WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ปภ.ตาก ซ้อมแผนอพยพ ปชช.

ข่าวภูมิภาค วันพฤหัสบดีที่ 6 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 08:25 น.



กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตาก เผย ผู้ว่าฯตาก สั่งซักซ้อมแผนอพยพประชาชนแล้ว ด้านจังหวัดท้ายเขื่อน ยังต้องเฝ้าระวังน้ำล้นตะลิ่ง หลังระดับน้ำยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น


นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตาก เปิดเผย สำนักข่าว INN ผ่านรายการ "เปิดข่าวเด็น เจาะประเด็นดัง" FM.102.72 MHz เกี่ยวกับการรับมือน้ำจากเขื่อนภูมิพลที่จะบายออกมา โดยระบุว่า ในส่วนของจังหวัดตากนั้น ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้น โดยมีปริมาณน้ำล้นตลิ่ง ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดได้มีการซักซ้อมแผนการป้องกัน ทั้งการอพยพประชาชนและการเคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆ กรณีถึงขั้นวิกฤต

ขณะที่ ในภาพรวมของทั้งประเทศนั้น น้ำจากลุ่มเจ้าพระยา ยังน่าเป็นห่วงกว่า เนื่องจาก มีน้ำไหลมารวมจากทุกทิศทาง โดยล่าสุดปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ เกินกว่า 4,500 ลบ.ม./วินาที และยังสูงทรงตัว ส่วนสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งที่ยังต้องเฝ้าระวัง มีตั้งแต่ จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ปทุมธานี นนทบุรี ทุกจังหวัดมีแนวโน้มระดับน้ำสูงขึ้น เพระมีน้ำเดิมและมีน้ำจากแม่น้ำปิง แม่น้ำน่าน ลงมาเพิ่ม ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาว หลัง กรมชลประทาน คาดการณ์ว่า อย่างน้อยอีกประมาณ 2 เดือน น้ำจึงจะลดลง เจ้าหน้าที่ ได้มีการเตรียมอพยพประชาชนไว้พร้อมแล้ว หากน้ำขึ้นอีก 1-2 วัน ก็ต้องเคลื่อนย้านไปอยู่ในที่ปลอดภัยทันที

Link : http://www.innnews.co.th/ปภ-ตาก-ซ้อมแผนอพยพ-ปชช--312492_06.html

 

สมิทธเตือนภาคใต้ระวังพายุ1-2 ลูก

ข่าวสังคม วันพฤหัสบดีที่ 6 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 08:33 น.

ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เผย สถานการณ์น้ำทางเหนือ เบาใจได้ ภายในเดือนนี้จะคลี่คลาย แต่ภาคกลาง ยังน่าห่วง ใต้ อันตราย มีพายุเข้าอีก

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยกับ สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.จากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัดเวลานี้ เป็นไปตามที่เคยได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ซึ่งในส่วนของภาคเหนือจะค่อยๆ คลี่คลาย เพราะว่าอิทธิพลของมรสุมจะลดน้อยลงภายในสิ้นเดือน ตุลาคม นี้ แต่ในส่วนของภาคกลาง การระบายน้ำลงทะเล ยังค่อนข้างลำบาก เพราะช่วงปลายเดือนนี้ น้ำทะเลจะกลับมาหนุนสูงอีกครั้ง

พร้อมกันนี้ ยังมีการคาดหมายว่า จะมีพายุเข้ามาอีก 1-2 ลูก ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ แต่จะเข้าที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยเหมือนกับ ที่เข้าสงขลา เมื่อปีก่อน และจะทำให้มีฝนตกหนัก และอาจจะท่วมภาคใต้ได้อีก ในช่วงเวลาตั้งแต่กลางเดือนนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน ส่วนอีกฝั่งต้องระวังสึนามิด้วย

Link : http://www.innnews.co.th/สมิทธเตือนภาคใต้ระวังพายุ1-2-ลูก--312496_03.html

 

ชาวลำพูนระทมอ่วมหนักรอบ 20 ปี

ข่าวภูมิภาค วันพฤหัสบดีที่ 6 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 08:33 น.

<!--
--><!--
--><?xml:namespace prefix = fb ns = "http://www.facebook.com/2008/fbml" /><fb:like class=" fb_edge_widget_with_comment fb_iframe_widget" href="http://www.innnews.co.th/ชาวลำพูนระทมอ่วมหนักรอบ-20-ปี--312497_06.html" layout="button_count" action="like" send="true" colorscheme="light" show_faces="true" font="arial"></fb:like>


ชาวบ้านลำพูน ทุกข์ระทมน้ำท่วมหนัก รอบ 20 ปี จนท. เร่งแจกข้าวกล่อง กระสอบทรายนับหมื่นใบ ช่วยเหลือประชาชน

สถานการณ์น้ำท่วม อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน เขตเทศบาลตำบลบ้านโฮ่ง ระดับน้ำยังทรงตัว ขณะที่ในเขตเทศบาลตำบลศรีเตี้ย ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว และล่าสุด ยังมีการระดมเจ้าหน้าที่ นำข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 4,500 กล่อง กระสอบทราย 22,000 กระสอบ ถนนสายหลัก สายลำพูน-ลี้ (ทางหลวงหมายเลข 106) ช่วงระหว่างบ้านดอยก้อม ไป บ้านโฮ่ง รถทุกชนิด ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ยังมีการปิดถนนเป็นการชั่วคราว และสะพานบ้านดงฤาษี รถทุกชนิด ยังไม่สามารถสัญจรไปมาได้เช่นกัน ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางอื่นแทน และขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ พร้อมป้ายเตือนต่างๆ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ด้าน นายพุฒิพงษ์ ฤาชัย นายกเทศมนตรีตำบลบ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน เปิดเผยว่า น้ำที่ท่วมครั้งนี้ถือว่า หนักที่สุดในรอบ 20 ปี กระแสน้ำมาเร็วและเชี่ยวมาก โดยน้ำที่ท่วมเป็นน้ำจากแม่น้ำลี้ มาทั้งจาก อ.ลี้ และ อ.บ้านโฮ่ง

Link : http://www.innnews.co.th/ชาวลำพูนระทมอ่วมหนักรอบ-20-ปี--312497_06.html

 

เตรียมอพยพนักโทษ เมืองกรุงเก่า

ข่าวภูมิภาค วันพฤหัสบดีที่ 6 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 08:42 น.

น้ำทะลักท่วมบริเวณเรือนจำพระนครศรีอยุธยา ต.หันตรา สูง 2 เมตร เจ้าหน้าที่เตรียมอพยพนักโทษ 5,000 คน ไปยังพื้นที่ปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ล่าสุด น้ำทะลักเข้าท่วมบริเวณเรือนจำจังหวัด และเรือนจำกลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใน ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำสูง 2 เมตร เจ้าหน้าที่เตรียมอพยพนักโทษทั้งสองเรือนจำ ที่มีทั้งหมดประมาณ 5,000 คน ไปยังพื้นที่ปลอดภัย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังขาดแคลนเรือและขาดกำลังพลในการเคลื่อนย้ายนักโทษ เจ้าหน้าที่ได้เร่งประสานงานขอสนับสนุนเครื่องมือและกำลังพล ในการเคลื่อนย้ายนักโทษแล้ว ทางด้านถนนสายเอเชีย เส้นทางมุ่งหน้าไปยังจังหวัดนครสวรรค์ น้ำเอ่อล้นทะลักท่วมพื้นถนน ส่งผลให้การจราจรในเส้นทางดังกล่าวเป็นอัมพาต

Link : http://www.innnews.co.th/เตรียมอพยพนักโทษ-เมืองกรุงเก่า--312504_06.html

 

[FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold]

รายงานสดทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
ประจำวัน ​

[/FONT]​

[/FONT][FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold]พฤหัสบดี [/FONT][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold]ที่ [/FONT][/FONT][FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold]6 [/FONT][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold]เดือน [/FONT][/FONT][FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold]ตุลาคม [/FONT][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold]พ.ศ. [/FONT][/FONT][FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold]2554 [/FONT][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma,Bold][FONT=Tahoma,Bold]เวลา 09.30 น.
ผ่านเครื่องโทรศัพท์
----------------------------------------​

[/FONT][/FONT]

​

​

​

​

สวัสดีครับ เขื่อนภูมิพลขอรายงานข้อมูลน้ำ ประจำวัน..................ที่................เดือน....................
พุทธศักราช.......................​

​

​

​

​

ระดับน้ำของอ่างเก็บน้ำ เวลา 8 นาฬิกา 259.35 เมตร วัดจากระดับน้ำทะเลปานกลาง​

​

​

​

​

ระดับน้ำ สูงกว่า ปีที่ผ่านมา 26.3 เมตร​

​

​

​

​

อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลสามารถรับน้ำได้อีก 201.90 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 1.50 เปอร์เซ็นต์​

​

​

​

​

สำหรับปีนี้ เขื่อนภูมิพลกักเก็บน้ำได้ มากกว่า ปีที่แล้วในวันเดียวกัน 6584.98 ล้านลูกบาศก์เมตร​

​

​

​

​

เมื่อวานนี้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล 248.85 ล้านลูกบาศก์เมตร​

​

​

​

​

สำหรับวันนี้เขื่อนภูมิพลจะระบายน้ำ 24 ชั่วโมงเพื่อรักษาระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำ อัตราการไหลประมาณ
1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และอัตราการไหลของแม่น้ำวัง ประมาณ1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวม
แล้วลำน้ำปิงมีอัตราการไหล 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงขอให้พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่ม
ต่ำหรือริมฝั่งแม่น้ำปิง เฝ้าระวังระดับน้ำที่จะยกระดับสูงขึ้น​

​

​

​

​

ข้อเสนอแนะในการประหยัด น้ำมัน ตรวจสอบลมยางเป็นประจำ​

​

​

​

​

สำหรับพื้นที่ใด ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้น้ำ หรือ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อสอบถามได้ที่โทรศัพท์
หมายเลข 055 - 549 511​

​

​

​

​

รายงานจาก เขื่อนภูมิพล สวัสดีครับ​

รายงานวิทยุ สวท​

​

​

​

. Page 1 of 1​

http://

 

อ่างทอง-2 ตำบลเดือดร้อนหนักน้ำท่วมมิดหลังคา ข่าวต่างประเทศ ข่าวอาชญากรรม ข่าวสังคม ข่าวเ

อ่างทอง-2 ตำบลเดือดร้อนหนักน้ำท่วมมิดหลังคา



น้ำไหลทะลักเข้าท่วมฉับพลันที่บ้านหมู่ 1 ตำบลบ้านริ อำเภอเมือง และหมู่ 3 ตำบลชัยฤทธิ์ อำเภอไชโย ซึ่งอยู่ติดกัน จมมิดทั้งสองหมู่บ้าน ต้องอาศัยหลังคาบ้านและถนนเป็นที่พักอาศัยทั้งคนและสัตว์เลี้ยง

โดยทั้ง 2 หมู่บ้านดังกล่าวมีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 280 ครัวเรือน ขณะนี้เดือดร้อนหนักถูกน้ำท่วมขังจมมิดทั้ง 2 หมู่บ้าน ต่างต้องอพยพขึ้นไปอาศัยอยู่ริมถนนสายเอเชีย รวมทั้งสัตว์เลี้ยง วัว สุนัข บางบ้านที่มีใต้ถุนสูง หรือเป็นบ้าน 2 ชั้นก็ไม่ยอมทิ้งบ้านอาศัยพื้นที่ที่เหลืออยู่เป็นที่หลับนอน สัตว์เลี้ยงบางส่วนก็อาศัยอยู่บนโคกดินที่มีความสูง เนื่องจากขนย้ายไม่ทัน ฝูงเป็ดใช้หลังคาบ้านเป็นที่พัก รวมทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์ และรถไถนา จมน้ำติดอยู่ภายในหมู่บ้านเป็นจำนวนมาก และขณะนี้ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานใด มีเพียงแต่ผู้มีจิตศรัทธาผ่านมานำน้ำดื่ม และข้าวกล่องบริจาค อีกทั้งยังขาดแคลนเรือยนต์เพราะมีใช้เพียงแค่ 1 ลำเท่านั้น

ชาวบ้านผู้ประสบภัยรายหนึ่ง เล่าว่ามีอาชีพให้เช่าอุปกรณ์ ถ้วย ชาม แก้วน้ำ โต๊ะอาหาร เก้าอี้สำหรับจัดโต๊ะจีนตามงานพิธีต่างๆ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ต้องรีบช่วยกันขนย้ายข้าวของกันอย่างโกลาหล เพราะน้ำไหลทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็วและเพิ่มสูงขึ้นจนไม่สามารถนำถ้วยชาม ที่มีอยู่เป็นพันชุด และอุปกรณ์เครื่องครัว รวมทั้งโต๊ะอาหารประมาณ 500 ชุดออกมาได้ต้องปล่อยให้จมอยู่ใต้น้ำ โต๊ะอาหารซึ่งถ้าแช่น้ำก็ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกเพราะทำมาจากไม้อัด มีเพียงแค่เก้าอี้พลาสติกบางส่วนที่ออกมาได้ทัน เพราะบรรทุกอยู่บนรถยังไม่ได้เข้าไปเก็บในโกดังเก็บของ รวมแล้วความเสียหายหลายแสนบาท ทุกวันนี้ต้องแบ่งคนนอนเฝ้าของที่ขนหนีน้ำอยู่ริมถนน นับว่าครั้งนี้ถือเป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดในรอบ 16 ปี เพราะที่หมู่บ้านเคยประสบปัญหาน้ำท่วมล่าสุดเมื่อปี 2538

 

ขอนแก่น-ชาวบ้านเร่งขนย้ายข้าวของหนีน้ำท่วม ข่าวต่างประเทศ ข่าวอาชญากรรม ข่าวสังคม ข่าว��

6 ต.ค. 54

ขอนแก่น-ชาวบ้านเร่งขนย้ายข้าวของหนีน้ำท่วม



ลำน้ำ 3 สายสำคัญของจังหวัดขอนแก่น มีปริมาณสูงกว่าตลิ่ง 1 เมตร ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง ส่วนเขื่อนอุบลรัตน์ ยังเร่งระบายน้ำวันละกว่า 36 ล้านลูกบาศก์เมตร

ลำน้ำสายสำคัญ 3 สายของจังหวัดขอนแก่นประกอบไปด้วยลำน้ำเชิญ ลำน้ำชี และลำน้ำพอง มีประมาณสูงกว่าตลิ่งประมาณ 1 เมตร ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชนเสียหายไปแล้วจำนวน 8 อำเภอ ประกอบไปด้วย อำเภอชนบท, แวงใหญ่, มัญจาศีรี, บ้านแฮด, บ้านไผ่, พระยืน, น้ำพอง และอำเภอเมือง

โดยเฉพาะปริมาณน้ำในสำคัญอย่างลำน้ำพอง มีระดับสูงกว่าตลิ่งที่ 1.06 เมตร และมีแนวโน้มสูงขึ้น จากการเร่งระบายน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์หลังเกินประมาณกักเก็บไปแล้วกว่า 400 ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็นร้อยละกว่า 116 เปอร์เซ็น เขื่อนต้องระบายน้ำวันละ 36 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังเร่งระบายเพิ่มอีกวันละ 3-4 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อรองรับน้ำปริมาณมาก จากพายุ “นาลแก” ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าประเทศไทยทำให้ฝนตกตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่งผลน้ำจากลำน้ำพองเอ่อล้นขยายวงกว้างเข้าท่วมบ้านเรือนที่นาการเกษตรเสียหายไปแล้วกว่า 5,000 ไร่ รวมไปถึงถนนสายน้ำพอง-ขอนแก่น บริเวณบ้านกุดพังเครือ ตำบลท่ากระเสริมน้ำไหลเชี่ยวผ่านถนน เป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร

นอกจากนี้น้ำที่มีปริมาณสุงยังเอ่อเข้าท่วม บ้านบึงอีเฒ่า และบ้านท่าแก ตำบลศิลา อำเภอเมือง ชาวบ้านต้องเร่งนำรถไถนาเดินตามและข้าวของเครื่องใช้ขึ้นมาเก็บไว้บนถนนที่สูง หลังเมื่อคืนที่ผ่านมาระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสูงกว่า 1 เมตร ถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกตัดขาดชาวบ้านต้องสัญจรไปมาด้ายเรือ

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ประชาชนได้รับความเดือดร้อนทั้งสิ้น 2,579 ครอบครัว พื้นที่การเกษตรเสียหายไปแล้ว 214,489 บ่อปลา 1,332 บ่อ ส่วนถนนถูกน้ำท่วมขังแล้วจำนวน 1,272 แห่ง

 

ปทุมฯฝนตกน้ำทะลักข้ามถนนบางกระดีสายใน

6 ตค. 2554 07:04 น.

เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 5 ต.ค. นายธวัชชัย อึ้งอัมพรวิไล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางกระดี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านและนายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล สส.ปทุมธานี เขต 2 และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่าได้ขับรถตรวจสะภาพน้ำริมถนนปทุมธานีสายในทั้งอำเภอสามโคก และอำเภอเมือง ซึ่งมีถนนสายริมแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดสองฝั่งแม่น้ำได้ตรวจพบว่าที่ หมู่ที่ 5 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งมีถนนสายในบางกระดี เขตติดต่อกันน้ำได้เอ่อล้นข้ามแนวกระสอบทรายไหลเข้าพื้นที่ตำบลบางกระดี ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรม ทำให้ต้องนำเจ้าหน้าที่พร้อมกระสอบทรายไปทำการเสริมแนวกระสอบทรายให้สูงขึ้นถึงสี่ลูกเพื่อให้พ้นน้ำในคืนนี้ไปก่อนและในช่วงเช้าค่อยมาเสริมแนวเพิ่มเติม
นายธวัชชัย กล่าวว่า พื้นที่น้ำเข้ามาเป็นเขตของตำบลบ้านใหม่ ซึ่งขณะนี้ตัวนายกหมดวาระลงมีแต่ปลัดรักษาการ แต่ไม่ได้มาตรวจตรงจุดน้ำทะลักเข้ามา ทางเทศบาลบางกระดีจึงมาเสริมแนวกั้นน้ำให้และหากไม่มีผู้ดูแลแนวกั้นน้ำในเขตตำบลบ้านใหม่ น้ำอาจจะเข้าท่วมในเขตอุตสาหกรรมบางกระดี สนามกอล์ฟ 2 แห่ง โรงแรม จะเสียหายมากกว่าที่จังหวัดอยุธยา จึงได้เตรียมการป้องกันไว้ก่อน
ด้านนายสุรพงษ์ กล่าวว่า ได้ขับรถตรวจตามถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดเส้นทางทั้งสองฝั่งแม่น้ำ ซึ่งจังหวัดปทุมธานี มีแนวคันกั้นน้ำที่สูงมากหากน้ำมาสูงกว่านี้อีก 50 ซม.คันกั้นน้ำเหล่านี้จะรับน้ำไม่ไหวกลัวว่าแนวคันดินจะพังทลายลงน้ำอาจจะเข้าท่วมในพื้นที่ได้ แต่ ณ ขณะนี้ยังสามารถป้องกันน้ำได้


พิษน้ำท่วมเมืองกรุงเก่าวิกฤตแพทย์-พยาบาลเร่งอพยพคนไข้

6 ตค. 2554 10:08 น.

เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 6 ต.ค. หน่วยกู้ชีพจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รพ.บางปะหัน รพ.สมเด็จพระสังฆราช รพ.พระนครศรีอยุธยา และรพ.วังน้อย ร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญูอยุธยาและปราจีนบุรี ได้นำเรือท้องแบนขนาดใหญ่เข้าไปยังรพ.บางปะหัน ม.5 ต.บางนางร้า อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากปากทางเข้ารพ.ถูกน้ำท่วมอย่างหนักถึงริมถนนสายเอเชีย มีความลึกกว่า 1.50 ม. ระยะทางกว่า 400 เมตร โดยกระแสน้ำเชี่ยวและไหลแรง จนท.ได้ช่วยกันลำเลียงคนไข้ที่อยู่ภายในรพ.บางปะหันทั้งหมด 16 ราย ออกมาจากโรงพยาบาลโดยใช้เรือท้องแบนขนาดใหญ่ 2 ลำ ลำเลียงออกมาท่ามกลางสายฝนที่ตกตลอดเวลา
ทั้งนี้เนื่องจากระดับน้ำขึ้นสูงจนไม่สามารถให้บริการผู้ป่วยได้ และมีความเสี่ยงสูงทางสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจึงพิจารณาให้ปิดการดำเนินการชั่วคราว โดยได้นำผู้ป่วย 17 รายแยกย้ายไปตามรพ.ต่างๆ ได้แก่ รพ.สมเด็จพระสังฆราช อ.นครหลวง 4 ราย รพ.อ่างทอง 2 ราย รพ.วังน้อย 6 ราย และรพ.อุทัย 4 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนักจำนวน 2 ราย นพ.พงศกร อมรชัยชาญ เปิดเผยว่าอาคารของรพ.ที่ให้บริการยังสามารถให้บริการได้ เนื่องจากน้ำไม่ท่วม แต่รอบๆ ถูกน้ำท่วมหมดแล้ว หากเปิดให้บริการประชาชนก็ไม่สามารถมารับบริการได้ อีกทั้งยังมีความเสียงในการดูแลผู้ป่วยหนักที่ต้องอาศัยเครื่องช่วยหายใจ และอุปกรณ์ทางเทคนิค จึงตัดสินใจย้ายทันที ซึ่งคนไข้ที่หนักจริงๆได้ย้ายไปก่อนหน้าแล้ว ส่วนอุปกรณ์สำคัญต่างๆ ตอนนี้ก็ขนออกมาจำนวนมากแล้ว

อ.นครหลวงน้ำท่วมหนักสุดเป็นประวัติการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วิกฤติหนัก ล่าสุด น้ำทะลักเข้าท่วมในหลายพื้นที่และขยายวงกว้าง ส่งผลให้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบแล้ว 14 อำเภอ จากทั้งหมด 16 อำเภอ ระดับน้ำยังคงเพิ่มจากเมื่อวานนี้ 30 ซ.ม. และยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน น้ำทะลักเข้าท่วมปราสาทนครหลวง อ.นครหลวง สูงกว่า 2 เมตร ทำให้ตัวปราสาทชำรุดเสียหาย ถือได้ว่า วิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้ หนักกว่าน้ำท่วมใหญ่ ปี 2538 และนับได้ว่า หนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ของพื้นที่ อ.นครหลวง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ยังไม่สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ใน อ.นครหลวง ได้ เนื่องจาก ระดับน้ำสูงและไหลเชี่ยว เช่นเดียวกับชาวบ้าน ก็ไม่สามารถเดินทางมารับสิ่งของช่วยเหลือได้

 

พนังกั้นน้ำพังทะลักท่วมชุมชนวัดไทรอ่วม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 ตุลาคม 2554 09:30

น้ำได้บ่าทะลักเข้าท่วมชุมชนวัดไทร จ.นครสวรรค์ โดยที่ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว แนวป้องกันน้ำถูกน้ำเซาะพังตอนตี 2 วันนี้ ไม่มีใครขนของได้ทัน นายจิตตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์นำเจ้าหน้าที่เทศบาลเข้าไปซ่อมพนังกั้นน้ำ โดยมีชาวบ้านเข้ามาช่วยบริเวณน้ำท่วมอยู่แล้ว เนื่องจาก 2 วันก่อนพนังกั้นน้ำได้พังลงมาเป็นบริเวณกว้าง แม้จะซ่อมแซมได้แล้ว แต่ยังระบายน้ำออกไม่หมด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ จึงทำให้ระดับน้ำที่ท่วมชุมชนสูงขึ้นอีก ขณะนี้เทศบาลกำลังนำดินและหินคลุกเข้ามาเสริมให้พนังกั้นน้ำสูงขึ้นถึง 2 เมตรครึ่ง
ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำหลายครั้ง ทำให้ทางเขตเทศบาลนครนครสวรรค์ต้องเฝ้าระวังพนังกั้นน้ำทุกจุด เนื่องจากยังมีน้ำเหนือปริมาณมากที่ไหลลงมาต่อเนื่อง

 

เขื่อนสิริกิติ์ยันมั่นคงแข็งแรง-แต่น้ำใกล้เต็ม 100%

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 ตุลาคม 2554 09:40 น.

อุตรดิตถ์ - ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์ใกล้เต็ม 100%แล้ว แต่ยืนยันความมั่นคงแข็งแรง ด้านชลประทาน ประสานลดการปล่อยน้ำ บรรเทาผลกระทบให้คนท้ายเขื่อน

นายธนรัชต์ ภูมิมะกสิกร ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ได้รับการประสานกรมชลประทาน ขอให้ปรับการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ เพื่อลดผลกระทบต่อระดับน้ำในลำน้ำน่าน ท้ายเขื่อนสิริกิติ์ บริเวณพื้นที่ จ.พิษณุโลก ตั้งแต่วานนี้(5 ต.ค.54) เขื่อนสิริกิติ์จึงขอทำการระบายน้ำวันละ 60 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะทำให้น้ำในแม่นํ้าน่าน บริเวณพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ มีระดับคงที่และจะปรับลดการระบายลงหากไม่มีฝนตกหนักด้านท้ายเขื่อน ปัจจุบันในอ่างเก็บน้ำมีปริมาณน้ำ 9,427 ล้าน ลบ.ม.หรือ 99.13 %สามารถรับน้ำได้อีก 82.53 ล้าน ลบ.ม.หรือ 0.87 % มีน้ำไหลเข้า 66.01 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน

อย่างไรก็ตามช่วงนี้อิทธิพลพายุนาลแก อาจทำให้มีฝนตกหนักส่งผลให้ระดับน้ำให้น้ำน่านสูงขึ้นเป็นบางช่วง ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังอาจมีน้ำล้นตลิ่งได้ในระดับพื้นที่ที่มีระดับต่ำ และเตรียมการป้องกันผลกระทบความเสียหาย ติดตามข่าวประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกันเขื่อนสิริกิติ์ ขอยืนยันว่าเขื่อนมีความมั่นคงแข็งแรงดี มีความปลอดภัยสูงโดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา 24ชั่วโมง หากมีข้อสงสัยหรือได้รับข่าวลือต่างๆ ไม่แน่ใจต้องการทราบข้อเท็จจริงโปรดโทรศัพท์สอบถามที่เขื่อนสิริกิติ์โดยตรงหมายเลข 055-441840 หรือตรวจสอบทาง กล้อง cctv ภาพสดได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ผู้ว่าฯกำแพงเพชร สั่งรับน้ำเขื่อนภูมิพล คาดถึงเที่ยงนี้

จังหวัดกำแพงเพชร เตรียมรับน้ำ หลังจากเขื่อนภูมิพลได้ปล่อยน้ำผ่านประตูอุโมงค์ระบายน้ำล้น หรือ ประตูฉุกเฉิน เมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) ซึ่งคาดว่า จะไหลมาถึงช่วงเที่ยงวันนี้ และจะทำให้ระดับในแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านจังหวัดกำแพงเพชร เพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 5 เมตร ซึ่งอาจเข้าท่วมในตัวเทศบาลเมือง ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร สั่งระดมเจ้าหน้าที่ เร่งวางกระสอบ-เสริมคันดินให้สูงขึ้นแล้ว

 

น้ำท่วม!! แจ้งวัฒนะ-บางเขน ตร.แนะเลี่ยงใช้วิภาวดี

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 ตุลาคม 2554 09:35 น.


นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากปริมาณฝนตกหนักเมื่อคืน ถึง 126 มิลลิเมตร ในพื้นที่หลักสี่ ทำให้น้ำท่วม โดยท่วม 14 จุด ซึ่งระบายหมดแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ เนื่องจากเครื่องระบายน้ำที่บางเขนเสีย 2 เครื่อง โดยเร่งเปลี่ยนเครื่องใหม่ คาดว่าใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงระบายน้ำหมด
ส่วนการจราจร พล.ต.อ.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ให้เลี่ยงใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิต แต่ให้ใช้ทางด่วนโทลล์เวย์ และถนนกําแพงเพชร 6 (โลคัลโรด) หรือเลี่ยงไปใช้ถนนพหลโยธิน เนื่องจากรถเริ่มติดขัดบริเวณแยกหลักสี่ และบนถนนวิภาวดีมีรถจอดเสียจำนวนมาก

 

ชาวบางปะหัน เร่งย้ายของหนีน้ำ

ข่าวภูมิภาค วันพฤหัสบดีที่ 6 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 09:48 น.


ชาวบ้านบางปะหัน อยุธยา เดือดร้อนหนัก หลังน้ำท่วมสูง เร่งย้ายสิ่งของหนี โอด การช่วยเหลือไม่เพียงพอ


สถานการณ์อุทกภัย วันที่ 3 ที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้ ชาวบ้าน ได้เร่งอพยพขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ หน้าที่ว่าการอำเภอบางปะหัน เนื่องจาก น้ำได้ไหลท่วมบ้านเรือประชาชนและเส้นทางทางการจราจรอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา โดยจากการสอบถาม นางสุภาพร บันลือทรัพย์ ชาวบ้าน หมู่ 1 ต.เสาธง อ.บางปะหัน กล่าวว่า ชาวบ้าน ได้เร่งอพยพกันเองตั้งแต่เย็นวานนี้ เนื่องจากระดับน้ำได้ขึ้นสูง ซึ่งสร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องที่พักอาศัย อาหารการกิน แม้ว่าจะมีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือเพียงบางส่วน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ทั้งนี้ นางสุภาพร ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ต้องการเรือขนาดใหญ่ เพื่อช่วยขนย้ายสิ่งของออกจากบ้าน เนื่องจากสิ่งของถูกน้ำท่วมพังเสียหายหมดแล้ว ซึ่งตนและสามี นำออกมาได้เพียงเสื้อ และรถยนต์เพียง 1 คัน เท่านั้น อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.บางปะหัน และอีกหลายพื้นที่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา อย่างใกล้ชิดต่อไป

Link : ชาวบางปะหัน เร่งย้ายของหนีน้ำ

 

นครสวรรค์ จุดพลุอพยพคนหนีน้ำกลางดึก

 

ผลพวงจาก “เนสาด” สุโขทัยระทม น้ำยมทะลักรอบ 10



ผลพวงจาก “เนสาด” สุโขทัยระทม น้ำยมทะลักรอบ 10 ระดมชาวบ้านกว่า 100 คน ช่วยกันตอกเสาไม้ยูคากั้นเป็นแนวบริเวณจุดที่ถนนเลียบแม่น้ำยมขาดทั้งสอง ฝั่ง ก่อนที่จะนำกระสอบทรายอุดลงไปอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันมิให้กระแสน้ำไหลกัดเซาะถนนจนพังเป็นแนวกว้างเพิ่มมากขึ้น…
เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำยม ที่ไหลผ่าน จ.สุโขทัย เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ซึ่งเป็นอิทธิพลของพายุเนสาด ทำให้น้ำยมไหลทะลักเข้าท่วมในหลายพื้นที่ของ อ.เมือง อาทิเช่น ต.ปากแคว ต.บ้านกล้วย และ ต.ธานี ถนนจรดวิถีถ่อง ตั้งแต่เชิงสะพานพระร่วงฝั่งตะวันตก ต.ธานี เรื่อยไปจนถึงสี่แยกคลองโพธิ์ ต.บ้านกล้วย มีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30 ซม. เป็นระยะทางยาวเกือบ 2 กม. รถเล็กยังสามารถผ่านไปมาได้ ส่วนที่ทางหลวงหมายเลข 12 (สุโขทัย-ตาก) ช่วงตั้งแต่สี่แยกคลองโพธิ์ ต.บ้านกล้วย ไปจนถึงเขต ต.เมืองเก่า ระยะทางประมาณ 12 กม. มีน้ำที่ทะลักจากแม่น้ำยม ไหลเข้าคลองแม่รำพัน เอ่อล้นออกมาท่วมขังเกือบตลอดเส้นทาง สูงประมาณ 50-80 ซม.
ขณะที่โรงพยาบาลสุโขทัย โรงพยาบาลรวมแพทย์ และสถานศึกษาหลายแห่ง ที่ตั้งอยู่บนถนนสายนี้ อาทิเช่น โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม วิทยาลัยนาฎศิลป์ วิทยาลัยสารพัดช่าง และ วิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบประจำภาค ไม่สามารถปิดเรียนได้ ทางจังหวัดตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องนำรถบรรทุกขนาดใหญ่ ออกให้บริการรับ-ส่งประชาชน นักเรียน และนักศึกษา ตลอดเส้นทาง เนื่องจากระดับน้ำที่ท่วมขังบนถนนค่อนข้างสูง บางจุดเกือบ 1 เมตร รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้เช่นกัน
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า เมื่อเวลา 02.00น. ของวันที่ 5 ต.ค. ระดับน้ำในแม่น้ำยม ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และรุนแรง ได้กระแทกแนวคันดินและกระสอบทรายเลียบแม่น้ำยม ที่ทาง อบต.ปากแคว นำมาวางเสริมแนวผนังกั้นน้ำ บริเวณบ้านวังหิน หมู่ 1 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย จนพัง และกัดเซาะถนนคอนกรีตเลียบแม่น้ำยมจนขาดเป็นระยะทางยาวเกือบ 30 เมตร ไม่สามารถใช้การได้ ส่งผลทำให้น้ำจากแม่น้ำยม ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 300 หลังคาเรือน และพื้นที่การเกษตรกว่า 5,000 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไร่ยาสูบเสียหายยับ
นายชาติชาย สงวนพงษ์ นายอำเภอเมือง พร้อมด้วยนายบุญเสริม เชยวัดเกาะ นายกฯอบต.ปากแคว ระดมชาวบ้านกว่า 100 คน ช่วยกันตอกเสาไม้ยูคากั้นเป็นแนวบริเวณจุดที่ถนนเลียบแม่น้ำยมขาดทั้งสองฝั่ง ก่อนที่จะนำกระสอบทรายอุดลงไปอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันมิให้กระแสน้ำไหลกัดเซาะถนนจนพังเป็นแนวกว้างเพิ่มมากขึ้น และเสียหายไปมากกว่านี้
นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.สุโขทัย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ นับเป็นรอบที่ 10 ของปีนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะรุนแรงกว่าทุกครั้ง เนื่องจาก มีอิทธิพลของลมมรสุมเพิ่มเข้ามาด้วย นอกเหนือ จากปริมาณน้ำในแม่น้ำยม ซึ่งสูงเพิ่มขึ้นทุกวันอยู่แล้ว จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนที่มีบ้านเรือน อยู่ติดกับแม่น้ำยม โดยเฉพาะ อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง และ อ.เมือง ขอให้เตรียมรับมือกับสภาวะน้ำป่าไหลหลาก และ น้ำท่วมฉับพลัน สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำยม ที่จุดวัดน้ำ หน้าบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัด ถ.นิกรเกษม ต.ธานี อ.เมือง วันนี้วัดได้ 7.00 เมตร.

ที่มา ไทยรัฐ

 

สรุปสถานการณ์น้ำท่วม (6 ต.ค.2554)



น้ำท่วมเรือนจำอยุธยา สูง 2 ม. “ราชทัณฑ์” เตรียมสั่งอพยพนักโทษ

สถานการณ์น้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา ล่าสุด น้ำทะลักท่วมเรือนจำจังหวัด และเรือนจำกลาง ต.หันตรา อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำท่วมสูง 2 เมตร เจ้าหน้าที่เตรียมอพยพนักโทษ ประมาณ 5,000 คน ไปยังพื้นที่ปลอดภัย

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังขาดแคลนเรือ และขาดกำลังพลในการเคลื่อนย้ายนักโทษ เร่งประสานขอเครื่องมือและกำลังพลในการเคลื่อนย้ายนักโทษแล้ว

ถนนสายเอเชียมุ่งหน้า จ.นครสวรรค์ น้ำล้นทะลักท่วมพื้นถนน ส่งผลให้การจราจรเป็นอัมพาต


“สมิทธ” พยากรณ์ สิ้นเดือน ต.ค. น้ำลดลง

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัดเวลานี้ เป็นไปตามที่เคยได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ซึ่งในส่วนของภาคเหนือจะค่อยๆ คลี่คลาย เพราะว่าอิทธิพลของมรสุมจะลดน้อยลงภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ แต่ในส่วนของภาคกลาง การระบายน้ำลงทะเล ยังค่อนข้างลำบาก เพราะช่วงปลายเดือนนี้ น้ำทะเลจะกลับมาหนุนสูงอีกครั้ง

พร้อมกันนี้ ยังมีการคาดหมายว่า จะมีพายุเข้ามาอีก 1-2 ลูก ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ แต่จะเข้าที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยเหมือนกับ ที่เข้าสงขลา เมื่อปีก่อน และจะทำให้มีฝนตกหนัก และอาจจะท่วมภาคใต้ได้อีก ในช่วงเวลาตั้งแต่กลางเดือนนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน ส่วนอีกฝั่งต้องระวังสึนามิด้วย

น้ำท่วมทะลัก พังแนวป้องกันน้ำ “ชุมชนวัดไทร”

น้ำได้บ่าทะลักเข้าท่วมชุมชนวัดไทร จ.นครสวรรค์ โดยที่ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว แนวป้องกันน้ำถูกน้ำเซาะพังตอนตี 2 วันนี้ ไม่มีใครขนของได้ทัน นายจิตตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์นำเจ้าหน้าที่เทศบาลเข้าไปซ่อมพนังกั้นน้ำ โดยมีชาวบ้านเข้ามาช่วยบริเวณน้ำท่วมอยู่แล้ว เนื่องจาก 2 วันก่อนพนังกั้นน้ำได้พังลงมาเป็นบริเวณกว้าง แม้จะซ่อมแซมได้แล้ว แต่ยังระบายน้ำออกไม่หมด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ จึงทำให้ระดับน้ำที่ท่วมชุมชนสูงขึ้นอีก ขณะนี้เทศบาลกำลังนำดินและหินคลุกเข้ามาเสริมให้พนังกั้นน้ำสูงขึ้นถึง 2 เมตรครึ่ง

ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำหลายครั้ง ทำให้ทางเขตเทศบาลนครนครสวรรค์ต้องเฝ้าระวังพนังกั้นน้ำทุกจุด เนื่องจากยังมีน้ำเหนือปริมาณมากที่ไหลลงมาต่อเนื่อง

จราจร แจ้งเลี่ยงใช้เส้นทาง ถนนวิภาวดีรังสิต

นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากปริมาณฝนตกหนักเมื่อคืน ถึง 126 มิลลิเมตร ในพื้นที่หลักสี่ ทำให้น้ำท่วม โดยท่วม 14 จุด ซึ่งระบายหมดแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ เนื่องจากเครื่องระบายน้ำที่บางเขนเสีย 2 เครื่อง โดยเร่งเปลี่ยนเครื่องใหม่ คาดว่าใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงระบายน้ำหมด

ส่วนการจราจร พล.ต.อ.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ให้เลี่ยงใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิต แต่ให้ใช้ทางด่วนโทลล์เวย์ และถนนกําแพงเพชร 6 (โลคัลโรด) หรือเลี่ยงไปใช้ถนนพหลโยธิน เนื่องจากรถเริ่มติดขัดบริเวณแยกหลักสี่ และบนถนนวิภาวดีมีรถจอดเสียจำนวนมาก

ธปท. สั่งเลื่อนชำระสินเชื่อ มาตราการช่วยผู้ประสบภัย


นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า ธปท.สั่งธนาคารพาณิชย์ผ่อนคลายความเข้มงวดในการดูแลสินเชื่อ และการผ่อนชำระหนี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำท่วม ซึ่ง ธปท.พร้อมผ่อนคลายเกณฑ์ในการกำกับดูแลสถาบันการเงิน เพื่อสามารถช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้น โดยศึกษาต่อไปว่า เกณฑ์ใดของ ธปท.ที่จะสามารถผ่อนคลายให้ธนาคารพาณิชย์ได้

ทั้งนี้ จากการประเมินสภาพความเสียหายต่อเศรษฐกิจ จากสถานการณ์น้ำท่วม พบว่า มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 20,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นระดับความเสียหายที่ต่ำกว่าสถานการณ์น้ำท่วมในปี 2553 โดยมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 20,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีแรก สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ ขยายตัวมากกว่าร้อยละ 10 ส่วนในปี 2555 คาดการณ์ว่า สินเชื่อจะลดลง เพราะเป็นเรื่องปกติ ที่อัตราการขยายตัวสินเชื่อสอดคล้องกับการขยายตัวเศรษฐกิจโดยรวม

 

รถติดหนึบถนนวิภาวดีช่วงหลักสี่ถึงบางเขนขาเข้า หลังเครื่องสูบน้ำเสีย



สภาพการจราจรในช่วงเช้าวันนี้ บริเวณถนนวิภาวดีช่วงหลักสี่ถึงบางเขนขาเข้า การจราจรเป็นไปอย่างติดขัด หลังจากที่น้ำท่วมขังตั้งแต่เมื่อคืน เนื่องจากเครื่องสูบน้ำเสีย (ภาพ : ศูนย์ภาพเนชั่น)

--------------------------

เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วม ตรวจสอบสภาพภูมิอากาศ ติดตามปัญหาจราจร ตลอด 24 ชม. ได้ที่ สถานีข่าวระวังภัย เครือข่ายเพื่อชุมชน
http://www.rawangpai.com/home/

 

ลำปาง-อ.พริกยังอ่วม! บ้านกว่าพันหลังจมน้ำ ข่าวต่างประเทศ ข่าวอาชญากรรม ข่าวสังคม ข่าวเศร��

6 ต.ค. 54

ลำปาง-อ.พริกยังอ่วม! บ้านกว่าพันหลังจมน้ำ




ลำปาง-อ.พริกยังอ่วม! บ้านกว่าพันหลังจมน้ำ

น้ำวังที่ไหลเชี่ยวกรากส่งผลทำกระสอบทรายพัง และน้ำวังเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอีก 2 หมู่บ้าน มีน้ำท่วมเพิ่มอีก 300 หลัง รวมน้ำท่วมที่ อ.แม่พริก แล้ว 1,400 หลัง สูง 1.50 เมตร และขณะนี้ทรายที่จะนำมาใช้บรรจุทำกระสอบทรายขาดแคลนอย่างหนัก

เวลา 09.30 น.(6 ต.ค) สถานการณ์ น้ำท่วมที่ อ.แม่พริก จ.ลำปาง ยังอยู่ในขั้นวิกฤตอีก หลังน้ำวังที่ไหลเฉี่ยวกรากไหลทะลัก เข้าท่วมในพื้นที่ ต.แม่พริก ต.แม่ปุ ต.พระบาทวังตวง จากเดิมวานนี้(5 ต.ค) น้ำวังได้ท่วมทะลักมีพื้นที่ 3 ตำบล ซึ่งมีบ้านเรือนประชาชน จำนวน 1,100 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วม ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า น้ำวังที่ไหลเฉี่ยวกรากนั้น ทำกระสอบทรายที่ชาวบ้านได้ นำมากั้นทางน้ำวังได้พังทลายลง จากนั้นไหลทะลักเข้าท่วมบ้านท่าด่าน และบ้านแม่เชียงรายลุ่ม ต.แม่พริก จ.ลำปาง ซึ่งมีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมเพิ่มขึ้นอีก 300 หลัง น้ำวังสูงกว่า 1.50 เมตร ส่วนใน อ.แม่พริก ขณะนี้มีบ้านเรือนจำนวน มากกว่า 1,400 หลังคาเรือนเสียหายจากการถูกน้ำวังเข้าท่วม

ด้านนายสุวรรณ กล่าวสุนทร รองผู้ว่าราชการ จ.ลำปาง นำถุงยังชีพออกแจกจ่ายให้กับประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่บ้านวังผา หมู่ที่ 5 ตำบลแม่ปุ อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง

ส่วน นายสุรพล บุรินทราพันธ์ นายอำเภอแม่พริก จ.ลำปาง เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.แม่พริกถือว่ายังคงวิกฤต และหนักมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ขณะที่ทรายที่จะนำมาใช้บรรจุทรายเพื่อทำกระสอบทรายตอนนี้ถือว่าเริ่มขาดแคลนอย่างหนัก

ส่วนที่ รร.บ้านต้นธงก็ถูกน้ำท่วม และทางโรงเรียนก็ได้ประกาศหยุดเรียนต่อไปอีก 2 วันคาดว่า หากน้ำลดลง วันจันทร์ที่ 9 ต.คนี้ อาจจะได้เปิดการเรียนการสอนให้กับเด็กนักเรียนได้ตามปกติแต่ต้องรอประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง