝ้าฝายน้ำล้นหวั่นประชาชนฮือทำลาย

เมื่อกลางดึกวันที่ 2 ต.ค. ที่ฝายน้ำล้นหน้าวัดหลุมไก่ หมู่ 3 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ อปพร.ตำบลศาลาแดง ใช้ปืนลูกซองยาวถือเดินลาดตระเวน บริเวณฝายน้ำล้น และบริเวณคันดินตามแนวถนนศาลาแดงอินทประมูล หลังทราบว่าจะมีประชาชนเข้ามาพังคันดินและทำลายฝายน้ำล้นเพื่อให้น้ำไหลแรงมากขึ้น

นายสหัส เสมอเหมือน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ศาลาแดง เปิดเผยว่า หลังจากที่ประตูน้ำพระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี พังลงทำให้น้ำทะลักลงแม่น้ำน้อยลงมาถึงทุ่งลำท่าแดงซึ่งติดอยู่กับตัวอำเภอเมืองอ่างทองทำให้น้ำได้ท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขต ต.ย่านซื่อ อ.เมือง และ ต.เทวราช ต.ไชโย ที่อยู่ติดกับทุ่งลำท่าแดง ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร ได้รับความเดือดร้อน จึงรวมตัวกันเพื่อที่จะให้เทศบาลศาลาแดงพังคันกั้นน้ำที่สูงเกือบ 2 เมตร เพื่อให้น้ำไหลงลงมาฝั่ง ต.ศาลาแดง
จึงเกิดการโต้เถียงกันระหว่างชาวบ้านใน ต.ศาลาแดงและ ต.ย่านซื่อ
จนในที่สุดเทศบาลศาลาแดงได้พังคันดินยาวกว่า 10 เมตร แต่ทำเป็นฝายน้ำล้นเพื่อป้องกันการพังของดินและถนน แต่ว่าผู้ที่ถูกน้ำท่วมยังไม่พอใจอยากจะให้น้ำไหลมากกว่านี้ จนมีข่าวลือว่าจะมีพวกชาวบ้านบางคนมาทำลายคันกั้นน้ำ

ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตำบลศาลาแดงและเจ้าหน้าที่อปพร.จึงต้องนำอาวุธออกลาดตระเวนเพื่อป้องกันคันดินพังเพราะหากคันดินพังน้ำจะทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน สถานที่ราชการ ย่านเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก.

 

ฺB1

ที่ปากีสถานก็น้ำท่วมหนักเลย ทวีความรุนแรงเป็นระดับสูงสุด ROSE

 

ฺB1

พระธาตุหมื่นครื้นลำปางพันปีพังทลาย

ข่าวภูมิภาค วันอาทิตย์ที่ 2 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 10:39 น.



องค์เจดีย์ วัดพระธาตุหมื่นครื้น อายุกว่าพันปี ใน จ.ลำปาง พังทลายลงแล้ว หลังฝนตกหนักตลอดคืน ขณะทางจังหวัด สั่งเฝ้าระวังโบราณสถานทั้งหมดแล้ว

ได้เกิดเหตุองค์ เจดีย์ของวัดพระธาตุหมื่นครื้น ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง ที่มีอายุเก่าแก่ กว่า 1,342 ปี ที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1223 ได้เกิดพังทลายลงมา ทำให้อิฐมอญอายุเก่าแก่ ที่ก่อสร้างล้อมรอบองค์พระธาตุ หล่นลงมาพังเสียหาย เป็น
จำนวนมาก หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่องติดต่อกันตลอดทั้งคืน ขณะที่ พระราชจินดานายก เจ้าคณะจังหวัด ลำปางเร่งเข้าตรวจสอบแล้ว ส่วนชาวบ้านในพื้นที่เรียกร้อง ให้กรมศิลปากร เร่งเข้ามาฟื้นฟู ดูแลองค์พระธาตุด่วน หวั่นสิ่งของโบราณและมีค่าหลายอย่าง ส่วนที่อยู่บนยอดพระธาตุจำนวนมาก อาจจะพังทลายลงมา พร้อมกับพระธาตุ เพราะเชื่อว่าพายุฝนยังจะเข้ามาอีกหลายลูก

ด้าน พระราชจินดานายก เจ้าคณะจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ตนเองจะได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกรมศิลปากร ให้เร่งเข้ามาซ่อมแซมและฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งจะทำหนังสือแจ้งไปทุกวัดใน 13 อำเภอทั่ว จ.ลำปาง ให้เฝ้าระวังสิ่งโบราณสถานที่สำคัญตาวัดต่างๆ เสียหาย เพราะในช่วงนี้ ฝนอาจจะตกลงมาอีกหลายครั้ง

ส่วนชาวบ้านได้เล่าก่อนเกิดเหตุช่วงกลางดึก ได้ยินเสียงองค์พระธาตุถล่มคล้ายเสียงหินพังทลายลงมาถึง 2 ครั้ง และได้ยินเสียงสุนัขเห่านานมาก จึงวิ่งมาดู พบองค์พระธาตุพังทลายเสียหายดังกล่าว

Link : http://www.innnews.co.th/พระธาตุหมื่นครื้นลำปางพันปีพังทลาย--311680_06.html

 

แผนแสดงที่ชั้นความสูง กทม / ภาคกลาง

สีแดง 1 เมตร
สีน้ำเงิน 2 เมตร
สีชมพู 5 เมตร
สีม่วง 10 เมตร
สีเขียวอ่อน 25 เมตร
สีเขียวแก่ 50 เมตร
สีเหลือง 100 เมตร

ข้อมูลปัจจุบันระบุว่า...พื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี...น้ำท่วมน้อยกว่าเพื่อน...หากมองจากแผนที่จะเห็นว่า

- ตั้งแต่นครปฐม กำแพงแสน อู่ทอง สุพรรณบุรี ส่วนใหญ่สูง 5-10 เมตร

- พระประแดง ไทรน้อย บางปะอิน เสนา อยุธยา ส่วนใหญ่สูง 1-2 เมตร ยกเว้นแคราย สูง 5 เมตร

- ลาดกระบัง บางปะกง ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ส่วนใหญ่สูง 1-2 เมตร

ความสูงเหล่านี้เป็นความสูงจากระดับน้ำทะเล ... ซึ่งพื้นที่ต่ำจะถูกน้ำท่วมได้ง่ายกว่า

อีกกรณีหนึ่งซึ่งแผนที่นี้ไม่ได้แสดงไว้ก็คือ...น้ำจากลำน้ำเจ้าพระยา...ที่สามารถเอ่อล้นออกมาได้...ตามแนวของลำน้ำ เช่น ปทุมธานี นนทบุรี พระประแดง

กรุณาใช้ข้อมูลนี้ในการ...วิเคราะห์สถานะการณ์...ของตัวท่านเอง...หากจำเป้นต้องย้ายที่อยู่...ควรศึกษาเส้นทางที่สามารถออกจากพื้นที่น้ำท่วม...ให้เร็วที่สุด

เส้นทางที่แนะนำคือเส้นทางฝั่งตะวันตก...นครปฐม...สุพรรณบุรี...กาญจนบุรี...ครับ

 

ฺB1

เขื่อนลำปาวกาฬสินธ์ระบายน้ำเกินพิกัด

ข่าวภูมิภาค วันอาทิตย์ที่ 2 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 12:10 น.



น้ำท่วมกาฬสินธ์ยังหนัก เขื่อนลำปาว ระบายน้ำเกินพิกัด ลุ่มน้ำชีน้ำขึ้นสูงอีก 50 ซ.ม. ขณะพื้นที่ท้ายน้ำประชาชน หลายพันครอบครัว เริ่มป่วยท้องร่วง



ปัญหาน้ำท่วมที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังไม่คลี่คลาย เนื่องจากมีพายุฝนตกลงมาต่อเนื่องประกอบกับการระบายน้ำของเขื่อนลำปาว ที่เกินพิกัดลงแม่น้ำปาว ทำให้มวลน้ำหนาแน่นไหลไปด้วยความยากลำบาก ส่งผลให้ปริมาณน้ำยังคงสูงขึ้น ล่าสุดลุ่มน้ำชีด้าน อ.ร่องคำ ปริมาณน้ำท่วมได้เพิ่มสูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร ส่งผลให้ระดับน้ำใกล้ท่วมถนนสายบ้านบ่อไป อ.ร่องคำ และคาดหากมวลน้ำจำนวนมากไหลจาก จ.ชัยภูมิ ลงในแม่น้ำชีภายในสัปดาห์นี้ ทำให้ท่วมถนนสายนี้อย่างแน่นนอน ขณะที่การช่วยเหลือที่วัดบ้านเหล่าอ้อย ต.เหล่าอ้อย อ.ร่องคำ
นายนิพนธ์ ศรีธเรศ ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย เขต 5 นำข้าวสาร อาหารแห้ง จำนวน 600 ชุด ไปแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ มีพื้นที่นาข้าวถูกน้ำท่วมกว่า 5,000 ไร่

นอกจากนี้ ในพื้นที่ท้ายน้ำด้าน อ.สหัสขันธ์ อ.หนองกุงศรี อ.ห้วยเม็ก ประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมกว่า 1,000 ครอบครัว เริ่มเจ็บป่วยด้วยโรคท้องร่วง เนื่องจากน้ำดื่มไม่สะอาดและขาดแคลน จึงต้องการความช่วยเหลือ

Link : เขื่อนลำปาวกาฬสินธ์ระบายน้ำเกินพิกัด

qsquqsquqsquqsquqsquqsquqsquqsquqsquqsquqsquqsqu


เขื่อนภูมิพลระบายเพิ่ม-น้ำวังสมทบ ทำน้ำปิงล้นตลิ่งซ้ำตั้งแต่ตาก-กำแพงฯ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ตุลาคม 2554 12:05 น.



ตาก- เขื่อนภูมิพล เร่งระบายน้ำเพิ่มอีก เป็น 45 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ขณะที่น้ำวังสมทบอีก ทำชุมชนริมน้ำปิงตั้งแต่ตาก-กำแพงเพชร เจอน้ำท่วมซ้ำอีกรอบ

นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผู้อำนวยการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก เปิดเผยสถานการณ์น้ำเขื่อนภูมิพล ว่า ปัจจุบันมีน้ำกักเก็บทั้งสิ้น 12,580 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 93.89 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง เหลืออีก 6.11 เปอร์เซ็นต์น้ำจะล้นอ่าง ในขณะที่วานนี้(1 ต.ค.54)มีน้ำไหลเข้า 110 ล้านลูกบาศก์เมตร

ดังนั้น เขื่อนภูมิพลต้องระบายน้ำออกวันละ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร เพราะน้ำไหลเข้ายังมีระดับที่สูง ในขณะที่น้ำจากแม่น้ำวังที่ไหลมาสมทบใต้เขื่อนในลำน้ำปิง อ.บ้านตาก อีกวันละ 39 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมกันวันละ 84 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำปิง และพื้นที่การเกษตร อ.เมืองตาก อ.วังเจ้า จ.ตาก ที่น้ำไหลผ่าน ได้รับความเดือดร้อนเพราะน้ำท่วมเสียหายเป็นรอบที่ 3

นอกจากนี้ น้ำที่ไหลจากแม่น้ำปิงลงสู่ลุ่มเจ้าพระยาผ่าน จ.กำแพงเพชร ซึ่งจะทำให้ อ.เมืองกำแพงเพชร อ.โกสัมพีนคร อ.คลองขลุง อ.ขาณุวรลักษบุรี และเทศบาลเมืองกำแพงเพชร โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำอาจจะถูกน้ำท่วมในช่วงนี้เป็นต้นไป จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวเตรียมการป้องกัน ขนย้ายสิ่งของไปในที่ปลอดภัยรวมทั้งสัตว์เลี้ยง

 

ฺB1

นครสวรรค์-เร่งเสริมแนวหินคลุกรอบเทศบาลรับมือน้ำเหนือช่วง 3-4 วันนี้




เทศบาลนครสวรรค์เร่งเสริมแนวกระสอบทรายและหินคลุกสูง 4 เมตรตลอดตัวเมืองยาวกว่า 5 กม.เพื่อรับมือน้ำเหนือที่จะปล่อยลงมาจากเขื่อนภูมิพลในช่วง 3-4 วันนี้

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนครสวรรค์ ขณะนี้ต้องลุ้นกันต่อไปว่าเทศบาลเมืองนครสวรรค์จะรอดพ้นจากน้ำท่วมเมืองได้หรือไม่ เนื่องจากขณะนี้น้ำก้อนแรกที่ท่วมนานกว่า 2 เดือน ยังไม่คลี่คลาย แต่มีน้ำก้อนใหม่จำนวนมากที่จะปล่อยจากเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก กำลังจะไหลมาสมทบอีกระลอกใหญ่ เวลานี้สภาพรอบตัวเทศบาลนครนครสวรรค์ ที่ทีมข่าวถ่ายจากมุมสูงบนยอดเขาคีรีวงศ์ น้ำได้ล้อมรอบทุกทิศทุกทางหมดแล้ว สภาพตัวเมืองนครสวรรค์เวลานี้จึงไม่แตกต่างจากเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ หากน้ำทะลักเข้ามาจุดใดจุดหนึ่งจะต้องจมทั้งเมืองแน่นอน

ล่าสุด นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครสวรรค์ นายจิตตเกษม นิโรจน์ธนรัฐ ได้ระดมเจ้าหน้าที่เทศบาลเสริมแนวหินคลุกที่ทางเทศบาลเทไว้สูง 4 เมตร ตลอดตัวเมืองยาวกว่า 5 กิโลเมตร ด้วยการนำกระสอบทรายมาวางด้านในและด้านนอกของแนวหินคลุก เพื่อสร้างความแข็งแรงของคันดิน ส่วนความสูงน่าจะสามารถรับมือได้ เพราะคาดการณ์ว่าจะมีน้ำเหนือไหลมากว่านี้อีก 50-60 ซม.ในอีก 3-4 วันข้างหน้านี้ ซึ่งต้องรอลุ้นว่าจะสามารถรับมือน้ำเหนือได้หรือไม่ ช่วงนี้ยังไม่ปลอดภัย คนนครสวรรค์เร่งเก็บข้าวของหนีน้ำแล้ว

ส่วนพื้นที่ความเสีบหายขณะนี้ น้ำยังท่วมขังใน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง เก้าเลี้ยว โกรกพระ ชุมแสง ท่าตะโก พยุหะคีรี ตาคลี มีผู้เสียชีวิตแล้ว 25 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 7 แสนกว่าไร่ ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย 77,294 ครัวเรือน จำนวน 238,685 คน

 

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/7-AANBo4kAU?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/7-AANBo4kAU?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></object>

 

ฺB1

ปภ.บุรีรัมย์ ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ 6 อำเภอ

นายพรเทพ แสงทอง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า หลังมีฝนตกกระจายทั่วทุกพื้นที่ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับน้ำเหนือของ จ.นครราชสีมา และ จ.ชัยภูมิ ได้ไหลมาสมทบกับลำน้ำมูล และลำน้ำมาศ ซึ่งเป็นแหล่งรับน้ำทำให้มีปริมาณหนุนสูงขึ้น และได้เอ่อท่วมถนน นาข้าว ของเกษตรกรที่กำลังออกรวง ใกล้เก็บเกี่ยวในหลายพื้นที่ ล่าสุด ทางจังหวัดได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉินจากภาวะน้ำท่วมแล้ว 6 อำเภอ ได้แก่ อ.พุทไธสง อ.แคนดง อ.สตึก อ.ลำปลายมาศ อ.ละหานทราย และ อ.โนนดินแดง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 30 ตำบล ขณะที่น้ำในลำน้ำมูลและลำน้ำมาศ มีระดับน้ำหนุนขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง จึงเตือนให้ราษฎรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ได้ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลัน


กฟผ.เฝ้าระวังและติดตามปริมาณน้ำฝนที่ไหลเข้าอ่างใน 3 เขื่อนหลัก

นายชาตรี พริ้วเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ได้ติดตามและสังเกตปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะใน 2 เขื่อน คือ เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก บนลุ่มน้ำปิง และ เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ บนลุ่มน้ำน่าน ที่เป็นต้นน้ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ขณะนี้ปริมาณน้ำของเขื่อนสิริกิติ์สูงมีร้อยละ 99 ของความจุอ่าง ใกล้เต็มความจุของอ่าง ขณะที่ปริมาณน้ำของเขื่อนภูมิพลมีร้อยละ 93 ของความจุอ่าง ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้เล็กน้อย แต่หากปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างจนเขื่อนไม่สามารถรองรับได้ จำเป็นต้องระบายน้ำออกแต่ยืนยันว่า การระบายน้ำได้มีการหารือกับกรมชลประทานทุกครั้ง นอกจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ บนลำน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เพราะปริมาณน้ำเกือบจะเต็มความจุอ่างแล้ว ส่วนเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์ จังหวัดกาญจนบุรี ยังสามารถรองรับน้ำได้ในปริมาณมากไม่น่าเป็นห่วง แต่คงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงอย่างต่อเนื่องควบคู่กับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างอย่างใกล้ชิด


ฟิลิปปินส์เร่งอพยพประชาชนหนีน้ำท่วม

เจ้าหน้าที่กู้ภัยฟิลิปปินส์เร่งอพยพประชาชนหลายหมื่นคนในพื้นที่เสี่ยงไปยังพื้นที่ปลอดภัย ตามที่คาดว่าวันนี้น้ำจากแนวเทือกเขาจะไหลลงมาสมทบกันบริเวณที่ราบของเกาะลูซอนและอาจทำให้สถานการณ์น้ำท่วมอันเป็นผลกระทบจากไต้ฝุ่นเนสาดก่อนหน้านี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอีก สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดทำให้ประชาชนจำนวนมากประสบปัญหาขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มท่ามกลางความช่วยเหลือยังคงเป็นไปอย่างล่าช้า โดยประเมินว่ามีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากไต้ฝุ่นเนสาดกว่า 2.4 ล้านคนและส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลี้ภัยไปยังศูนย์อพยพ รายงานระบุด้วยว่า แต่ละปีมีไต้ฝุ่นพัดเข้าถล่มฟิลิปปินส์เฉลี่ยราว 20 ลูก ซึ่งไต้ฝุ่นบางลูกเป็นผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินในวงกว้าง โดยไต้ฝุ่นเนสาดและไต้ฝุ่นนาลแกนับเป็นไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรงสูงสุดของปีนี้


รองผู้ว่าฯลำปางเร่งช่วยปชช.อำเภอเกาะคาน้ำป่าตัดขาด 4 หมู่บ้าน

นายสุวรรณ กล่าวสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันจากน้ำป่าทะลักลงสู่ลำน้ำแม่ยาวและล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน 4 หมู่บ้าน 2 ตำบล สูง 1-2 เมตร คือ ต.เกาะคา และ ต.ไหล่หิน ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 200 หลังคาเรือน ล่าสุดระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และตัดขาดจากโลกภายนอก เนื่องจากลำน้ำแม่ยาวเชี่ยวกราก สะพานและถนนไม่สามารถใช้การได้ ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปางได้ส่งเรือท้องแบนและเรือติดเครื่องยนต์เข้าช่วยเหลือพื้นที่ทันที พร้อมนำถุงยังชีพกว่า 200 ชุด ออกช่วยเหลือในเบื้องต้น

 

ฺB1

แผนที่อากาศล่าสุด -

 

หมู่เฮา อยู่ อู่ทอง สุพรรณบุรี รอดหวุดหวิด

 

Daily News Online > ข่าวหน้า 1 > สำนักสงฆ์จมบาดาลพระอพยพหนี



สำนักสงฆ์จมบาดาลพระอพยพหนี

มหาราชวิกฤตหนัก น้ำทะลักท่วมสำนักสงฆ์มหาราชธรรมมาราม พระอพยพหนีน้ำ

เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังมวลน้ำก้อนใหญ่จาก จ.ลพบุรี ไหลทะลักบ่าเข้าท่วมพื้นที่ อ.บ้านแพรก อ.มหาราช จนบ้านเรือนทุกหมู่บ้าน ทั้งสองอำเภอและน้ำยังท่วมขยายวงกว้างไปยัง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี พื้นที่การเกษตรไร่นา เสียหายไม่ตำกว่า1แสนไร่ ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ส่งผลให้ถนนทุกสายในหมู่บ้านและเชื่อมระหว่าง อ.บ้านแพรก อ.มหาราชถูกตัดขาด โดยเฉพาะถนนสายหลักเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดตั้งแต่ อ่างทอง ถึงสระบุรี คือถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ ตั้งแต่ช่วง หมู่ 2 ต.บ้านนา อ.มหาราช ถูกน้ำท่วมรถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้ และถนนเส้นทางเดียวกัน น้ำยังท่วมในช่วงที่จะไป อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา รถเล็กวิ่งไม่ได้ โดยทางแขวงการทางอ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา อ.มหาราช ได้ร่วมกันทำคันดินเพื่อกั้นน้ำซึ่งคาดว่าจะไม่สามารถกั้นน้ำได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดเส้นทางถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ พบว่ามีประชาชนที่ถูกน้ำท่วมใน อ.บ้านขวาง ต.บ้านนา ต.น้ำเต้า ต.เจ้าปลุก อ.มหาราช เร่งขนย้ายทรัพย์สินข้าวของมาไว้ที่ริมถนน แต่ปรากฏว่าบางช่วงน้ำได้ท่วมถนนสร้างความลำบากให้กับประชาชนเป็นอย่างมากโดยที่ริมถนนโพธิ์พระยา-ท่าเรือ ต.เจ้าปลุก พระสงฆ์จากสำนักสงฆ์มหาราชธรรมมาราม ต.เจ้าปลุก 11 รูป ต้องอพยพมานั่งพักอยู่ที่ริมถนนเนื่องจากน้ำท่วมกุฏิและบริเวณวัดจนอยู่ไม่ได้

พระมนตรี ถิระธัมโม อายุ 53 ปี พระลูกวัด กล่าวว่าน้ำไหลเข้าท่วมวัดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาจนเต็มบริเวณวัดได้ท่วมกุฏิทุกหลัง ต้องรีบเก็บจีวร ข้าวของเครื่องอัฐบริขาร และเก้าอี้ออกมานั่งพักอาศัยอยู่ริมถนนหน้าวัด และต้องฉันอาหารทั้งเช้าและเพลที่ริมถนนกำลังรอทางราชการนำเต็นท์มาตั้งให้ ช่วงนี้ยังไม่ออกพรรษากำลังปรึกษากันว่าจะอพยพไปอยู่ที่วัดอื่น ซึ่งทางวัดกำลังสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ เพื่อให้ประชาชนสักการะบูชา ปรากฏว่าน้ำท่วมที่ฐานองค์พระ แม้ว่าจะลำบากแต่เห็นญาติโยมในบริเวณนี้ถูกน้ำท่วมอย่างหนักเชื่อว่าชาวบ้านคงลำบากมากกว่า

นายไพฑูรย์ ผดุงโภชน์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.มหาราช อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าน้ำจากทุ่งมหาราช ที่รับน้ำจาก จ.ลพบุรี ได้ไหลมายังประตูน้ำมหาราชจนน้ำล้นออกทั้งสองด้าน ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมในพื้นที่ หมู่ 2 ต.มหาราช สูงขึ้น วันละ30-40 ซม. อยู่ในระดับเกือบ3 เมตร ทำให้วัดวัง ที่อยู่ใกล้ประตูน้ำถูกน้ำท่วมสูงจนพระไม่สามารถอกไปบิณฑบาตได้ ภายในวัด มีสุนัขและแมวที่ชาวบ้านนำมาปล่อยต่างส่งเสียงร้องเห่าหอนเพื่อจะหนีน้ำ อยู่ตามเมรุ และฐานเจดีย์ มีแมวบางตัวว่ายน้ำหนีไปติดอยู่ที่เหล็กดัดหน้าต่างโบสถ์ ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำเข้าไปช่วยนำออกมา

พระอธิการแสวง เตชะปัญโญ อายุ82ปี เจ้าอาวาส กล่าวว่า ได้ให้ชาวบ้านช่วยขนย้ายของไว้ที่สูงบนศาลและที่เมรุเผาศพซึ่งระดับน้ำยังขึ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้กุฏิทุกหลังท่วมหมดแล้วไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ต้องเก็บเศษไม้ที่ลอยน้ำมาเตรียมยกพื้น ความจำเป็นในช่วงนี้ต้องการไม้มากที่สุดเพื่อมาใช้ยกพื้นกุฏิ.

 

ฟิลิปปินส์ช้ำ! ไต้ฝุ่น “นาลแก” ซ้ำแผลเก่า “เนสาด” น้ำท่วมสูง-อพยพวุ่น <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="40"> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">2 ตุลาคม 2554 18:29 น.</td> <td align="left" valign="middle">

Share

</td><td>
</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td>
</td> </tr> </tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">อิทธิพลของไต้ฝุ่น “นาลแก” ทำให้เมืองกาลุมปิต (Calumpit) จังหวัดบูลากัน บนเกาะลูซอน จมอยู่ใต้บาดาล วันนี้ (2)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เอเอฟพี - ทางการฟิลิปปินส์ส่งเฮลิคอปเตอร์ เรือบรรเทาทุกข์ และยานสะเทินน้ำสะเทินบก เข้าอพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วมหลายหมื่นคน วันนี้ (2) หลังจากเกาะลูซอนกำลังเผชิญกับอิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่น “นาลแก” ต่อเนื่องเป็นลูกที่ 2

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5"></td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="300"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เส้นทางการเคลื่อนตัวของ “นาลแก” (สีแดง) และ “เนสาด” (สีน้ำเงิน) ภาพประกอบจากเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ไม่สามารถนำตัวผู้ประสบภัยทั้งหมดออกจากพื้นที่ได้ เนื่องจากมีคนเดือดร้อนจำนวนมาก และชาวบ้านบางส่วนก็ไม่ยอมละทิ้งบ้านเรือนที่จมอยู่กลางน้ำท่วม แม้มีคำเตือนจากทางการว่า ระดับน้ำอาจเพิ่มสูงขึ้น

ไต้ฝุ่นนาลแกเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ เมื่อวันเสาร์ (1) หลังจากพัดทำลายพื้นที่บนเกาะลูซอนเป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมง ส่งผลให้ชาวบ้านมากกว่า 1 ล้านคน ประสบความเดือดร้อนระลอกใหม่ ขณะที่ความเสียหายจากไต้ฝุ่น “เนสาด” ซึ่งถล่มฟิลิปปินส์ 5 วัน ก่อนหน้านี้ ยังไม่ทุเลา

อิทธิพลของไต้ฝุ่นนาลแกทำให้เกิดฝนตกหนักในเขตเทือกเขากอร์ดีเยรา (Cordillera) โดยคาดว่า มวลน้ำจากขุนเขาแห่งนี้จะเทลงมายังที่แม่น้ำสาขาสายต่างๆ และบริเวณที่ราบกลางเกาะลูซอน ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ก่อนไหลออกสู่ทะเลที่อ่าวมะนิลา

เบนิโต รามอส ผู้อำนวยการสำนักป้องกันภัยพลเรือนตากาล็อก รายงานว่า มีชาวบ้านจำนวนมากที่ไม่ยอมละทิ้งบ้านเรือน ตามคำแนะนำของทางการ ทั้งๆ ที่มีประกาศย้ำแล้วว่า การกระทำดังกล่าวเป็นอันตรายถึงชีวิต

“น้ำจากเทือกเขากอร์ดีเยราอาจเทลงสู่ที่ราบในวันนี้ หากมวลน้ำก้อนนี้เข้าหนุนระดับน้ำจากไต้ฝุ่นเนสาดที่กำลังลดลง มีความเป็นไปได้ที่น้ำจะท่วมมิดหลังคา” เบนิโต รามอส กล่าวเตือนประชาชนที่ไม่ยอมอพยพ

อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่ายวันนี้ มีรายงานว่า ระดับน้ำท่วมสูงอันเป็นผลจากไต้ฝุ่นเนสาดกำลังลดลงอย่างช้าๆ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครทั้งหลาย ได้รับการประสานงานอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เข้าถึงผู้ประสบภัยที่ถูกโดดเดี่ยวจากโลกภายนอก

นอกจากนี้ กอราซอน โซลิมาน รัฐมนตรีสวัสดิการสังคมฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า เสบียงบรรเทาทุกข์จำนวนหลายตันได้รับการส่งมอบถึงพื้นที่ประสบภัยแล้ว ด้วยความช่วยเหลือจากโครงการอาหารโลก หนึ่งในองค์กรของยูเอ็น แต่ก็ยอมรับว่า ยังมีพื้นที่อีกจำนวนที่ถูกตัดขาด

ด้าน สภาบริหารการลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติตากาล็อก รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นนาลแกแล้วอย่างน้อย 1 ราย และไต้ฝุ่นเนสาดที่เพิ่งผ่านไป ได้คร่าชีวิตผู้ประสบภัยไปไม่ต่ำกว่า 52 ราย

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table>

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table>

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table>

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table>

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table>

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table>
</td></tr></tbody></table>