WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 24 เมษายน 2011.

  1. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    อาหารช่วยน้ำท่วม กินอย่างไรให้ปลอดภัย

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 ตุลาคม 2554 02:17 น.

    [​IMG]

    เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนกับคนไทยอย่างมากมาย พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมก็แผ่วงกว้างขึ้นเรื่อยๆ แต่คนไทยเราก็ยังคงมีน้ำจิตน้ำใจให้แก่กัน ด้วยการบริจาคของที่จำเป็นให้แก่ผู้ประสบภัย โดยเฉพาะอาหารการกินซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขก็ออกมาให้คำแนะนำในเรื่องของอาหารที่จะส่งไปช่วยผู้ประสบภัย ดังนี้

    หากเป็นไปได้ก็ควรประกอบอาหารแล้วนำไปแจกจ่ายในจุดอพยพจะเป็นการดีที่สุด เนื่องจากจะได้กินอาหารที่สุก ใหม่ สะอาด ส่วนการนำอาหารปรุงสำเร็จแล้วใส่กล่องเพื่อนำไปแจกจ่ายในจุดอื่นๆ ควรแยกข้าวและกับข้าวออกจากกัน อาจจะแยกกับข้าวใส่ถุงพลาสติกไว้ต่างหาก เพื่อไม่ให้อาหารเสียเร็ว และไม่ควรเก็บอาหารปรุงสำเร็จไว้นานเกิน 4-6 ชั่วโมง

    ส่วนกับข้าวนั้นควรเลือกอาหารที่ไม่บูดง่าย ไม่ใส่กะทิ หรืออาจจะเลือกเป็นอาหารแห้ง เช่น ไข่ต้ม ไข่เค็ม น้ำพริกต่างๆ กุนเชียงทอด หมูทอด หมูแผ่น ข้าวเหนียวนึ่ง ขนมปังกรอบ เป็นต้น เพราะจะเก็บไว้กินได้หลายวัน ไม่เน่าเสียง่าย ส่วนขนมปังทั่วไปนั้นควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากเป็นอาหารที่มีอายุสั้นและขึ้นราง่าย หากกินโดยไม่ได้สังเกตราก่อนก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

    นอกจากนี้ อาจจะแจกผลไม้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กล้วย ส้ม ฝรั่ง ชมพู่ หรือผลไม้ที่ไม่เน่าเสียง่าย รวมไปถึงนมกล่องยูเอชที จะช่วยให้ผู้ประสบภัยได้รับสารอาหาร วิตามิน และเกลือแร่ต่างๆ ครบถ้วน ซึ่งจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันโรค ไม่ให้เจ็บป่วยง่าย

    สำหรับอาหารกระป๋อง เมื่อผู้ประสบภัยได้รับอาหารกระป๋องมาแล้วก็ควรดูวันผลิต วันหมดอายุ สังเกตสภาพของกระป๋องให้อยู่ในสภาพดี ไม่บุบ ไม่ยุบ บวม หรือพอง และเมื่อเปิดกระป๋องแล้วก็ให้สังเกตอาหารภายในกระป๋องว่าอยู่ในสภาพปกติตามที่ควรจะเป็นหรือไม่ มีกลิ่น มีสี หรือรสชาติที่แปลกไปหรือไม่

    เรื่องอื่นๆ เช่น น้ำดื่ม ควรดื่มน้ำที่สะอาด หรือผ่านการต้มให้เดือดมาแล้ว นอกจากนี้ก็ควรดูแลสุขภาพกายและจิตใจของตนเองด้วย เพื่อป้องกันการเกิดโรคภัยจากน้ำท่วม

    สุดท้าย “108 เคล็ดกิน” ขอส่งกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยทุกคนให้ผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัย


    วิธีวางกระสอบทรายให้ถูกต้องป้องกันแนวกั้นพังระหว่างน้ำท่วม

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กันยายน 2554 20:20 น.

    [​IMG]


    แนวกระสอบทรายซึ่งวางก่อเป็นรูปสามเหลี่ยมปิรามิด ให้่ฐานกว้างกว่าความสูง 3 เท่า และในขั้นสุดท้ายให้วางแผ่นพลาสติกทับโดยไม่ให้ตึงเกินไป แล้ววางกระสอบทรายทับปลายแผ่นพลาสติกทั้ง 2 ด้าน

    พี่น้องชาวไทยในหลายพื้นที่กำลังเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม และเมื่อเกิดภัยธรรมชาติเช่นนี้เราจะได้เห็นการระดมกำลังสร้างแนวกระสอบทรายขึ้นมาเป็นคันน้ำ แต่หลายครั้งที่ปราการป้องน้ำท่วมที่สร้างขึ้นมานั้นพังทลายลงและทำให้กระแสน้ำไหลบ่าสร้างความเสียหายอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้อ่านที่ห่วงใยปัญหาของเพื่อนร่วมชาติขณะนี้ได้สอบถามมายังทีมข่าววิทยาศาตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า มีวิธีวางกระสอบทรายที่ถูกต้องเพื่อป้องกันคันกั้นน้ำถล่มหรือไม่

    ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ได้สืบค้นและพบข้อมูลแนะนำวิธีการวางกระสอบทรายของมหาวิทยาลัยนอร์ธ ดาโกตา สเตท (North Dakota State University) สหรัฐฯ ซึ่งระบุไว้ว่าการวางกระสอบทรายที่ไม่ถูกวิธีจะทำให้คันกั้นน้ำพังทรายลงได้ โดยกระสอบทรายที่นำมาใช้นั้นควรเติมทรายให้มีปริมาตรครึ่งหนึ่งของขนาดกระสอบทรายและให้มีน้ำหนักอยู่ระหว่าง 15-18 กิโลกรัม เพื่อสะดวกต่อการขนย้าย

    ส่วนทำเลสำหรับวางกระสอบทรายควรเป็นทำเลที่ช่วยให้เราวางแนวกั้นได้สั้นและเตี้ยที่สุด ซึ่งช่วยประหยัดการใช้กระสอบทรายได้ และต้องระวังสิ่งกีดขวางที่จะทำลายคันกั้นน้ำ อีกทั้งอย่าทำแนวกั้นพิงผนังสิ่งกอ่สร้าง เพราะจะเกิดแรงจากแนวกระสอบทรายกระทำต่อผนังสิ่งก่อสร้างได้ และควรทิ้งระยะห่างระหว่างคั้นกั้นน้ำกับสิ่งก่อสร้างประมาณ 2.5 เมตร เพื่อให้เราสังเกตเห็นการรั่วซึมของคันกั้นน้ำ และยังเป็นพื้นที่ให้เราวิดน้ำที่รั่วซึมออกมาหรือใช้เพื่อกิจกรรมอื่นๆ

    เนื่องจากการเสียดสีระหว่างกระสอบทรายช่วยป้องกันการลื่นไถลของคันกั้นน้ำ ดังนั้น เราต้องทำให้เกิดการยึดกันอย่างดีระหว่างพื้นดินและคันกั้นน้ำ ระวังอย่าให้มีการไหลของน้ำใต้แนวคันกั้นน้ำ เคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆ ที่จะทำให้เกิดการลื่นไถล ถ้าคันกั้นน้ำสูงกว่า 1 เมตร ให้ขุดคูตรงแนววางกระสอบทราบเพื่อให้เกิดความมั่นคงระหว่างแนวกระสอบทรายและพื้นดิน โดยคูดังกล่าวนั้นควรลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 45- 60 เซนติเมตร หรือเป็นความลึกประมาณความหนาของกระสอบทราย 1 กระสอบ และกว้างเท่ากระสอบทราย 2 กระสอบ

    ความสูงของแนวกระสอบทรายควรสูงกว่าระดับน้ำประมาณ 1 ฟุต โดยความกว้างของฐานคันกั้นน้ำนั้นควรมากกว่าความสูงของคันกั้นน้ำ 3 เท่า เช่น คันกั้นน้ำสูง 1 เมตร ฐานควรกว้าง 3 เมตร เป็นต้น ทั้งนี้ จากการคำนวณเมื่อใช้กระสอบทรายที่หนา 10 เซนติเมตร กว้าง 25 เซนติเมตร และยาว 35 เซนติเมตรนั้น ทุกความยาว 30 เซนติเมตรของแนวกั้นจะใช้กระสอบทราย 1 กระสอบ และทุกๆ ความสูงของแนวกั้น 30 เซนติเมตรต้องใช้กระสอบทราย 3 กระสอบ และทุกๆ ความกว้างของแนวกั้น 80 เซนติเมตรต้องใช้กระสอบทราย 3 กระสอบ

    หรือใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อคำนวณหาจำนวนกระสอบทรายที่ต้องใช้ทุกๆ ความยาว 1 ฟุต (เมื่อวัดความสูงเป็นหน่วยฟุต)
    ดังนี้

    จำนวนกระสอบทราย = {(3 x ความสูงคันกั้นน้ำ) + (9 x ความสูงคันกั้นน้ำx ความสูงคันกั้นน้ำ)} / 2

    ตัวอย่างเช่น

    มื่อใช้กระสอบทรายหนา 10 เซนติเมตร กว้าง 25 เซนติเมตร และยาว 35 เซนติเมตร สร้างคันกั้นน้ำสูง 3 ฟุต (ทุกๆ ความยาว 1 ฟุต ฐานกว้าง 3 ฟุต)
    ต้องใช้กระสอบทราย = {(3X3) + (9X3X3)} /2 = 45 กระสอบ
    หรือ ตัวอย่างที่ได้คำนวณแล้วทุกความยาวแนวคันกั้นน้ำ 100 ฟุต จะใช้จำนวนกระสอบทราย ดังนี้
    คันกั้นน้ำสูง 1 ฟุต ใช้กระสอบทราย 600 กระสอบ
    คันกั้นน้ำสูง 2 ฟุต ใช้กระสอบทราย 2,100 กระสอบ
    คันกั้นน้ำสูง 3 ฟุต ใช้กระสอบทราย 4,500 กระสอบ
    คันกั้นน้ำสูง 4 ฟุต ใช้กระสอบทราย 7,800 กระสอบ

    เมื่อทราบจำนวนกระสอบทรายที่ต้องใช้แล้วก็มาถึงการวางกระสอบทราย ทั้งนี้ ต้องให้คันกั้นน้ำขนานไปกับทิศทางการไหลของน้ำ และวิธีวางกระสอบทรายคือวางกระสอบทรายทับบริเวณที่ไม่ได้เติมทรายของอีกกระสอบทรายให้สนิทเป็นแนวเช่นนี้ไปเรื่อยๆ และให้ปากกระสอบหันในทิศทางตรงข้ามกับกระแสน้ำ แล้วขึ้นไปเดินบนกระสอบทรายในชั้นที่วางเสร็จเพื่อให้แนวกั้นน้ำหนาแน่นและมั่นคง ส่วนชั้นต่อมาให้วางกระสอบทับรอยต่อของกระสอบชั้นล่างและใหเชั้นล่างเหลือพื้นที่โผล่ออกมาประมาณครึ่งกระสอบ

    หลังจากเรียงกระสอบสอบทรายจนได้เป็นคันกั้นน้ำแล้ว ให้หาแผ่นพลาสติกมาวางทับแนวกั้นน้ำแล้วใช้กระสอบทรายวางทับที่ปลายแผ่นพลาสติกทั้งสองด้าน และอย่าให้แผ่นพลาสติกตึงเกินไป เพราะแรงกระแทกของน้ำจะทำลายแนวกั้นได้ นอกจากนี้ยังต้องระวังไม่ให้พลาสติกเป็นรูหรือถูกเจาะจากของมีคมด้วย


    [​IMG]

    วางกระสอบทรายซ้อนทับแบบสับหว่าง และขุดตรงกลางฐานล่างให้ลึกประมาณความหนา 1 กระสอบ และกว้างประมาณ 2 กระสอบ เพื่อความมั่นคง

    [​IMG]

    วิธีวางกระสอบทรายให้ทับอีกกระสอบในส่วนที่ไม่ได้เติมทราย แล้วให้หันด้านปากกระสอบทรายไปในทิศตรงข้ามการไหลของกระแสน้ำ

    http://pics.manager.co.th/Images/554000012548704.JPEG
    [​IMG]

    ลักษณะการวางกระสอบทรายฐานล่างให้วางสับหว่างกัน

    [​IMG]

    วิธีวางกระสอบทรายชั้นบนทับชั้นล่าง ให้ฐานล่างโผล่ออกมาประมาณครึ่งกระสอบ

    [​IMG]

    เปรียบเทียบสัดส่วนความสูงและความกว้่างของฐานแนวคันกั้นน้ำ

    [​IMG]


    เติมทรายลงกระสอบประมาณครึ่งกระสอบ

    ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมชาติที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ และขอให้ทุกคนปลอดภัยจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้
     
  2. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    "เทคนิคการขับรถลุยน้ำในลักษณะต่างๆ "

    โดย Thailand International Motor Expo เมื่อ 7 ตุลาคม 2011 เวลา 11:40น.

    [​IMG]

    ช่วงนี้ทั่วทุกภาคของประเทศกำลังรับมือกับน้ำท่วมสูง จนได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน และพยายามนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาฝากกัน..วันนี้นำเรื่อง"เทคนิคการขับรถลุยน้ำ"มาฝาก

    1. การขับรถเมื่อฝนตกหรือถนนลื่น จำเป็นต้องระวังเป็นอย่างมากขณะฝนตกใหม่ๆ ถนนจะลื่นมาก เพราะน้ำฝนฝุ่นโคลน จะรวมกันกลายเป็นฟิล์มรองรับระหว่างยางกับพื้นถนนรถจะเกิดการลื่นเสียหลักเมื่อวิ่งผ่านหากขับรถฝ่าสายฝนต้องลดความเร็วลงให้มากกว่าปกติ ควรใช้เกียร์ต่ำกว่าปกติ1 เกียร์จะทำให้รถเกาะจับถนนไดดีขึ้นขณะขับรถให้เปิดไฟหรี่หรือไฟใหม่ตามแต่สถานการณ์ การเปิดไฟจะช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นเราควรหลีกเลี่ยงการเบรกอย่างรุนแรงและกะทันหักจะทำให้รถลื่นไถลหรือหมุนกลางถนนได้ถ้ารถเริ่มเสียหลักให้ผู้ขับขี่ถอนคันเร่งจะทำให้รถเกาะขับถนนได้ดีรถวิ่งผ่านแอ่งน้ำ ให้ยกเท้าออกจากคันเร่งโดยทันที อย่าเบรกอย่าหักพวงมาลัย จับพวงมาลัยให้แน่นเมื่อรถลดความเร็วลงหรือผ่านแอ่งน้ำไปแล้ว รถก็จะเริ่มจับเกาะถนนได้และก็สามารถควบคุมได้

    2. ระดับน้ำท่วมผิวถนน คือระดับความลึกของน้ำประมาณไม่เกิน 6 นิ้ว ไม่มีผลต่อรถของเราส่วนที่จมน้ำจึงมีเพียงลูกหมากและบูชยางของระบบรองรับและระบบบังคับเลี้ยวเท่านั้นชิ้นส่วนเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้แช่น้ำชั่วคาวได้โดยไม่เกิดความเสียหายสิ่งสำคัญที่สุด คือ การรักษาระดับความเร็วของรถโดยขับให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้น้ำที่ถูกล้อรถรีดด้วยความเร็วจะทะลักพุ่งออกมาทางด้านข้างอย่างแรงฉีดไปที่ห้องเครื่องยนต์ อาจทำให้กระแสไฟจุดระดับลัดวงจร และเครื่องดับหรือไม่ก็ฉีดไปบนห้องเกียร์และเล็ดลอดเข้าไปภายในทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพได้

    3. ระดับที่ผิวน้ำสูงถึงท้องรถเป็นครั้งคราวขณะขับรถจะได้ยินเสียงน้ำกระทบท้องรถค่อนข้างดังควรขับให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลีกเลี่ยงการตกหลุมที่มองไม่เห็นโดยสังเกตจากรถคันหน้าและพยายามจำแนวไว้ ความลึกระดับนี้จานเบรกจะจมอยู่ในน้ำตลอดเวลา รถที่ใช้ ?ดรัมเบรก?ประสิทธิภาพการทำงานจะลดลงอย่างมาก หากพ้นช่วงน้ำท่วมจะต้องทดสอบเบรกทันทีโดยการเบรกและเร่งความเร็วสลับกันไป เพื่อให้ผ้าเบรกรีดน้ำจากจานเบรกและเพื่อให้จากเบรก หรือดุมเบรกร้อนจนน้ำระเหยเป็นไอหมด

    4.ระดับที่น้ำท่วมเลยท้องรถ ไม่ว่าจะขับช้าเพียงใดน้ำก็อาจจะทักลักท่วมห้องเกียร์และเฟืองท้าย (รถขับเคลื่อนล้อหลัง)ผสมกับน้ำมันเกียร์ และน้ำมันเฟืองท้าย ทำให้เสื่อมสภาพฟันเฟืองต่างๆภายในจะสึกหรออย่างรวดเร็วเนื่องจากน้ำใต้ท้องรถจะแทรกซึมเข้ามาทางจุกยางหลายจุดจากพื้นรถพรมและฉนวนกันเสียงจะชุ่ม หากเจ้าของรถไม่รีบรื้อเก้าอี้และถอดออกมาผึ่งแดดรถบางรุ่นจะมีศูนย์ควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E C U)อยู่ใต้เก้าอี้ซึ่งชิ้นส่วนนี้มีราคาสูงมาก หากความชื้อเล็ดลอยเข้าไปจะชำรุดภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน ส่วนด้านห้ารถก็เกิดความเสียหายไม่น้อยเช่น ใบพัดของพัดลมระบายความร้อนหม้อน้ำ ซึ่งอยู่ด้านหลังของหม้อน้ำจะดูดน้ำจากด้านหน้าใบพัดซึ่งทำจากพลาสติก จึงงอไปทางด้านหน้าครูดกับรังผึ้งหม้อน้ำจนหักน้ำซึ่งถูกกันชนหน้ารถดันจนสูงอาจทะลักเข้าทางขั้วของโคมไฟหน้ากลายเป็นไอน้ำสะสมอยู่ภายในและจะทำลายผนังโคมที่ฉาบปรอทไว้ซึ่งจะทำให้หลุดล่อนในเวลาไม่นาน

    5.ระดับน้ำที่ท่วมจนถึงไฟหน้าเป็นระดับน้ำที่อันตรายที่สุดหากขับหรือจอดอยู่นานน้ำท่วมภายในห้องโดยสารจนถึงเบาะนั่งห้องเกียร์และเฟืองท้ายจะถูกท่วมมิด หากเครื่องยนต์ไม่ดับไปเสียก่อนเนื่องจากระบบจุดระเบิดขัดข้องและผู้ขับยังฝืนขับตด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ (โดยเฉพาะรถเครื่องยนต์ดีเซลจึงไม่ต้องอาศัยกระแสไฟจุดระเบิด) น้ำจะทักเข้าทางท่อดูดอากาศ ผ่านไส้กรองอากาศ ท่อไอดีและเข้าไปในกระบอกสูบลูกสูบที่กำลังเคลื่อนที่ขึ้นอย่างรวดเร็วจะกระแทกกับปริมาตรน้ำอย่างรุนแรง(ไฮดรอลิกลอค) จนลูกสูบและก้านสูบชำรุดทันที

    เพราะฉะนั้นระดับน้ำที่เรายังใช้งานได้โดยไม่เกิดความเสียหาย คือ ระดับน้ำท่วมผิวถนนและระดับที่ผิวน้ำสูงถึงท้องรถเป็นครั้งคราวเท่านั้นวิธีปฏิบัติตนที่ถูกต้องเมื่อต้องเผชิญกับถนนที่มีน้ำท่วมลึกจำเป็นต้องหลีกเลี่ยง โดยกลับรถเพื่อเปลี่ยนเส้นทางหรือหาที่จอดรถซึ่งน้ำท่วมไม่ถึงไว้ก่อนแล้วหายานพาหนะอื่นไปแทนเป็นการประหยัดค่าซ่อมรถได้มากทีเดียว ถึงแม้จะไม่ต้องจ่ายเงินค่าซ่อมเองก็ยังไม่คุ้มอยู่ดีเพราะเกิดความเสียหายอย่างต่อเนื่องมีมากชิ้นส่วนบางอย่างอาจชำรุดหลังจากโดนน้ำมาแล้ว 6 เดือนก็ได้

    หากมีปัญหาความนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์และน้ำมันเฟืองท้ายหลังจากลุยน้ำลึกมาทุกครั้งและให้เจ้าหน้าที่บริการถอดเก้าอี้และตรวจด้านล่างของพรมปูพื้นว่ามีน้ำรั่วเข้าถึงหรือไม่รถที่ลุยน้ำลึกมาแล้ว หากถึงที่หมายหรือรถพ้นน้ำห้ามดึงเบรกมือทิ้งไว้เด็ดขาดเพราะเมื่อน้ำแห้งผ้าเบรกจะยึดกับจานเบรกจะทำให้เกิดสนิมจนไม่สามารถเคลื่อนรถออกไปได้

    ที่มาำภาพ : Google
    ข้อมูล: เว็บบอร์ด พลังจิต ดอทคอม
    : เทคนิคขับรถลุยน้ำท่วมในลักษณะต่างๆ - มือใหม่หัดขับ ควรรู้ - ชุมชน Online ฮอนด้า ซิตี้ ทั่วไทย - Po
     
  3. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    มีนบุรี เร่งระบายน้ำ –หนองจอก เตรียมโรงเรียน 37 แห่ง รองรับผู้อพยพ

    เขตมีนบุรี เร่งระบายน้ำ ที่ประตูระบายน้ำคลองแสนแสบ ตอนถนนประชาร่วมใจ ซึ่งเป็นประตูระบายน้ำ หลักที่รับน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และ จ.ปทุมธานี โดยเร่งระบายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในคลองมีปริมาณสูงขึ้น ซึ่งเป็นน้ำฝนตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน ขณะที่ประชาชนเรียบคลองเก็บข้าวขึ้นที่สูงบ้างแล้ว ขณะที่ นายภิญโญ ปิ่นแก้ว ผู้อำนวยการเขตหนองจอก เปิดเผยว่า ขณะนี้มีปริมาณน้ำมากขึ้น ทำให้เอ่อเข้าท่วมชุมชนที่อยู่เรียบคลอง 9, 10, 12 และบริเวณถนนประชาสำราญ สูง 10 - 30 เซนติเมตร แต่ประชาชนยังสามารถใช้ถนนสัญจรไปมาได้ส่วนแผนการอพยพประชาชนนั้น ทางเขตหนองจอก ได้เตรียมโรงเรียนทั้งหมด 37 แห่ง เอาไว้แล้ว เพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราว หากเกิดสภาวะน้ำท่วมสูงและไม่สามารถจะอาศัยอยู่ที่บ้านได้
     
  4. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    โพลชี้คนกรุงยินดีให้ระบายน้ำเข้า"กทม." ไม่มั่นใจรัฐบาลรับมือน้ำท่วมได้

    [​IMG]

    โพลเผยคนกรุงไม่มั่นใจรัฐบาลรับมือน้ำท่วมได้ พร้อมยินดีให้ระบายน้ำเข้ากรุงเทพฯเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนคนต่างจังหวัด

    สวนดุสิตโพล รายงานว่า

    คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ 56.62% ไม่มั่นใจกับแนวทางการแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล เนื่องจากปริมาณน้ำมีมากเกินความคาดหมาย

    อีกทั้งพื้นที่ต่างๆ เองก็ไม่ได้เตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาดังกล่าว ขณะเดียวกันคนกรุงเทพฯ

    ส่วนใหญ่ 66.79% เห็นด้วยหากจะมีการระบายน้ำบางส่วนเข้ามาในพื้นที่เพื่อแบ่งเบาความเดือดร้อนของประชาชน

    ในต่างจังหวัดที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์อุทกภัยมาเป็นเวลานาน

    ขณะที่กรุงเทพฯ มีประตูระบายน้ำหลายแห่งที่จะช่วยระบายน้ำลงสู่ทะเล แต่อีก

    20.07% ไม่เห็นด้วยเพราะเห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด

    เนื่องจากกรุงเทพฯเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญ การดำเนินการดังกล่าวควรคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในด้านอื่นด้วย

    สำหรับแนวทางป้องกันความขัดแย้งที่มักเกิดขึ้นจากการใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลนั้น

    คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ 54.56% แนะให้ทุกคนใจเย็น อดทน อย่าใจร้อน วู่วาม และควรเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน

    โดยสิ่งที่คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ 33.38% กลัวและวิตกกังวล

    คือ บ้านจะถูกน้ำท่วม ทรัพย์สิน สิ่งของเครื่องใช้เสียหาย รองลงมา คือ กลัวอาหารและน้ำดื่มขาดแคลน

    สิ่งที่คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่อยากให้รัฐบาลดำเนินการ คือ การระดมความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนทั้งกำลังพล อาหาร น้ำดื่ม สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพ

    รองลงมาคือ เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมโดยเร็ว

    สั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการช่วยเหลือผู้ถูกน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน

    ส่วนสิ่งที่อยากให้เอกชนดำเนินการ คือ การระดมทุน บริจาคสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นพื้นฐานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

    ขณะที่อยากให้สื่อมวลชนรายงานสภาพน้ำท่วมในภาพรวมจากทุกภาคของประเทศอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

    เป็นศูนย์กลางในการกระจายข่าวสารที่ถูกต้องชัดเจน โดยสิ่งที่คนกรุงเทพฯ

    ส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นช่องทางในการเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม คือ การติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและมีสติ

    ทั้งนี้ สวนดุสิตโพลได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,380 คน

    ระหว่างวันที่ 4-8 ตุลาคมที่ผ่านมา

    http://www.siamrath.co.th/web/?q=โพลชี้คนกรุงยินดีให้ระบายน้ำเข้ากทม-ไม่มั่นใจรัฐบาลรับมือน้ำท่วมได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 ตุลาคม 2011
  5. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    น้ำท่วมทำคนเครียดพุ่งเกือบแสน

    [​IMG]

    ปัญหาวิกฤตอุทกภัยน้ำท่วม 23 จังหวัด ส่งผลกระทบรุงแรงต่อสภาพจิตใจของประชาชน หลังล่าสุดกระทรวงสาธารณสุข เผยตัวเลขความเครียดพุ่งสูงถึง 80,000 คน และพบประชาชนที่มีความเครียดหนักเสี่ยงฆ่าตัวตายสูงถึง 1,400 คน

    นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยถึงวิกฤตน้ำท่วมปีนี้รุนแรงถึงขึ้นส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของประชาชนเป็นอย่างมาก ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตล่าสุดยืนยันชัดเจนว่า เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ตัวเลขความเครียดพุ่งสูงกว่า 5 เท่า และจากวิกฤตน้ำท่วมที่เกิดขึ้นกว่า 1 เดือน มีตัวเลขของประชาชนที่ป่วยด้วยโรคเครียดสูงถึง 80,000 คน และพบประชาชนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า 4,000 คน พบผู้มีความเครียดสูง 3 พันคน และพบเสี่ยงฆ่าตัวตาย 1,400 คน ในจำนวนนี้ยังพบผู้ป่วย ต้องเฝ้าระวังอีก 1,000 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วง

    นายต่อพงษ์ ย้ำว่าสิ่งที่ทำในขณะนี้คือเร่งแบ่งทีมจิตแพทย์ในแต่ละจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ให้ลงพื้นที่สมทบดูแลรับผิดชอบแบ่งโซนทำงานใน 23 จังหวัดที่วิกฤตน้ำท่วม โดยเยียวยาผู้ป่วยที่มีความเครียดทุกคน ให้ได้รับการผ่อนคลาย และมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ต้องใช้ยาในการรักษาร่วมด้วย โดยเชื่อว่าหากฝนกระหน่ำซ้ำวิกฤตน้ำท่วมจะเพิ่มสูงขึ้น ประชาชนที่ป่วยเป็นโรคเครียดก็จะพุ่งตามขึ้นมาอีก จิตแพทย์จึงต้องทำงานหนัก และเปิดสายด่วนสุขภาพจิต 1667 ตลอด 24 ชั่วโมง

    http://www.krobkruakao.com/ข่าว/45719/น้ำท่วมทำคนเครียดพุ่งเกือบแสน.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 ตุลาคม 2011
  6. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    เตรียมเคลื่อนย้ายเสือโคร่งในฟาร์มจระเข้ที่อุทัยฯหนีน้ำ

    วันอาทิตย์ที่ 09 ตุลาคม 2011 เวลา 09:18 น.

    [​IMG]

    นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมทีมอาสาสมัครจากชมรมสัตวแพทย์สัตว์ป่าและสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบสภาพกรงเลี้ยงเสือโคร่งขนาดใหญ่ของฟาร์มจระเข้ จ.อุทัยธานี ที่เริ่มถูกน้ำเข้าท่วมกรงบางส่วน ซึ่งก่อนหน้านี้ มีเสือโคร่งติดเชื้อที่มากับน้ำท่วมตายไปแล้วจำนวน 3 ตัว


    ทั้งนี้ จากการประเมินเบื้องต้น ได้เตรียมย้ายเสือทั้งหมด 5 ตัว เช้าวันพรุ่งนี้(10 ต.ค.) โดยทีมสัตวแพทย์ต้องเป่าลูกดอกอาบยาสลบให้หมดสติก่อน จึงจะนำตัวออกมาใส่กรงเหล็กที่เตรียมไว้ เคลื่อนย้ายด้วยเรือท้องแบนไปขึ้นบก ทางถนนหมายเลข 333 ไปยังสถานที่ฝากเลี้ยง โดยต้องเร่งทำให้แล้วเสร็จก่อนที่เสือจะรู้สึกตัว เพื่อความปลอดภัยทั้งกับตัวสัตว์และทีมเคลื่อนย้าย ซึ่งนอกจากเสือโคร่งขนาดใหญ่ 5 ตัวแล้ว ที่ฟาร์มแห่งนี้ยังมีจระเข้ตกค้างอยู่ในฟาร์มอีกนับพันตัว ขณะที่ระดับน้ำท่วมเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
     
  7. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    เขื่อนน้ำอูน น้ำสูง 112 เปอร์เซ็นต์

    วันอาทิตย์ ที่ 09 ตุลาคม 2554 เวลา 11:19 น

    [​IMG]

    เตือนชาวบ้านท้ายเขื่อนระวังน้ำท่วมฉับพลัน กลุ่มผู้เลี้ยงปลาเทขาย ราคาถูกเกรงหมดตัว

    วันนี้( 9 ต.ค. )นายเสน่ห์ แก้วบุญเรือง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำอูน จ.สกลนคร กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนน้ำอูน ขณะนี้มีปริมาณน้ำในอ่างประมาณ 582.960 ล้าน ลบ.ม.หรือ 112.11% ของความจุ โดยพบว่าปีนี้ปริมาณน้ำมีมากว่าปีที่ผ่านมาเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทำให้น้ำส่วนที่เกินความจุของอ่างไหลผ่าน อาคารระบายน้ำล้นประมาณวันนะ 41.750 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีหรือประมาณวันละ 3.60 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะส่งผลให้ลำนำอูน ตั้งแต่ท้ายเขื่อน มีปริมาณน้ำสูงขึ้น และได้แจ้งให้ราษฎรที่มีบ้านเรือนอยู่รินน้ำอูนให้ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันในระยะนี้ด้วย

    ส่วนที่ลำน้ำอูน ช่วงบ้านพอกน้อย อ.พรรณนานิคม จ.สกลนคร เกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชัง ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 500 กระชัง ได้เร่งจับปลาในกระชังออกมาขายทั้งหมดแล้ว แม้ว่าจะไม่อยู่ในช่วงเจริญเติบเต็มวัยก็ตาม เนื่องจากเกรงว่า ถ้าปริมาณน้ำสูงมากว่านี้จะส่งผลให้ปลาหลุดหายไปจากกระชัง และจะประสบปัญหาการขาดทุน โดยเทขายกิโลละ 50 บาท จากเดิมที่ต้องขายกิโลละ 120 -150 บาท.

    [​IMG]
     
  8. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    แผนกทม.ดันน้ำเจ้าพระยา'ตอ.ผ่านแสนแสบ-ตต.ผ่านมหาสวัสดิ์'

    [​IMG]

    กทม.เปิดเผยแผนเร่งระบายน้ำสองฝั่งเจ้าพระยา ฝั่งตะวันออก ใช้คลองแสนแสบรับน้ำเจ้าพระยา-รังสิต ก่อนสูบออกพระโขนง ส่วนฝั่งตะวันตกระบายเข้าคลองมหาสวัสดิ์ผ่านแม่น้ำนครชัยศรี


    โดยยืนยันน้ำเหนือขณะนี้ยังอยู่ในแนวป้องกันน้ำท่วม โดยยังไม่ล้นเข้ามาพื้นที่ชั้นในกรุงเทพฯ ซึ่งน้ำเหนือที่มาจาก จ.อยุธยา เจ้าหน้าที่ก็ได้เปิดประตูระบายน้ำที่คลองแสนแสบ มีนบุรี ประเวศ และลาดกระบัง และออกอุโมงค์ยักษ์ที่สถานีสูบน้ำพระโขนง ขณะเดียวกัน ก็ระบายน้ำผ่านคลองผดุงกรุงเกษม คลองมหานาค และลงคลองแสนแสบ เข้าอุโมงค์ยักษ์ก่อนลงแม่น้ำเจ้าพระยา

    ส่วนฝั่งตะวันตกนั้น ระบายผ่านคลองมหาสวัสดิ์เชื่อมคลองบางกอกน้อย เชื่อมแม่น้ำนครชัยศรี ผ่านคลองทวีวัฒนา คลองภาษีเจริญ เข้าโครงการแก้มลิงที่คลองสนามไชย มหาชัย และน้ำอีกส่วนก็จะระบายผ่านสถานีสูบน้ำบางกอกใหญ่ คลองชักพระ คลองมอญ สูบออกแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งยืนยันพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ ยังไม่มีปัญหาอะไร

    นายสัญญา ชินนิมิตร ผอ.สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึง การรับมือน้ำท่วมในกรุงเทพมหานคร ว่า ขณะนี้ พื้นที่กรุงเทพมหานครสถานการณ์ยังเป็นปกติ ซึ่งน้ำที่ท่วม ถ.ลาดพร้าว และ ถ.รัชดาภิเษก เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (8 ต.ค.) นั้น เนื่องจากขณะนี้ ก็มีหย่อมความกดอากาศต่ำที่ผ่านกรุงเทพฯ ทำให้มีฝนตก อีกทั้งมีน้ำหนุนและน้ำขัง แต่ กทม.ก็สามารถระบายออกไปได้

    ส่วนน้ำเหนือ ขณะนี้ยังอยู่ในแนวป้องกันน้ำท่วม โดยยังไม่ล้นเข้ามาพื้นที่ชั้นในกรุงเทพฯ ซึ่งน้ำเหนือที่มาจาก จ.อยุธยา เจ้าหน้าที่ก็ได้เปิดประตูระบายน้ำที่คลองแสนแสบ มีนบุรี ประเวศ และลาดกระบัง และออกอุโมงค์ยักษ์ที่สถานีสูบน้ำพระโขนง

    ขณะเดียวกัน ก็ระบายน้ำผ่านคลองผดุงกรุงเกษม คลองมหานาค และลงคลองแสนแสบ เข้าอุโมงค์ยักษ์ก่อนลงแม่น้ำเจ้าพระยา

    ส่วนฝั่งตะวันตกนั้น ระบายผ่านคลองมหาสวัสดิ์เชื่อมคลองบางกอกน้อย เชื่อมแม่น้ำนครชัยศรี ผ่านคลองทวีวัฒนา คลองภาษีเจริญ เข้าโครงการแก้มลิงที่คลองสนามไชย มหาชัย และน้ำอีกส่วนก็จะระบายผ่านสถานีสูบน้ำบางกอกใหญ่ คลองชักพระ คลองมอญ สูบออกแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งยืนยันพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ ยังไม่มีปัญหาอะไร

    ด้านนายสมจิตร คะเนวรรณ เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมป้องกันระบบน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม. ว่า ศูนย์ควบคุมป้องกันระบบน้ำท่วม จะเป็นห้องที่มอนิเตอร์ข้อมูลทั้งหลายให้ผู้บริหาร โดยมีระบบเรดาร์ ระบบตรวจวัดฝน ระบบตรวจวัดน้ำในคลองสายหลัก โดยแต่ละจอจะมีข้อมูลต่างกัน ซึ่ง กทม.เฝ้าระวังริมแม่น้ำและคลองสายหลักทิศตะวันออกที่จะรับน้ำเหนือ ว่า ปริมาณน้ำที่จะเข้าในพื้นที่กรุงเทพฯ มีจำนวนเท่าใดที่จะไม่เดือดร้อน ส่วนฝั่งตะวันออกจะรับน้ำเข้ามาในคลองประเวศ คลองพระโขนง และคลองแสนแสบ ซึ่งเป้าหมายหลักเพื่อป้องกันกรุงเทพฯ ชั้นใน ตามความสามารถที่ทำได้ แต่จะต้องไม่เดือดร้อน

    สำหรับพื้นที่ริมเจ้าพระยาที่อยู่ในแนวคันกั้นน้ำไม่น่าห่วง การทำงานจะประสานกับกรมชลประทานในการติดตามข้อมูลระบายน้ำจากทางเหนือ และกรมอุตุนิยมวิทยา ที่จะติดตามสภาพอากาศ ซึ่งมั่นใจว่าน้ำเหนือจะไม่มีผลทำให้เกิดความเดือดร้อนน้ำขัง

    ทั้งนี้ กทม.ได้เปิดให้น้ำจาก จ.อยุธยา เข้าในพื้นที่ฝั่งตะวันออกได้เพียงคลอง 15-คลอง 17 ซึ่งน้ำจะอยู่นอกพื้นที่กรุงเทพฯ ติดกับพื้นที่ฝั่งตะวันออก โดยจะมีการระบายน้ำเข้าคลองพระองค์ไชยยานุชิต คลองประเวศบุรีรมย์ คลองแสนแสบ ลงแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานีสูบน้ำพระโขนง ขณะเดียวกัน จะระบายน้ำลงคลองสำโรง ออกแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานีสูบน้ำสำโรง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน น้ำที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจะไม่ล้นเข้าท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากยังมีแนวคันกั้นน้ำอีก 1 ชั้น คือ ถ.ร่มเกล้า ถ.หทัยราษฎร์ ถ.นิมิตรใหม่ และ ถ.กิ่งแก้ว ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน จะมีประตูระบายน้ำที่สถานีสูบน้ำเทเวศร์

    สำหรับสถานีสูบน้ำพระโขนง ที่น้ำจากหลายคลองไหลมารวมกันก่อนลงแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ขณะนี้ มีการเร่งระบายน้ำ 4 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยน้ำส่วนหนึ่งเป็นการระบายน้ำจากสถานที่รับน้ำที่บึงพระราม 9 ผ่านอุโมงค์ยักษ์ของ กทม. มายังสถานีสูบน้ำพระโขนง

    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำแนวป้องกันน้ำท่วมบริเวณคลองรังสิตที่ประตูระบายน้ำหลัก 6 เทศบาลตำบลหลัก 6 จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นจุดพื้นที่เชื่อมต่อระหว่าง จ.ปทุมธานี และกรุงเทพฯ โดยมีประตูระบายน้ำคลองเปรมใต้ที่ใช้ในการรับน้ำที่มาจาก จ.ปทุมธานี กั้นอยู่

    ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ขณะนี้ ระดับน้ำในคลองรังสิตมีปริมาณน้ำที่ค่อนข้างสูง วัดจากประตูระบายน้ำคลองเปรมใต้ อยู่ที่ประมาณ 1.80 เมตร ซึ่งหากฝั่งเทศบาลตำบลหลัก 6 ปทุมธานีไม่เสริมกระสอบทรายเพิ่มเติม น้ำจากคลองรังสิตก็อาจจะทะลักเข้าสู่เทศบาลตำบลหลัก 6 จ.ปทุมธานีและพื้นที่ใกล้เคียงใน กทม.ได้ ซึ่งสั่งให้นำกระสอบทรายมาเสริมเพิ่มเติมให้สูงถึง 80 เซนติเมตร ช่วงระหว่างคลองรังสิตฝั่งหลัก 6 เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าพื้นที่ดังกล่าว

    กทม.เตรียมอพยพ 13 ชุมชนนอกแนวกั้น

    สำหรับพื้นที่นอกแนวกั้นนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อสั่งการซักซ้อมแผนอพยพประชาชนพื้นที่ 13 เขตที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและ กทม.ฝั่งตะวันออก ในกรณีน้ำท่วมฉับพลัน ดังนี้

    พื้นที่ กทม.ฝั่งตะวันออก ประกอบด้วย เขตมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง และคลองสามวา ขณะที่ 13 เขตที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ได้แก่ 1.เขตบางซื่อ ได้แก่ ชุมชนพระราม 6 (ฝั่งติดแม่น้ำ) และชุมชนปากคลองบางเขนใหม่ 2. เขตดุสิต ได้แก่ ชุมชนเขียวไข่กา ชุมชนราชผาทับทิมร่วมใจ (เชิงสะพานกรุงธน) ชุมชนซอยสีคาม (ซอยสามเสน 19) ชุมชนปลายซอยมิตรคาม (ซอยสามเสน 13) และชุมชนวัดเทวราชกุญชร (ถนนศรีอยุธยา) 3.เขตพระนคร ได้แก่ ชุมชนท่าวัง ชุมชนท่าช้าง และชุมชนท่าเตียน

    4. เขตสัมพันธวงศ์ ได้แก่ ชุมชนวัดปทุมคงคา (ท่าน้ำสวัสดี) และชุมชนตลาดน้อย 5. เขตบางคอแหลม ได้แก่ ชุมชนวัดบางโคล่นอก ชุมชนหน้าวัดอินทร์บรรจง ชุมชนซอยมาตานุสรณ์ และชุมชนหลังโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ 6.เขตยานนาวา ได้แก่ ชุมชนโรงสี (ถนนพระราม 3) 7. เขตคลองเตย ได้แก่ ชุมชนสวนไทรริมคลองพระโขนง 8. เขตบางพลัด ได้แก่ ชุมชนวัดฉัตรแก้ว

    9. เขตบางกอกน้อย ได้แก่ ชุมชนสันติชนสงเคราะห์ ชุมชนปากคลองน้ำตาล-คลองพิณพาทย์ ชุมชนตรอกวังหลัง และชุมชนดุสิต-นิมิตรใหม่ 10.เขตธนบุรี ได้แก่ ชุมชนปากคลองบางกอกใหญ่ 11.เขตคลองสาน ได้แก่ ชุมชนเจริญนครซอย 29/2 12.เขตราษฎร์บูรณะ ได้แก่ ชุมชนดาวคะนอง และ 13.เขตทวีวัฒนา ได้แก่ ชุมชนวัดปุรณาวาส

    ศภช.เตือนน้ำล้นตลิ่ง 4 เขต กทม.ตะวันออก

    ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) แจ้งเตือนว่า ในระหว่างวันที่ 8-16 ตุลาคมนี้ สถานการณ์น้ำนอกเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น อาจเกิดน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่เขตมีนบุรี ลาดกระบัง หนองจอก และคลองสามวา ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุ

    ขณะนี้ ในพื้นที่ กทม. มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น อาจล้นตลิ่งเข้าท่วมบางพื้นที่ โดยเฉพาะคลองบางพรม (ถ.กาญจนาภิเษก) คลองฉิมพลี คลองบางแวก (พุทธมณฑลสาย 1) คลองบางแวก (ถ.รัชดาภิเษก) คลองเปรมประชากร (ดอนเมือง) คลองลาดพร้าว (วัดลาดพร้าว) ปากคลองตลาด คลองบางซื่อ (ฝั่งขวา ถ.พหลโยธิน) คลองมหาสวัสดิ์ (ทั้งสองฝั่ง ถ.พุทธมณฑลสาย 2) ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย และติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ไอซีที) อย่างใกล้ชิดต่อไป

    ถนนทางหลวง-ทางหลวงชนบทเสียหาย

    จังหวัด จำนวนเส้นทาง

    สุโขทัย 2

    พิจิตร 33

    พิษณุโลก 10

    ลำพูน 3

    นครสวรรค์ 30

    พระนครศรีอยุธยา 33

    สิงห์บุรี 14

    อ่างทอง 6

    ลพบุรี 19

    ชัยนาท 15

    อุทัยธานี 4

    สระบุรี 7

    สุพรรณบุรี 2

    ขอนแก่น 7

    มหาสารคาม 1

    เชียงใหม่ 5

    ตาก 3

    เพชรบูรณ์ 3

    ลำปาง 5

    กาฬสินธุ์ 3

    ชัยภูมิ 1

    ยโสธร 1

    นครพนม 3

    หนองบัวลำภู 1

    บุรีรัมย์ 1

    ร้อยเอ็ด 5

    ศรีสะเกษ 1

    อุดรธานี 1

    อำนาจเจริญ 1

    ฉะเชิงเทรา 1

    นครนายก 3

    ระยอง 1

    ภูเก็ต 1

    http://www.suthichaiyoon.com/detail/16580
     
  9. swkarantee

    swkarantee Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2010
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +63
    Daily News Online > ข่าวหน้า 1 > ลำปาง-ขนของหนีกลางดึก

    ลำปาง-ขนของหนีกลางดึก

    [​IMG]

    วันอาทิตย์ ที่ 09 ตุลาคม 2554 เวลา 11:46 น

    เหตุดินสไลด์ลงลำห้วยแม่ตั๊ก ลำปาง บ้าน 2 หลังแตกร้าว เผยเคยท่วมหนักมาแล้วหลังน้ำลดดินจึงอุ้มน้ำมาก

    วันนี้(9ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา ชาวบ้าน กว่า 40 คนได้ช่วยกันขนย้ายทรัพย์สินภายในบ้านพักเลขที่ 34 หมู่ 4 บ้านท่าหลวง ต.เถินบุรี อ.เถิน จ.ลำปาง ซึ่งเป็นบ้านของ นางสวัสดิ์ ปัญโญอายุ 47 ปี ขนย้ายไปเก็บที่บ้านญาติหลังเกิดเหตุ ดินตลิ่งริมห้วยหลังบ้าน ได้เกิดสไลด์ลงไปลำห้วยแม่ตั๊ก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำให้ยุ้งฉางข้าวสไลด์จมไปในลำห้วยมาแล้ว โดย ซึ่งเมื่อตรวจสอบสภาพบริเวณบ้านพบรอยแตกร้าวของผนังหลังบ้านทั้งภายใน และภายนอก รอบบ้านพัก

    ต่อมาเมื่อเวลา 08.00 น. ที่บ้านพักเลขที่ 10 ซึ่งเป็นบ้านพักของ นางจันทร์อ้ม กันทะวงศ์ อายุ 66 ปี ที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับบ้านของ นางสวัสดิ์ ได้เกิดทรุดตัวพังทลายสไลด์ลงไปในลำห้วยแม่ตั๊ก เช่นกัน จนชาวบ้านพากันแตกตื่นรีบวิ่งเข้าไปช่วยขนย้ายสิ่งของทรัพย์สินต่างๆ ภายในบ้านพักออกมา ทั้งนี้สภาพพื้นดินริมตลิ่ง 2 ฝั่งห้วยแม่ตั๊ก ซึ่งเป็นดินร่วนปนทราย ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 อยู่ในสภาพอุ้มน้ำ และมีน้ำไหลเซาะชั้นใต้ดินตลอดเวลา ประกอบกับก่อนหน้าที่น้ำห้วยแม่ตั๊กล้นตลิ่งเข้าท่วมหมู่บ้าน โดยระดับน้ำได้ลดลงเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ซึ่งเชื่อว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการทรุดตัวและสไลด์ของหน้าดินตามแนวตลิ่งเรียบสองฝั่งลำห้วย ซึ่งล่าสุดเทศบาลตำบลเถินบุรี ได้เข้าไปสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อเร่งหาทางแก้ไขแล้ว.
     
  10. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    ทะลักเมืองกาญจน์ น้ำป่าท่วมสวนเกษตรหนองไผ่ อีก40ซม.แม่น้ำชีล้น!!

    วันที่ 09/10/2554 11:48

    [​IMG]

    นายชูศักดิ์ ศรีสุขจร นายก อบต.หนองไผ่ อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 ต.ค. โดยระบุว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้รับการแจ้งจากเจ้าหน้าที่อ่างเก็บน้ำบ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ว่าจะมีการปล่อยน้ำลงสู่แม่น้ำภาชี เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเริ่มเอ่อล้น หลังได้รับแจ้งดังนั้นตนและเจ้าหน้าที่จึงได้ออกแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่สุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณเส้นทางของน้ำไหล และส่วนใหญ่จะเคยประสบปัญหาน้ำท่วมมาแล้วในทุกๆ ปี ซึ่งชาวบ้านส่วนหนึ่งได้เตรียมเก็บข้าวของขนย้ายขึ้นที่สูงเพื่อหนีน้ำ และบ้างบ้านก็ได้นำกระสอบทรายมาป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้าน ซึ่งในขณะนี้ชาวบ้านต่างเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยมีสถานีเฝ้าระวังและเตือนภัยพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่ม บ้านหินแด้น หมู่ที่3 เพื่อแจ้งเตือนประชาชนในจุดเสี่ยงดังกล่าว

    สำหรับสถานการณ์น้ำในปัจจุบันขณะนี้พบว่า น้ำได้ไหลเข้าท่วมไร่สวนเกษตรของประชาชนแล้วประมาณ 400-500 ไร่ โดยเฉพาะพื้นที่ หมู่ 1, 3, 4 และหมู่ 6 ส่วนใหญ่จะเป็นไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด ไร่มะละกอ และไร่มันฝรั่ง เป็นต้น แต่จากการสำรวจปริมาณน้ำที่ไหลเข้าท่วมถือว่ายังมีปริมาณที่ยังน้อย ไม่สามารถทำให้พืชเกษตรเสียหายได้ แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้พื้นที่ของหมู่ 3 ได้ถูกน้ำเข้าท่วมขังบริเวณถนนลูกรังซึ่งเป็นทางเข้าหมู่บ้านทำให้การสัญจรไป-มาเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งทาง อบต.จะเร่งทำการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป

    ทั้งนี้ ภายหลังจากที่อ่างเก็บน้ำบ้านคาได้ปล่อยน้ำลงสู่แม่น้ำภาชีตั้งแต่ช่วงค่ำของวานนี้ จากการตรวจสอบปริมาณน้ำในแม่น้ำภาชีปัจจุบันพบว่าขณะนี้ปริมาณน้ำสูง 4.60 เมตร เหลืออีกเพียง 40 เซนติเมตรน้ำก็จะเอ่อล้น เนื่องจากแม่น้ำภาชีสามารถรับน้ำได้เพียง 5 เมตรเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามเราได้ตรวจสอบไปยังเจ้าหน้าที่ของอ่างเก็บน้ำบ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี พบว่าขณะนี้ปริมาณน้ำได้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว และไม่มีการปล่อยน้ำลงมาอีกหลังจากทราบข่าวดังกล่าวทำให้ประชาชนรู้สึกคลายความกังวลใจ

    อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพื้นที่ตำบลหนองไผ่ทั้งหมด 6 หมู่บ้านมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ หากมีพายุฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะตกในพื้นที่อ่างเก็บน้ำบ้านคา บริเวณเทือกเขาตะนาวศรี หรือในพื้นที่ตำบลหนองไผ่เองน้ำก็จะไหลเข้าท่วมพื้นที่ทั้ง 6 หมู่บ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2011
  11. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    ลำปางประกาศ10อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ปชช.กว่า9หมื่นคนเดือดร้อน

    วันที่ 09/10/2554 11:49


    วันที่9ต.ค. ที่จ.ลำปาง จากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากจากอิทธิพลของพายุเนสาดนั้น นายสุวรรณ กล่าวสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง รักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ที่ผ่านมามีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าวจำนวน 10 อำเภอ 2 เทศบาล 52 ตำบล 241 หมู่บ้าน 46 ชุมชน มีราษฎรได้รับผลกระทบจำนวน 90,261 คน และ 29,512 ครัวเรือน

    ในการนี้ทางจ.ลำปางได้ประกาศให้พื้นที่ทั้ง 10 อำเภอ ประกอบด้วย เทศบาลนครลำปาง เทศบาลเมืองเขลางค์นคร อ.อำเภอ อ.ห้างฉัตร อ.เมืองปาน อ.แม่เมาะ อ.เสริมงาม อ.แม่ทะ อ.เมืองลำปาง อ.เกาะคา อ.แม่พริก อ.สบปราบ และ อ.เถิน เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมแล้ว โดยขณะนี้ อยู่ในระหว่างการเข้าไปเร่งฟื้นฟูและเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ที่สถานการณ์น้ำเริ่มคลี่คลาย
     
  12. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    <TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=5 width="91%" align=center><TBODY><TR><TD height=40 vAlign=bottom>[​IMG] ต้องการความช่วยเหลือ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=5 width="91%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc>[​IMG] [ 18:31 น. 8 ต.ค. 54] รพ.พระนครศรีอยุธยา ขออาหารน้ำดื่มสำหรับ800 คน ติดต่อ 089- 9012800 โดยคุณ Kitti3Miti </TD></TR></TBODY></TABLE><!--End Red Cross--><!--Red Cross--><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=5 width="91%" align=center><TBODY><TR><TD height=40 vAlign=bottom>[​IMG] ข้อมูลข่าวสาร</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=5 width="91%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc>[​IMG] [ 09:40 น. 9 ต.ค. 54] รมว.ICT ระบุให้ผู้ประสบภัยส่ง SMS ขอความช่วยเหลือร้องทุกข์ได้ที่ 4567892 ฟรีทุกเครือข่าย news1005fm </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    นักวิทย์เชื่อมนุษยชาติอาจสูญพันธ์ หากเกิดการชนระเบิดของสองดาวฤกษ์ ปล่อยรังสีแกมม่าคร่าล้างฯ

    วันที่ 09/10/2554 12:06


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ว่า ผลศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัย"วอชเบิร์น"ในรัฐแคนซัสของสหรัฐ เปิดเผยว่า การดำรงอยู่ของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตของโลก ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์การชนและระเบิดของดาวฤกษ์ 2 ดวง ที่จะก่อให้เกิดรังสีแกมม่า บริเวณนอกกาแล๊กซี่ โดยหากดาวฤกษ์ 2 ดวงดังกล่าวชนกันขึ้น ก็จะปล่อยรังสีแกมม่าพลังอานุภาพมหาศาลแรงหลายตันเข้าสู่จักรวาล และสามารถเข่นคร่ามนุษย์และสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ นอกจากนี้ การระเบิดดังกล่าวยังสามารถกลืนชั้นโอโซนของโลกได้ด้วย

    นอกจากนี้ ผลศึกษายังชี้ว่า รังสีดังกล่าวอาจเป็นสาเหตุของการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตของโลกในช่วงยุคดึกดำบรรพ์ด้วย

    ศาสตราจารย์ไบรอัน โธมัน หนึ่งในผู้ศึกษาเปิดเผยว่า เขาได้พบการระเบิดของรังสีแกมม่า ซึ่งเป็นการระเบิดช่วงสั้น ที่มีอิทธิพลกว่าการระเบิดช่วงนานกว่า และนับเป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์ได้เชื่อมโยงช่วงเวลาการระเบิดของรังสีแกมม่ากับการสูญพันธุ์บนโลกมนุษย์ ที่อาจย้อนไปถึงยุคฟอสซิลด้วย โดยการระเบิดของรังสีแกมม่าช่วงสั้นจะมีอานุภาพรุนแรงกว่าการระเบิดของรังสีแกมม่าช่วงนานกว่า และหากการระเบิดนี้เกิดขึ้นภายในเส้นทางช้างเผือก ก็จะกระทบต่อโลกครอบคลุมเป็นเวลาระยะยาว

    ทั้งนี้ สำหรับการชนของดาวฤกษ์ดังกล่าวประเมินว่า จะเกิดขึ้น 1 ครั้งในทุก 100 ล้านปีในห้วงกาแล๊กซี่
     
  14. vijit_j

    vijit_j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    739
    ค่าพลัง:
    +2,866


    เมื่อวาน มีผู้โทรร้องทุกข์ 1111 จำนวน 6 หมื่นกว่าสาย ไม่ทราบว่าเขาแก้ปัญหาให้ได้เท่าไร
     
  15. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    ทะเลเกาะเมืองกรุงเก่า หนักสุดเทียบกับปี 38

    วันที่ 09/10/2554 03:45

    [​IMG]



    สภาพน้ำท่วมเกาะเมืองกรุงเก่า โบราณสถานจมน้ำกลายเป็นทะเลขนาดย่อม ขณะที่นายกเทศมนตรีฯ ได้กล่าวขอโทษพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถต้านกระแสน้ำได้ นับเป็นวิกฤติที่หนักเมื่อเทียบกับปี 2538...

    เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากสถานการณ์น้ำที่ทะลักเข้าท่วมเกาะเมืองกรุงเก่า เมื่อตอน 04.00 น. ก่อนหน้าเทศบาลได้ใช้รถดับเพลิงประกาศกลางดึกว่า น้ำพังเข้าเกาะเมืองแล้ว ว่าที่ ร.ต. สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ได้กล่าวขอโทษประชาชน ทางคณะผู้บริหาร และผู้นำชุมชน ที่ไม่สามารถป้องกันได้ โดยทุกหน่วยงานได้ทำจนสุดความสามารถแล้วจำเป็นต้องยอมแพ้เพราะน้ำเข้าทุกจุด และในปีนี้หนักกว่าเมื่อปี 2538 ขณะที่พระนอนในบริเวณพระราชวังโบราณกระแสน้ำกำลังไหลเข้าท่วมแล้ว.
     
  16. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    'เนสาด'-'นาลแก'ผ่านพ้น แต่ปินส์ยังอ่วม ยอดตายพุ่ง 101 ศพ

    วันที่ 09/10/2554 12:30

    [​IMG]



    ฟิลิปปินส์ยังคงได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นเนสาด และไต้ฝุ่นนาลแก โดยความคืบหน้าล่าสุด พบผู้เสียชีวิตแล้ว 101 ราย และยังสูญหายอีก 27 คน...

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 9 ต.ค. ว่า สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของประเทศฟิลิปปินส์ ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดว่า หลังจากที่ประเทศถูกพายุไต้ฝุ่นสองลูกพัดถล่มพื้นที่ทางตอนเหนือของเกาะลูซอน ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่ ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 101 รายแล้ว โดยส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะจมน้ำ

    ไต้ฝุ่นเนสาดพัดเข้าชายฝั่งทางตะวันออกของเกาะลูซอน เมื่อวันที่ 27 ก.ย. และตามด้วยไต้ฝุ่นนาลแก ในวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งพายุทั้งสองลูกพัดผ่านพื้นที่ทางตอนเหนือของเกาะลูซอน โดยอิทธิพลของไต้ฝุ่นเนสาด ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในหลายจังหวัดทางตอนเหนือ และทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 82 ราย ขณะที่ไต่ฝุ่นนาลแก ซึ่งพัดเข้ามาอย่างต่อเนื่องก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 19 ราย ขณะที่ มีชาวบ้านอีก 27 คน ยังคงสูญหาย

    พายุทั้งสองลูกยังทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหายอย่างมาก คิดเป็นมูลค่า 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 8.5 พันล้านบาท จนเจ้าหน้าที่รัฐบาลต้องออกมาบอกว่า ในปีหน้า ฟิลิปปินส์อาจต้องนำเข้าข้าวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น
     
  17. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    เรด้า แสดงปริมาณน้ำฝน กทม.และปริมณฑล

    [​IMG]
     
  18. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คนสุโขทัยยังลำเค็ญ-บางหมู่บ้านจมบาดาลร่วมครึ่งปีแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>9 ตุลาคม 2554 11:26 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

    <SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT>

    <TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000128462&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>สุโขทัย - ชาวบ้านสุโขทัยบางหมู่บ้านสุดลำเค็ญ หลังบ้านเรือนจมบาดาลมานานเกือบครึ่งปีแล้ว แถมชื่อยังตกสำรวจ อดได้เงินชดเชยหลายครั้ง ขณะที่ท่องเที่ยวสุโขทัย สูญรายได้ 20 ล้านบาท

    สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจฝั่งตะวันตกของ อ.เมือง จ.สุโขทัย จนถึงวันนี้ (9 ต.ค.) ทั้งชาวบ้านและผู้ประกอบกิจการต่างๆ ยังคงได้รับความเดือดร้อนหนัก ส่วนถนนจรดวิถีถ่อง ตั้งแต่สี่แยกคลองโพธิ์ ไปจนถึงหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี รวมระยะทาง 6 กิโลเมตร ถูกน้ำท่วมสูง 80 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้

    ขณะที่ผู้ป่วยและประชาชนผู้ใช้บริการ รวมทั้งแพทย์และพยาบาล ที่ต้องเดินทางเข้าออกโรงพยาบาลสุโขทัย ต่างก็ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะการสัญจรไม่สะดวก และใช้เวลานานกว่าจะเดินทางถึง

    สำหรับชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 12 บ้านโพธิ์ทองพัฒนา 1 ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร จนเกือบมิดหลังคาบ้านนั้น กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม ทำให้ชาวบ้านหลายครอบครัวต้องพายเรือออกเก็บผักบุ้ง และผักกระเฉดมาต้มกินแทน

    นางสาวเมทินี วีระชาติ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 กล่าวว่า หมู่บ้านนี้มี 34 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมขังมานาน 5 เดือนแล้ว ตอนนี้ชาวบ้านต้องการข้าวสารและน้ำดื่มอย่างมาก เพราะที่ได้รับแจกก่อนหน้านี้รวม 3 ครั้ง หมดไปแล้ว

    “หมู่บ้านแห่งนี้ อยู่ในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลบ้านกล้วยใกล้ตัวเมืองสุโขทัย แต่ไม่มีน้ำประปาใช้ ชาวบ้านต้องอาศัยน้ำคลองแกว่งสารส้มไว้กิน แถมยังตกสำรวจเงินช่วยเหลือน้ำท่วม รายละ 5,000 บาท โดยชาวบ้านเพิ่งจะมีรายชื่อได้รับเงินในรอบที่ 3 นี่เอง”

    นางสาวเมทินี บอกว่า มีชาวบ้านหลายครอบครัวต้องย้ายไปนอนที่สถานีขนส่งสุโขทัย ส่วนคนที่ไม่ยอมย้ายออกไป ก็ต้องเสี่ยงกับตะขาบยักษ์ และงูพิษต่างๆ จำนวนมาก ที่หนีน้ำมาซุกซ่อนอยู่ในบ้าน และตนเองก็เพิ่งจะโดนตะขาบยักษ์กัดจนเกือบตาย ขณะที่กำลังช่วยชาวบ้านย้ายของหนีน้ำ

    ด้าน นางสาวจิตติมา สุขผลิน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุโขทัย กล่าวถึงผลกระทบจากน้ำท่วมว่า มีนักท่องเที่ยวชาวไทยลดลง 40 เปอร์เซ็นต์ หรือราว 20,000 กว่าคน ทำให้ต้องสูญรายได้ไปประมาณ 20 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นเพราะข่าวน้ำท่วมสุโขทัยที่ถูกเผยแพร่ออกไปตามสื่อต่างๆ ทำให้นักท่องเที่ยวหยุดเดินทางมา

    สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับผลกระทบน้อยมาก และยังถือว่าโชคดี แม้เส้นทางหลักถูกน้ำท่วม แต่ก็ยังมีเส้นทางเลี่ยงที่ใช้เดินทางเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญได้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชาวคลองเขื่อน-แปดริ้วเร่งเสริมกระสอบทรายกั้นน้ำห้องกันการระบายน้ำจากเมืองกรุง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>9 ตุลาคม 2554 12:10 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

    <SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT>

    <TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000128477&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ฉะเชิงเทรา-ชาวบ้านคลองเขื่อน-แปดริ้วเร่งเสริมกระสอบทรายเหนือขอบประตูระบายน้ำเฝ้าระวังเขตพื้นที่ไข่แดงใกล้แนวปากคลองแสนแสบ ป้องการระบายน้ำจากเมืองกรุง

    ชาวบ้านในเขตพื้นที่ ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา นับร้อยคน ได้พากันเร่งกรอกทรายใส่กระสอบเพื่อนำไปปิดกั้นไว้ที่ด้านบนเหนือขอบประตูระบายน้ำบางห้าง ซึ่งเป็นประตูระบายน้ำอีกแห่งหนึ่งที่อยู่เลียบใกล้กับแนวของลำน้ำบางปะกง หลังจากมีระดับน้ำปริ่มใกล้ที่จะล้นแนวขอบด้านบนของประตูแล้ว เนื่องจากแนวของประตูกั้นน้ำดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะป้องกันไม่ให้น้ำจากแม่น้ำบางปะกงไหลย้อนกลับคืนเข้ามาสู่ท้องทุ่งริมแนวของลำคลองแสนแสบและไหลทะลักกลับคืนเข้ามาท่วมยังในเขตพื้นที่ กทม. ได้อีก

    โดยนายสุชาติ เสน่ห์หา อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ม.4 ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา กำนัน ต.คลองเขื่อน กล่าวว่า หลังจากได้รับการประสานขอความร่วมมือจากทางชลประทานบางขนาก อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่สูบน้ำออกจากปากคลองแสนแสบลงสู่แม่น้ำบางปะกง ให้ช่วยระดมชาวบ้านมาทำการเสริมกระสอบทราย เหนือประตูระบายน้ำบางห้างแห่งนี้ ให้สูงขึ้น หลังจากระดับที่ล้นออกมาจากแม่น้ำบางปะกงกำลังมีระดับที่จะทวีความสูงขึ้นอยู่ตลอดเวลา จนถึงขณะนี้ใกล้ที่จะถึงยังขอบด้านบนของประตูระบายน้ำแล้ว จึงได้เร่งระดมนำลูกบ้านกว่า 100 คน ให้มาช่วยกันเสริมกระสอบทรายตามคำร้องขอดังกล่าว

    เนื่องจากความสำคัญของแนวป้องกัน และประตูระบายน้ำแห่งนี้นั้น เป็นเสมือนแนวเขื่อนกั้นไม่ให้น้ำจากแม่น้ำบางปะกงไหลทะลักล้นย้อนกลับเข้าไปท่วมในเขตกรุงเทพได้อีก เนื่องจากถนนสาย ท่าไข่-บางขนาก สายนี้ เป็นคันคลองของกรมชลประทานที่ได้สร้างไว้ให้เป็นคันกั้นน้ำจาก บางขนาก-ท่าไข่ ระยะทางยาวกว่า 20 กม. และชาวบ้านได้ใช้เป็นถนนในการสัญจรเป็นเส้นทางเรียบคลองชลประทาน และหากน้ำสามารถข้ามฝั่งจากแนวถนนสายนี้ไปได้ จะไหลย้อนกับคืนเข้าสู่ในเขต กทม.ได้อีก ซึ่งขณะนี้ได้มีการเร่งสูบน้ำออกที่บริเวณประตูระบายน้ำบางขนากหรือที่ปากคลองแสนแสบด้านฝั่งแม่น้ำบางปะกงอยู่ตลอดเวลา

    และหากน้ำบ่าข้ามคันคลองแห่งนี้ไปได้น้ำก็จะไหลเข้าท่วมด้านฝั่งขวาของแนวกั้นน้ำ เข้าท่วมที่ว่าการ อ.คลองเขื่อน ไปด้วย สำหรับพื้นที่ถูกน้ำท่วมหนักของ ต.คลองเขื่อนนั้น คือ พื้นที่ที่อยู่นอกแนวกั้นน้ำแห่งนี้ ได้แก่ หมู่ 2 หมู่ 3 และหมู่ 6 โดยบางหลังมีระดับน้ำสูงใกล้ถึงพื้นกระดานชั้นบนของตัวบ้านที่ยกพื้นขึ้นสูงแล้ว ขณะนี้ ทาง อ.คลองเขื่อน ได้เตรียมนำเต็นท์ขนาดใหญ่ออกมากลางไว้บนถนนคันคลองเพื่อเตรียมไว้รองรับการอพยพของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมและไม่มีที่อยู่อาศัยแล้ว
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“เขื่อนภูมิพล” ระบายน้ำ 100 ล้านต่อวันที่ 5 คนใต้เขื่อนยังไม่พ้นจมบาดาล</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>9 ตุลาคม 2554 12:18 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

    <SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT>

    <TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000128484&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ตาก - ชาวบ้านใต้เขื่อนภูมิพลยังระทมหนัก หลังเขื่อนยังระบายน้ำวันละ 100 ล้าน ลบ.ม.ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 กระทบน้ำวังเอ่อเพิ่ม สวนกล้วยไข่ ฝรั่ง บ้านเรือนชาวสามเงา ยันวังเจ้าจมบาดาลอีก

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตาก วันนี้ (9 ต.ค.) ว่าเขื่อนภูมิพลยังต้องระยายน้ำในปริมาณเท่าเดิม คือ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 โดยมีการเปิดประตูฉุกเฉินช่วยในการระบาย จากน้ำที่ระบายออกมากก็ส่งผลกระทบต่อน้ำในแม่น้ำวังที่มีระดับต่ำกว่า ทำให้น้ำไหลลงแม่น้ำปิงช้าลงและไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ ต.ยกกระบัตร ต.วังหมัน และ ต.วังจันทร์ อ.สามเงา เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรจำนวนมาก บางจุดสูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของไปอยู่บนถนนที่สูงกว่า สวนกล้วยไข่ ฝรั่งแป้นสีทอง และลำไยที่กำลังให้ผลผลิตจมอยู่ใต้น้ำหลายพันไร่ นอกจากนี้ อ.บ้านตาก อ.เมืองตาก และ อ.วังเจ้า ก็ถูกน้ำท่วมสูงเกือบทุกตำบล

    ส่วนปริมาณน้ำของเขื่อนภูมิพลวันนี้ ระดับอยู่ที่ 13,360 ล้าน ลบ.ม.ระดับสูงสุดที่รับได้คือ 13,462 ล้าน ลบ.ม. เหลืออีก 102 ล้าน ลบ.ม.หรือ 0.76 เปอร์เซ็นต์จะล้นอ่าง วานนี้(8 ต.ค.) มีน้ำไหลเข้า 117 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนภูมิพลระบาย 100 ล้าน ลบ.ม. รวมกับน้ำแม่น้ำวังและจากแม่น้ำอีกหลายสายไหลลงมาสมทบ เนื่องจากวานนี้มีฝนหนักในหลายพื้นที่ใต้เขื่อนภูมิพล ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอเมืองตากวัดได้วินาทีละ 2,732 ลูกบาศก์เมตร หรือวันละ 236 ล้าน ลบ.ม.
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...