WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

น้ำทะลักท่วม "46 รง.นิคมอุตฯ" อยุธยา !! เสียหายแสนล้าน หลายอำเภอถูกตัดขาด-น้ำจ่อโบราณสถาน

วันที่ 05/10/2554 14:10


เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม กระแสน้ำจากแม่น้ำน้อย แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และกระแสน้ำหลากตามทุ่งจาก จ.ลพบุรี ได้ไหลเข้าท่วมหลายพื้นที่ของ จ.พระนครศรีอยุธยา อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ชุมชนสองฝั่งแม่น้ำและเขตทุ่งนา ใน 16 อำเภอของจังหวัด ทั้งนี้ ในจำนวนนี้มีถึง 14 อำเภอ ที่โดนน้ำท่วมอย่างหนัก และบางอำเภอถูกตัดขาดจากโลกภายนอกแล้ว เนื่องจากถนนถูกน้ำท่วมไม่สามารถสัญจรได้ เช่น อ.บ้านแพรก อ.มหาราช อ.ท่าเรือ อ.ผักไห่ ขณะที่ อ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.นครหลวง เริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก โดยคันกั้นน้ำของนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนคร ต.บางพระครู อ.นครหลวง ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำได้และพังลงเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำเอ่อเข้าท่วม โรงงานขนาดใหญ่และขนาดกลางในนิคมกว่า 46 แห่ง โดยเกือบทุกโรงงานไม่สามารถที่จะขนย้ายสิ่งของได้ทัน

นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่น้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย โดยเบื้องต้นประเมินว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท นอกจากนี้ กระแสน้ำยังไหลข้ามคันล้อมของเทศบาลเมืองอโยธยา และ อบต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธา เข้าท่วมสถานที่สำคัญในพื้นที่หลายแห่ง อาทิ ทำให้น้ำระดับความสูงกว่า 2-3 เมตร ไล่ถล่มจมสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โบราณสถานกลุ่มวัดกุฎีดาว ศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวหันตรา ชุมชนใน ต.หันตรา ชุมชนเทศบาลเมืองอโยธยา หมู่บ้านการเคหะพระนครศรีอยุธยา วัดมเหยงค์ ตลาดสี่แยกวัดพระญาติ รวมทั้งเขตเศรษฐกิจริมถนนโรจนะในเขต ต.ไผ่ลิง ซึ่งมีร้านค้าตั้งอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้ น้ำยังเอ่อท่วมบนถนนโรจนะเส้นทางขาออกอยุธยา ตั้งแต่แยกวงเวียนกลางถนนถึงสี่แยกวัดพระญาติ โดยน้ำยังคงท่วมขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง

 

กทม.เร่งระบายน้ำเต็มที่ ไม่หวั่นอยุธยาทะลัก ลอกคลองเคลียร์ทางน้ำแล้ว

วันที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13:18:05 น.
Share

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม สำนักป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยสำนักการระบายน้ำเปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กทม.วันนี้ว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุดวัดที่ปากคลองตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาวัดได้ 1.81 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาวัดที่ประตูระบายน้ำ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 3,731 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนระดับน้ำสูงสุดของวันนี้จะขึ้นอีกครั้งในเวลาประมาณ 14.45 น.


นายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่ กทม.ยังอยู่ในภาวะที่ยังรับมือน้ำได้ จึงขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งวิตกกังวล ขอให้ติดตามข่าวสารเรื่องน้ำอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะพื้นที่ริมน้ำ ส่วนน้ำที่ไหลเข้ามาในปริมาณมากที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่าจะกระทบต่อ กทม. หรือไม่นั้น นายเจตน์กล่าวว่า มีความกังวล แต่หลังจากการคำนวณแล้วยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ กทม.สามารถดูแลได้อยู่ ส่วนการป้องกันเพิ่มเติมขณะนี้สำนักการระบายน้ำได้เร่งดำเนินการระบายน้ำเต็มที่และได้ดำเนินการขุดลอกคลองและกำจัดวัชพืชแล้วในคลองต่างๆ เพื่อไม่ให้กีดขวางทางน้ำไหล

 

กทม.เร่งระบายน้ำเต็มที่ ไม่หวั่นอยุธยาทะลัก ลอกคลองเคลียร์ทางน้ำแล้ว

วันที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13:18:05 น.
Share

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม สำนักป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยสำนักการระบายน้ำเปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กทม.วันนี้ว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุดวัดที่ปากคลองตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาวัดได้ 1.81 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาวัดที่ประตูระบายน้ำ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 3,731 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนระดับน้ำสูงสุดของวันนี้จะขึ้นอีกครั้งในเวลาประมาณ 14.45 น.


นายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่ กทม.ยังอยู่ในภาวะที่ยังรับมือน้ำได้ จึงขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งวิตกกังวล ขอให้ติดตามข่าวสารเรื่องน้ำอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะพื้นที่ริมน้ำ ส่วนน้ำที่ไหลเข้ามาในปริมาณมากที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่าจะกระทบต่อ กทม. หรือไม่นั้น นายเจตน์กล่าวว่า มีความกังวล แต่หลังจากการคำนวณแล้วยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ กทม.สามารถดูแลได้อยู่ ส่วนการป้องกันเพิ่มเติมขณะนี้สำนักการระบายน้ำได้เร่งดำเนินการระบายน้ำเต็มที่และได้ดำเนินการขุดลอกคลองและกำจัดวัชพืชแล้วในคลองต่างๆ เพื่อไม่ให้กีดขวางทางน้ำไหล

 

มหาชัยเตรียมรับมือน้ำท่วม หลังประกาศพื้นที่ฉุกเฉิน

5 ตค. 2554 13:36 น.



<DD>ชลประทานมหาชัย-เตรียมรับมือแบกรับน้ำท่วม หลังประกาศพื้นที่ฉุกเฉิน พ่อเมืองประสานเรือตังเก รอผนึกผันน้ำลงปากอ่าว

<DD>นายกุลวัชร หงส์คู นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร พร้อมด้วย ผอ.โครงการชลประทานสมุทรสาคร ล่องเรือลงพื้นที่เพื่อความพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดและอื่นๆ หลังนายจุลภัทร แสงจันทร์ ผวจ.ออกประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ (ฉุกเฉิน) อ้างผลข้างเคียงพายุโชนร้อน “นาลแก” มรสุมทะเลจีนใต้ที่ศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 250 กิโลเมตร ขณะพายุเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก และจะเคลื่อนที่ขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 5 ตุลาคม 54 ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้มีฝนตกชุกมากพิเศษและทั่วทุกภาค อย่างไรก็ตามจึงออกแจ้งเตือนชาวสมุทรสาครระวังผลกระทบน้ำท่วมฉับพลันได้ และในระยะ 2 วันนี้ คาดว่าจะมีน้ำเหนือไหลบ่ามาตามแม่น้ำท่าจีน ผลจากเหตุระบายน้ำบางส่วนจังหวัดและกรุงเทพฯ ซึ่งสอดคล้องปรากฎการณ์ทะเลหนุนทุกปีราวต้นเดือน ต.ค.นี้

<DD> <DD>“สำหรับการลงเรือล่องสำรวจฝั่งท่าจีน และมหาชัยในครั้งนี้ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานราชการและเกี่ยวข้อง เตรียมตัวป้องกันสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน ไปถึงเดือนพฤศจิกายน โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 3 อำเภอ ดูแลรับผิดชอบตลิ่ง ตลอดจนติดตามรายงานผลใกล้ชิดเป็นระยะๆ" นายกุลวัชร กล่าว

<DD>นายกุลวัชร กล่าวว่า ในการจัดเตรียมกระสอบทราย อุปกรณ์ต่างๆ พร้อมเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยคอยแก้ปัญหาน้ำล้นตลิ่ง ให้ชาวบ้านให้ความร่วมมือเฝ้าฟังรายงานสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งอย่าตื่นตระหนกจนเกินไป พร้อมกันนี้ในส่วนผนังเขื่อนด้านหลังตาดสดมหาชัย ที่ยังคาราคาซัง 500 เมตร จึงมีรอยต่อรูรั่ว พบ 27 จุด นำกระสอบทรายลงอุดเพื่อการป้องกันและบรรเทาน้ำทะลักฉับพลัน นอกจากนี้ประกบด้วยเครื่องสูบน้ำจำนวน 4 เครื่อง คอยเฝ้าระวังระหว่าง กรมชลประทาน (เจ้าของเขื่อน) เพื่อดูแลสิ่งของสาธารณะและบ้านเรือน หากทะเลหนุนสูงจะได้ไม่รับความเสียหายหรือหาก หรือหากรุนแรงก็รับผลกระทบน้อยที่สุด รวมทั้งแนวผนังเขื่อนที่ฝั่ง ต.ท่าฉลอม จำนวน 500 เมตร ยังไม่แล้วเสร็จ สกัดกั้นแนวด้วยกระสอบทรายขนาบข้างบ้านเรือนประชาชนไว้ให้ซึ่งล่าสุดยังไม่น่าห่วง <DD> <DD>พร้อมกันนี้ยังได้ประสานเรือประมงคอบสมทบออกเร่งผลักดันท่าจีนลงสู่อ่าว ทั้งนี้สามารถเพิ่มเติมฟังสถานการณ์น้ำได้ที่ 034 424-981 ตลอด 24 ชั่วโมง และ สนง.ชลประทานจังหวัด 034-881175, 034-839037 ต่อ 11 จึงแจ้งทราบทั่วกัน


</DD>

 

แผนที่อากาศกรมอุตุนิยมวิทยา ล่าสุด !







ภาพแผนที่แสดงศักยภาพการเกิดน้ำท่วมโดย NASA (24 ชั่วโมง)

 

แผนภาพแสดงปริมาณน้ำฝนใน 24 ชั่วโมง

 

คืบหน้าเหตุบึมในเมืองหลวงโซมาเลีย ยอดตายพุ่ง 82 ศพ

วันที่ 05/10/2554 13:45





จากเหตุระเบิดพลีชีพที่หน้าอาคารที่ทำการกระทรวงหลายกระทรวงของโซมาเลีย ล่าสุดมีรายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 82 รายแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตามหารถบรรทุกระเบิดอีกคัน ที่กลุ่มอัล ชาบับ กล่าวอ้างว่าก่อเหตุล้มเหลว...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ว่า จากเหตุระเบิดพลีชีพที่หน้าอาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ทำการของกระทรวงหลายกระทรวง ในกรุงโมกาดิชู เมืองหลวงของประเทศโซมาเลีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 82 ราย ขณะที่หลังเกิดเหตุ กลุ่มก่อการร้ายอัล ชาบับ ซึ่งมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ อัล เคดา ก็ออกมาแสดงตัวเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุดังกล่าว ผ่านทางเว็บไซต์ของกลุ่ม

เจ้าหน้าที่รายงานว่า ระเบิดถูกซุกซ่อนอยู่ในรถบรรทุก และเกิดระเบิดขึ้นที่ด่านรักษาความปลอดภัยหน้าอาคารซึ่งเป็นที่ทำการของกระทรวงหลายกระทรวง รวมถึงกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการต่างประเทศ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

ด้านพันโทปัดดี อันคุนดา โฆษกกองกำลังรักษความสงบแห่งสหภาพแอฟริกา เผยว่า กลุ่มอัล ชาบับ อ้างว่า ยังมีรถบรรทุกระเบิดเหลืออยู่อีกคัน แต่เกิดความผิดพลาดทำให้ไม่เกิดระเบิด ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหารถคันดังกล่าวอยู่

เมื่อคืนวันอังคาร (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่ผ่านมา นายอาลี มูเซะ หัวหน้าทีมรถพยาบาล รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดในครั้งนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 82 รายแล้ว ขณะที่รัฐบาลโซมาเลีย เปิดเผยผ่านแถลงการณ์ว่า ผู้เสียชีวิตจำนวนมากเป็นเด็กและผู้ปกครองของเด็กๆ ซึ่งกำลังรอฟังผลการสอบชิงทุนเพื่อพาบุตรหลานไปเรียนต่อที่ประเทศตุรกี

อนึ่ง กลุ่มอัล ชาบับ ถอนกำลังออกจากกรุงโมกาดิชู เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ควบคุมเมืองนี้มานาน ทำให้องค์การต่างๆ ของนานาประเทศ เข้ามาตรึงกำลังเพื่อรักษาความปลอดภัย จนกระทั่งเกิดเหตุระเบิดในครั้งนี้ขึ้น.

 

น้ำวังหนุนสูงล้นตลิ่งท่วม 4 ตำบล

5 ตค. 2554 13:09 น.


<DD>ตาก-ปลัดอาวุโส อ.สามเงา แจงเขื่อนภูมิพลปล่อยน้ำ ท่วมแล้ว 2 ตำบลแต่ไม่รุนแรง แต่น้ำวังหนุนสูงล้นตลิ่งท่วม 4 ตำบล ชี้ ม. 7 บ้านเชียงรายหนักสุด
<DD> <DD>นายเลิศศักดิ์ ทับผึ้ง ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอสามเงา จ.ตาก กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอสามเงาหลังเขื่อนภูมิพลเปิดประตูเพื่อระบายน้ำออกมาส่วนใหญ่ยังได้รับผลกระทบไม่มากนัก เพราะภูมิประเทศของอำเภอตั้งอยู่บนที่สูง มีเพียง 2 ตำบลได้รับผลกระทบ คือ สามเงา และย่านรี เพราะตั้งอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำปิง เบื้องต้นได้มีเสริมแนวกระสอบทรายตลอดแนวตลิ่งและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้เตรียมความพร้อมรับมือพร้อมซักซ้อมแผนอพยพเรียบร้อยแล้ว
<DD> <DD>ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมจากผลกระทบของแม่น้ำวังที่ไหลมาจากจ.ลำปาง ซึ่งมีระดับเพิ่มสูงขึ้นสมทบกับมีฝนตกหนักในพื้นที่ ล่าสุดน้ำได้ล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมในพื้นที่ 4 ตำบลแล้ว คือ วังจันทร์ วังหมัน สามเงา และยกกระบัตร โดยเฉพาะที่ ม. 7 บ้านเชียงราย ตำบลยกกระบัตร ระดับน้ำไหลเข้าท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านสูงกว่า 1 เมตรเศษ จนรถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ต้องใช้เรือท้องแบนสัญจรเข้าไปเท่านั้น เบื้องต้นมีประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้รับความเดือดร้อน 148 ครัวเรือน
<DD> </DD><DD>นอกจากนี้ยังมีน้ำไหลจากแม่น้ำวังยังไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่จนคันดินกั้น บริเวณ ม. 5 ท่วมถนนวงแหวนไร่โผง และท่วมถนนราดยางในพื้นที่ ม.4 ของตำบลยกกระบัตร ระยะทางยาวกว่า 1 กม. จนรถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ระดับน้ำที่ท่วมในครั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่เกิดพายุนากีส ระดับน้ำในแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านอำเภอสามเงา มีระดับสูงประมาณ 7.30 เมตร แต่ระดับน้ำล่าสุดครั้งนี้สูงกว่า 7.80 เมตร
</DD>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เขื่อนอุบลรัตน์วิกฤตระดับน้ำกักเก็บถึง 116% เร่งระบายสูงสุด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>5 ตุลาคม 2554 14:06 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT>

<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000126755&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์เกินความจุอ่าง 116% แล้วจำเป็นต้องเร่งระบายน้ำออกท้ายเขื่อน</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ชุมชนหลายพื้นที่เขตอำเภอเมืองขอนแก่น ถูกน้ำท่วมแล้ว </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ศูนย์ข่าวขอนแก่น-สถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์อยู่ในขั้นวิกฤต ระดับน้ำเกินการกักเก็บปริมาณสูงถึง 116% ผู้บริหารเขื่อนขออนุญาตคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำเพิ่มปริมาณระบายน้ำอีกวันละ 3 ล้านลบ.ม. ล่าสุดวันนี้(5ต.ค.54) ระบายสูงสุดที่ 39 ล้านลบ.ม. ต่อเนื่องจนถึง 50 ล้านลบ.ม. ด้านจังหวัดขอนแก่น สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตือนชาวบ้านท้ายน้ำเร่งอพยพไปที่ปลอดภัย

นายภิญโญ ทองสิงห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เปิดเผยว่า ระดับน้ำล่าสุด เช้าวันนี้(5ต.ค.54) เพิ่มสูงขึ้นถึงระดับ 182.98 เมตร จากตอนเที่ยงคืนที่ระดับอยู่ที่ 182.94 เมตร ซึ่งเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1 เซนติเมตร ต่อ 2 ชั่วโมง เนื่องจากน้ำไหลเข้าปริมาณมาก เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 80 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ระดับน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่มสูงขึ้น 116% ของความจุอ่างทั้งหมด

ภายในระยะ4-5 วันนี้ หากปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนยังเพิ่มขึ้น จำเป็นที่เขื่อนอุบลรัตน์ ต้องเร่งระบายน้ำออกให้มากที่สุด จึงได้ขออนุญาตไปที่คณะอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่น เพื่อเพิ่มปริมาณระบายน้ำอีก 3 ล้านลบ.ม. โดยวันนี้ (5ต.ค.54) ได้ระบายออกที่ 39 ล้านลบ.ม. เพิ่มอีกวันละ 3 ล้านลบ.ม. จนถึงระดับสูงสุดที่ 50 ล้านลบ.ม.

ทั้งนี้ เขื่อนอุบลรัตน์จะค่อยๆเพิ่มระดับน้ำการระบายน้ำวันละ 3 ล้านลบ.ม. เพื่อลดผลกระทบกับชุมชนท้ายเขื่อนจากความแรงของกระแสน้ำ ประกอบการไหลของน้ำพองในช่วงนี้ไม่สะดวก จากระดับน้ำชีหนุนในเขตรอยต่ออำเภอเมืองขอนแก่น

สถานการณ์ขณะนี้ ยังวางใจไม่ได้ เพราะผลกระทบจากพายุฝน จะทำให้น้ำไหลเข้าอาจสูงถึงวันละ 100 ล้านลบ.ม. ระดับน้ำในเขื่อนอาจสูงถึง 184.05 เมตร ดั้งนั้นการระบายน้ำออกต้องเร่งระบายที่ระดับสูงสุดคือวันละ 50 ล้านลบ.ม.ไปจนกว่าระดับน้ำจะเข้าสู่สภาวะปกติ

นายภิญโญ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญชาวบ้านที่อยู่ใกล้แม่น้ำอำเภอน้ำพอง อ.เมืองบริเวณพื้นที่ ต.ศิลา , ต.สำราญ , ต.บึงเนียม , ต.พระลับ , ต.ดอนหัน รวมถึงบ้านทุ่งเศรษฐี ให้เร่งขนสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูงได้แล้ว เพราะผลกระทบจากน้ำท่วมปีนี้ น่าจะใกล้เคียงกับสถานการณ์เมื่อปี 2545 ที่เกิดน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรและที่อยู่อาศัยเป็นบริเวณกว้าง

นางศรีสมัย ทาทะสุทธิ์ เจ้าหน้าที่ชลประทานหนองหวายขอนแก่น ควบคุมการเสริมพนังกั้นน้ำ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลัง นำทรายบรรจุใส่กระสอบทำพนังเพิ่มจากระดับเดิมที่เสริมไว้แล้วที่ 70 ซม. เพิ่มขึ้นอีก 70 ซ.ม.ภายใน 1-2 วันนี้ เนื่องจากเขื่อนอุบลรัตน์ได้ปล่อยน้ำจากเขื่อนเพิ่มขึ้น ทำให้ระดับน้ำที่ไหลผ่านประตูระบายน้ำเขื่อนหนองหวายสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่หากฝนยังตกต่อเนื่องและน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ต้องปล่อยเพิ่มอีกเกรงว่าพนังกระสอบทรายจะกั้นไว้ไม่อยู่ หากเป็นเช่นนั้น น้ำจะไหลเข้าห้วยพระคือแล้วเข้าสู่ตัวเมืองขอนแก่นอย่างแน่นอน

ด้านนายทรงวุฒิ กิจวรวุฒิ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานขอนแก่น ได้แจ้งว่าในขณะนี้น้ำก้อนใหญ่จากชัยภูมิ ไหลเข้าสู่เขตอำเภอเมืองขอนแก่นแล้ว ระดับน้ำที่บริเวณบ้านกุดกว้าง ต.ท่าพระ สูงกว่า 12 เมตรแล้ว ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าพนังกั้นน้ำ บางแห่งคันพนังกั้นน้ำพังเสียหายแล้ว ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือน ในหลายพื้นที่ของตำบลท่าพระ

ขณะที่นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น วิตกกังวลถึงการไหลย้อนกลับหรือน้ำหาทางออกไม่ได้จนเอ่อเข้าท่วมในเมือง เพราะจำเป็นต้องให้เขื่อนปล่อยน้ำเต็มที่ตามที่ขอเพื่อป้องกันพื้นที่เหนือเขื่อน จึงได้มีคำสั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมกำลังเต็มที่ในการถมคันกั้นน้ำให้สูงขึ้น รวมทั้งจุดที่คาดว่าน่าจะเล็ดลอดได้ตามเส้นทางไหลของน้ำพอง

ทั้งนี้ เพราะน้ำที่ปล่อยออกมาสูงมาก ขณะที่น้ำชีก็หนุนน้ำมวลทั้งหมดทั้งน้ำชีและน้ำพอง มีแนวโน้มจะหนุนสูงจนเอ่อเข้าเมืองได้ พร้อมกับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านใกล้เคียงขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงไว้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พิษพายุ'นาลแก' ภูเก็ตเจอฝนหนัก รพ.ป่าตองจมน้ำ



จ.ภูเก็ต ถูกพิษ "นาลแก" ทำฝนตกหนักถล่มจนหาดป่าตองจมบาดาล โดย รพ.ป่าตองหนักสุด แต่รับมือไหว เหตุเคยโดนถล่มมาก่อนหน้านี้ ผวจ.สั่งเฝ้าระวังจุดอันตรายดินสไลด์-ถล่ม 24 ชั่วโมง...




ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 5 ต.ค.2554 ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาตั้งช่วงค่ำวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากผลกระทบพายุโซนร้อน “นาลแก” บริเวณอ่าวตังเกี๋ยอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 200 กม.ทางทิศตะวันออกของเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ส่งผลให้หลายพื้นที่ใน จ.ภูเก็ตเกิดน้ำท่วมขังสูงฉับพลันราว 1 เมตร เช่น บริเวณ ถ.ใสน้ำเย็น ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ เช่น รถจยย. รถเก๋ง โดยเฉพาะภายใน รพ.ป่าตองมีน้ำท่วมขังสูง เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่อาจสูงขึ้นท่วมเครื่องปั่นไฟ และเครื่องสำรองไฟที่ติดตั้งอยู่ใต้ถุน รพ.ตลอดเวลา เพราะมีการย้ายจุดติดตั้งก่อนหน้านี้



สาเหตุที่ต้องย้ายเนื่องจากเคยถูกน้ำท่วมเมื่อเดือน ก.ย.2554 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เครื่องสำรองไฟฟ้าได้รับความเสียหายทั้งหมด โดยหน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ต้องลำเลียงผู้ป่วยและสัมภาระต่างๆด้วยเรือไฟเบอร์หนีน้ำ รวมไปถึงโลงศพที่ได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาให้แก่ผู้เสียชีวิตไร้ญาติไป ไว้บนที่สูง ขณะที่เทศบาลเมืองป่าตองได้ใช้รถตรวจการณ์ และรถดับเพลิงออกประชาสัมพันธ์ให้ ประชาชน-นักท่องเที่ยวได้รับทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน ถ้าฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ท่วมขังเพิ่มขึ้น



นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต ได้สั่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่เสี่ยงกับน้ำท่วมขัง ดินสไลด์และดินถล่ม เช่น เทศบาลเมืองป่าตอง อบต.กมลา อ.กะทู้ ให้เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตลอด 24 ชม.โดยขณะนี้ภาคใต้ฝั่งอันดามันจะมีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ระนอง พังงาและภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศา ลมตะวันตกความเร็ว 20-40 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 2-3เมตร




โดย: ทีมข่าวภูมิภาค

5 ตุลาคม 2554, 14:22 น.

 

พิษพายุ'นาลแก' ภูเก็ตเจอฝนหนัก รพ.ป่าตองจมน้ำ



จ.ภูเก็ต ถูกพิษ "นาลแก" ทำฝนตกหนักถล่มจนหาดป่าตองจมบาดาล โดย รพ.ป่าตองหนักสุด แต่รับมือไหว เหตุเคยโดนถล่มมาก่อนหน้านี้ ผวจ.สั่งเฝ้าระวังจุดอันตรายดินสไลด์-ถล่ม 24 ชั่วโมง...




ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 5 ต.ค.2554 ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาตั้งช่วงค่ำวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากผลกระทบพายุโซนร้อน “นาลแก” บริเวณอ่าวตังเกี๋ยอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 200 กม.ทางทิศตะวันออกของเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ส่งผลให้หลายพื้นที่ใน จ.ภูเก็ตเกิดน้ำท่วมขังสูงฉับพลันราว 1 เมตร เช่น บริเวณ ถ.ใสน้ำเย็น ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ เช่น รถจยย. รถเก๋ง โดยเฉพาะภายใน รพ.ป่าตองมีน้ำท่วมขังสูง เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่อาจสูงขึ้นท่วมเครื่องปั่นไฟ และเครื่องสำรองไฟที่ติดตั้งอยู่ใต้ถุน รพ.ตลอดเวลา เพราะมีการย้ายจุดติดตั้งก่อนหน้านี้



สาเหตุที่ต้องย้ายเนื่องจากเคยถูกน้ำท่วมเมื่อเดือน ก.ย.2554 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เครื่องสำรองไฟฟ้าได้รับความเสียหายทั้งหมด โดยหน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ต้องลำเลียงผู้ป่วยและสัมภาระต่างๆด้วยเรือไฟเบอร์หนีน้ำ รวมไปถึงโลงศพที่ได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาให้แก่ผู้เสียชีวิตไร้ญาติไป ไว้บนที่สูง ขณะที่เทศบาลเมืองป่าตองได้ใช้รถตรวจการณ์ และรถดับเพลิงออกประชาสัมพันธ์ให้ ประชาชน-นักท่องเที่ยวได้รับทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน ถ้าฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ท่วมขังเพิ่มขึ้น



นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต ได้สั่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่เสี่ยงกับน้ำท่วมขัง ดินสไลด์และดินถล่ม เช่น เทศบาลเมืองป่าตอง อบต.กมลา อ.กะทู้ ให้เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตลอด 24 ชม.โดยขณะนี้ภาคใต้ฝั่งอันดามันจะมีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ระนอง พังงาและภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศา ลมตะวันตกความเร็ว 20-40 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 2-3เมตร




โดย: ทีมข่าวภูมิภาค

5 ตุลาคม 2554, 14:22 น.

 

น้ำท่วมนิคมฯสหรัตนนคร อ่วม! 46 โรงงานจมน้ำกว่า 2ม.

สถานการณ์น้ำท่วมในพระนครศรีอยุธยาวิกฤต ส่งผลกระทบนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ซึ่งโรงงานขนาดใหญ่46ราย ต้องจมน้ำกว่า2เมตร



เมื่อคืนที่ผ่านมา (4 ต.ค.)ได้เกิดน้ำทะลักจากคันกั้นแม่น้ำลพบุรี เข้าท่วมภายในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งตั้งอยู่ ต.บางพระครู อ.นครหลวง อย่างรวดเร็ว นิคมนี้มีโรงงานขนาดใหญ่ประมาณ 46 โรงงานตั้งอยู่ภายใน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ ล่าสุดเช้านี้ระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เมตรแล้ว

ด้านนายธีรเดช รติชน ผู้บริหารโครงการนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่านิคมฯ ต้องเร่งเสริมคันดินสูง 2 เมตร ความยาว 30 กิโลเมตร รอบพื้นที่โดยเร่งใช้เครื่องจักรและรถขนดินเข้าดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากน้ำขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม นิคมฯ ได้เตรียมแผนรับมือน้ำท่วมไว้ จะเริ่มจากการอุดท่อลอดน้ำภายในนิคมฯ ทั้งหมด ปิดสะพานคลองชลประทานที่เข้ามาภายในนิคมฯ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากภายนอกเข้ามา ปิดประตูน้ำในวงรัศมี และเสริมคันดินบริเวณรอบนิคมฯ ระยะทาง 30 กิโลเมตร

รวมทั้งจะแจ้งเรื่องไปยังผู้ประกอบการทุกรายที่ตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมฯ ให้รับทราบสถานการณ์ และประสานไปยัง กนอ.เพื่อประสานความช่วยเหลือ

 

เรื่อง 4 ขั้นตอนที่ควรทำทันที เมื่อรถยนต์ถูกน้ำท่วม



1.พึงเอาไว้ว่าอย่าทำการสตาร์ทรถ หรือบิดกุญแจให้ไฟออนโดยเด็ดขาด จากนั้นเดินไปเปิดฝากระโปรงรถและปลดขั้วแบตเตอรี่ทันที โดยจะปลดขั้วใดขั้วหนึ่งหรือจะปลดทั้ง ขั้วบวกขั้วลบก็ได้ (จริงๆถ้าคุณคาดว่าน้ำจะท่วมสูงถึงห้องเครื่องให้เตรียมปลดขั้วแบตเตอรี่ เอาไว้ล่วงหน้าก่อนจะเป็นการดีที่สุด) เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟเข้าไปเลี้ยงระบบต่างๆของรถ รวมถึงเครื่องยนต์

2.เปิดประตูออกทุกบาน ให้ลมโกรก หรือถ้ามีแดดให้จอดตากแดด
จากนั้นถอดเบาะนั่ง พรมผ้าต่างๆ ที่อยู่ภายในรถออกมาซักทันที เพราะถ้าทิ้งเอาไว้นาน ความเหม็นอับจะมาเยือน

3.เริ่มเข้าสู่กระบวนการทางเทคนิคที่พอจะทำได้เอง คือ ปลดทุกอย่างที่เป็นขั้วไฟฟ้า
โดยเฉพาะขั้วสายไฟภายในห้องเครื่อง ทั้งตัว ECUและ รีเรย์ต่างๆ จากนั้นฉีดสเปรย์ไล่ความชื้น หรือใช้ไดร์เป่าผม เป่าให้แห้ง

4.ถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ (ต้องรีบเอาน้ำออกจากระบบให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันสนิมจับ)[/B][/COLOR] รวมถึงเปลี่ยนกรองอากาศ ซึ่งประเด็นนี้ใครทำเองได้ก็ทำเลย เพราะยิ่งจัดการเร็วโอกาสที่สนิมจะมาเยือนก็น้อยตามไปด้วย แต่ถ้าไม่ไหวก็ต้องเข้าศูนย์บริการหรืออู่ ซึ่งจะมีขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายที่ถูกต้องและละเอียดมาก

อย่างไรก็ตามการที่รถสุดรักของคุณจะฟื้นกลับมาดีดั่งเดิมได้ขนาดไหน ขึ้นอยู่กับเวลาที่จมอยู่ใต้น้ำ หรือความสามารถในการนำกลับมาดูแลรักษาอย่างรวดเร็ว รวมถึงประเภทของรถ กล่าวคือถ้ารถยิ่งมีระบบไฟฟ้าซับซ้อน ก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายมากตามไปด้วย โดยฝ่ายเทคนิค โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย บอกว่า ถ้ารถจมบาดาลอยู่ 1-2 วัน โอกาสแก้สภาพกลับมาเหมือนเดิมได้เกิน 90% แต่ถ้านานกว่านั้น ECUเข้าขั้นโคม่า ชิ้นส่วนไฟฟ้าต่างๆจะโดนความชื้น สนิมเริ่มกิน รวมถึงขี้เกลือต่างๆเริ่มจับตัว ดังนั้นเปอร์เซ็นที่จะคืนสภาพก็จะลดลงตามวันเวลาที่แช่น้ำ

ในส่วนของราคาค่าซ่อม ขึ้นอยู่กับสภาพการและประเภทรถตามที่กล่าวไปข้างบน และน่าจะอยู่ระดับ 50,000-100,000 บาท (แต่ถ้าโอเวอร์ฮอล์เกินนี้แน่นอน) ซึ่งใครทำประกันภัยชั้นหนึ่ง หรือมีกรมธรรม์ครอบคลุมอุทกภัยเอาไว้น่าจะใจชื้นได้บ้าง
ที่มา Christian Community Network

 

นอภ.บ้านตาก ชี้น้ำท่วมสูงในรอบ40ปี-เร่งเสริมแนวกั้นหวั่นน้ำวังหนุนซ้ำ

5 ตค. 2554 12:11 น.

นายธานินทร์ วิชิตะกุล นายอำเภอบ้านตาก จ.ตาก เปิดเผยว่า หลังจากเขื่อนภูมิพลที่อำเภอสามเงา ได้เปิดประตูเพื่อระบายน้ำออกมาเพราะน้ำในเขื่อนเต็มความจุอ่าง ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งแม่น้ำปิงไหลเข้าท่วมพื้นที่อำเภอบ้านตากตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันนี้ (5 ต.ค.) เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 20 หมู่บ้านจากทั้งหมด 43 หมู่บ้านใน 4 ตำบล ขณะนี้อำเภอกำลังเฝ้าระวังและรอรายงานเพิ่มเติมจากจ.ลำปาง เกี่ยวกับระดับน้ำในแม่น้ำวังว่าจะเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ หากแม่น้ำวังมีระดับสูงขึ้นน้ำจะล้นตลิ่งหลากเข้าท่วมในตำบลแม่สะริดเพิ่มเติมอีกจุดหนึ่ง
ทั้งนี้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้เร่งระดมทำแนวกำแพงกระสอบทรายในพื้นที่ริ่มตลิ่งและจุดเสี่ยงเพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมเพิ่มเติม แต่การดำเนินการค่อนข้างมีปัญหาเพราะกระสอบทรายเริ่มขาดแคลนทำให้อำเภอต้องจัดซื้อมาเพิ่มเติม ซึ่งแนวกระสอบทรายที่ทำเป็นแนวไว้สามารถป้องกันระดับน้ำได้ที่ 1 เมตร แต่ยังต้องเสริมขึ้นเพิ่มเติมอีกเพื่อความปลอดภัยเพราะเกรงว่าน้ำจากแม่น้ำวังอาจไหลมาหนุนเพิ่ม
นายธานินทร์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่ามีระดับสูงมากในรอบ 40 ปี ที่เขื่อนภูมิพลมีการปล่อยน้ำ ซึ่งที่ผ่านมาแม้อยู่ในช่วงฤดูน้ำหลากและมีการปล่อยน้ำมาระดับน้ำก็จะปริ่มตลิ่งเท่านั้น แต่ครั้งนี้ระดับน้ำสูงมากจนส่งผลให้การระบายน้ำจากคูคลองในหลายพื้นที่ลงสู่แม่น้ำปิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ขณะเดียวกันน้ำปิงยังไหลย้อนเข้ามาในคูคลองจนไหลท่วมพื้นที่อีกหลายจุดทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำแนวกระสอบทรายเพิ่ม

"คาดว่าหากแม่น้ำวังไม่มีน้ำไหลลงมาหนุนเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เขื่อนภูมิพลแจ้งว่าน้ำจะท่วมอยู่ประมาณ 2 - 3 วันแล้วลดระดับลง แต่ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง"นายธานินทร์กล่าว

 

อุทัยธานี-จับจระเข้วัดโคร่่งหนีน้ำท่วม



จับได้อีกตัวจระเข้ยาว 2.50 เมตร ของวัดที่เลี้ยงไว้ในกรง พยายามมุดกรงเหล็กออกมาหลังจากน้ำท่วมกรง จนหมดแรงนอนเกยอยู่บนกำแพงวัด เจ้าหน้าที่เห็นต้องใช้ไฟฟ้าช็อตจับไว้ หวั่นออกมาเป็นอันตรายกับชาวบ้าน


ที่จังหวัดอุทัยธานี ได้รับแจ้งมีผู้พบจระเข้ขนาดใหญ่นอนเอาหัวพาดกำแพงวัดธรรมโศภิต หรือวัดโคร่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง เขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี เนื่องจากวัดดังกล่าวถูกน้ำท่วมสูง 2-3 เมตร ทำให้จระเข้ตัวดังกล่าวนอนเอาหัวพาดกำแพงวัดอยู่ จ้าหน้าที่จึงใช้ไฟฟ้าช็อต จากนั้นได้จับตัวแล้วใช้เชือกมัดปาก มัดขา วัดความยาวได้ 2.50 เมตร น้ำหนักตัวกว่า 100 กก.อายุไม่ต่ำกว่า 10 ปี จึงนำมากักขังไว้บนบกเป็นการชั่วคราว

สำหรับจระเข้ตัวนี้ เป็นของวัดโคร่ง ที่เจ้าอาวาสวัดเลี้ยงไว้ในกรงเหล็กบริเวณวัด แต่ระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ทำให้น้ำท่วมกรงเลี้ยงจระเข้จนมิด จระเข้จึงพยายามเอาลำตัวกระแทกกับกรงเพื่อที่หนีออกมา แต่สภาพกรงที่แน่นหนาทำให้ออกมาไม่ได้จึงได้ไปเจาะดินมุดออกมาจากกรงได้สำเร็จ แต่ก็ทำให้จระเข้หมดแรง นอนเอาหัวพาดกำแพงวัดจนเจ้าหน้าที่มาพบเห็น และนอกจากจระเข้แล้วทางวัดยังเลี้ยงนกยูงอีกหลายตัว ซึ่งถูกน้ำท่วมขังเช่นเดียวกัน และยังมีกวางและม้าอีก แต่พวกมันหนีน้ำออกมาอาศัยอยู่บนถนนแล้ว ไม่มีใครทำอันตรายสัตว์เหล่านี้เพราะรู้ว่าเป็นของวัดโคร่ง

 

ทุกเขื่อนวิกฤต-คาดนาลแกทำปริมาณน้ำเพิ่มต่อเนื่อง

5 ตค. 2554 15:09 น.

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในอ่างทั่วประเทศในขณะนี้ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในทุกเขื่อนทั่วประเทศ มีร้อยละ 92 เปอร์เซ็นต์หรือประมาณ 18,200ลบ.ม. ซึ่งสามารถรับน้ำได้อีก 6,200 ลบ.ม.
ส่วนความคืบหน้าการซ่อมแซมประตูระบายน้ำและคันกั้นน้ำที่ชำรุดเสียหายอยู่ในขณะนี้โดยเริ่มจากประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรีที่ขณะนี้มีความคืบหน้าในการใช้กล่องลวดบรรจุหิน หรือ "เกเบี้ยน"เพื่ออุดช่องคันที่ขาดแล้วจำนวน 2,863 กล่อง คิดเป็น 39 %จากจำนวนทั้งสิ้น 7,300 กล่อง รวมทั้งขณะนี้ได้ทิ้งหินขนาดใหญ่จำนวน 200 ลูกบาศก์เมตรเข้าไปเสริมด้วยแล้ว ซึ่งการขนย้ายกล่องหินเกเบี้ยนเข้าในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรีประสานขอความร่วมมือกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเต็นท์บริเวณตลอดทางเดิน 5 กิโลเมตรก่อนจะถึงประตูระบายน้ำ เพื่อเปิดทางสัญจรให้มีการลำเลียงก้อนหินด้วยรถบรรทุกเป็นไปด้วยความสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการเพิ่มจำนวนเรือสำหรับบรรทุกกล่องเกเบี้ยนเพื่อโยนลงไปอุดช่องที่พังเสียหายเฉลี่ยวันละ 1,000 กล่องรวมถึงการประสานงานกับกองทัพเรือเพื่อใช้เรือเป็นตัวช่วยชะลอความรุนแรงของน้ำเพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
คาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายใน 10 วันอย่างแน่นอนเพื่อช่วยไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ในส่วนของ จ.ลพบุรี และจังหวัดใกล้เคียง
เนื่องจากมีการระบายน้ำที่เขื่อนภูมิพลฯ เพิ่มขึ้นจาก 54 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็น 100 ล้านลูกบาศก์เมตรและการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาจะมีฝนตกในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ลำปางตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จากอิทธิพลของพายุ "นาลแก" ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำที่ จ.นครสรรค์จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดสัปดาห์จนถึงสัปดาห์หน้า โดยปริมาณจะมากกว่า 5,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งขณะนี้ทางกรมชลประทานได้ประสานกับทางจังหวัดนครสวรรค์เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ดังกล่าวแล้วและรวมถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วย

 

โคราชเตือน5อ.ติดน้ำมูลรับมือน้ำล้นตลิ่ง2-3วันนี้

5 ตค. 2554 15:26 น.

เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า ภายหลังจากที่เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ต.ค.2554 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอโชคชัย ทางด้าน ต.ด่านเกวียน และตำบลท่าอ่าง รวมถึงในพื้นที่ อ.เมือง ด้านตำบลโพธิ์กลาง และภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งอยู่เหนือพื้นที่ตำบลหนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งวัดปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยได้ประมาณ 112 มิลลิเมตร ส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าจำนวนมหาศาลไหลทะลักเข้าท่วม 2 บ้านเรือนราษฎรของตำบลหนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งประกอบด้วย บ้านหนองตะลุมปุ๊ก หมู่ที่ 10 และหมู่ที่ 2 กว่า 500 หลังคาเรือน เมื่อช่วงกลางดึก

วันที่ 4 ต.ค.2554 ที่ผ่านมา โดยระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50 - 70 ซม. เนื่องจากที่ตั้งของหมู่บ้านดังกล่าว มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะที่รองรับปริมาณน้ำที่ไหลมาจากพื้นที่ตอนบนดังกล่าว แต่เบื้องต้นประชาชนที่อาศัยอยู่ภายใน 2 หมู่บ้านดังกล่าว ต้องเผชิญกับเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันมาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปีแล้ว จึงมีประสบการณ์และมีการเตรียมกระสอบทรายมาวางกั้นหน้าบ้านเรือนของตนเองไว้ น้ำจึงไม่ทะลักเข้าท่วมภายในบ้าน รวมถึงมีการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงเตรียมรับมือไว้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีบ้านเรือนราษฎรบางส่วนที่ไม่ได้มีการเตรียมตัวรับมือถูกน้ำทะลักเข้าท่วมบ้างแต่ยังไม่เสียหายมากนัก ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างเกรงว่าในช่วง 2 - 3 วันนี้หากเกิดฝนตกหนักลงมาซ้ำอีกกระสอบทรายที่นำมากั้นน้ำไว้คงไม่สามารถรับมือกับปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาสมทบได้อีก เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หม่อมหลวงอนุมาศ ทองแถม ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าสถานการณ์ภายในอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จะมีปริมาณน้ำที่ดูแล้วอยู่ในระดับที่สูงมาก แต่ในส่วนของอ่างเก็บน้ำลำตะคองนั้นไม่น่าวิตกกังวลเนื่องจากได้มีการเพิ่มสันบานประตูระบายน้ำเพื่อให้รองรับน้ำได้มากขึ้น ซึ่งประเมินว่าจะสามารถรองรับน้ำได้อีกประมาณ 50 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งหากมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ฝนที่จะตกลงมาเพิ่มในช่วงสัปดาห์นี้ไปจนถึงสัปดาห์หน้าก็ไม่น่าวิตกกังวลอะไร และมั่นใจว่าอ่างเก็บน้ำลำตะคองจะรับมือกับปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำได้ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ เพียงแค่พร่องน้ำบางส่วนประมาณวันละ 2 ล้าน ลบ.ม. เพื่อให้ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างลดปริมาณลงบ้างเท่านั้น ประกอบกับแผนการพร่องน้ำออกจากลำน้ำลำตะคองซึ่งอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำลำตะคอง ตั้งแต่พื้นที่ อ.สีคิ้ว สูงเนิน ลงมาถึง อ.เมืองนครราชสีมา ก่อนที่จะไหลลงสู่ลำน้ำมูล ได้มีการทำการพร่องน้ำเตรียมการไว้หมดแล้ว จึงมั่นใจว่าในเขตลุ่มน้ำลำตะคองจะไม่เกิดปัญหาน้ำเอ่อล้นตลิ่งสร้างความเสียหายอย่างเช่นเมื่อปี 2553 ที่ผ่านมาอย่างแน่นอน แต่ที่น่ากังวลจะอยู่ในเขตลุ่มน้ำมูล เริ่มตั้งแต่ อ.โชคชัย , อ.เฉลิมพระเกียรติ , อ.พิมาย , อ.ชุมพวง และ อ.เมืองยาง

 

Solar flares online

October 5, 2011

Diagram of the solar flare activity

X-ray emission of the Sun from 04.10.2011 to 05.10.2011 (GOES-15)

 

ลำพูนอ่วม! 8 อำเภอ จมบาดาล ดับ แล้ว1ราย

ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 5 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 14:31 น.




จังหวัดลำพูน น้ำท่วมหนัก ล่าสุด มีพื้นที่ได้ผลกระทบ 8 อำเภอ 40 ตำบล 375 หมู่บ้าน ผู้ได้รับผลกระทบ 23,393 ครัวเรือน พนง. เทศบาลดับ 1 ราย



นายชุมพร อินตะเทพ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า ภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา จ.ลำพูน มีพื้นที่ได้ผลกระทบ 8 อำเภอ 40 ตำบล 375 หมู่บ้าน ผู้ได้รับผลกระทบ 23,393 ครัวเรือน หรือกว่า 66,848 คน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายวิน วงศ์ฟั่น พนักงานเทศบาลตำบลบ้านโฮ่ง เสียชีวิตจากการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเขตตำบลบ้านโฮ่ง

สำหรับถนนสาย 106 ลี้-ลำพูน ช่วงหลักกิโลเมตรเลขที่ 113 ถึง 114 ระยะทาง 1 กิโลเมตร น้ำท่วมขังเป็นช่วงๆ สูงจากผิวทาง 0.80 เมตร รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ส่วนสาธารณประโยชน์ อื่นๆ อยู่ในระหว่างสำรวจ สำหรับ ผู้ที่จมน้ำสูญหายไปเมื่อเช้าวานนี้เป็นชายอีก 1 รายนั้น

ส่วนความช่วยเหลือเบื้องต้น อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้การช่วยเหลือในการอพยบผู้ประสบภัยอยู่ในที่ปลอดภัย ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง แจกจ่ายอาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพ รวมทั้งสิ้น 1,500 ชุด
Link : http://www.innnews.co.th/ลำพูนอ่วม-8-อำเภอ-จมบาดาล-ดับ-แล้ว1ราย--312364_06.html